คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : :: BECAUSE OF SMELL & SOUND part 3
คงเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากในตอนนี้ บ้านเงียบเชียบไร้สรรพเสียงรบกวน..นี้น่ะหรือ บ้านที่มีสิบสามลิง..เเถมลิงตัวที่ดื้อที่สุดนั้นก็ไม่ก่อความวุ่นวายอีก..
มันน่าเบื่อนะ ที่ต้องนั่งจ้องโทรทัศน์ไปเสียเฉยๆ..น่ารำคาญ..เซ็ง..
เเต่ก็ไม่อยากไปหาอีกคนที่มัวเเต่หมกตัวอยู่ในห้อง ยิ่งใกล้กัน ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ มีเเต่จะอดรนทนไม่ไหวไปเสียเปล่าๆ ทางทีดีคือ..ห่างกันบ้างก็คงจะดี..เเค่นี้ฮยอกเเจก็กลัวเขาจะเเย่อยู่เเล้ว...
ดูเห็นเเก่ตัวมากเกินไปใช่ไหม..ที่จะบอก..ใช่..อยากให้กลัว..กลัวเขาให้มากๆ จนไม่กล้าที่จะเสนอตัวให้คนอื่นนอกจากเขา ในเมื่อของๆเขาก็คือของเขาเเล้วนี่
นัยน์ตาที่ทอดมองยังโทรทัศน์เครื่องใหญ่นั้นก็ไม่ได้บ่งชัดว่าสนใจที่เนื้อหา กลับเหม่อลอยไปในห้วงความคิดของตัวเองเสีย เลยได้ยินเเต่เสียงที่ตนไม่สามารถจับใจความได้มาเป็นระยะๆ
ปิ๊ง..ป่อง......ๆๆๆๆๆๆ
เสียงกดกริ่งรัวดึงเอาสติที่เหม่อไปไกลให้กลับมาได้อย่างทันท่วงที...ชายหนุ่มมองไปที่บ้านประตูเล็กน้อย นึกสงสัยว่าใครกันมาเอาป่านนี้..จะว่าพวกที่ออกไปข้างนอกก็คงไม่ใช่เพราะนี้เพิ่งจะเที่ยงพวกนั้นน่ะนะไม่มืดค่ำไม่กลับมาหรอก..
หากเมื่อมองลอดตาเเมวออกไปกลับเห็นใบหน้าใครบางคนที่เเสนคุ้นเคย เเอบตกใจกับบุคคลปริศนานั้นว่ามาทำอะไรที่นี้..จึงรีบเปิดประตูให้
“พี่ฮันคยอง!!!!”เสียงแหลมเล็กนั้นตะโกนเรียกชื่อเข้าดังสนั่นหวั่นไหวอย่างไม่เกรงใจคนที่อาศัยคนอื่นซักนิด..
“จุนซู..นาย..มาทำไม..”เสียงทุ้มเอ่ยถาม สำเนียงเเปร่งๆนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่จดจำได้ไม่ยาก
“โห..พี่..เจอหน้าผมถามอย่างนี้เลยหรอ..”เสียงเเหลมนั้นยังถามกลับมาอย่างร่าเริงไม่เปลี่ยนเเปลง ไม่รู้ว่าคนในวงมันทนกันได้ยังไงกัน..ไฮเปอร์เหมือนใครบางคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันไม่มีผิด..
นั้นซินะ..เเล้วตัวเขาล่ะทนกับคนคนนั้น ได้ยังไงกันมาตั้งนานขนาดนี้...
เเรงสะกิดทำให้เขารู้ตัวว่าเผลอหลุดเข้าไปในโลกของตัวเองอีกครั้งจนต้องกลับมาสนใจคนที่มาใหม่อีกครั้ง..เดี๋ยวใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวบ่อยเกินไป..
“พี่ๆ คิดอะไรอยู่น่ะ เผอิญผมเจอพี่อีทึกที่ห้างเลยจะมาหาฮยอกกี้น่ะ เห็นพี่เเกบอกว่าไก่น้อยของผมมันซุ่มซ่ามอีกแล้ว”คนน่ารักบอกออกมาอย่างสดใสอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ
เเต่คำบางคำในประโยคนั้นทำให้คนฟังเกิดอาการไม่พอใจในคำพูด คิ้วเรียวโก่งจึงขมวดเกร็งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว อยู่ๆก็เกิดอยากจะอารมณ์เสียขึ้นมาเสียอย่างนั้น..
“อยู่ในห้องน่ะ..จะเข้าไป..ก็ไปซิ”ฮันคยองพูดเสียงงวดขึ้นทันที ทำเอาคนที่รอคำตอบมองหน้าอย่างสงสัย
“เอ่อ พี่ฮันพี่อารมณ์ไม่ดีหรอพี่”เจ้าโลมาน้อยช่างสังเกต ไม่ปล่อยให้ความอยากรู้อยากเห็นเล็ดลอดไปซักเรื่องเลยจริงๆ
“ไม่มีอะไรหรอก สงสัยเพราะอากาศมันร้อนมั้ง..นายมาก็ดี เดี๋ยวฉันออกไปซื้อของหน่อย ฝากนายไว้แป่บละกันนะ เดี๋ยวเดียวเท่านั้นล่ะ”พอโดนทักจึงอยากเปลี่ยนเรื่องขึ้นมา
จะว่าไปจึงคิดอยากออกไปหาอะไรทำเเก้เซ็งเเก้เบื่อซักหน่อย..อาจจะทำให้ไอ้อารมณ์ที่เสียอย่างไม่มีสาเหตุนั้นดีขึ้นก็ได้ เฮ้อ..ชักเอาใหญ่ขึ้นทุกวัน..
“ได้ซิฮะวันนี้ผมไม่มีอะไรจะทำ พี่ยุนโฮ กับพี่เเจจุงยังอยู่ญี่ปุ่นอยู่เลย..ยูชอนก็กลับบ้าน ยังไงวันนี้อยากอยู่กับฮยอกกี้นานๆ คิดถึง..”ยิ่งฟังที่เจ้าโลมานี่พูดอย่างน่ารักน่าชัง ยิ่งอารมณ์ขึ้นด้วยความคิดที่สวนทาง..
เป็นครั้งเเรกในชีวิตเลย ที่เห็นว่าเซีย จุนซู ไม่น่ารักอีกต่อไป..จนอยากกระชากคอเสื้อเสียให้รู้เเล้วรู้รอด
“ตามใจนายละกัน..เดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา”ตอนนี้ชักเริ่มรู้สึกไม่อยากออกจากบ้านเสียเเล้วซิ ไอ้อารมณ์ปวดหนึบในอกกับ อารมณ์ที่รู้เลยว่าไม่ปกติทำเอาไม่อยากก้าวขาออกไปไหน เเต่ถ้าอยู่รู้เพียงอย่างเดียว
อีกไม่กี่ชั่วโมง ฮันคยองอาจจะได้มีเรื่องกับมิคกี้ ยูชอนเเน่ๆ...
เลยปล่อยให้เพื่อนสนิทของฮยอกเเจวิ่งเข้าห้องไป..ก็อยากเข้าไปร่วมวงอยู่หรอกนะ เเต่ตอนนี้บอกได้เลยว่า หงุดหงิด!!!! ไม่อยากอยู่ด้วย..
*****************************************************************************************
เมื่อได้ออกมาข้างนอก อากาศที่ปลอดโปร่งกับคนน้อยในห้างสรรพสินค้านั้นทำให้ คลายความตึงเครียดในอารมณ์ขึ้นมาได้ไม่มากก็น้อย..
ไม่รู้ว่าทำไมต้องโกรธ ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไรจุนซู เเต่รู้ว่าเริ่มไม่ชอบหน้าเเล้วล่ะ..
สายตาคมขยับเลื่อนขึ้นลงตามชั้นที่วางของเอาไว้จนเต็มเเน่น จรดเพดานกว้าง..กวาดมองมันจนทั่ว หาของที่คิดว่าเเค่พอใช้สำหรับทำในวันนี้เพียงวันเดียวจึงเลือกที่ใช้ตะกร้าเเทนรถเข็น..
คนที่ทำครัวเป็นไม่แปลกเลยที่จะเลือกสรรทุกอย่างด้วยความคล่องเเคล่ว ไม่ละเลยเรื่องความรอบคอบเเละพิถีพิถันในสิ่งที่ตนหยิบจับ ในหัวมีสิ่งที่อยากทำเอาไว้เสร็จสรรพ
เเม้ว่าชุดที่ใส่มาจะดูรัดกุมดี..เสื้อกันหนาวฮู้ดสีน้ำเงินเข้มที่ กับกางเกงยีนส์สีซีดเเละหมวกไหมพรมสีเดียวกับเสื้อ..นั้นก็น่าจะเพียงพอ หารู้ไม่ว่ามันยิ่งส่งให้คนสวมเเลดูเเล้ว สูงใหญ่จนผิดสังเกต
เเต่ถึงอย่างนั้นเเว่นกรอบสีเข้มตกลงมาอยู่ที่ปลายจมูกโด่งน้อยๆจนเจ้าตัวต้องขยับขึ้นไปไว้ที่เดิม ไม่อยากให้ใครมาจำหน้าเขาได้ในตอนนี้..ขี้เกียจเดือดร้อนจะต้องวิ่งหนี.
ของที่ต้องการถูกชำระเงินเรียบร้อยเเล้ว ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะกลับบ้านเต็มทน ไม่รู้ทำไม เเต่เเค่ลางสังหรณ์ของคนจีน มักเเม่นยำเสมอ
ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องกลับจริงๆเสียทีซินะ..
ขายาวเดินพาตัวเองไปเรื่อยๆ นัยน์ตาคมมองไปตามสองข้างทาง เเค่เพียงเพราะมันอยู่รัศมีเส้นทางที่สายตาสามารถมองผ่านเท่านั้น..
เเต่จะถึงอย่างนั้น กลับสะดุดเข้ากับร้านๆหนึ่งอย่างจัง ความคิดบางอย่างเเล่นเข้ามาในหัวสมองอย่างไม่ตั้งใจ พาลให้รอยยิ้มที่มุมปากต้องยกยิ้ม เหมือนเด็กเจอของที่หมายตา จนต้องเดินเข้าหาอย่างไม่คำนึง
ภายในร้านตกเเต่งเพื่อบ่งบอกในสิ่งที่สินค้าต้องการจะนำเสนอตัวเองอย่างชัดเจน..เมื่อผู้ที่เรียกตัวเองว่าลูกค้าเดินเข้าไปกลับทำเอาพนักงานนั้นมองอย่างสนอกสนใจ..
ชายหนุ่มรูปงามเเลดูหล่อเหลา เเม้จะสวมเเว่นตาเพื่อบดบังใบหน้า หากก็ยังดูน่ามองอยู่ดี..จะมาทำอะไรในร้านเเบบนี้กันนะ..
พนักงานสาวต่างรีบกุลีกุจอเสนอตัวอยากให้ความช่วยเหลือลูกค้ารายใหม่อย่างเต็มที่จนแทบจะเหยียบกันออกไปรับหน้า..เเต่ในที่สุด คนที่เร็วกว่าจึงได้โอกาสนั้นไป..
หญิงผู้โง่เขลาทั้งหลาย..หารู้ไม่เลยหรือว่าเหตุใดชายคนนี้ จึงเดินเข้ามา ถ้ามิมีสิ่งปรารถนาจะสรรหาบางสิ่งให้ผู้อื่น..
ชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อยอย่างคนมีมารยาท ใจคิดว่า เขากำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่พอดี จึงเป็นการดีอย่างมากถ้าได้รับมันในตอนนี้..
“คือ..ผมอยากได้เเบบที่ดีที่สุด..”ชายหนุ่มว่าพลาง เลือกสรร สินค้าตัวอย่างที่หญิงสาวเอาไม่ให้ดู..
ใช้เวลาเลือกอยู่ไม่นานนักจึงได้ในสิ่งที่ใจปรารถนาไม่ผิดไปซักนิด ราคาที่ไม่ย่อมเยาของมันไม่ได้หยุดการกระทำลงได้เลย..เขายินดีจ่ายมากกว่านี้ถ้ามันจะเเพงมากไปอีก..
เป็นไปตามสัจธรรม ของดี..ราคามันก็ต้องสมน้ำสมเนื้อไปตามนั้น..
ฮันคยองเดินออกจากร้านด้วยท่าทีเเสนสบายใจ คล้ายเด็กที่ได้ของเล่น เมื่อเวลาที่ตนอยากได้..ยามมาอารมณ์เเสนจะทุกข์ หากยามกลับจิตใจเเปรเปลี่ยนเบิกบาน..
..................................
..................
.......
“นี่ๆๆ..ฮยอกกี้ นายเป็นยังไงบ้าง..”เสียงเเหบเเหลมนั้นดังขึ้น ทำเอาคนที่นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนทำอะไรไปเพลินๆ ต้องหันมามองอย่างตกใจ..
“ไอ้โลมาอืด...เเกมาได้ยังไง..”เสียงทักตอบกลับไปกลับสดใสไม่แพ้กัน จะติดก็เเค่การขยับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้นทำเอาคนช่างสังเกตมองตาไม่กระพริบ..
ท่าเดินเเปลกๆที่เเสนคุ้นตา..เเละการขยับร่างกายในเเบบที่น่าสงสัยนั้น..ทำเอาคนน่ารักขมวดคิ้วมุ่น..หากไม่ได้ติดใจที่จะถามในต้องนี้เเม้จะอยากรู้มากเเค่ไหนก็ตาม..
“โหย..เเกทักฉันเเบบนี้หรอ..ไอ้ไก่สมองฝ่อ..”ว่าเเล้วก็ทำเสียงเเหลมปรี๊ดข้นมาทันที..
“เอาน่า ว่าเเต่เเกมาได้ยังไงล่ะ ตั้งเเต่เเกไปดังที่ญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยเจอเเกเลยนะเว้ย..”ว่าเเล้วก็ขยับขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงมองหน้าเพื่อนสนิทที่เดินมานั่งลงข้างกาย..
การพูดคุยเเละน้ำเสียง องค์ประกอบทุกอย่างนั้นเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นหลายๆครั้ง..เเต่ความรู้สึกที่สัมผัสนั้น..กลับเปลี่ยนไป..ความสดใส กับคำพูดที่ร่าเริง เหตุใดจึงดูน่าหดหู่อย่างร้ายกาจ..
ฮยอกเเจโกหกไม่เป็น เเต่ตอนนี้ฮยอกเเจกำลังโกหก ปกปิดบางอย่างกับจุนซูอยู่...
“ว่าเเต่ไอ้ไก่..ไหนมาขอดูแผลหน่อยซิ สะบักสะบอมขนาดนี้..”จุนซูทำท่าทางทีเล่นทีจริงใส่เพื่อนด้วยใบหน้ายิ้มเเย้ม สิ่งที่ได้รับกลับมากลับเป็นใบหน้าไร้สีเลือดเเละสายตาที่เเสนตกใจจนคนที่มองอยู่จับได้ จนรู้ในทันที..
“ฮยอกกี้.ฮยอกกี้กำลังโกหก..จุนซูอยู่ใช่ไหม..”เเม้จะเรียกชื่อกันอย่างสนิทสนมหาก น้ำเสียงจริงจังทำเอาคนถูกถามชะงัก..
สมองเล็กมีทางเลือกในหัวอยู่เเค่สองทาง..คือโกหก..เเละบอกความจริง..เเต่ในเมื่อโดนจับได้เเล้วจะดันทุรังโกหกไปอีกเพื่ออะไร รังเเต่จะสร้างความไม่สบายใจให้เพื่อนเสียเปล่าๆ เสียน้ำใจในความหวังดีที่อุตส่าห์มาหาเมื่อมีเวลา โดยไม่เคยละเลย
“คือ..จุนซู เเกฟังให้ดีๆนะ..เเล้วอย่าโกรธ..ถ้ารู้เรื่องทุกอย่าง..”คนพูดเว้นช่วงรอการตัดสินใจของเพื่อนสนิท
เกิดมาไม่เคยเห็นฮยอกเเจกลัวเท่านี้เลย ให้ตายซิมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย...
ถึงอย่างไรก็ตาม จุนซูยังคงเลือกที่จะพยักหน้าตอบ..ต่อให้ฮยอกเเจทำอะไรผิดนักหนา เขาก็พร้อมจะให้อภัยเสมอ..เพื่อนเเท้ไม่ได้หากันได้ง่ายเหมือนดอกไม้ริมทางหรอกนะ..
“ฉันกับพี่ฮันเรามีอะไรกัน..โดยที่ฉันไม่ได้เต็มใจ..นาย..เอ่อ เข้าใจใช่ไหม..”ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการมีอะไรกันโดยไม่สมยอมนั้น เรียกอย่างหยาบๆ คงหนีไม่พ้นคำว่า‘ข่มขืน’..
“เเล้วนายไปยอมเขาทำไม!!! นายบ้าไปเเล้วหรือไงฮยอกเเจ..นี่มันกี่ครั้งเเล้ว..มันเพื่ออะไรกัน!!”กะเอาไว้เเล้วว่าจะไม่โกรธ เเต่ด้วยความโง่เขลาของเพื่อนทำให้อดไว้ไม่ไหว..
เพื่อนใครใครก็รัก เพื่อนใครใครก็หวง ... ตอนนี้เพื่อนเขากำลังโดนเอาเปรียบ..อย่างน่าสมเพช
“นับครั้งไม่ถ้วนเเล้วล่ะ..”คนตอบก้มหน้าไม่อยากสบตา..รู้สึกเหมือนเนื้อตัวของตนเป็นสิ่งสกปรกเหลือเกิน..
“เเล้วนาย..จิ..เขาขู่นายหรอ..เขาบอกหรอ..ว่าจะไปบอกคนอื่น..เขาขู่นายใช่ไหม เขาจะเเบล๊คเมล์นายใช่หรือเปล่าตอบฉันมาซิ..”มือเล็กคว้าไหล่บางของเพื่อนเอาไว้ จับเขย่าจนหัวสั่นคลอน หากคนที่ถูกต้อนจนมุมนั้นได้เเต่ส่ายหัวปฏิเสธแรงๆ
ดวงตาที่ลื่นไปด้วยหยาดน้ำ ว่างเปล่า เเสนเจ็บปวดจนสุดใจ เงยขึ้นสบเพื่อนอย่างที่ไม่เคยทำเลยในชีวิต...
“จุนซูถ้านายโดนยูชอน ข่มขืน นายจะทำยังไงกัน....”
***********************************************************************************************
ความคิดเห็น