คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : - Adrenaline (special) - 2 Chanbaek
Adrenaline
Special 2
ตอนแรกวาดภาพไว้ไม่ออกเลยว่าผู้หญิงที่ชื่อ ทิฟฟานี่จะหน้าตาเป็นยังไง..
แต่พอเจอตัวจริงเข้าไป บอกได้คำเดียวเลยว่าหล่อนสวยมาก สวยมากจริงๆจนน่าตกใจ เรียวขาขาวของหล่อนยามเยื่องย่างกรายมันโผล่พ้นผ้าบางสีแดงโชว์เรือนขานวล แต่เธอก็สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวเนื้อดีไว้ปกปิดเรียบร้อย ทำให้ดูไม่โชว์เนื้อหนังจนมากเกินไป บ่งบอกว่าเธอเป็นคนรู้จักกาลเทศะ ยามปากสีสดเคลือบลิปสติกเอื้อนเอ่ย เสียงของเธอก็น่าฟังคำพูดคำจาก็ช่างดูดีไร้ที่ติ
หากทั้งหมดทั้งมวลยังไม่ร้ายเท่าดวงตาของเจ้าหล่อนยามยิ้มพราย มันดูหวานหยาดเยิ้มเสียนี่กระไร ยิ่งยามชายตาแลยิ่งร้ายใหญ่..
แบคฮยอนนั่งมองคนสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ ออกจะกระสับกระส่ายเล็กๆด้วยความไม่เคยชินกับการมีคนอื่นอยู่ด้วย หญิงสาวสวยเหมาะสมทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ เมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกันภาพตรงหน้าเหมือนภาพวาดไม่มีผิด
ถึงจะอยู่ห้องเดียวกันแต่แบคฮยอนก็นั่งไกลเกินกว่าจะได้ยิน ในใจกำลังสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าชานยอลจะบอกว่าเขากับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแล้วและเขาเองก็ไม่ได้ชอบพอกับกันเลยด้วยซ้ำ
แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่เรารัก ยังไงก็ก็อดหวั่นใจไม่ได้หรอก
“ชานยอล ช่วยจัดการให้ทิฟทีนะคะเรื่องนี้มันเกินอำนาจมากๆ อีกอย่างคุณพ่อเองก็ไม่ค่อยปลื้มที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ท่านอธิบดีก็ไม่ยอมออกมาคุยกันซักที ทิฟในฐานะคนกลางก็ไม่สบายใจ..ยังไง ทิฟฝากชานยอลช่วยที”หญิงสาวทำท่าทางเกรงอกเกรงใจ หากชายหนุ่มรับเอกสารมาดูแล้วจึงพยักหน้ารับ
“ผมจะลองคุยกับมินโฮให้ละกันเรื่องนี้ หมอนั้นที่เงียบไปคงเพราะช่วงนี้มันไม่ได้อยู่ในเกาหลีหรอก”ชายหนุ่มพูดให้อีกคนคลายกังวลสีหน้าเธอจึงดูดีขึ้น
“ธุระทิฟมีแค่นี้น่ะค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้ชาลยอลหายไปเลยนะคะ..หรือว่าเจอตัวจริงแล้ว..”ทิฟานี่ยิ้มอย่างรู้ทัน ชานยอลแค่ยิ้มเพียงมุมปากเท่านั้น พยักหน้ารับเบาๆ ปรายตามองคนที่เล่นนิ้วมือ ใบหน้าเล็กๆนั้นมร่องรอยของความกังวล จนเขาเองก็เริ่มไม่สบายใจ
“แบคฮยอน..มานี่มา”เสียงเรียกทำให้แบคฮยอนสะดุ้งตัวโยนก่อนเดินมาหาอย่างกล้าๆกลัวๆ เขายิ้มนิดเมื่อเห็นหญิงสาวมองเขาอย่างสำรวจและแปลกใจ
ทำเอาขาเล็กสั่นน้อยๆ แต่พอเดินไปถึงตัวนั้นล่ะ ชายหนุ่มก็กระชากอีกคนมานั่งตักเลยทันทีต่อหน้าหญิงสาวงาม
เธออุทานเล็กน้อยยกมือขึ้นทาบอก มองหน้าชายหนุ่มและตัวแบคฮยอนสลับไปมาเล็กน้อยในขณะที่แบคฮยอนได้แต่มือไม้สั่นไม่คิดว่าคนตัวสูงจะทำแบบนี้ต่อหน้าทิฟฟานี่
“ไม่ได้ล้อกันเล่นนะคะ”ทิฟฟานี่ถามอย่างสุภาพ น้ำเสียงของเธอไม่ได้มีร่องรอยคุกคามหรือเหยียดหยามแม้แต่นิดหรือสายตาของเธอเองก็ไม่ได้แสดงความริษยาเลย
ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้า แล้วจึงหันไปจ้องหน้าคนบนตักอย่างเต็มตา สายตาที่ทิฟฟานี่ไม่เคยได้เห็น สิ่งที่ผู้หญิงที่ได้หลับนอนกับชานยอล หวังอยากจะได้รับสายตาแบบนั้น..แต่ชานยอลเหมือนหมาป่าตัวใหญ่
ที่ใครก็เข้าไปหาไม่ได้..ถ้ามันไม่ยอมด้วยตัวมันเอง
“ยินดีด้วยนะคะที่เจอคนนั้น..”หล่อนมองดูชานยอลที่มองแต่ใบหน้าเล็กๆ ยกมือใหญ่ของตัวเองลูบหัวอีกคนอย่างทะนุถนอม
ไม่มีทางที่ใครจะแทรกกลางระหว่างสองคนนี้ได้เลย..เธอเชื่ออย่างนั้นว่าในสายตาของชานยอลจะไม่มีวันไว้เหลียวแลใครอีก และตัวเธอเองก็ดีใจกับชายหนุ่มด้วย แม้ว่าตัวเองจะเคยคาดหวังว่าซักวันจะเป็นคนรัก และก็เคยอยู่ในฐานะคู่นอน
แต่ผู้หญิงทุกคนรู้ตัวตั้งแต่แรก และเป็นสิ่งที่หล่อนยอมรับตั้งแต่แรก
“ชื่ออะไรจ๊ะ..หนุ่มน้อย..”
“อ..อ..เอ่อ..บ...แบคฮยอน..ค...ค..ค..ครับ”แบคฮยอนที่มัวแต่ก้มตัวชิดอกใบหน้าเล็กแดงเรื่อไม่ยอมจางเนื่องจากการกระทำของคนที่ตัวเองนั่งทับอยู่ เจ้าตัวเล็กเหลือบตามองชายหนุ่มเล็กน้อย
แบคฮยอนรู้สึกว่าการพูดของเขาตกต่ำลงไปอีกขั้นในช่วงนี้ เพราะปกติตั้งแต่เด็กเขาก็อยู่แต่กับยาย หนังสือก็ไม่ได้เรียน เพื่อนก็ไม่มี คุยแต่กับยาย..พอต้องมาอยู่กับชานยอลเขาก็ชินกับแค่ชานยอล
แบคฮยอนกำลังจะบอกว่า..ตัวเองมีปัญหากับการเข้าสังคมพ่วงด้วยปัญหาทางภาษาอีกไปกันใหญ่
“แบคฮยอนหรอจ๊ะ..ยินดีที่ได้รู้จักนะ..ฉันทิฟฟานี่..”เธอบอกด้วยรอยยิ้มจริงใจ ยิ่งทำให้หน้าแดงเข้าไปใหญ่ เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงยิ้มให้แบบนี้อดใจเต้นไม่ได้หรอก
โดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ อดเก็บอาการไม่ได้ที่จะประหม่า...จนเกือบลืมไปว่าเธอเคยมีความสัมพันธ์กับชานยอลมาก่อนหนุ่มน้อยเลยได้แต่อายม้วน..พึมพำออกมาไม่เป็นภาษา
“...คุณ...ส..สวย..”พูดจบก็ก็หลบตา ทำเอาเจ้าหล่อนยิ้มกว้าง ผู้หญิงน่ะให้ตายยังไง..ถ้าถูกชมว่าสวยนี่โลกสดใส แต่ก็อดพูดไม่ว่าแบคฮยอนเองก็น่ารักจริงๆ
“เธอก็น่ารัก..ชักอยากได้ไปเลี้ยงที่บ้านแล้วซิเนี่ย”เจ้าหล่อนแกล้งเปรยเห็นหน้านิ่งขึ้นของชานยอลก็อดไม่ได้ หากเจ้าตัวน้อยเองก็ได้เขินบิดไปมา
แต่ก็คงจะพูดอะไรไม่ได้มากนัก..ไม่อยากหาเรื่องกับชานยอลหรอก..มันน่ากลัว
“เห็นทีทิฟต้องกลับล่ะค่ะ..กว่าจะได้เจออีกทีก็ไม่รู้เมื่อไหร่ ยังไงก็..โชคดีนะคะ”หล่อนพูดพร้อมกับบอกลาทั้งชานยอลและแบคฮยอนก่อนจากไป
คนตัวเล็กได้แต่มองหลังบางของหล่อนที่เคลื่อนออกไปช้าๆ จากสายตา..จนกระทั้งหล่อนก้าวออกจากห้องไปด้วยความชื่นชมอย่างไม่ปกปิด
หล่อนเป็นผู้หญิงที่ดี..และหล่อนเองก็ฉลาด การสู้กับสิ่งที่ไม่มีวันชนะไม่มีประโยชน์ ทั้งยังทำให้ย่ำแย่ หล่อนบอกตัวเองอย่างนั้น..และหล่อนจะไม่มีวันทำอะไรโง่ๆแบบนั้นเด็ดขาด
“มองส่งขนาดนั้น..ชอบเขาหรือไง”เสียงขุ่นๆบอกทำให้แบคฮยอนหันไปมอง
“ป..เปล่านะ..ครับ..เขาสวย..”แบคฮยอนส่ายหน้าปฏิเสธหากชานยอลกลับทำเพียงแค่หร่ามองอย่างับผิด
“ก็แล้วไป...”ชายหนุ่มยักไหล่ แล้วจึงหันกลับไปเคลียร์งานต่อหากก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะให้อีกคนลงจากตักเลยซักนิดกลับใช้มือสอดใต้เอวอีกคนเพื่อทำงานต่อโดยเอาคางเกยกับไหล่เล็กเอาไว้
“ช...ชานยอล..ด...เดี๋ยว ใคร..เห็น”คนตัวเล็กนั่งเกร็งเล็กน้อย กลัวพี่พยาบาลจะเข้ามาเสียก่อน หากอีกคนก็ทำนิ่งไป ไม่สนใจฟัง
“ไม่เป็นไรหรอก ใครๆเขาก็รู้กันหมดแล้วเชื่อซิ”ชานยอลฉกหอมลงที่แก้มใสร้อนของคนตัวเล็กในขณะที่เจ้าตัวกำลังจะหันมาพูดบางอย่าง
เลยกลายเป็นว่าชานยอลได้กำไรไปอย่างสวยงาม หากก็ไม่ได้เป็นจูบลึกซึ้งอะไรนัก เรียกว่าจุ๊บกันอาจจะถูกมากกว่า ทำเอาแบคฮยอนหันหน้านี้ไม่ทัน
คราวนี้เลยจบลงที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงจะกว่าจะรู้ตัวอีกที ชานยอลก็เรียกกลับบ้านนั้นล่ะ
......................
.............
...
ห้องเงียบจนผิดสังเกตแต่ไฟยังเปิดอยู่ ชานยอลเดินเอาผ้าขนหนูเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ เลยเห็นว่าร่างเล็กกำลังนั่งมองโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่ไม่วางตา
“อยากได้โทรศัพท์หรอ”เสียงทุ้มทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งแรง
กลุ่มผมนุ่มสั่นไปมาเล็กน้อย ดวงตาเรียวใสแจ๋วหันกลับมาจ้องหน้าคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ราวกับรู้หน้าที่แบคฮยอนเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูมาเอง แล้วเป็นฝ่ายลงมือเช็ดให้อย่างเบามือ
ชายหนุ่มอดยิ้มในความเอาใจใส่ไม่ได้ จนต้องคว้ามือบางเล็กมากดจบแรงๆที่หลังมือไปเสียอย่างนึกรักมากมาย
“เห็นจ้องโทรศัพท์ขนาดนั้น..นึกว่าอยากได้ซะอีก ถ้าอยากได้จะได้ซื้อให้ไง..เอาไหม”ปากที่กดจูบไปตามมือบาง ซุกไซร้กลิ่นหอมอ่อนจะหลังมือเล็กไปเรื่อย
“ม..ไม่ อยากโทร...หา..คยอง..”เสียงเล็กตอบเบา แต่ก็มากพอที่ชานยอลจะได้ยิน
“เป็นห่วงเพื่อนหรอ”เสียงนุ่มบอกเบาๆมองหน้าอีกคน มือหนาลูบแก้มขาวไปมาอย่างเพลินมือพลางยิ้มอ่อน
“ห..ห่วง”อีกคนพยักหน้าเบาๆ ชานยอลเหลือบตามองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงผนังเล็กน้อยแล้วจึงย้อนกลับมามองอีกรอบ
“ตอนนี้ดึกแล้ว..เดี๋ยวพรุ่งนี้คอยโทร.นะ ว่าแต่พรุ่งนี้เธอจะเข้าโรงพยาบาลฯกับฉันไหม”เมื่อเห็นว่าผมตัวเองแห้งดีแล้วจึงดึงอีกคนเพื่อให้ลงไปนอนด้วยกัน
“ไม่...คับ”แขนเล็กโอบกอดเอวหนาเอาไว้ซุกใบหน้าลงที่อกแกร่ง สูดกลิ่นกายที่แสนคุ้นเคยทำให้อีกคนกระชับเอวเล็กข้อชิดตัว
“งั้นเดี๋ยว ฉันบอกให้มันโทร.หาพรุ่งนี้ก็แล้วกัน...แล้วอย่าไปคุยอะไรกับไอ้จงอินมันมากล่ะ..”ชานยอลกำชับเสียงแข็งกดจูบหน้าผากมนไปเสียอีกทีแล้วจึงหลับตาลงในอีกไม่นาน
หากแบคฮยอนกลับหลับตาไม่ลง คนตัวเล็กกลับคิดถึงแต่เรื่องแต่เรื่องเมื่อกลางวัน เรื่องผู้หญิงหน้าตาสระสวยคนนั้น คนที่ชื่อทิฟฟานี่ไปตลอดคืน
........................
..............
....
RRRRRRRRR
หลังจากอาหารเช้า แบคฮยอนก็มานั่งรอโทรศัพท์ทั้งวัน ยกเลิกการทำความสะอาดบ้านก็เพื่อมานั่งเฝ้าโทรศัพท์ พอดังปุ๊บ มือเล็กก็คว้าหมับทันที
“อ..เอ่อ..”
[ไม่เป็นไร ชานยอลบอกฉันวันนายอยากคุยกับคยองซู เดี๋ยวฉันเอาโทรศัพท์ให้รอแป่บนึง]ยังไม่ทันได้พูอะไรอีกฝ่ายก็ยิงคำพูดมากมายกลับมาเสียก่อน
“คับ”แบคฮยอนตอบเสียงเบา มือเล็กกำโทรศัพท์แน่นเพื่อรอคอย
[...แบค...ว่ายังไง มีอะไรหรือเปล่า]เสียงคุ้นเคยที่ได้ยินและลักษณการพูดที่สดใสทำให้แบคฮยอนนึกดีใจ
“คยอง..ม..มีเรื่อง”
[หา..เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรนาย คุณชานยอลหรอ??]ปลายสายถามกลับด้วยน้ำเสียงร้อนรนตื่นตูมตามแบบฉบับของตัวเอง
“ไม่..ไม่ คือเรา..กลัวชานยอลเบื่อ”แบคฮยอนตอบเสียงอ่อย
[เบื่อ..เบื่ออะไรนายไปทำอะไรให้เข้าไม่พอใจหรือไง ว่าแต่นายไปอยู่กับเขาทำงานอะไรกัน]คยองซูพูดอกมาแถมยังถามกลับมอีกรอบเสียด้วยหากคราวนี้แบคฮยอนถึงกับอึกอัก
สุดท้ายแล้วก็เลยจำต้องเล่าให้เพื่อนคนเดียวฟัง ตั้งแต่ต้นจนมาถึงเรื่องเมื่อวานนี้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างแบม้วนเดียวจบเลยล่ะ เล่นเอาคยองซุแอบอึ้งๆไปบ้าง
“แล้ว..ค..ยอง”แบคฮยอนถามกลับบ้าง
[เอ่อ...ก็ดีไม่ต้องเป็นห่วงหรอก มัน..เดี๋ยวไว้เล่าให้ฟังวันหลังละกันนะ ว่าแต่เรื่องนายเถอะ ฉันว่านายคิดมากหรือเปล่า คุณชานยอลเขาออกจะรักนายนะ ดูจากสายตาเขาก็รู้แถมยังแสดงออกก็ชัดเจนออกนะ...]คยองซูตอบกลับมายืดยาวากนั้นก็ไม่ได้ทำให้แบตฮยอนรู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่นัก
“ม..ไม่ดีเลย..ส..สู้..ไม่..ไหว”แบคฮยอนว่าเสียงเบามองตัวเองในกระจกแล้วก็ทำสายตาหงอยๆใส่บานกระจกที่ตัวเองมองอยู่อีก
[เอางี้...เดี๋ยวฉันไปหา แล้วเรามาคิดกันว่าเราจะทำยังไงดี..โอเคไหม .. จงอินคับ ผมจะไปหาแบคฮยอน!!!]คยองซูเอ่ยปลอบ ก่อนจะตะโกนบอก
แบคฮยอนได้ยินเสียงงุ่งงิ้งอยู่ไกล และเสียงคยองซูกลับหายไปซักพัก...จะวาไปก็พักหนึ่งจนแบคฮยอนเริ่มไม่แน่ใจว่าอีกคนวางไปหรือยังแต่ก็ยังรออยู่
เสียงตึงตังดังแว่วๆมาอีกครั้งกับปลายสายที่ดังกุกกัก
[เดี๋ยวไปหานะ จงอินรู้แล้วว่าอยู่ที่ไหน ให้จงอินบอกคุณชานยอลแล้วล่ะ เดี๋ยวกันนะ // ตู๊ด] แล้วกลับกลายเป็นว่าโดนวางโทรศัพท์ใส่เสียอย่างนั้น
แบคฮยอนได้งุนงงยังจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกแต่ก็เอาตามที่ได้ยินว่า เดี๋ยวยองซูจะมาหาเท่านั้นเอง เลยต้องรีบเก็บ เช็ดถูความสะอาดบ้านเสียยกใหญ่ให้ทันก่อนแขกจะมาเยือน
หลังจากนั้นก็อาบน้ำผัดแป้งเสียหอมฟุ้ง ในขณะนั้น ดวงตาเล็กกลับจดจ้องตัวเองในกระจกใส ดวตาออกเศร้าของเขามันไม่ได้สวยงามเอาเสียเลย ตัวเล็กแคะแกรนอย่างเขา ผิวพรรณก็ไม่ดีอะไรมากนัก หน้าไม่เอาอ่าว การศึกษา มารยาท การเข้าสังคม...ไม่ต้องพูดถึงฐานะ เกาะเขากินอยู่ชัดๆ
สิ่งที่เป็นเงาสะท้อนออกมาจากกระจกบานใหญ่ตรงหน้าบอกทุกสิ่ง ไม่มีอะไรเลยที่จะสู้ มีอย่างเดียวที่มันเหลืออยู่คือ ใจที่เขาคิดว่าเขารักชานยอลไม่แพ้ใคร
แต่ไม่ได้มีใครบัญญัติเอาไว้ว่ามันพอ
ความกลัวกำลังผลักดันให้เขาเจ็บปวด มันไม่ได้ปวดมากเพราะวันนี้ชายอลเลือก แบคฮยอนคนไม่มีค่า แต่ไม่ได้มีอะไรจะสามารถยืนยันว่าคนไม่มีค่าคนนี้จะถูกทิ้งหรือเบื่อหน่าย
ขนาดคนอย่างทิฟฟานี่ทีมีดพร้อมทุกอย่างในสายาของเขา ยังเคยเป็นได้แค่คู่เคยนอนเลย แล้ววันข้างหน้าชานยอลจะไม่ลดฐานะของเขาแค่คนเคยรักหรือ
“จ..เจ็บ..จัง.ล..เลย”แบคฮยอนบอกตัวเองพร้อมเอมือเล็กกุมอกด้านซ้าย
**~~
เสียงกระดิ่งหน้าบ้านที่ดังขึ้นทำให้แบคฮยอนหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง เท้าเล็กสาวไปเปิดประตูให้กับแขกที่รู้อยู่แล้ว่าเป็นใคร ซึ่งก็ไม่ได้ผิดฝาผิดตัวแม้แต่น้อย คยองซูก้าวกระโดดเข้ามากอดคนตัวเล็กไว้ก่อนกอนที่ คิม จงอินจะก้าวตามเข้ามาด้วยราวกับเงา
“เป็นยังไงบ้าง หน้าเศร้าเชียว...โถๆๆๆ จิ้มลิ้มของคยองซูไม่เอานะ อย่าเศร้าซิ ทุกอย่างต้องมีทางแก้”พอกอดจนหนำใจ ทั้งทายกันหอมปากหอมคอแล้วเลยได้ฤกษ์เสียที
“อ..อด..ไม่ได้”
“อย่าเศร้าไป จิ้มลิ้ม ฉันจะช่วยเองนะ..”คยองซูตบ่าเพื่อนเบาๆ หันมามองจงอินที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟารากับเป็นห้องของตัวเองด้วยสายตาที่ว่า คุณตอช่วยด้วย
“มองฉันทำไมล่ะเฮ้ย”คนที่ความรู้สึกไวอย่างจงอินมีหรือจะไม่รู้ตัว
“ไม่รู้แหละคุณต้องช่วย”คยองซูสะบัดหน้าหนีก่อนจะยิ้มให้เพื่อนตัวเล็กอีกครั้ง
“เอาล่ะ จิ้มล้มพริ้มเพราของเค้า เริ่มจกชานยอลชอบอะไร แล้วเราก็จะรู้ว่าเราจะต้องทำอะไร”คยองซูลูบแก้มเล็กเบาๆ จนคนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองเล่นเอาคยองซูจะเป็นลม
ความจริง..มึงไม่ต้องทำอะไรมึงก็น่ารักจะขาดใจแล้วนะ....ฮรื้ออออ ไม่รู้ตัวหรอเนี่ย นี่ถ้าไอ้คุณชานยอลอะไรนั้นเบื่อเมิงลงวันไหนวันนั้นร้องไห้มาซบอกกูมา กูจะหลอกเงินไอ้คนตัวดำนั้นมาบะเรอต่อเอ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง ... นี่พูดเลย
“ช..ชอบ..หรอ..”แบคฮยอนเอียงคอมองหน้าคยองซูประมาณว่านึกไม่ออกอะครับ เล่นเอาคยองซูที่ที่จริงแอบเป็นแฟนคลับลับๆของเจ้าตัวหันหน้าหนีไม่ทัน เฮ้อ...ใจจะวาย
“มันต้องมีซักอย่างซิ...คุณน่ะ..เพื่อนคุณชอบอะไรบ้างล่ะช่วยกันคิดหน่อยซี่”เมื่อทนความ่ารักม่ไหวเลยต้องหันไปเป้าหมายถัดไปทันที
ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยังชายผิวแทนที่กระตุกยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย แล้วจึงถอนหายใจเบาๆ พลางลองนึกตามดูบ้าง
“ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่เคยเห็นว่าชอบอะไรนอกจากยิงปืนนะ”จงอินยักไหล่ตอบ เรื่องจริงนี่ ชานยอลรวยล้นฟ้าอยากได้อะไรชอบอะไร ก็มีปัญหามาเองได้อยู่แล้วนะ
และเป็นคำตอบทีช่างไร้ประโยชน์จเจ้าของดวงตากลมกลอกตาไปมาอย่างนึกหน่ายใจ ชีวิตคยองซู...มีเพื่อนน่ารักแบบควีโยมี้แต่ดันเสือกคิดว่าตัวเอง ติดอ่างไร้สรรถภาพทางหนังหน้า กับมีเจ้านายรูปหล่อแต่เสือกเอาสมองไว้ที่กล้ามท้องและเป้ากางเกง
“มันต้องมีอะไรซักอย่างซิน่า...”คยองซูเองก็เพิ่งรู้จักชานยอลได้ไม่นานจะมารู้ก็เห็นจะเทพไปนิด
“อ..เอ่อ..มีมี..อย่างนึง..ต..แต่ไม่รู้..พ..พูด..ไม่ดี”แบคฮยอนใบหน้าแดงขึ้นมาเหลือบตามองหน้าคยองซูก่อนจะหลบตาอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่ามีพิรุธชัดๆเลย
“ทำไมพูดไม่ได้ พูดมาเถอะไม่งั้นก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วแหละ”คยองซูคาดคั้น หากอีกคนก็ยังอึกอักอยู่อย่างนั้น
“ก...ก็...อ....เอ่อ...ม..ม...มัน..มัน...งื้อ”แบคฮยอนคราวนี้ไม่ธรรมดา ปากคอสั่นไปหมด ใบหน้าเล็กแดงจนลุกลามไปยังคอขาว เลยไปใบหูอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าจะเขินหรือจะร้องไห้ มือล็กกอบกำชายเสื้อของตัวเองไปมาราวกับวจะหาที่พึ่ง
ทำเอาจงอินที่นั่งห่างไปหน่อยพลอยจะลุ้นด้วยเหมือนกัน
“ค...คือ...ช..ชอบ...ชอบ...น...น...นอน...นอน..นอน..ก...กัน”กว่าพูดจบประโยคได้ทำเอาลุ้นกันแทบตัวโก่ง ทำให้คยองซูพยักหน้ารับทันที แล้วหันไปมองใบหน้าคมที่ช่วยลุ้นเมือกี้เล็กน้อยแต่พองาม
“ฮึ..สมกับเป็นเพื่อนกันจริงๆ”คนตัวเล็กตาโตอดพึมพำไม่ได้จริง แต่คนโดนมองนี่มีแต่จะยิ้มใส่อย่างภาคภูมิใจแทนเสียนี่กระไร
“นั้นซิเนอะ...ฉันลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง..เพื่อนกันนี่มันเหมือนกันจริงๆอย่างที่นายว่า”นั้นตอบรับเสน็จสรรพเลยล่ะ
“ห..หา”
“เปล่าไม่มีอะไรหรอก ถ้าเป็นเรื่องก็มีทางช่วย ไม่ต้องใจเสียนะ ถึงเราเอ๊กซ์สู้เขาไม่ได้ไม่เป็นไร เราก็มีแนวของตัวเองเชื่อมือเค้าเถอะนะ จิ้มลิ้ม”คยองซูมองใบหน้าเล็กที่ทำหน้าราวลูกหมามีความหวังเล่นเอารังสีความน่ารักพุ่งขึ้นราว สามร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่แปลกใจเลยที่ชานยอลจะชอบลากขึ้นเตียง
“แต่ก่อนอื่นเราต้องไปช้อปปิ้งกันก่อน...แล้วเรื่องหลังจากนั้นค่อยว่ากัน”คยองซทำใจแข็งหันมามองใบหน้าเล็กที่ดวงตาคู่นั้นยังคงส่งแวขอบคุณมาไม่หยุดหย่อน
“ด..ดึก..มี...สอง..ทุ่ม ข...ขอบ..ขอบ”
“อืมไม่ต้องขอบคุณ รู้ว่าตื่นเต้นน่า...มีงานกลับสองทุ่ม...โอเค๊...เวลาเหลือๆ”คยองซูเลยรีบหันควับมายังคนที่ไม่คยได้มีบทบาทในตอนนี้เท่าไหร่นัก
“นิ่งทำไมล่ะครับ...เชิญสารถีสุดหล่อ ช่วยผมพาไปทีนะครับ”ยิ้มละลายใจไปเสียที จงอินเลยได้ต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้
หากไม่ลืมที่จะโทรศัพท์ไปบอกชานยอลก่อนเสียว่าจะออกไปซื้อของกับคยองซูและจงอินไม่งั้นมีหวัง โทร.มาไม่รับ มองในกล้องวงจรปิดไม่เห็น
แผ่นดินโซลได้ลุกเป็นไฟแน่ๆ..เพราะชานยอลคงพลิกเกาหลีเพื่อร้อนรนตามหาแน่ๆ
********************************************
มีอะไรอยากด่าไรเตอร์ก็ #อดนร มานะค้าบบบ
ความคิดเห็น