ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} All of my pleasure about ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #10 : - Adrenaline - 10 Chanbaek...THE END

    • อัปเดตล่าสุด 31 ม.ค. 57




    Adrenaline

     

     

    10

     

     

     

     

    ทางชานยอลเองนอกจากที่เขาจะต้องไปเช็คร่างกายที่หน่วยแพทย์เพื่อตรวจทุกอย่างตามที่องค์กรสั่งให้ทำแล้ว นอกจากนั้นยังต้องบันทึกปากคำเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่าเริ่มจากอะไรและมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

     

    และอย่างที่มินโฮว่าคนอย่างชานยอลเป็นคนที่ควบคุมได้ยากมากคนหนึ่งเรื่องการจะถามตอบดีๆน่ะแทบจะไม่อยู่ในสารระบบเลยซักนิดเดียว

     

    ชายหนุ่มเล่าวกไปวนมาตามแบบของเขา แถมด้วยการยิ้มกวนให้แผนกบันทึกคำให้การจนอีกคนเคาะแป้นคอมพิวเตอร์แรงๆด้วยความโมโหหากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากจำใจทำตามเพราะไม่อยากมีปัญหากับคนคนนี้เท่าไหร่นัก

     

    คุณชานยอลครับถ้าจะช่วยให้ความร่วมมือกับเรามากกว่านี้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยกล่าวด้วยความสุภาพแต่ถ้าสังเกตให้ดี นิ้วแทบจะจิกคอมพิวเตอร์ตรงหน้าแทนการสอบแล้ว

     

    ก็ทำอยู่เลิกถามแล้วไปตรวจสอบเอาเองได้แล้วฉันจะกลับบ้านผลเลือดก็บอกแล้วไม่ได้เมา แถมร่างกายก็สมบูรณ์ดีน่ารำคาญนา..”ชานยอลทำเพียงแค่แคะนิ้วตัวเองราวกับว่าไม่แยแสจนสุดท้ายจึงต้องต่อสายหาเจ้านายเพื่อทำเรื่องปล่อยตัว

     

    ก็ในเมื่อพ่อคุณตั้งท่าจะไปท่าเดียวรั้งไว้มีหวังเสียการเสียงานไปกันใหญ่แน่ๆ

     

    เอ่อ..คุณมินโฮต้องการเรียนสายด้วยครับพนักงานสอบความยื่นโทรศัพท์ให้โดยที่ชานยอลก็รับมาด้วยหน้าเหม็นเบื่อ

     

    ปลายสายบ่นเรื่องราวมาเป็นฉากเป็นตอนด้วยที่เขาทำได้แต่ทำปากพะงาบๆตามไปด้วยเท่านั้น หากประโยคที่กระแทกเข้าแสกหน้าคือ

     

    [ผมให้คนไปส่งคุณแบคฮยอนกลับห้องแล้วนะครับแถมคนคุ้มกันอีกสอง]มินโฮอยากขยิบตาใส่โทรศัพท์แต่เชื่อเถอะว่าชานยอลสามารถจินตนาการได้ด้วยตัวเอง

    แกอยากตายตอนนี้หรือยังไง..เรื่องอะไรแกส่งเขากับไปที่ห้องอย่างนั้น

     

    [แต่ทีมเก็บกวาดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วนะครับผมเช็คเรียบร้อยแล้วอีกอย่างคุณแบคฮยอนยืนยันเองว่าจะกลับให้ได้โดยไม่รอคุณยังไงเอ่อคุณชานยอลคุณชานยอลครับ!!]

     

    ……………….

    …………

    ….

     

    ชายหนุ่มไม่ได้อยู่ฟังเรื่องอะไรทั้งสิ้นแล้วตอนนี้เขารีบวิ่งทะยานตัวออกจากสำนักงานไม่ได้สนว่าตัวเองจะอยู่ในสภาพไหนได้แต่วิ่งออกไปเรียกรถรู้เพียงว่าจะต้องกลับไปให้ถึงบ้าน

     

    ใจเขาร้อนราวกับไฟกาลป์กำลังแผดเผาความกลัวอีกครั้งที่กำลังคาดค้ันเขามาชั่วชีวิตมีไม่มีครั้งที่เขากลัวแบบนี้

     

    กลัวการสูญเสีย

     

    เขาไม่รู้เหตุผลที่แบคฮยอนขอกลับไปที่บ้านก่อนไม่รู้เลย..แบคฮยอนอาจทนเขาไม่ได้แล้วอาจรับชีวิตที่เป็นอยู่ทั้งๆที่เลือกแล้วว่าจะไม่ทำงานนี้แล้วไม่ทำอีกแล้วเขาขอบอกลาชีวิตที่ไม่แน่นอนชีวิตที่มีแต่ความเสี่ยงแม้งานที่ทำจะนำพาตัวแบคฮยอนมาเจอกับเขาแต่เพื่ออนาคตของเรา

     

    แต่มัน..ไม่ทันใช่ไหมมันไม่ทันหรือยังไง

     

    หรือมันไม่ทันที่จะทำให้แบคฮยอนมองเขาว่าเป็นคนดีแล้วท่าทางที่แสดงว่ารักนั้นล่ะแล้วสายตาที่มองเขาบอกว่าเขาเป็นคนสำคัญล่ะหรือเรื่องเมื่อหัวค่ำจะทำให้แบคฮยอนกลัว กลัวที่จะต้องอยู่กับคนอย่างเขา คนที่ไม่มีที่มา..คนที่ไม่สามารถบอกแม้กระทั้งเรื่องของตัวเอง

     

    แต่เขาคิดเอาไว้ว่าจบเรื่องนี้..เขาจะบอกทุกอย่างที่อีกคนอย่างรู้จะตอบคำถามทุกอย่างที่อีกฝ่ายอยากถามเขายินดีจะเล่าทุกๆเรื่องราวขอแค่ให้เวลาที่มีเหลือมากพอ

     

    แต่ถึงอย่างนั้นมันจะทันไหมเวลาที่มีมันมากพอหรือเปล่านะ

     

    ชานยอลเอามือจับที่อกของเขาตรงที่ด้านใต้มันมีสิ่งมีชีวิตกำลังเต้นอยู่เขาแทบไม่รู้สึกถึงมันสิ่งนั้นมันเต้นแผ่วลงเรื่อยๆจนน่าใจหายมันเต้นช้าลงจนปลายนิ้วมือเข้าแทบสัมผัสได้แต่ความว่างเปล่า

     

    ระยะทางอีกไม่ไกลจากตรงที่เขาอยู่แต่มันเหมือนกลับว่าช่างยาวนานเหลือเกิน ทุกวินาทีที่ก้าวเดินมันเชื่องช้า

     

    เวลาของเขาเหมือนกำลังหยุดหมุนเขาดูเหมือนคนอ่อนแอแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ..หรือตั้งแต่มีพยอนแบคฮยอนเข้ามาอยู่กับเขา

     

    บางครั้งแค่รักมันอาจไม่พอ..อาจมีอะไรที่สำคัญกว่ารัก

     

    มันจะมีอะไรที่สำคัญกว่านั้นอีกหรือ..หรือความเสียสละนะที่มันมีค่ามากกว่ารักที่มันเกินกว่ารักแล้วถ้าย้อนกลับไปถามตัวเองอีกครั้งจะได้ไหมว่าถ้าเขาเสียสละทุกอย่างกลับมาเป็นคนปกติที่ดีพอเสียสละความสุขของเขา

     

    เพื่อให้พอดีกับอีกคนมันจะยังทันหรือเปล่า..

     

    ชานยอลหยุดมองบานประตูที่ปิดสนิทรหัสห้องมีเขาเท่านั้นที่รู้เขาไม่อยากกดมันลง..กลัวเข้าไปที่ห้องแล้วจะเจอความว่างเปล่ากลัวเหลือเกินว่าถ้าจะต้องนอน..จะนอนในห้องที่ไม่มีอีกคน

     

    ชายหนุ่มกำมือของตัวเองแน่นง้างเพื่อเคาะบานไม้ตรงหน้าหากก็ตัดใจวางมันลงข้างตัวทำซ้ำๆอย่างนั้นอยู่หลายต่อหลายครั้งเล่นเอาจนใจยกมือข้างนั้นขึ้นมาดู

    มือเขากำลังสั่นและน้ำตากำลังเอ่อขึ้นมาคลอรู้ดีเพราะภาพมันพร่ามัวเกินกว่าจะมองให้ชัดเจนเหมือนกำลังใกล้จะเป็นบ้าเข้าไปทุกทีใกล้จะไร้สติเข้าไปทุกทีแค่เพียงรู้ว่าจะไม่มีพยอนแบคฮยอนมันน่ากลัวขนาดนั้นเลย

     

    ก๊อกก๊อก

     

    สุดท้ายก็ลองเสี่ยงดูถ้ามันจะแย่เขาก็แค่เสียสติไปก็เท่านั้นเองแค่นั้นหรอแค่นั้นใช่ไหมกลัวจังกลัวจริงๆ

     

    แกร๊ก….

     

    ..กลับมา..หรอครับเสียงใสและเจ้าของใบหน้าเล็กที่สวมผ้ากันเปื้อนยิ้มออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะไม่แน่ใจว่าจะเจออะไรบ้าง

     

    เท่านั้นจริงๆเท่านั้นแค่นั้นเอง

     

    น้ำตาลูกผู้ชายอย่างปาร์คชานยอลไหลลงจากดวงตาคมที่เคยแน่วแน่และมุ่งมั่นชายชาติทหารและผู้ที่เคยมีความเข้มแข็งเหนือสิ่งอื่นใดกลับร้องไห้เมื่อได้เห็นใบหน้าเล็กๆที่เปิดประตูออกมา

     

    ชาน..ชานยอล..เป็น..อะไร..ครับแบคฮยอนถามเสียงสั่นเอื้อมมือไปจับใบหน้าคมเบาๆเมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าเขาร้องไห้ซึ่งเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อนและทำเอาตกใจเหลือเกิน

     

    ครั้งแรกคิดว่าเขาตาฝาดชานยอลบอกตัวเองอย่างนั้น แต่นิ้วมือเล็กที่อบอุ่นซึ่งกำลังแตะใบหน้าของเขาบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้ละเมอไปเอง ชายหนุ่มหลับตาซึมซับเหล่านั้นเอามือข้างที่ว่างประคองมือเล็กเอาไว้จับแนบลงที่ข้างแก้ม

     

    ความกลัวค่อยๆจางหายไปจากหัวใจ

     

    สัมผัสอบอุ่นแตะลงที่กลางหน้าผากของเขา  ทำเอาต้องลืมตาขึ้นมองคนตัวเล็กที่ยืดตัวขึ้นกดริมฝีปากลงมาทำเอาดวงใจที่ใกล้ตายค่อยกลับมาเต้นถี่อีกครั้งราวกลับโดนชุบชีวิตจากจุมพิตที่แสนหวาน

     

    “....เอ่อ..กล..กลับมาแล้ว..หรอครับแบคฮยอนถามด้วยรอยยิ้ม มองใบหน้าคมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยยิ้มที่อบอุ่นจนชายหนุ่มยิ้มตามทั้งๆที่อยากร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

     

    ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากร้องไห้..แต่น้ำตาเหมือนจะไหลออกมา

     

    อืม….กลับมาแล้ว..ฉันกลับมาแล้วล่ะ

     

    ………………

    ………..

    ….

     

    ทำไมถึงกลับมาก่อนละ..”ชานยอลที่ยืนกอดเอวเอาคางเกยไหล่แบคฮยอนไม่ยอมห่างมองอีกคนทำอาหารน่าตาน่าทาน แล้วก็ซุกหน้าลงที่ลาดไหล่เล็กอีกครั้ง

     

    กลัว..ชานยอล....หิว..”แบคฮยอนเอ่ยเขาเหมือนคนติดอ่าง..คือความจริงก็ออกจะติดอ่างแต่มันจะเป็นหนักเวลากลัวหรือเขิน แต่ถ้าโดยปกติก็พูดได้ไม่ติดอะไรมากหมายถึงประโยคสั้นๆน่ะนะ

     

    ซึ่งชานยอลรู้อยู่แล้วตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันแต่เขาว่ามันน่ารักดีแถมยังจับโกหกได้ง่ายด้วยรวมๆแล้วเขาชอบที่มันเป็นอย่างนั้น

     

    หรอ..ดีแล้วล่ะชานยอลบอกกับตัวเองว่าเป็นอย่างนี้ดีแล้ว..ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้แหละดีแล้วจึงกระชับมือให้แน่นมากขึ้น

     

    ..ชานยอล..ไม่..ไม่ถนัด

    “….เฮ้อชายหนุ่มจึงตัดใจกดจูบที่แก้มใสแล้วกลับไปนั่งมอง ความจริงสภาพห้องของเขาก็ไม่ใช่จะแย่คือมันก็สะอาดเอี่ยมดีไม่มีคราบอะไรให้น่ามองแต่ข้าวของที่พังเสียหายก็ถูกยกออกไป มันเลยทำให้ห้องค่อนข้างโล่งอย่างโซฟาเปื้อนเลือดตอนนี้ทั้งบ้านเหลือเแต่โต๊ะทานอาหารเท่านั้น

     

    เลยคิดว่าคืนนี้คงต้องไปหาโรงแรมนอนประทังไปก่อน..หลังจากมื้ออาหารนี้

     

    แบคฮยอน..”ชายหนุ่มเรียกจนอีกคนเงยหน้า

    “..ครับคนตัวเล็กเงยหน้ามองเห็นชายหนุ่มยิ้มให้เขาจึงยิ้มตอบ

    ฉันรักเธอ..”ชานยอลบอกรักออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเพียงแต่แบคฮยอนเองกลับยิ้มตอบ กลิ่นอาหารกำลังอบอวลและเสียงน้ำเดือดก็ดังคลอเบาๆ

     

    บรรยากาศที่เรียกว่าความสงบสุขซินะ

     

    ฉันรักเธอมากชานยอลย้ำอีกครั้งมองดวงตาสวยด้วยความรักทั้งหมดที่เขามี ว่าสิ่งที่เขาพูดมันจริงทุกคำ

     

    “…ผม..รัก..คุณ..”แม้จะออกมาช้า แต่แบคฮยอนก็พยายามพูดไม่ให้ติดขัดเลยซักนิดบอกให้รู้ว่าเขาตั้งใจมากแค่ไหน

     

    มันดีจริงๆ..ซินะ..ให้มันเป็นแบบนี้เรื่องของเราสองคนมันดีแล้วอย่างที่แบคฮยอนว่ามันเป็นแค่เรื่องของเราสองคนเท่านั้นก็พอ

     

    ความร้อนจากไฟในตัวของฉันถูกดับด้วยสายน้ำของเธอ

    ความพลุ่งพล่านของฉันถูกสะกดด้วยความสงบของเธอ

    ความชั่วร้ายของฉันถูกชะล้างด้วยความรักของเธอ

    เราเกิดมาเพื่อรักกัน..และอยู่ด้วยกัน

     

    เพราะฉะนั้น..จากวันนี้ไปฉันขาดเธอไม่ได้เลยที่รัก..ฉันรักเธอ

     

    **************************************************************************

     

    THE END


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×