คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :: BECAUSE OF SMELL & SOUND part 2
ปัง!!
เสียงประตูปิดดัง พร้อมกับสมาชิกในบ้านคนสุดท้ายคืออีทึกที่บอกลาด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดใจ...
ฮยอกเเจเอื้อมมือไปล๊อคมันแน่นหนาอย่างเคยชิน..หันหน้าถอนหายใจน้อยๆ ให้กับบานประตูที่อยู่ตรงหน้า..ไม่รู้ว่าวันนี้จะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง...
“จะหันหน้าเข้าหาประตูอีกนานไหม”กว่าจะรู้สึกตัวอีกที เเขนเเกร่งวางพาดลงยันไว้กับประตูจากด้านหลัง จนคนที่ยื่นอยู่ก่อนไม่กล้าจะหันกลับไปมอง...ไหนจะยังเสียงก้องที่ดังอยู่ข้างหูชวนให้ใจละเมอไปได้ทุกครั้งไปอีกเล่า..
“นายจะไม่หันกลับมามองหน้าฉันหน่อยหรอ..”ลมหายใจเเผ่วที่ไล้ไปตาม ผิวเนื้อปลุกให้เส้นขนบางทุกอณูร่างกายพาลุกขึ้นอย่างห้ามไม่ได้..เสียงสูดลมหายใจเเผ่วที่อยู่ใกล้เสียจนสัมผัสได้นั้น ยิ่งส่งให้ไม่กล้าที่จะหันกลับไปหา...
..เฮือก!!...
เหมือนกลับว่าโดนลูบไล้ เเต่ไหนเลยถึงไม่รู้สึกถึงการสัมผัส..ทำไมจึงรู้สึกเเต่ลมอุ่นๆ..จนต้องเบือนหนี เเรงสัมผัสที่ไม่ทันได้ตั้งตัว..ความเย็นจากปลายนิ้วที่ไล้สำรวจไปตาม ซอกคออ่อน เเม้หลับตากลับจินตนาการภาพได้ชัดเจนว่า มันต้องกายอยู่ ณ ที่ใด
ฝ่ามือเย็นเยียบกับสัมผัสอันเบาบาง..ลูบไล้..จับต้อง..ปรนเปรอ..ริมฝีปากที่กดจูบ ขบเม้ม..คลอเคลียอยู่ข้างใบหูไม่ห่างปลดปล่อยสติเเห่งการนึกคิดเริ่มเลือนรางห่างออกไปทุกที..
“ฮยอกเเจ...ทำไม...ถึงได้..เย้ายวนขนาดนี้...ฮยอกเเจ..”เสียงเรียกพร่าขึ้นบ่งบอกเเรงอารมณ์ เคล้าคลอ ประสาทรับรู้สั่นสะท้าน..เพียงเเค่เสียงเท่านั้น..ทำไม..กลับทำให้ร่างทั้งร่างสั่นคลอนไปถึงหัวใจ...
ร่างกายที่สัมผัสอยู่นี้ดูเหมือนไม่ใช่ของตัวเองอีก..กลับร่องลอย..ไปในสัมผัสที่เเสนนุ่มนวล..หาใช่จาบจ้วง..เเละขืนใจ เเต่ต้องยอมโอนอ่อนไปตาม..กระเเสเเห่งเสน่หา สุดท้ายจึงค่อยๆหลอมละลายไปกับ ไฟของอารมณ์
เมื่อน้ำมันอยู่กับไฟ..เพลิงปรารถนาจึงยากจะต้านทาน..
ผิวเนื้อกายอุ่นตรงหน้านี้เชิญชวนให้กระโจนเข้าหาได้ทุกเมื่อเหลือเกิน..อยากเพียงเเค่สัมผัส สัมผัสเท่านั้น..ท้ายสุด เมื่อเเค่เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็ทำเอาควบคุมตัวเองไม่ได้..ปล่อยให้อารมณ์กลับอยู่เหนือทุกสิ่งเสมอ..
อีกเเล้วซินะ..ความหอมที่เเสนรัญจวนนี้ มากจากไหนกัน..ยิ่งใกล้ยิ่งรับรู้..
หากยิ่งสูดดม..ความร้อนที่อยู่ในร่างกายก็ดูจะถูกปลุกขึ้นมาอย่างเกินห้ามใจ..ต่อให้มีผืนผ้าคลุมอยู่ทั่วร่างกาย เเต่ทำไมประสาทบนฝ่ามือกลับสัมผัสได้ถึงความเนียมนุ่มที่อยู่ภายใต้ได้เป็นอย่างดี..
ชักจะหนักมากขึ้นไปทุกที..ซักวันคงถอนตัวไม่ขึ้น...
ตอนนี้เพียงสิ่งที่เดียวที่หลงเหลืออยู่คือ ไร้ซึ้งการล่วงเกินใดๆ หากความรู้สึกนั้นไม่ต่างจากบทเริ่มต้นของการร่วมรักทั้งที่ยังคงสวมอาภรณ์อยู่ไม่ผิดเพี้ยน...
“พ..พี่ฮัน..”เสียงหวานครางเครือเบา ปลุกสติอีกฝ่ายให้สะดุดลงเล็กน้อย..ก่อนที่เพลงรักจะเริ่มต้นขึ้นมาเสียจริงๆ..ฮันคยองดึงมือที่เเตะกายเล็กออก..อย่างเบาๆ..ไม่ลืมที่จะลูบหลังมือไปตามเเก้มนวลเหมือนการสั่งลา..รู้สึกได้ถึงความร้อนจากผิวนิ่มจนต้องยิ้มออกมาน้อยๆอย่างเอ็นดู..
ชายหนุ่มถอยห่างออกมาอีกก้าว เพื่อมองดูคนที่ยังไม่ยอมหันหน้ามามองแต่คาดเอาไว้ในใจว่าอีกไม่นานก็คงหันกลับมา จึงเลือกที่จะยืนอยู่นิ่งๆเพื่อรอคอยเวลา
เป็นดังที่หวังใบหน้าขาวที่แต้มไปด้วยสีระเรื่อค่อยๆหันมาช้า..สายตาหวานเชื่อม ที่ดูหวาดกลัวนั้นเหมือนเชื้อชวนโดยไม่รู้ตัว เพราะเนื่องจากอารมณ์ที่ถูกก่อขึ้นอย่างรวดเร็ว..ขั่วแม่เหล็กที่แตกต่างกันนั้น เมื่อมาพบทีไรกลับต้องก่อให้เกิดแรงดูดมหาศาลที่แสนประหลาด
ทำเอาคนตัวสูงกว่านั้นอยากก้าวเข้าหา กลับต้องยับยั้งชั่งใจเอาไว้ เพียงเพราะแค่คนตัวเล็กนี้อยากจะก้าวเดินยังลำบาก ถ้าปลดปล่อยใจไปตามแรงไร้สำนึกแล้วล่ะก็
คนตรงหน้าคงแหลกไปคามือของเขา...ดอกไม้แสนงามหากต้องเหี่ยวเฉาและร่วงโรยก่อนเวลาคงไม่น่าอภิรมย์อีกต่อไป
ไร้ซึ่งคำพูด มีเพียงสายตาของคนที่ทั้งสองที่ส่งหากันแทนการสื่อภาษา สายตาหนึ่งดุจกลืนกินเข้าไปเสียให้ได้ หากอีกสายตาขลาดเกินกว่าจะกล้าต่อกร เพียงไม่นานก็ต้องหลบตาลง..
มีหรือลูกไก่ไร้ซึ่งพิษสงจะปีกกล้าขาแข็งเทียบพญามังกรผู้เเข็งเเกร่ง...รังแต่จะหาเรื่องใส่ตัว..
คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินเนิบๆ แทนการเดินวิ่งตึงตังในแบบที่ตัวเองเคยทำจนชิน ร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวย ขัดใจกับสิ่งที่ตัวเองอยากทำ เกรงว่าถ้าวิ่งไปละก็คงไม่พ้นสองช่วงขาคงได้ล้มลงต่อหน้า
อยากจะวิ่งหนีไปเร็วๆเสีย ตอนนี้ อึดอัดมากเกินพอจะยืนอยู่ได้...
แต่มีหรือคนที่อยู่ด้วยกันอีกคนจะปล่อยให้อีกฝ่ายไปได้..ทุกอย่างรอบกายเป็นใจให้ราวเปิดทาง..ให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันำพัง แต่ความจริงสิ่งที่ชายหนุ่มรู้ดี
..ทุกอย่างบนโลกอันบูดเบี้ยวน่ะไม่มีคำว่าบังเอิญหรอกนะ..
มือหนาคว้าเอาแขนเล็กให้เซถลาเข้ามาหาตัว..เพียงแค่แตะเบาๆ แต่ความร้อนจึงเกิดขึ้นบริเวณฝ่ามือกลับแล่นปราดเข้าหากันอย่างไม่มีการควบคุม..
“นายจะรีบไปไหน..”เสียงนิ่งและเฉยชา ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับที่เคยได้ฟัง ก่อนที่ทุกคนจะออกจากบ้านเหลือ เล่นเอาคนฟังแทบจุก
“ผม..ไม่สบายตัว..อยากไปนอน..”ฮยอกแจขืนตัวออกจากการเกาะกุมน้อยๆ เพียงแต่คนที่จับเขาอยู่ไม่มีท่าทีว่าจะขยับตัวด้วยเลย ความต่างทางกายภาพทำให้ได้รู้เลยว่า ความสามารถในการคุมเกมส์นั้นก็ต่างออกไปด้วย แม้กระทั้งเรื่องเมื่อคืน..
รู้ดีว่าไม่ใช่ครั้งแรก หากก็เจ็บปวดได้ไม่ต่างกันซักครั้ง..เจ็บปวดที่หัวใจ กำลังถูกทำร้าย..เหมือนเสียตัวไป อย่างไร้รัก..ในมือน้ำมือของคนที่สร้างบาดเเผลแห่งความสุขเป็นคนเเรก
ยิ่งคิดน้ำตาเจ้ากรรมก็พาลจะทิ้งตัวจากดวงตาที่เริ่มหม่นลงไปตามความรู้สึกที่มีอยู่ จะทำอย่างไรได้เมื่อต้องตกหลุมพลางขอปีศาจร้ายที่ย้ำยีหัวใจ มีทางเดียวคือยอมเป็นทาสของเขา โดยได้รับความเจ็บปวดเป็นค่าตอบเเทน
“ปล่อยเถอะพี่..ผม..เหนื่อย..อยากนอน”ร่างบางเลือกที่จะหลบตาของตัวเอง กลัวว่าความอ่อนเเอจะเเสดงออกมาจนคนที่มองอยู่นั้นจับได้ หวังว่าอย่างน้อยตอนนี้คนตัวโตกว่าจะยอมทำตามคำขอ
“เเล้วใครใช้ให้นายตื่นก่อนฉัน”
“ก..ก็..ผมเหนียวตัวไม่สบาย..อยากอาบน้ำ..ก็เท่านั้นเอง..”เสียงที่สั่นน้อยๆ เจ้าตัวพยายามบังคับมันให้คงที่ ร่างสูงเพียงเเค่เลิกคิ้ว กลับไม่ติดใจจะถาม ส่วนคนที่ตอบอยู่นั้น ได้เเต่คิดไป..ว่าจะให้ตอบอย่างไรได้ว่า น้ำรักที่อีกคนนั้นฝากเอาไว้อย่างมากมายในร่างกาย มันไหลซึมออกมาทุกครั้งที่ขยับกาย จนน่ารำคาญ
“งั้นก็จำไว้นะ ว่าวันหลัง..อย่าทำอย่างนี้อีก..ฉันไม่ชอบ..จำไว้ ว่าถ้าฉันตื่นมาต้องเห็นหน้านาย..ฮยอกเเจ”ร่างสูงโน้มตัวกระซิบทิ้งเอาคำสั่งเน้นหนัก หากปลายเสียงที่เรียกชื่อกลับเเผ่วเบา..
ฮยอกเเจได้เเต่พยักหน้าเร็วย้ำกับตนเอง ในสิ่งที่ต้องจดจำ เเละใส่ใจเอาไว้ มือหนาจึงยอมปล่อย ให้อีกคนเป็นอิสระ มองเเผ่นหลังเล็กที่หายกลับเข้าห้องไปอย่างทุลักทุเล ห้องที่เป็นของเขาครึ่งหนึ่ง หากตอนนี้เจ้าของอีกครึ่ง กลับกลายเป็นสมบัติของเขาไปเเล้ว..
ก็เเค่..การเครื่องระบายตัณหา กับร่างกายที่ให้ไม่รู้จักหมด เพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่เคยจะพอของเขาก็เท่านั้น...
*****************************************************************************************
อิสระ...อีกชีวิต ที่มีลมหายใจ กลับถูกจองจำ ต้องการ..อิสระ..
ถ้าเพียงต้องเสียเพียงเเค่ร่างกาย ก็คงไม่ต้องรู้สึกทุรนทุรายขนาดนี้ แม้จะพาตัวไปได้ในที่ที่ใจอยาก..เเต่ทำไมหนอ ใจเจ้ากรรมยังโดนกักขังอยู่อย่างนี้เล่า ทำไมกันนะ
ถ้าเพียงเเต่ไม่รัก..จะยังเจ็บ ยังปวดเเบบนี้อยู่ไหม
ยังคงหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลย ทำไมเมื่อถึงเวลา กลับสู้ไม่ได้ ทำไมถึงไร้เรี่ยวเเรงไปเสียทุกที..
ต่อให้เเหงนหน้ามองท้องฟ้าที่มีเม็ดฝนโปรยลงมาตรงหน้า จนเมฆถล่มลงมาก็คงไม่ได้มาซึ่งคำตอบ คงจะจริงอย่างที่เขาว่านั้นแหละ..สัตว์ปีกมันสมองน้อย เเละโง่ มิน่าล่ะ เวลาคิดอะไร ต้องการทำอะไร ถึงได้คิดไม่ค่อยออกจนรำคาญ หงุดหงิดในตัวเอง
ยังไงเสียตอนนี้ อย่างน้อยๆ คงพอมีเวลาที่จะหายใจหายคอได้สะดวกมาขึ้นบ้าง ด้วยไม่ต้องอยู่เผชิญหน้ากับผู้อาศัยใต้ชายคาอีกคน รังเเต่จะชวนให้บรรยากาศอึดอัดเสียเปล่าๆ อยากจะเต้นเเร้งเต้นกา อยากจะเฮฮาร่าเริง ร่างกายก็ไม่อำนวยจนน่าโมโหนัก นึกพาลต่อว่าไปถึงตัวต้นเหตุ
ไม่รู้ว่าตายอดตายอยากอะไรนักหนา..กว่าจะยอมปล่อยก็เกือบตีห้าฟ้าสางเข้าเห็นจะไม่ผิด
คิดๆไป ภาพเหตุการณ์จึงยิ่งฉายชัด..เสียงกังวาลที่เเสนมีเสน่ห์ กระซิบพร่าเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เป่ารดอยู่ข้างๆหู ร่างกายที่เเนบชิดกันจนรับรู้ถึงองศาเเห่งความร้อน บทรักที่เกิดจากการบังคับ นั้นหยั่งรากลึกให้จดจำ ..จะว่าเจ็บปวดก็เจ็บ..ทว่าสุขสมเกินคำบรรยาย..
“จะนั่งหน้าเเดงทำไม คิดเรื่องลามกอยู่มันไม่ดีนะ..เป็นเด็กเป็นเล็ก..”
“อ๊ะ!!!”เสียงที่มาท่ามกลางความเงียบนั้นทำเอาคนที่กำลังคิดเรื่องลามกอย่างเขาว่าสะดุ้งสุดตัว เเต่จะให้พูดได้ยังไงดีล่ะ..จะให้บอกออกไปก็คงจะไม่ดีเเน่ๆ
“ว่าไง..หือ..คิดอะไรอยู่..ฮยอกเเจ”ปลายนิ้วไล้ไปตามผิวอ่อน..ลากจับ สะกิดเชยคาง จนต้องเเหงนใบหน้าขึ้นสบตา ไม่ได้ถูกบังคับ เเต่จำต้องทำ
ไม่รู้ว่าด้วยว่าเสียงอ่อนนุ่มปลายเเผ่วในทุกครั้งที่เรียกชื่อ ทำให้ใจอ่อนยวบลง..จะทำให้เผลอเเสดงออกมาทางสายตาหวานเสียหมด จนคนที่คิดจะเเค่เเกล้งๆเท่านั้น..ถึงกับลมหายใจสะดุด..เเต่ด้วยว่าการควบคุมมันห่างชั้นกันมากจึงไม่เเปลกที่เขาจะดำเนินเรื่องต่อ..
“ผม..เปล่า..นะ..”รู้เต็มอกว่าโดนโกหก..เเสดงออกอย่างเเน่ชัดเสียว่าโกหก..ไม่ต้องนั่งจับพิรุธให้เสียเวลา..การเเสดงออกที่แสนซื่อตรง..เขาชอบ..ไม่เหนื่อยที่จะต้องไล่ต้อน
“ตาหวานเสียขนาดนี้น่ะนะ...อย่าโกหกดีกว่า..น่า..ฮยอกเเจ..”วาจาที่เอ่ยกระซิบ หยอกเย้าอารมณ์ คลอต่ำกดประสาทรับรู้มากกว่าสิ่งเสพติดใดๆในโลก จนต้องเผลอไผลตามไปจนได้..
ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ของคนตัวเล็กๆอย่างเขา คือ ขบปากตัวเองให้เเน่น..ทำให้รับรู้ถึงความเจ็บทางกาย..หลับตาจนสนิททำเสียว่าไม่อยากรับรู้ ให้มันคอยเตือนสติ
อย่าล่องลอยไปในสายธารที่ดูใสสะอาด เเม้ก้าวขาลงไปเมื่อใด ความลึกของมันนั้นสุดใจ..จนไม่สามารถโผล่ขึ้นมารับอากาศบริสุทธิ์ได้อีกเลย..
ต่อให้ห้ามแสนห้ามเเค่ไหนก็ตาม กายรู้สึกก็ยังคงรับรส สเน่หานั้นอยู่ไม่รู้ลืม เมื่อลมอุ่นคลอเคลียอยู่ใกล้หูจนได้ยินเสียงลมหายใจ...ที่เป่ารดกัน
ฟู่ว์...ลมเเรงนั้นพัดพาเข้าหู..ทำเอาสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้ง..จนต้องยกมือขึ้นมาแนบปิดเพื่อป้องกัน..จึงหันกลับมามองผู้ที่ก่อเรื่องนี้อีกครั้ง..กลับได้รับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มาแทน ริมฝีปากที่เคล้าคลึงเมื่อกี้ อยู่ห่างเพียงเเค่สายตาแตะ...สิ่งที่เกิดไม่ต่างจากใจคาดเลย..
เงาที่พาดผ่านตัวลงมาทาบทับกาย เสมือนหนึ่งถูกตราตรึงเอาไว้ หากไร้ซึ่งการแตะต้องกัน ไปไหนไม่ได้เสีย..จะผลักไสก็ทำได้..เมื่อเขาไม่ได้ขืนกำลัง..เเต่ใยเผลอไผลไปกับกับความมัวเมาตรงหน้า
หรือจะเพราะความวาบหวามจับขั้วหัวใจที่ได้รับมา ละมุนละไมเสียจนหลงละเมอไปกับสิ่งที่ได้รับ จนต้องตอบสนอง สิ่งที่อีกคนเสี้ยมสอน จนวันนี้มันแสดงให้รู้เเล้วว่า..ตัวเขาเองนั้นก็จดจำเเต่สิ่งที่อีกคนมอบให้..
สำหรับฮันคยองเอง บอกได้เลยว่าเขาพึงใจกับสิ่งที่ทำอยู่เเละผลของมันมากเหลือเกิน เเค่เพียงจูบเดียวเท่านั้น เเค่เพียงจูบที่ไร้การจับต้อง ลูบไล้ ยังก่อให้เกิดอารมณ์ที่มหาศาลได้ขนาดนี้ ยิ่งกลิ่นที่เขาชอบเมื่อได้สูดดมเข้าไปยิ่งเเล้วใหญ่..จึงไม่ต้องหาเหตุผลให้กวนใจว่า เพราะอะไร ค่ำคืนที่เพิ่งผ่านพ้นนั้น คือ การเพียรพยายามระบายเอาอุณหภูมิร้อนออกมากเท่าไหร่ กลับกลายเป็นมากขึ้นเท่านั้น จนเกือบกลั้นเสียงร้องตะโกนเอาไว้ไม่ไหว
ไฟจากก้านไม้ขีดเพียงก้านเดียว ก่อเกิดเป็นพายุเปลวเพลิงที่ลุกลาม สุดท้ายก็ยากเกินไปที่จะมอดดับลง..จนเมื่อเจ้าเชื้อไฟเล็กนั้น สูญสลายไปพร้อมกับไฟราคะเหลือเพียงเเค่เถ้าถ่าน..
สิ่งเสพติดของฮันคยอง...เสพอย่างไม่รู้เบื่อ..กลิ่นกายเนื้อเนียน..รสชาติของมนุษย์ ที่ชื่อ ลี ฮยอกเเจ...
เพียงเเค่อยากจะมาตามไปกินข้าวเท่านั้น..ไม่ได้คิดเป็นอื่นเลย..ถ้าไม่ได้เห็นใบหน้าที่ชวนให้เเกล้งอย่างนั้นก็คงไม่เลยเถิดไปเสียขนาดนี้..
ริมฝีปากที่เเนบสนิท ค่อยๆห่างออกไปอย่างเชื่องช้า เเทนที่ด้วยนัยน์ตาสื่ออารมณ์ จาบจ้วงอย่างหยาบคาย หากด้วยสำนึกว่าเป็นตาคู่เดียวกับที่มันเคยมองสำรวจร่างกายสีขาวไปทุกอณู รูขุมขนของตัวเองทำเอาไม่อยากจะมองเข้าไปในนั้นเลย..
เเรงดึงดูดที่ไม่เคยถูกค้นหาคำตอบ พลันให้มือหนาต้องเอื้อมไปหมายอยากจะสัมผัส กลับยับยั่งชั่งใจ สิ่งที่เขาต้องทำไม่ใช่ให้มันจบลงที่ห้องนอน..หากเป็นห้องครัว..เเต่สิ่งชักจูงนั้นดูจะทำให้หลงประเด็นเข้าทุกที
“นี่เที่ยงเเล้ว..ไปกินข้าวซะจะได้กินยาซักที” แล้วเวลาที่หยุดหมุนอยู่ก็กลับเดินต่อไปเหมือนเรื่องที่ผ่านมาเป็นเพียงเเค่ความฝันไป.. น้ำเสียงที่เย็นชานั้นทอดเอ่ยกลับมาอีกครั้ง มันเย็นมากทำเอาคนฟังหนาวสะท้านไปถึงจิตใจ
ฝีเท้าเเละ ประตูที่ปิดลงเป็นเครื่องเตือนใจเเค่ว่า คนมานั้นมาเพราะหน้าที่ ที่ต้องการการตอบเเทนแล้ว เเละเมื่อได้จึงจากไป..
มือบางยกขึ้นเสยผมตัวเองที่ลงมาปรกมาเบาๆ คิ้วเรียวขมวดขึ้นมาอย่างคนนึกคิด
ระหว่างความรักที่ไม่มีวันได้ กับกลิ่นไอของบุคคลที่เพิ่งจากไปจะเลือกกกกอดสิ่งใดเอาไว้ดี จะเป็นความฝันที่ไม่อยากตื่นเหมือนหยุดเข็มนาฬิกาไม่ให้เดิน หรือ จะตื่นขึ้นมาพบว่าเรามันเป็นเครื่องระบายตัณหาของเขาเท่านั้น..
............................
.................
.......
ใช้เวลาไม่มากนัก โดยที่ไม่ต้องเรียกซ้ำสอง ฮยอกเเจฉลาดพอที่จะไม่ขัดขืนในคำสั่ง ทุกคำที่เป็นคำบอกจากคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารนั้นคือ สิ่งที่ต้องทำแล้วทั้งสิ้น
ไม่มีข้อผูกมัด..ไม่ได้ถูกข่มขู่ เเละไม่เคยถูกบังคับจิตใจ..เเต่ที่ทำเพราะ..จิตใจไม่กล้าพอที่จะขัดขืน..
คนตัวเล็กนั่งลงอีกฟากของโต๊ะ มีเพียงจานข้าวเเละเเก้วน้ำพียงชุดเดียวเท่านั้น..อดไม่ได้ที่จะสงสัยเเล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองคนที่ตีหนาเรียบอยู่ตรงข้าม..
“ของผมหรอ..”เพื่อความเเน่ใจเเล้ว คงไม่เป็นไร ถ้าจะถาม
“เเล้วฉันเรียกใครมากินข้าว..”คำตอบที่เหมือนโดนตีเเสกหน้าอย่างจังนั้น ทำให้มือบางต้องหยิบช้อนขึ้นมาอย่างอ่อนเเรง..ตักข้าวที่เเม้ว่ารสชาติจะอร่อยสุดเเสน เเต่ลิ้นกลับด้านชาเสียจนไม่รับรู้ถึงมัน
เคยไปทำร้ายตอนไหนหรือ ถึงทำร้ายให้เจ็บปวดจนเกินทน..ไม่อยากกินข้าวที่มีน้ำตาตัวเองปนเปื้อนหรอกนะ...
“ฉันวางยาไว้เเถวๆนั้นเเหละ กินซะเเล้วไปนอน..”ชายหนุ่มว่าเสียงอ่อนมากขึ้น เห็นท่าทีการกินข้าวตรงหน้าจึงอดสงสารไม่ได้
“ขอบคุณครับ..”เสียงขอบคุณเเผ่วเบานั้นดังมาจากปากอิ่มนั้น พร้อมกับเจ้าตัวที่ยิ้มน้อยๆ ขึ้นมามองหน้าเขา..
คนมองเองก็ตกใจไม่น้อย กลับต้องเลิกคิ้วเรียวของตัวเองอย่างสนใจ บังเกิดเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาอีกครั้ง อารมณ์ที่แปรเปลี่ยนนั้น ทำเอาคนส่งยิ้มหน้าเจื่อนลง
“ฉันเเค่จะบอกว่า..หายเร็วๆ เเล้วกลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิมซะนะ”ยิ้มหวานที่เเค่เเลเห็นก็รู้ได้ ว่าไม่จริงใจ เล่นเอาฮยอกเเจขบฟันลงบนปากอิ่มนั้นเเรงๆ
เสียดายที่ส่งรอยยิ้มให้ เสียดายคำขอบคุณ..ไอ้ข้าวเนี่ย..คิดเสียว่าคนที่ทำ ต้องการให้กินกันตายก็พอ..
คิดเเล้วก็วางช้อนลง อิ่มอย่างไม่ต้องบอก..อย่างน้อยข้าวก็พร่องไปมาก จนตอนนี้มันกินไม่ลง ไม่เเย่ไปกว่านั้นก็คง..ขย้อนออกมาหมดเเล้วล่ะ
ฮยอกเเจเองก็ตั้งใจจะเดินไปเก็บจานเเละเเก้วน้ำ ในเมื่อฮันคยองทำให้เขากิน จะให้ชายหนุ่มมาเก็บให้ก็เห็นจะใช่เรื่อง..
“จะกัดปากให้เจ็บทำไมฮยอกเเจ อยากกัดมากใช่ไหม..ไม่บอกล่ะฉันจะช่วย..อ๊ะ..”ยังไม่เลิกความคิดที่จะเย้าเเหย่เเม้เเต่น้อย..ชอบใจเหลือเกินที่ได้ทำแบบนี้..
เเต่สิ่งทีทำให้ต้องสะดุดคงไม่พ้นกลิ่นหวานเมื่อยามที่คนตัวเล็กเดินผ่านเขาไป..จนเมื่ออีกฝ่ายเดินกลับเข้าไปหมกตัวอยู่ในห้องนอนอีกครั้ง..กลิ่นบางๆนั้นจึงหายไป
กลิ่นของไอ้ตัวเล็กนั้น ทำเอาประสาทจะเสีย...เฮ้อ...นี่เขาจะสอนให้เด็กบ้าเซ็กซ์หรือไงกันนะ
ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้กลิ่นอยู่คนเดียว..ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยั้งใจไว้ไม่อยู่ทุกครั้งที่สัมผัส..มันคืออะไรกันเเน่..เมื่อมีความต้องการเเละรู้สาเหตุที่ทำให้เกิด ก็ต้องปลดปล่อย กฎตายตัวของธรรมชาติไม่ใช่หรือ
ฮันคยองนั่งคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำหากไม่เคยหยุดคิดให้ลึกลงไปถึงหัวใจที่คิดว่าด้านชาของตนเลยว่า..มันเริ่มจากที่ไหน..กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็คงกลืนกินประสาทรับรู้ของตัวเองไปเสียหมด
*****************************************************************************************
ความคิดเห็น