คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : :: BECAUSE OF SMELL & SOUND part 1
[FIC SJ] BECAUSE OF SMELL & SOUND
คุณได้กลิ่นอะไรไหม..กลิ่นหอมหวาน..
กลิ่นอ่อนจางๆบางเบา...หากเเต่รสสัมผัสนั้นรุนเเรง...
ตราตรึง..ละมุนละไม...จนอยากเชยชม..
ลุ่มหลง..มัวเมา..จนโงหัวไม่ขึ้น....
กลิ่นกาย...เเละกลิ่นบทรักที่เเสนยั่วยวน....
โดนแบนตัดฉับ
*****************************************************************************************
เสียงนกร้องที่เเข่งกันสนทนาภาษาธรรมชาติดังขึ้นอย่างเป็นกิจวัตรประจำวัน ปลุกคนที่ไม่มีงานในวันนี้ให้ตื่นขึ้นจากการพักผ่อนที่เเสนสบายจนเจ้าตัวอยากจะเอาปืนมายิงเจ้านกน้อยน่ารำคาญให้ตกต้นไม้เสียให้ได้..
มือหนาควานไปยังกลุ่มผ้าที่อยู่ใกล้มือหมายใจว่าจะต้องเจอผิวเนื้ออุ่นๆของคนที่ได้กกกอดเมื่อยามพระจันทร์ทอเเสงในวันที่ผ่านมา กลับเจอเพียงเเค่ความว่างเปล่าเท่านั้น ทำเอาเจ้าตัวต้องขมวดคิ้วเรียวเข้มอย่างงๆงันทั้งที่เปลือกตานั้นยังปิดสนิทอยู่..
อารมณ์เสีย...หงุดหงิด...เเละไม่พอใจ...
ชายหนุ่มยันตัวขึ้นนั่งเเทบจะทันทีที่รู้ว่าไม่มีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ร่วมเตียงด้วยกัน ใบหน้าบูดบึ้งนั้นเป็นตัวเเทนของความรู้สึกได้อย่างดี หากตาคมที่ไม่สบความพอใจนั้นมองไปยังที่นอนข้างตัว เจอเพียงเเค่รอยยับย่นเเละคราบรักที่เกิดขึ้นเมื่อวานเท่านั้น..
มือหนาลูบไปตามที่นอน เเละหมอนซึ่งไร้เจ้าของเบาๆ กลิ่นอ่อนยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูกไม่รู้ลืม เเม้เจ้าตัวจะไม่อยู่ให้ได้หายใจเข้าออกก็ตาม
กว่าจะปล่อยให้ได้นอนก็ปาไปเสียเกือบรุ่งสาง..ยังตื่นไหวอีกหรอ...
เเค่ความอาทรชั่วครู่ ที่ชายหนุ่มต้องชะงักดึงมือกลับมาไว้กับตัว ไม่ใช่ความห่วงใยหรอก..มันก็เเค่ ของที่เขาต้องการเเละก็ได้รับการตอบสนอง
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเต็มใจหรือไม่ เเต่เขาก็เเค่ยัดเยียดเท่านั้น..
ร่างสูงหยุดความคิดเอาไว้เพียงเท่านี้ ก่อนจะมองนาฬิกาที่บอกเวลายามตะวันสายเต็มที่เเล้ว แล้วจึงลากสังขารที่เต็มไปด้วยรอยเล็บยาวบนแผ่นหลัง เเละลาดไหล่กว้างของตน ไปทำธุระส่วนตัว
ไม่นานนักหลังจากผลัดผ้าเปลี่ยนชุดเเบบสบายๆเพื่ออยู่บ้านเเล้วไม่ลืมที่จะมองดูตัวเองในหระจกเงาตรงหน้าน้อยๆ พอใจกับภาพที่ได้เห็น เเขนที่มีมัดกล้ามเเละเเผงอกที่เเน่นตึงนั้นอยู่ภายใต้เสื้อกล้ามสีสำขาวสะอาด พร้อมกับกางเกงผ้าฝ้ายสีดำตัดกัน..
ชุดลำลองง่ายๆ สำหรับอยู่บ้าน ไม่ได้ลดเอาความหล่อเหลานั้นลงไปได้เลยซักนิด...เพียงเเต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าตัวต้องการ..เเค่เพียงอยากอวดไอ้รอยข่วนเป็นทางนี้เท่านั้นเอง..อยากบอกว่าเข้าตั้งใจอย่างเหลือเเสนที่จะทำอย่างนี้..
พอคิดว่าทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางดีเเล้วจึงยิ้มนิดๆอย่างพอใจ เพื่อออกไปเจอผู้คนด้านนอกห้อง..
วันนี้ก็ไม่ได้ต่างจากทุกวันมากนัก เสียงตีกันเเละโวยวายที่ดังมาเป็นระยะ ให้ได้ยิน สิ่งที่เดียวต่างออกไปจากทุกวันคงหนีไม่พ้นมีใครบางคนที่เเต่งตัวเสียมิดชิด นั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟามองคนที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนพื้นสองคน ดูท่าอยากจะเชียร์ก็ได้ไม่เต็มที่ ด้วยเหตุผลเดียวที่ชายหนุ่มเท่านั้นที่ล่วงรู้..
ที่ส่งเสียงดังนั้นจึงกลายเป็นซองมินพ่อกระต่ายอวบ กับดงเเฮ ปลาน้อยจอมดื้อเท่านั้น อีกทหารเสือทำเพียงส่งสายตาวาวๆเมื่อยามที่คยูฮยอนทำคะเเนนในเกมส์ได้..ส่วนเหตุผลที่เจ้าตัวไม่เชียร์คิบอมน่ะเหรอ..เพราะเนื่องจากความหมั้นไส้ส่วนตัวเสียมากกว่า..
ในขณะที่คนอื่นๆเองที่อยู่ในบ้านก็ทำกิจกรรมส่วนตัวกันไป..จะมีบ้างที่นั่งดู..อย่างชินดง...ที่โทรทัศน์ถูกยึดไม่มีอะไรจะดูกับเขา..
เสียงฝีเท้าของผู้มาใหม่เรียกเอาสายตาของคนในห้องให้เหลือบมอง ด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อรู้ว่าใครเป็นผู้มา จึงเลื่อนสายตาไปในปกติ
คงมีเพียงเเค่คนเดียวที่ลนลาน หลบสายตา ทำเป็นไม่สนใจหันไปทางอื่นเสียเเทน ไม่รู้ด้วยเพราะว่าที่เขาไม่ยอมปกปิดร่องรอยตามตัวหรือเพราะไม่อยากจะสนใจในตัวเขากันแน่
“โห..ชายฮัน..ไปฟัดกับแม่สาวเล็บยาวที่ไหนมาว่ะ ดูรอยดิ..”เสียงของคังอินเรียกเอาสายตาคนที่อยู่ตรงนั้นให้มองคนที่เดินเนิบๆไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นมาดื่มอย่างสบายอารมณ์ หากยังไม่ได้ตอบอะไรออกไปคนอื่นจึงถามแทรกออกมา
“ไหนมาดูดิๆๆๆ เอ๋อๆ อยากเเกเนี่ยไอ้มังกรลืมบ้านเกิด...”คราวนี้เสียแหลมของอีกคนไม่พ้นราชินีประจำบ้านอย่างคิม ฮีชอลขอมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง
มือบางขาวของคนหน้าสวยจับเลิกเปิดเสื้ออีกคนที่ยืนนิ่งๆไม่ได้ปัดป้องอยากถอดก็ถอดไป จนเมื่อแผงอกแกร่งและแผ่นหลังหนานั่นเผยออกมาจนหมด..
ร่องรอยเล็บเล็กๆที่มีมากมายทำเอาทุกคนไม่เว้นแม้แต่ คิบอมและคยูฮยอนที่หยุดเล่นเกมส์หันมามอง แล้วจึงช่วยกันนับจำนวน บาดแผลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ..ซึ่งลามยาวไปยันหน้าอกด้านหน้าของพ่อคนจีนสุดหล่อด้วย..
“เฮ้ย อย่างนี้มันไม่ใช่แค่ผู้หญิงเล็บยาวแล้วมั่งเนี่ย เมิงไปฟัดกับนางแมวยั่วสวาทที่ไหนมา..คนน้ำลายยืดไปวันๆอย่างเเกได้สาวร้อนเเรงอย่างงี้ได้ไงว่ะเนี่ย”ยังคงเป็นคังอินที่ออกความเห็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ท่ามกลางเหล่าขุนพลอยพักที่นั่งพยักหน้าตามคำพูดของเจ้าหมีอ้วนกันใหญ่
“พี่ฮัน..ไม่เจ็บหรอเนี่ย..ไปได้มาเมื่อไหร่เนี่ย...หรือเมื่อคืนพี่แอบออกไปข้างนอกตอนพวกผมหลับ..”:ซีวอนถามตามขึ้นมาอีก โดยที่คราวนี้พวกที่นั่งอยู่ก็ยังคงใช้ความคิดตามกันอยู่ดี
คนที่ตกเป็นเป้านิ่งโดนถามคำถามได้แต่ยกยิ้มอ่อนๆ ส่งให้หน้านั้นหล่อคมมากขึ้น ทำท่ายักไหล่แทนคำตอบไปเสียอย่างนั้นเอง
“เออ เมื่อคืนฮยอกแจ...ฮยอกแจนอนห้องเดียวกับพี่ฮันนี่หว่า...”:ซองมินที่ปิ้งความคิดขึ้นมาได้ หันไปมองหน้าคนที่นั่งก้มหน้าก้มตัวจมอยู่กับโลกของตัวเองไม่ยอมมามีส่วนร่วมใดๆกับคนอื่นเขาอย่างผิดวิสัย..
แต่เมื่อพอมีคนขานชื่อของตัวเองขึ้นมา ก็เล่นเอาตกใจไปได้เหมือนกัน..จนต้องเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงของเพื่อนสนิท..
“ฮยอกแจเมื่อคืนพี่ฮันเข้าออกไปข้างนอกมาหรอ..เขากลับมาตอนไหน...แล้วตอนแกไปเปิดประตูแกรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร..”ซองมินยิงคำถามออกไปเป็นชุด จนคนที่หน้าเหมือนไก่ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ..ไม่รู้จะตอบคำถามว่าอย่างไรดี
“อ..เอ่อ.เมื่อคืน..”ฮยอกแจอึกอักขึ้นอย่างคนหาลิ้นตัวเองไม่เจอ ก็จะให้ตอบได้อย่างไรว่า...
ฉับพลันตาเรียวจึงเงยขึ้นสบกับดวงตาคมอย่างทันท่วงที จากนั้นจึงไล่ไปตามลำตัวของบุคคลในหัวข้อสนทนาช้าๆ รอยทางยาวสีแดงที่ตัวเองเป็นคนทำเมื่อครั่งที่สติเลือนรางนั้น กลับดูชัดเจนขึ้นมาในยามนี้ จนต้องเบือนหน้าที่เริ่มเปลี่ยนสีของตนไปทางอื่นก่อนที่มันจะขึ้นสีมากไปกว่าเล่นเอาคนที่มองอยู่ทำหน้างงไปเป็นแถบ..
หากไม่ได้ติดใจสงสัยเสียมากเนื่องจากรู้อยู่ว่าไก่มันไม่ประสา..
ทุกอย่างนั้นเป็นไปตามที่ฮันคยองตั้งใจไว้ในตอนแรก เรียกได้ว่าไม่ผิดเพี้ยนไปเลยซักนิดเดียว..เขาพอใจมาก และอยากให้มันออกมาเป็นแบบนี้
ร้อนตัวเข้าฮยอกแจ ร้อนตัวเข้า..ปกปิดเข้าไปร่องรอยที่ฉันสร้างนั้นน่ะ..นายจะได้ไม่กล้าปริปากแม้แต่พูดไง..
“ตกลง พี่ฮันไปทำอะไรมากันแน่เนี่ย..”คราวนี้เสียงของดงแฮขัดขึ้นมาบ้าง ยังคงคาดตั้นเอากับคนตัวบางอยู่ดี จนฮยอกแจได้แต่อึดอัด
“โว้ย!! ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า..เมื่อคืนฉันหลับอยากรู้ก็ถามเขาซิ..พวกนายนี่”คนตัวบางโวยเสียงดัง พร้อมกับหันไปมองหน้าเจ้าตัวต้นเหตุด้วยอารมณ์โมโห
กลับมีเพียงรอยยิ้มเท่านั้นที่ส่งกลับมา รอยยิ้มที่ไม่ปรารถนาจะเห็น รอยยิ้มที่ยิ้มแค่มุมปาก รอยยิ้มที่ไม่ได้ตายิ้ม นั้นคือไม่ได้มาจากหัวใจของเจ้าของมัน
ผมเคยไปทำอะไรให้พี่ตอนไหน..พี่ถึงทำกับผมแบบนี้!! แค่ที่ผมให้พี่มันไม่พอใช่ไหม...
ฮยอกแจลุกขึ้นมาอย่างเร็วๆอย่างลืมตัว ส่งผลให้เจ้าแอบเซหน้าเสียด้วยความเจ็บที่แล่นปราดไปทั่วตัว เพียงแต่คนที่ยืนอยู่ไกลๆนั้น ทำท่าจะเข้าไปช่วยหากไม่ทัน เพราะคนที่ใกล้กว่าอย่างชินดงคว้าแขน แทนที่จะได้คะมำไม่เป็นท่าไปเสียก่อน
“ไอ้ไก่ ล้มในห้องน้ำเมื่อเช้าไม่เข็ดรึไง..”คนอ้วนเงยหน้าขึ่นบอก ปล่อยให้อีกคนพยุงตัวได้มั่นคแล้วจึงปล่อยมือ
“เออใช่ๆพี่ก็ลืมไป เมื่อเช้าน่ะที่เราบอก เป็นอย่างไรบ้าง”อีทึกที่นั่งอยู่ข้างๆคังอินจึงลุกขึ้นมาดูบ้าง...
“เอ่อ..ดีแล้วครับพี่..ผม..ผมไม่เป็นไร แหะๆ”ฮยอกแจตอบเสียงเบาไม่กล้ามองหน้าใครบางคนในห้องแม้แต่น้อย
“ล้มในห้องน้ำหรอ..”เสียงทุ้มที่เป็นเอกลักษณ์นั้นเอ่ยขึ้น มุ่งคำถามไปยังหัวหน้าวงคนสวย
“ก็ไอ้ฮยอกแจเมื่อเช้าน่ะเห็นมันเดินกระเผลกทำหน้าจะเป็นจะตายออกมาจากห้อง เลยถามมันว่าเป็นอะไร ปรากฎว่าไก่ซุ่มซ่าม ลื่นล้มตอนอาบน้ำน่ะซิ ดีนะไม่หัวล้างข้างแตก”เยซองที่อยู่เงียบติวหนังสือให้คนตัวเล็กของตัวเองเป็นฝ่ายตอบแทน จากนั้นจึงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
ล้มในห้องน้ำ..รู้จักหาข้อแก้ตัวนี่...
ฮันคยองเดินไปหยิบเสื้อ กล้ามที่อยู่ในมือของคนหน้าสวย มาสวมทับให้เรียบร้อย เเสร้งทำเป็นเดินเข้าถามด้วยนิสัยที่เจ้าตัวถนัด คือ เอ๋อ อย่างเเนบเนียนเป็นอาชีพหลัก..
“ก็..เมื่อคืนฉัน..หลับสนิทไปหน่อยเมื่อเช้าเลยไม่ได้ยิน ทำไมนายไม่เรียกฉันล่ะ..”ปากก็ว่ามือก็ถึง..มือเเกร่งเเตะเบาๆที่เเขนเล็กของอีกคน ดูเหมือนว่าจะสามารถกำรอบได้อย่างไม่เชื่อ..
ไม่มีใครรู้..ไม่มีใครสังเกตเห็น..ไม่มีใครฉุกคิด ว่าทำไมฮันคยองถึงเเลดูห่วงคนตัวเล็กนัก เพราะในเมื่อ ในสายตาของเพื่อนร่วมวงหลายๆคน ก็รู้ว่าฮันคยอง พ่อครัวจอมเอ๋อชาวจีนประจำบ้าน ก็เป็นห่วงทุกคนเป็นปกติ
ก็เเค่รู้สึกผิดที่ว่า ทั้งๆที่นอนห้องเดียวกันเเต่กลับไม่ได้ช่วยฮยอกเเจ ตอนเช้าเสียล่ะมั้ง..
“เอ่อ..ผม..ไม่..ไม่เป็น..ร...”
“เพราะนายนั้นเเหละที่มัวเเต่นอน ฮัน นายต้องเป็นคนดูเเลฮยอกเเจ เข้าใจใช่ไหม..เพราะวันนี้ ฉันจะพาน้องออกไปข้างนอก..เมื่อวานก็อุตส่าห์นัดกันดิบดี ว่าวันนี้จะไปเที่ยว..”อีทึกบอกด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
ใช่เมื่อวานเขานัดกันเอาไว้อย่างนั้น เเต่พอตื่นมาเจอฮยอกเเจบอกว่า.. ‘พี่ฮะ ผม..ลื่มล้มตอนอาบน้ำ ระบมไปทั้งตัวเลยพี่..วันนี้ผมขอบายอยู่บ้านนะฮะ’เท่านั้นเหละเล่นเอาอารมณ์เสีย เเต่ก็นะ อุบัติเหตุไม่เข้าใครออกใคร จะโทษน้องก็ไม่ใช่เรื่อง เดี๋ยวนางฟ้าจะเสียภาพพจน์หมด..
“พี่ทึกกี้ผมว่า..”
“ขอโทษที..ฉันทำไมอย่างงี้น่า..”ว่าเเต่ก็ทำเสียงสำเนียงบ้านเกิด เเลดูฟั่นเฟือนหนักไปมากกว่าเดิมเท่าตัว..จนอดคิดไปไม่ได้ว่า คนหน้าหล่อขนาดนี้ไม่น่าเลยที่จะเป็นเอ๋อ..
“เเต่ผมไม่เป็นไรจริงๆ นะครับพี่” ฮยอกเจพยายามอย่ามากที่จะต่อรองกับท่านหัวหน้าวง เเต่คิดไปคิดมาดูจากหน้าท่านหัวหน้าที่ขึ้นชื่อว่า นางฟ้า กำลังเปลี่ยนเป็นางมารในไม่ช้า
“นายทำอะไรเป็นบ้างฮยอกเเจ ข้าวก็ทำไม่เป็น อะไรก็ไม่เป็นซักอย่าง..นายจะอยู่ยังไงคนเดียว นายจะกินอะไร..วันนี้พี่กับคนอื่นจะออกไปซื้อของใช้ที่มันหมด อยู่กับฮันน่ะดีเเล้วอย่าอิดออดให้พี่เป็นห่วงซิ”ว่าเเล้วอีทึกก็ร่ายยาวคาถาชุดใหญ่จนคนตัวบางต้องก้มหน้ายอมรับไปในที่สุด..
จะมีคนเดียวที่ยืนยิ้มไม่เดือดร้อน..ใครหรือจะรู้ภายใต้ใบหน้าที่ดูไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างนั้น..จะเป็นคนทำทุกสิ่งทุกอย่างให้มันเกิดขึ้น..
*****************************************************************************************
ความคิดเห็น