ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} All of my pleasure about ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #20 : - Hide and Seek - 4 Chanbaek

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.14K
      17
      1 ก.พ. 57



    HIDE AND SEEK
    .. ถ้าผมวิ่งพี่อย่าตามผมนะ..



    4
     

     

     

    “ถ้าวันนี้โซรยองทำอะไรให้จิ๊มส์หัวเราะได้...จิ๊มส์ลองเรียกชื่อโซรยองดูซักครั้งซิ...”

     

    แบคฮยอนตาโตขึ้นมา แม้ตัวเองจะตาตี่ขนาดไหนก็เบิกกว้างได้ขึ้นมา แบคฮยอนส่ายหัวไปมาแรงๆจนเส้นผมนิ่มกระจายไปมา ปฏิเสธอย่างแรงกล้าจนคยองซูต้องเอามือจับหน้าเพื่อนเอาไว้ให้นิ่งๆกลัวจะเวียนหัวไป

     

    “จิ๊มส์ การที่ตัวเองรักพี่ชานยอล..ไม่ได้หมายความว่าตัวเองจะต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตเพื่อรักพี่เขาหรอกนะ..”คยองซูบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมรอยยิ้ม

     

    คยองซูรักและห่วงเพื่อน การรักปักใจมากจนเกินไป  ทำให้คยองซูคิดเอาไว้ว่า...มันทำให้เพื่อนเขาไม่เป็นอิสระ เขาดีใจที่วันนี้หัวใจของแบคฮยอนได้เรียนรู้คำว่ารัก รุ่นพี่ชานยอลเป็นรักแรกที่เข้ามาในหัวใจของเพื่อนเขา มันดีที่มีรุ่นพี่คนนี้เข้ามา

     

    ปาร์ค ชานยอลเป็นคนดี เป็นคนเข้มแข็งและจิตใจดี คยองซูเคยคิดว่าถ้าหากเป็นปาร์ค ชานยอล คยองซูคงวางใจให้เป็นคนดูแลแบคฮยอนของเขาได้โดยที่เขาไม่เคยคิดห่วงใย แต่ดูเหมือนชานยอลจะไม่ได้รับรู้ความรักที่มีของแบคฮยอนเลย อย่างนี้คยองซูคงทนให้แบคฮยอนอยู่เพื่อรักในสิ่งที่ไม่มีตัวตนไม่ได้หรอก

     

    คยองซูรักเพื่อนคนนี้มากเกินไป แต่แค่คิดว่าถ้าหากวันหนึ่งไม่มีคยองซู ใครจะดูแลคนคนนี้ได้ดีกว่าเขา แค่คิดเขาก็ห่วงแล้ว

     

    “....”แบคฮยอนมองดวงตาโตของเพื่อน เห็นความห่วงของเพื่อนกลับจุกอยู่ในอก

     

    แบคฮยอนเองก็รู้ว่าเพื่อนห่วง และรู้ดีด้วยว่าการที่คยองซูลองเปิดทางให้โซรยองเข้ามาหาเขามากขึ้น อาจจะไม่ได้ทั้งหมดแต่การให้เขาขานชื่อใครซักคนก็เหมือนกับการทอดสะพานเล็กๆ ถึงจะรู้ว่าไม่ผิดเพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับชานยอลเลย และชานยอลก็คงไม่รู้ว่าเขามีตัวตน เขาจะคบกับใครก็ไม่ได้ผิดอะไรซักนิดเดียว

     

    แต่มันกลับรู้สึกเหมือนเขาทรยศตัวเอง ทรยศความรักที่เขารักเพียงแค่ชานยอลคนเดียว ไม่รู้ทำไมถึงรักมากขนาดนี้..แต่รักมากจริงๆ รักจนมันเหมือนจะแบ่งปันให้คนอื่นไม่ได้แล้ว

     

    “ลองดูเถอะนะ..ซักนิดก็ยังดี ถ้ามันไม่ดีจริงๆ จิ๊มส์บอกเค้า เค้ายินดีจะไล่โซรยองไป”คยองซูพูดโน้มน้าวใจเพื่อนตัวเอง ยืนยันอย่างหนักแน่น

     

    แบคฮยอนเม้มปากแน่น หลบตาเพื่อนของตัวเองเพื่อคิดตาม ลองนึกถึงโซรยองที่คอยเข้ามาหาทุกครั้ง บางครั้งก็ซื้อน้ำซื้อขนมมาให้ทั้งที่ตัวเองน่ะทำงานหนัก เขาไม่พูดด้วยก็ไม่ย่อท้อ พยายามที่จะทำให้เขายิ้ม ให้เขาพูด

     

    แต่ไม่ใช่คนที่เขารัก ไม่ใช่คนที่เขาให้ใจ..

     

    ศีรษะเล็กดันขึ้นลงเบาๆตอบรับเพื่อนตัวเอง บางทีเขาอาจจะต้องลองดูบ้าง หากมันรู้สึกมากเกินไป เขาก็คงต้องหยุด แต่คงรู้สึกผิดกับโซรยองมากพอดู

     

    “มันต้องอย่างนี้ซิ..ซักตั้งล่ะเนอะ..อาจจะแพ้ทางหนุ่มทะเล้นก็ได้”คยองซูโยกหัวเล็กของเพื่อนเบาๆ อย่างเอ็นดูเจ้าลูกหมาตัวน้อย ซึ่งคนตัวเล็กก็ยิ้มพร้อมหัวเราะในลำคอเบาๆ

     

    เอาเถอะ..ถึงไอ้แฝดบ้านั้นจะ ปัญญาอ่อน..แต่ความพยายามมาครึ่งปีของมันก็อาจจะดีก็ได้มั้ง...หมายโซรยองคนเดียวนะ เพราะแดรยองน่ะหมดสิทธิ์ตั้งแต่ยังไม่ได้อ้าปากเลยด้วยซ้ำ

     

    “คุยอะไรกันน่ะ!!! คุยกันอยู่สองอย่างนี้..ไมไม่คุยกับโซรยองบ้างล่ะตะเองงงงงงงงง”นั้นไงยังไม่ทันขาดคำดีมันก็ก้อล่อก้อติดแล้วไง เสียงมาก่อนตัวเสียอีก

     

    “เรื่องของคนเขารักคน คนไม่เป็นที่รักไม่เกี่ยว!!!!!”คยองซูหันไปเท้าเอวมองหน้าหล่อของคนที่กำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทางกวนๆ วันนี้ก็มาพร้อมเสื้อกล้ามตัวเดียวอีกแล้ว เพิ่มพร๊อพด้วยไอ้ผ้าขนหนูโพกหัวนั้นแหละ

     

    “โห...เจ็บเลย...เจ็บเลยนะ..อย่างแรว๊ง!!! นี่ไม่ได้บอกผ่านเลยนะ..โห..จี๊ดเลย ดีนะมาจากปากคยองจูววววว นี่ถ้ามาจากเบค่อน ชักเลยนะเนี่ย”โซรยองทำท่าแข้งขาอ่อน ในขณะที่แบคฮยอนพยายามกลั้นขำเอาไว้ เขาสัญญากับคยองซูแล้วถ้าหากเขายิ้ม เขาคงต้องเรียกชื่อโซรยอง

     

    รับรอง..หมอนั้นอาการหนักแน่ๆ

     

    “โอ้ย...อยากเห็นคนหล่อชักซักทีเป็นบุญตาเถอะน่ะ เอาเลยชักให้ตายเลย แล้วนี่คู่หูไม่หรอ..หรือตายไปแล้ว”คยองซูพูดไปก็คอยมองหน้า มองอาการเพื่อนไปด้วย

     

    ดูก็รู้มันอั้นจะแย่แล้ว..แต่มันกำลังทนอยู่เอากับมันซิน่า..

     

    “ไม่เห็นหน้าเขา คิดถึงเขาล่ะซิ..”แดรยองโผล่มาทันทีที่จบประโยค

    “โอ้โห..คิดเองเออเองนะเราน่ะ แค่คิดเฉยๆว่าผีเน่ามันมาแล้ว โลงผุไม่อยู่ด้วยมันดูไม่ครบทีมน่ะ”โดนไปอีกดอกบอกแล้วอยู่เฉยๆไว้ก็ดี..นั่นโซรยองคิด กูเลยได้เป็นผีเน่ามาคู่กับแม่งเลย

    “คนน่ารักมัก  จายรว้ายยยย เขาว่างั้นจริงๆ แม่ตาหวานหลบไป...พี่จะคุยกับเบค่อนยอดขมองอิ่ม..ตะเองมะวันก่อนยิ้มให้เก๊าแล้วก็ไม่ยิ้มเลย วันนี้เรามาจู๋จี๋กันนะ เผื่อตะเองจะใจอ่อนยอมยิ้มให้เก๊าอีกซักที มุมิ งุงิ”โซรยองทำท่าจะแถตัวเข้าไปหาคนตัวเล็กทันที ไม่ติดที่คยองซูขวางไว้เลยได้แต่ยืดคอยาวไปตลอด

     

    คนโตตัวๆมาทำท่าน่ารักน่าชัง ควีโยมี้ นี่มันก็ดู...ตลกดีเหมือนกันจนแบคฮยอนกัดปากพยายามไม่ยิ้มแน่น

     

    “แน่ะๆๆๆ ถ้าอยากขำอย่าอั้นซิ ยิ้มซักที ชีวีพี่จิโสดใส มามะๆ เรามาปลูกต้นฮักกันนะ...เบค่อนของเก๊า..”นี่ก็ยังไม่เลิกพยายาม

     

    โซรยองบอกตัวเองว่ารอยยิ้มของแบคฮยอนมีค่า และที่เขาเลือกแบคฮยอนเพราะอะไรบางอย่างบอกให้รู้ว่า คนตัวเล็กนี้มีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเสียง และชัดเจนกว่าคำพูดที่เจ้าตัวไม่ยอมพูด เพียงแต่ตัวเขายังไม่มีโอกาสสัมผัสแต่รู้ว่ามันมีอยู่จริงๆ เขาอยากเป็นคนที่สัมผัสมัน..

     

    “..”ทนไม่ไหวจริงๆในตอนนี้ ปากบางของแบคฮยอนยกยิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งหน้าตา น้ำเสียง คำพูดมันทำให้เขาตลกจริงๆตายเถอะ..

     

    “กูขอชัก..กูขอสลบ!!!!!! ไม่ต้องห้าม กูขอ......ยิ้มแล้ว....แม่ง กูโดนเฮดสปิน แบบดับเบิ้ลช๊อต!!!! เบค่อนของคนหล่อ ฮือ!!!!!!!!ขอบคุณครับที่ให้ผมเกิดมาเป็นคนตลกแดก!!!”โซรยองทำท่าคุกเข่าลงทันที เอามือประสานกำกันเหนือหัวขอบคุณพระเจ้าที่เขานับถือ

     

    คยองซูหันกลับไปมองหน้าเพื่อนตัวเองที่ทำหน้าไม่สบายใจหากกลับโดนคาดคั้น เลยจำเป็นต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ คนตัวเล็กพ่นลมออกปาก เหมือนเรียกกำลังใจตัวเอง สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วพ่นมันออกมาก ก่อนจะสูดอีดครั้ง

     

    “ซ...!!!”

     

    พรึ่บ!!!!

     

    “ไม่ได้นะ...เรียกไม่ได้!!”เสียงทุ้มกังวาลที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่คว้าแขนเขาเอาไว้ทำให้แบคฮยอนหันไปมองหน้า แต่ความจริงไม่มองหน้าก็รู้ว่าใคร เพียงแต่คิดว่า...

     

    ตอนนี้เข้าไม่ได้ตาฝาดหรือสมองพลาดไปใช่ไหม..ที่เห็นใบหน้าหล่อคมที่เปื้อนหยาดเหงื่อ และใบหน้าหล่อขาวที่แดงขึ้นเหมือนคนเพิ่งวิ่งเร็วมาอย่างหนักของ..

     

    “พ...พี่ชานยอล”เสียงเรียกชื่อแรกนอกเหนือจากคยองซูกลับไม่ใช่โซรยอง แต่กลายเป็นชื่อของคนที่เขาเคยคิดอยากขานมานานแสนนานตั้งแต่เจอกับชายหนุ่มในวันนั้น

     

    ......................

    ..............

    .....

     

     

    ท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนมากมาย ทั้งที่รู้เรื่องและไม่รู้เรื่อง หันมามองกัน..แบคฮยอนได้แต่ตาค้างมองใบหน้าของชายหนุ่มไม่วางตา หากเพียงแค่เสี้ยวนาที ชานยอลที่เพิ่งรู้ตัวว่าตกเป็นเป้าสายตาจึงตัดสินใจเอามือช้อนอุ้มคนตัวเล็กพร้อมเดินหนีออกนอกห้องไปทันที ท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนทุกคน

     

    จะมีก็แค่คยองซูเท่านั้นที่วิ่งตามเพื่อนออกไปให้พ้นจากสายตาสอดรู้สอดเห็น

     

    และเมื่อมาถึงห้องคณะกรรมการ เนื่องจากตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์ครึ่งเท่านั้นก่อนงานวัฒนธรรม คณะกรรมการส่วนใหญ่นั้นจึงได้แต่ยุ่งจนหัวหมุนไปหมดทำให้ห้องทำงานหลักของชานยอลเลยเงียบสงบไร้ผู้คน ชานยอลอุ้มอีกคนเอาไว้ราวกับเด็กตัวเล็กสัมผัสได้ว่าร่างกายบางๆนั้นน้ำหนักตัวน้อยกว่าที่เขาเคยคะเนไว้อยู่มากทีเดียวก่อนบรรจงวางอีกคนไว้ที่โซฟาตัวเล็ก

     

    คยองซูเดินปราดเข้ามานั่งข้างเพื่อนที่ยังคงตะลึงค้างไม่หายอยู่อย่างนั้น มองเห็นไหล่เล็กบางสั่นระริกจนจับสังเกตได้ จึงรีบเตรียมตัวรอรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเอาไว้..คือเพื่อนอาจช๊อคได้

     

    เลยต้องอยู่รอคอยเพื่อดูให้มั่นใจอย่างไม่ห่างสายตา

     

    ชานยอลมองทั้งสองคนที่ตัวติดกันพร้อมรอยยิ้ม ใบหน้าคมเดินมานั่งยองลงที่ตรงหน้าของคนตัวเล็กใบหน้าคมยังชื้นเหงื่ออยู่เลย แบคฮยอนบินได้แต่หลบตาที่จ้องมาอย่างใจสั่นรัว หัวใจเต้นโครมครามเสียจนน่ากลัวใจจะแตกสลาย หากมันระเบิดกลายเป็นโกโก้ครั้นช์ได้คงท่วมทุ่งข้าวสาลีไปหมด

     

    หากไม่มีคำพูด ชานยอลล้วงมือไปในกระเป๋าอกเสื้อนอกของเขาเอง หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าสีเข้มขึ้นมาเพื่อส่งให้คนที่เขาจ้องมองอยู่

     

    “เช็ดให้หน่อยได้ไหม..”ชายหนุ่มว่า ดวงตาเรียวกลับเบิกกว้างราวกับจะหลุดออกมาเสียให้ได้ คนตัวเล็กส่ายหน้าแดงก่ำของตัวรัวจนไหมเล็กกระจายไปมา พร้อมกับมุดหน้าไปที่ไหล่ของคยองซูหากก็ยังเหลือบตามองหน้าชานยอลไปด้วย สลับไปมาอยู่หลายครั้งหลายหน

     

    การกระทำที่ดูน่ารักน่าชังเสียเหลือเกิน

     

    “ได้โปรด..เช็ดให้ทีเถอะนะ..”เสียงทุ้มต่ำว่า พร้อมกับผ้าเช็ดหน้าเนื้อดีที่ถูกบังคับใส่ไว้ในมือ ทำให้แบคฮยอนกำผ้าในมือเอาไว้แน่นหนา

     

    เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าหากมีวันที่เขาได้คุยกับชานยอลจริงๆจะเป็นอย่างไรนะ..วันนี้เขาได้คำตอบของคำถามแล้ว....เขาอยากร้องไห้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

    “คยองซู..พี่ขอคุยกับแบคฮยอนหน่อยได้ไหม...”ชานยอลหันไปพูดกับคยองซูที่คอยลูบหลังปลอบ

    “เอ่อ..แต่ว่า..”

    “พี่สัญญานะ ว่าจะไม่ปล่อยให้แบคฮยอนเป็นอะไรแน่นอน..หากเป็นจริงๆ พี่จะรีบพาไปรักษาเลย”ชานยอลบอกด้วยดวงตาที่มั่นคงจนคยองซูยังตกใจที่ได้เห็น..

     

    แววตาแน่วแน่แบบนี้คยองซูเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง...มันเหมือนแววตาของเจ้าลูกหมายามที่พูดถึงบุคคลอันเป็นที่รักอย่างชานยอล...สองคนนี้มีแววตาที่เหมือนกันจนน่าใจหาย

     

    “เอ่อ..จิ๊มส์ งั้นเดี๋ยวเค้ามานะ...”คยองซูบอกอย่างใจเย็นในขณะที่แบคฮยอนกลับเกี่ยวแขนเพื่อนเอาไว้แน่นแสดงความจำนงว่ายังไงก็ไม่อยากให้เพื่อนหายไปเลยแม้แต่น้อย

     

    หากคยองซูเลยทำเป็นไม่มองแววตาออดอ้อนออเซาะของแบคฮยอน ทำท่าแกะมือน้อยของเพื่อนรักตัวเองออกอย่างเบาบางแล้วจึงเดินไปที่ประตูกลั้นใจหันกลับมามองหน้ารุ่นพี่ชานยอลอีกครั้ง

     

    “ยาแก้หอบหืดอยู่ใน..

    “กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย”หากยังไม่ทันที่คยองซูจะพูดจบกลับเป็นชานยอลที่ตอบออกมาแทนด้วยรอยยิ้มทำให้คยองซูประหลาดใจในอีกหลายๆครั้งของวัน รวมถึงแบคฮยอนด้วย

    “ครับ..ฝากเพื่อนผมด้วย”ว่าแล้วจึงเดินออกไป ในใจก็นึกโล่งอกขึ้นมาอย่างดี

     

    เอาน่า..ความจริงน่ะเอาไว้สืบทีหลังก็ไม่สายหรอกว่าจริงไหม

     

    เมื่อคล้อยหลังเล็กของ คยองซู ชานยอลหันกลับมาให้ความสนใจกับคนตรงหน้าอีกครั้ง มองมือบางที่กำผ้าเช็ดหน้าของเขาแน่นจนนิ้วมือเป็นข้อสีขาวด้วยสองมือแนบอกตัวเอง ใบหน้าน่ารักที่ก้มเสียจนคางชิด เห็นปลายหูเล็กที่ลอดไรผมอ่อนออกมาเป็นสีแดงจัดทำให้เขานึกยิ้มอย่างชอบใจและเอ็นดูไม่ได้เลยจริงๆ น่ารักเสียจนเกินไป

     

    “เมื่อไหร่จะเช็ดเหงื่อให้พี่ซักที..”ชานยอลเอ่ยหากแบคฮยอนทีพยายามควบคุมหัวใจตัวเองได้แต่ช้อนตามองด้วยกล้าๆกลัวๆ

     

    ดวงตาเรียวมองไรผมที่ชื้นน้ำ และใบหน้าที่เริ่มมันจากหยาดเหงื่อแล้วจึง พยายามทำตามที่อีกคนขออย่างสุดกำลังแม้มันจะเชื่องช้าและมือเขาจะสั่นเป็นสันนิบาตลูกนกเลยก็ตามที

     

    ผลสุดท้ายกลายเป็นชานยอลฉวยเอามือเล็กที่ถือผ้านั้นมาซับหน้าตัวเองเสียแทน ราวกลับอยากแกล้งคนขี้กลัว

     

    “พี่ชานยอล..”แบคฮยอนเรียกเสียงอ่อยๆ ใบหน้าขาวตอนนี้แดงไม่ต่างจากสีของมะเขือเทศสุกปลั่งเลยซักนิดปากคอสั่นเทาจนชานยอลเริ่มนึกสงสารแค่เพียงในใจ

     

    “เห็นกลัวอยู่ได้..พี่ว่าพี่ช่วยดีกว่า ในที่สุดก็ได้คุยกันจนได้ซินะ”ใบหน้าหล่อคมยังคงพูดต่อไปแต้มรอยยิ้มที่แบคฮยอนไม่เคยเห็น แต่รู้ว่ามันหวานเสียจนหัวใจเจ้ากรรมที่เขาควบคุมมันกำลังกลับมาคุ้มคลั่งอีกหนแล้วซิเนี่ย

     

    เดี๋ยวถ้าเขาหัวใจวายเอาตอนนี้จริงๆจะทำยังไงเนี่ย

     

    “ทำไม ล...ล่ะฮะ”แบคฮยอนถามเสียงสั่น หัวสมองของเขากำลังขาวโพลนราวกับคนไม่มีสติ ในหัวกำลังจับต้นชนปลายไม่ถูกด้วยซ้ำ คิดได้แต่ อยู่ๆก็โดนอุ้ม อยู่ๆก็ได้คุยกัน อยู่ๆพี่ชานยอลก็ทำเหมือนรู้จักเขามาก่อนแล้ว อยู่ๆเราก็ได้มองตา อยู่ๆเขาก็ยิ้มมาให้ด้วยแววตาอ่อนโยนที่มีอะไรหวานไหวแฝงมาในดวงตาคู่นั้น

     

    “พี่ชอบโดนขโมยกระป๋องโค้กที่พี่กินเสร็จแล้วตลอดเลย..ไม่รู้ทำไม เผลอทำหล่นในถังขยะทีไร จะกลับไปเอา...หายทุกทีเลย”เสียงทุ้มที่เป็นเอกลักษณ์เอ่ยบอก เห็นใบหน้าอ้าปากค้างของอีกคนแล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเสียจนดวงตาโตสวยของเขาเองแทบยิ้มหยีอย่างชอบใจ

     

    ยิ่งเห็นอย่างนี้ทีไรยิ่งอยากแกล้งทุกทีเลย มันน่ารักนัก!!!

     

    ส่วนแบคฮยอนน่ะหรอ...ช๊อคแทบตาตั้งไปแล้วล่ะ มือเล็ดน่ะบิดขากางเกงจนยับยู่ยี่ไปหมดแล้ว

     

    “ก็ไม่ได้มีแค่แบคฮยอนคนเดียวซักหน่อยที่เฝ้าคอยมอง คนอื่นเขาก็แอบมองแบคฮยอนเป็นเหมือนกันนะครับ..” มือใหญ่ที่แตะเบาๆที่หลังมือเล็กก่อนจะประคองมันเอาไว้ในมือของตัวเอง เชยคางมนของคนที่หลบตาเขาขึ้นมา ให้สบตาของเขาพยายามละเลยแก้มขาวที่เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่าน่าชังของเจ้าตัวเอาไว้ เพราะเดี๋ยวอดใจไม่ไหวจนต้องกดจมูกลงไปคงแย่แน่

     

    “อีกอย่าง แบคฮยอนชอบพี่ไม่ใช่หรอ แล้วพี่จะปล่อยให้แบคฮยอนนอกใจพี่ ไปเรียกชื่อของคนอื่นได้ยังไงกัน จริงไหมล่ะครับ”

     

    ************************************************************************************************

     

    TBC  น่าจะพอเดาได้แล้วเนอะ..แต่ที่มาที่ไปมันยังไง...มาลุ้นกันตอนหน้านะคะ ซึ่งจะอัพวันไหนเอ่ยนา...ไปรอลุ้นกันเน้อ..อย่าเพิ่งว่าเรื่องคำผิดนะคะ เพราไม่มีเวลาจริงๆ ยังก็สามารถโวยวายได้ที่ #ฟิคโค้ก นะครับบบบบบบบบบบบบ

     

    (นอกเรื่อง : เอ่อ อยากรู้จักไรเตอร์ สามารถไปพบได้ที่ jibibabes.exteen.com นะครับ เนื่อในนั้นเป็นนบล๊อคเรื่องราวของผู้หญิงชื่อจิบิ หากไม่สนใจก็ไม่ว่ากันคร้าบบบบบบบ )

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×