ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ HANHYUK] All my pleasure...by JIBI [vanilla public]

    ลำดับตอนที่ #5 : :: BECAUSE OF SMELL & SOUND part 4

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 54


     


    เเซ่กๆ..เเซ่กๆ..

     

    ถุงพลาสติกที่ถูกวางลงบนโต๊ะอาหาร นั้นบันดาลให้เกิดเสียงเบาๆ ฮันคยองที่เพิ่งกลับมาเหยียบพื้นบ้านได้ไม่นานยืดเเขนบิดตัวอย่างคนที่ถือของเดินไปมาตลอดทั้งวัน..

     

    สายตาจับจ้องไปยังถุงกระดาษเนื้อดีอีกใบที่วางอยู่ด้วยกันนั้นอย่างพออกพอใจเป็นที่สุด...

     

    เเต่กลับหลุดเข้าไปอยู่ในห้วงความคิดได้ไม่นานนัก..เสียงฝีเท้าดังๆนั้น ทำให้ต้องหันกลับไปมองยังที่มา..ปรากฏให้เห็นเเขกผู้มาเยือนที่เดินหน้ามุ่ยแสดงอารมณ์ชัดเจน..

     

    จะกลับเเล้วหรอ..จุนซู

     

    เสียงทุ้มห้าวนั้น ทำให้เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมอง สายตาไม่เป็นมิตรฉายชัดจนฮันคยองจับสังเกตได้ เเต่เพียงเเค่ชั่วครู่เท่านั้นมันจึงเปลี่ยนไปเป็นอย่างเดิม...

     

    ครับ..เมื่อกี้ได้ยินเสียงคงคิดว่าพี่กลับมาเเล้ว..จุนซูตอบอีกฝ่ายอย่างไม่เป็นพิรุธซักนิด...หากคำพูดต่อไปจากนี้นั้นคงไม่ใช่เเล้ว

    ไม่ได้เจอกันนานก็อย่างนี้เเหละครับ..ผมก็อดคิดถึงคนของผมไม่ได้..จะมาทีก็อยากอยู่ด้วยกันนานๆ เเต่พอจะกลับ เห็นคงจะต้องสั่งลากันนานหน่อย..เพราะคงไม่ได้เจอกันอีกซักพัก...ท่าทางครั้งหน้ามาคงต้องมานอนด้วยกันซักคืน..จุนซูฉลาดมากพอที่จะไม่เเสดงอย่างโจ่งเเจ้ง..เขาเลือกที่จะยิ้มใส่ตาอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาหวานหยดเสีย จึงหมุนตัวเดินออกจากห้องไปเเทน..

     

    คำพูดที่เน้นย้ำทุกคำนั้นชวนให้คิดภาพตาม ทำเอาคนฟังขบสันกรามแน่นขึ้นมาทันที...ในหัวกลับมาแต่คำถาม..คำที่แสดงความเป็นเจ้าของยังคงเวียนซ้ำเวียนซ้อน จนน่ารำคาญ ไม่อยากคล้อยให้กับคำพูดของคนอื่น แต่ก็คิดอกุศลไปเสียแล้วว่า อาจเกิดอะไรขึ้นมา..ภายในห้องนอนทีเป็นของเขาเอง..

     

    สมบัติของเขาก็ต้องเป็นของเขา ไม่ได้มีไว้ผลัดกันชม....

     

    แล้วจะปล่อยเวลาให้คอยท่าไปทำไมเล่า จะยังมีแก่ใจทำการสิ่งใดได้อีกหรือ..นอกจากให้ใจที่เกรี้ยวกราดพาร่างกายของตนไปยังที่หมายอย่างไม่ลังเล อยากมองให้เห็นกับตา..

     

    ประตูบานที่คุ้นเคยถูกเปิดกระชากออกอย่างไม่อาลัย มันดังเสียจนคนที่ไม่รู้ว่าอีกชีวิตนั้นกลับมาสะดุ้งขึ้นอย่างตกใจ ไม่รู้ว่านี้เป็นรอบที่เท่าไหร่ของวัน

    แต่เพราะรู้ตัวนั้นเอง หยาดน้ำตาเม็ดใส ที่ไม่ได้รับการเช็ดใดๆ... จนเกิดเป็นความคิดเหตุใดน้ำตาเม็ดใสถึงกลบตาของคนตัวเล็กนั้นได้.. แต่นั้นก็อีก..ที่ทำให้หัวใจของคนที่โหดร้ายมีความรู้สึก

     

    นาย..หมายใจว่าคงได้เห็นในสิ่งที่ตัวเองคิด หากมันกลับไม่ใช่ แต่นั้นเองก็ไม่ทำให้อะไรแปรเปลี่ยน..

     

    หากเป็นคนอื่นก็คงคิดไปว่าใครหนอช่างกล้า ทำเทวดาตัวน้อยนี้ให้เสียน้ำตาได้..แต่คงไม่ใช่สำหรับเขา..หรือจะเป็นตัวเขาเองที่ใจสกปรกจนเกินไปกันแน่ ถึงมองไม่เห็นความน่าสงสารนั้น..

     

    ทำไม...แค่จุนซูกลับไป ถึงกับร้องไห้จะเป็นจะตายเลยรึไง ข้อสรุปที่แสนเจ็บปวดของหนีไม่พ้น..คือ ใจตัวเอง..ที่มันแคบและต่ำทราม..

    ห..หา!!”คิ้วเรียวขมวดมุ่นจนมันแทบผูกโบว์เรียงกัน..มือบางรีบเช็ดน้ำตาอย่างลวกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้

     

    ฉันถาม..ว่าแค่ไม่ได้เจอกับจุนซูมันจะตายรึไง..” มือแข็งแรงจับเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นมา สบตาด้วยใบหน้าที่ยังชื่นไปด้วยหยาดน้ำ

     

    ฮยอกแจกัดริมฝีปากห้ามเสียงร้องของตนเองอย่างเต็มความสามารถ เนื่องจากแรงบีบที่ปลายคางทำให้เขาต้องนิ่วหน้าด้วย ความเจ็บที่แล่นขึ้นมา..

     

    สับสนและไม่เขาใจ ฮยอกแจคนนี้ทำผิดอะไรอีกแล้วหรือ ฮันคยองถึงไม่เคยพอใจเสียที..

     

    ผมเปล่านะ..มัน..ไม่ใช่ยิ่งชายที่อยู่ตรงหน้าแสดงความโกรธออกมามากเท่าไหร่  ตัวเขาเองจะยิ่งแสดงความอ่อนแอออกมามากเท่านั้น ปกปิดยากเหลือเกินความเสียใจ..

     

    ถ้าอยากได้ความจริง..ก็ต้องค้นเอาเอง..ในดวงตาตรงหน้านี้น่ะมัน..ค้นหาได้ไม่ยากหรอกนะ...ก็เเค่มองมันลึกลงไป..ให้ถึงก้นบึ้งของหัวใจ คำตอบมันอยู่ในนั้นเอง...

     

    รู้อยู่แก่ใจกว่าใครทุกคน...ว่าไร้ซึ้งการโป้ปดมดเท็จ..รู้เสมอ..ว่าฮยอกแจโกหกฮันคยองไม่ได้

     

    ชายหนุ่มเสยะยิ้มมุมปากเขาได้คำตอบที่พึงพอใจ..มือหนาคลายออกจากคนตัวเล็ก เห็นได้ว่าปลายคางขาวนั้นขึ้นสีจากการลงมือหนักๆของอีกคนเเต่ยังไงก็ช่าง

     

    ของของเขาก็ยังคงเป็นของเขาวันยันค่ำ ถ้าไม่เบื่อใครหน้าไหนก็มาเอาไปไม่ได้..รอมันพังเสียก่อนเถอะนะ...

     

    ความจริง ฉันซื้ออะไรมาบางอย่าง..เห็นปุ๊บก็นึกถึงนายทันทีเลยล่ะ..ตอนแรกก็ว่าจะให้วันหลัง..เเต่ไหนๆก็ไหนๆเเล้วฉันให้นายวันนี้เลยดีกว่า...เพราะดูท่าคงมีเรื่องให้ทดลองใช้...เเค่เรื่องเซอร์ไพรซ์ก็เท่านั้น...ชายหนุ่มยิ้มหวานกลับมาให้

     

    คนตัวเล็กได้เเต่ทำหน้าไม่เข้าใจ..ตอนนี้เขาตามอารมณ์อีกฝ่ายไม่ทันเสียเเล้ว..เมื่อกี้ก็โกรธจะเหมือนจะกลืนเขาเข้าไปให้ได้..เเต่ทำไมพอมาตอนนี้กลับกลายเป็นว่า..ใจดีซื้อของมาฝาก..

     

    ไม่เข้าใจเลยจริงๆไม่เคยเข้าใจ...กับ รอยยิ้มเเบบนั้น...มันหวานเสียจน..น่ากลัว....เหนื่อยเหลือเกินกับการวิ่ง ที่ไม่รู้จักพอ..

     

    สัมผัสอุ่นเบาๆนั้น รู้สึกเมื่อมันอยู่บนปลายผม แรงลูบเบาๆนั้นทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง..มือที่ค่อยๆแตะเบาๆ สายตาหวานนั้น ชวนให้ขนลุกไปทั้งตัว

     

    เดี๋ยววันนี้เรามาลองดูนะ..ว่ามันจะเข้ากับนายไหม..ฮันคยองมองหน้าขาวที่มีรอยสงสัยแล้วเอ่ยต่อ..

    ไม่ต้องหรอก...เดี๋ยวนายก็รู้..

     

    *****************************************************************************************

     

    กลายเป็นว่าตอนนี้ฮยอกเเจได้เเต่นั่งกระสับกระส่ายท่ามกลางผู้คนมากมาย..ที่เดินขวักไขว่ไปทั่วบ้าน..ตาที่เหมือนมองดูรอบกายแท้จริงเเล้วไม่ใช่เลย..

     

    เเค่กลัวว่าถ้าเผลอไปมองเข้าเเล้วจะรู้ว่า ถูกจ้องมองอยู่..อย่างไม่วางตา..

     

    ตอนนี้ฮยอกแจไม่มีความอยากรู้เเล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ฮันคยองนั้นซื้อมาฝากเพราะว่าเมื่อกี้คนที่แกะมันออกมาจัดการก็คือเขาเอง เเม้จะมีความสุขกับน้ำใจในสิ่งที่ชายหนุ่มซื้อมาให้ ทั้งที่จิตอกุศลก็ตาม..

     

    เเต่เมื่อรู้หน้าที่ของสิ่งของชิ้นนั้น มันทำให้เขาเกลียดเเละกลัวมัน...

     

    เสียงบอกเล่าความสนุก บอกถึงเหตุการณ์ที่ได้ไปเจอมาในรอบวันนี้ ดังไปทั่วดุจผึ้งตีกัน บางคนก็เล่าอย่างสนุกสนาน บ้างก็ทำหน้าเซ็งเเละบางส่วนถึงกับขอตัวไปนอนด้วยความเหนื่อยที่ไปตะลอนๆมากันทั้งวัน

     

    เเต่เหตุใดเสียงเหล่านั้นถึงฟังดูเงียบเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้สนใจจะฟังมันซักเพียงประโยคเดียว..

     

    ตาเรียวมองหันกลับมาอีกครั้ง..ดวงตาคู่นั้นยังคงจับจ้องเขาอยู่ไม่ไปไหน..มองด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์เเละสื่อความหมายที่ต้องการจะบอกมาถึงกันในทุกแววตา..ทำเอานั่งไม่ติดที่เลย

    นี้คงเป็นครั้งเเรกในชีวิตของฮยอกเเจซินะที่..ไก่จอมอู้อย่างเขากลัวการเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง..

     

    เพราะฉะนั้น..สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ของคนน่ารักตัวขาวๆอย่างเขาคือ การยื้อเวลา โดยทำเป็นสนใจในสิ่งที่คนอื่นเล่าบ้าง ไม่ก็ถามคนนู่นทีคนนี้ที..ทั้งๆที่จับใจความบอกเล่าของคนอื่นไม่ได้ซักเรื่อง

    เเต่เวลานั้นไม่เคยหยุดนิ่ง เข็มนาฬิกาต่างมีหน้าที่ในตัวของมันเองคือการเดินไปเรื่อยๆให้กาลนั้นหมุนไปตามกฎกลไกเเห่งธรรมชาติเเละจักรวาล

    มันจึงเป็นตัวบอกว่าตอนนี้มืดค่ำเกินหว่าที่จะนั่งพูดคุยสำหรับคนที่ยังติดใจได้ไปเที่ยวคลายทุกข์ ให้ได้เข้านอนกันเสียที เเต่ใครบางคนนั้นไม่อยากนอนเอาเสียเลย

     

    เอาล่ะ..ค่ำแล้ว...เข้านอนๆๆ..เดี๋ยวพรุ่งนี้ใครมีงานก็ไป..ส่วนใครไม่มีงาน..ก็ต้องไปนอนเหมือนกัน..เด็กๆ...ไปเร็ว...นับหนึ่ง นับสอง...ว่าเเล้วเสียงประกาศิตก็ดังขึ้น จากหัวหน้าวงคนตาสวย

     

    สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับฝันไป..เหล่าผู้คนที่แตกตื่นไม่ต่างอะไรเลยกับนกกระจอกแตกรังที่พากันหนีตายอย่างบ้าเลือด ฮีชอลไปทาง(ทางเดียวกับซีวอน) คิบอมดงเเฮไปอีกทาง ซองมินกับคยูฮยอนก็ไปทาง(ทางที่มีเตียงเสียด้วย) ตามด้วยเยซองที่จับเรียววุคพาดบ่า ชินดงเองก็โกยขนมเสียเต็มมือ...ไม่เว้นแม้เเต่ตัวคนที่กำลังกลัวการเดินเข้าสู่ห้องนอนตัวเอง..ทำท่าจะลุกขึ้นวิ่งหนี อย่างลืมตัว หากมีคนเตือนเอาไว้เสียก่อน..

     

    นายน่ะ..ไม่ต้องรีบ พรุ่งนี้ไม่มีงาน..เดี๋ยวจะพาลเป็นหนักไปกว่าเดิม ..อีทึกเดินมาพูดด้วยอย่างใจดี..กลัวน้องนุ่งมันจะไม่สบายเอา..

     

    ฉันว่าพรุ่งนี้ต้องซมแน่เลยทึกกี้..ท่าทางกล้ามเนื้อจะอักเสบ..คนที่ตอบกลับไม่ใช่เจ้าตัวคนเจ็บ กายเป็นพ่อคนจีนที่ยังไม่ยอมหนีตายไปไหนกับคนอื่นที่ตอบแทน

    ฮยอกเเจหันไปค้อนให้วงโต รู้ชะตากรรมตัวเองอยู่รำไร..เเต่ก็นะไม่ต้องมาช่วยตอกช่วยย้ำกันหรอกพ่อคุณ อีกอย่างถอดออกเสียเถอะไอ้หน้ากากที่ดูเหมือนใสซื่อนั้น..

     

    หน้ากากของซาตานในคราบเทพบุตร ที่เด็ดปีกเทวดาตัวน้อยๆเพื่อใส่กรงเอาไว้ดูเล่น....

     

    เอ่อ...งั้นเหรอ...งั้นนายก็ดูแลเจ้าแห้งนี้ดีๆละกันนะ ยิ่งเป็นไก่ไม่มีเนื้ออยู่ เดี๋ยวก็โดนจับกินพอดี..อีทึกว่าเเล้วก็หันมาฝากฝังคนตัวเล็กไว้ได้อย่างถูกคนเหลือเกิน

    ไอ้เลย..เดี๋ยวจะดูเเลให้ ไม่มีใครมาจับกินได้หรอก..เพราะเขาน่ะกินเข้าไปเเล้ว..คำพูดบางคำนั้นควรละมันเอาไว้ในใจ อย่าให้ใครล่วงรู้เป็นดี ทิ้งให้คนป่วยในหัวข้อสนทนายืนหน้าซีดเซียวอย่างรู้ความนัย..

     

    คืนนี้คงได้กินเนื้อหอมๆหวานๆสมใจอยากเเล้วซะด้วยซิ....

     

    ...............................

    ..................

    ....

     

    อ..อา...ไม่ไหว..ถ้อยหวานเปร่งออกมาอย่างยากลำบาก..

    ขยับซิ..ไม่งั้น..ก็ให้มันอยู่อย่างนี้..ฮยอกเเจสำเนียงแปร่ง หากในยามนี้ดูเซ็กซี่เสียจน เส้นขนบางนั้นตั้งชันขึ้นไปทั่วพื้นผิวเนียน..จนมือหนาที่ลูบคลำนั้นสัมผัสได้..

    จุดรอยยิ้มเย็นนั้นขึ้นมาได้โดยไม่รู้ตัวเอาเสียเลย.....

     

    ตาคมมองใบหน้าที่ชื่นเหงื่อจากเเรงอารมณ์ด้านบน มือบางที่ยันอกเขาไว้สั่นสะท้านไม่ต่างจากเนื้อตัวของคนตรงหน้า  บางส่วนของร่างกายทั้งคู่ที่เชื่อมเข้าหากันแนบชิดนั้นร้อนระอุเกินคะเน

    อุณหภูมิที่ไหลเวียนไปตามเส้นเลือดทุกเส้นของร่างกาย ดูจะสร้างเเรงดันขึ้นมาจนเกิดเป็นองศาร้อน...

     

    กลิ่นนี้อีกเเล้ว...บางครั้งก็รับรู้ บางครั้งก็จางหายไป..ยามนี้..ดูเหมือนจะรุนเเรง...

     

    ความเจ็บปวดเเละกระสันอยากในอารมณ์นั้นผสมปนเปเป็นเนื้อเดียวจนไม่รู้ว่า ความรู้สึกนั้นมุ่นเน้นไปที่สิ่งใดกันเเน่..ยามเมื่อชายหนุ่มด้านใต้นั้นขยับกายจำต้องอดกลั้นเสียงน่าอายทุดครั้งไป..

    อารมณ์รักที่ตอนนี้ร้อนเเรง จนอยากเกินจะหยุดกลางครันนั้น ฮันคยองเป็นผู้หยิบยื่นทางเลือกให้...

     

    นาย..จะขยับไหม...หรือจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้..ทุกคำพูดที่ชัดเจนนั้น ยังคงก้องอยู่ในการรับรู้..จนต้องส่ายหน้าจนเส้นผมสีน้ำตาลเเดงนั้นพลิ้วตามไปด้วย..

    หากเเรงอารมณ์เเห่งความอยากนั้นทำให้เขาจนใจ

     

    พ..พี่...ผม..ทำ..ม..ไม่ได้..ช.ช่วยผมที..ผิวหนังอ่อนใสนั้นชื่นเต็มไปด้วยเหงื่อ มือเล็กที่ค้ำยันนั้นลื่นไปด้วยของเหลว หากยังคมเกาะยึดอีกฝ่ายอย่างแนบแน่น..

    เสียงหวานเปล่งเบาในคำน่าอายออกมาอย่างจนใจ น้ำตาเม็ดใสค่อยๆทิ้งตัวลงไหลเอื้อยจนเต็มใบหน้า..ปากที่กัดเสียจนขึ้นสีเเดงช้ำเนื่องจากพยายามเเล้วซึ่งการระงับความรู้สึก..

     

    คำอ้อนวอนอย่างน่าสงสารนั้นเเลดูจะถูกใจชายหนุ่มเสียเหลือเกิน..

     

    ก็ได้..ครั้งนี้...ฉันยกให้..เมื่อเขาตอบรับการร้องขอนั้นอย่างใจดี จึงเป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นอยู่เหนือร่างกายเล็ก..ให้ร่างกายตรงหน้านอนเเนบไปกับเตียงนุ่ม..

     

    ภาพที่เห็นคงไร้ซึ่งคำบรรยายใด...จึงไม่น่าเเปลกใจว่ารอยยิ้มนั้นจะมาปรากฏอยู่เรียวปากของเขา

     

    เห็นครั้งเเรกยังคิดเลย..ว่าเหมาะ..ฮยอกเเจชายหนุ่มกระซิบเสียงสำเนียงอย่างที่ตนติดปาก..

     

    เสียงทุ้มเนียมเเละลมอุ่นๆนั้นคลอเคลียอยู่ใกล้..ก่อนที่มันจะเคลื่อนที่มาอยู่ตรงหน้า..จนจมูกเเละหน้าผากทั้งสองคนเเนบชิดกัน..ไม่ลืมเลยเเม้ซักครั้งที่จะหยุดลิ้มองรสชาติตรงหน้า..

     

    เหมาะจริงๆ..ยิ่งเห็นกลับยิ่งกระตุ้นเลือดในกาย...เมื่อผิวขาวนั้นกระสับกระส่ายไปมาบนผ้าสีเลือดหมูเข้ม เนื้อนิ่มผืนใหม่ ซึ่งเขาเป็นคนซื้อมาฝากเองกับมือ..

     

    ไม่ต่างจากที่จินตนาการเลยซักนิดเดียว...บอกเเล้ว..ว่าใช่

     

    ยิ่งเมื่อเขามอบความสุขสม ในกามอารมณ์ให้มากเท่าไหร่ ผิวเนียนนั้นกับเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนลอยเด่นชัดขึ้นมาเหมือนเป็นเครื่องบอกว่า เด็กหนุ่มตอบรับอารมณ์เขามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งชวนให้กระหายอยากมากขึ้นไปเท่านั้น..

     

    มือบางกำเกร็งเเน่นไปกับของขวัญชิ้นใหม่ซึ่งเขาได้มีโอกาสใช่มันกับคนตรงหน้าจนเนื้อผ้ามันเขม็งตึงไปตามเเรงจิก..

    ร่างกาบที่เคลื่อนไหวไปตามเเรงรักที่อีกฝ่ายมอบให้มา จนเนื้อผิวเสียดสีกับผ้าที่อยู่ใต้ร่างจนมันยับย่นไม่เหลือเค้า หากเเต่ความนิ่มของมันก็ไม่ได้ระคายผิวเลยเเม้เเต่น้อย..

     

    อาจจะเพราะว่าผ้าผืนนี้หรืออย่างไร ที่ทำให้ชายหนุ่มดูท่าเร้าร้อนจะมากกว่าที่เคยเป็น..จนทำเอาคนที่กรำศึกหนักมานานนั้นเริ่มจะไร้เรี่ยวเเรง เเขนบางเลื่อนขึ้นหาอีกฝ่ายสั้นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

    จะมีก็เเต่เสียงครางหวานที่ยังร้องดังอย่างไม่ปกปิด

     

    อยากจะพอเพียงเเค่นี้เหมือนกัน เเต่ความผิดของนายนะที่ทำให้ฉันเกิดอารมณ์อยู่เรื่อย..

     

    หรือความจริงที่ฮันคยองไม่เคยรู้กันเเน่ว่า..เขากำลังเป็นคนที่สอนให้ฮยอกเเจยั่วยวนมากขึ้น ทำให้เขาหลงใหลจนไม่อยากหยุดบทรักที่เเสนวิเศษนี้เอง...

     

    *****************************************************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×