สวัสดีค่ะ วูลฟ์! ในที่สุดก็เสร็จแล้วค่ะ !! ฮ้า~ เราค้างนิยายเรื่องนี้มานานมากจริงๆ ต้องขอโทษสำหรับความล่าช้าด้วยนะคะ T___T และต้องขอบคุณที่ฝากผลงานให้เราวิจารณ์ด้วยจากใจเลยค่ะ รู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ :D
คำวิจารณ์ที่จะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลของผู้วิจารณ์ หากไม่พอใจในเรื่องใดก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะ บอกไว้ก่อนเลยว่า..การวิจารณ์ครั้งนี้มันไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ คือเราก็โคตรจะกากอยู่แล้วมาเจอนิยายเรื่องนี้คือไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย เหมือนมานั่งพิจารณาด้านนั้นๆ ของนิยายมากกว่าจะวิจารณ์เนาะ และการวิจารณ์ครั้งนี้จะเป็นการพูดคุยเรียบเรื่อยนะคะ จะไม่แตกหัวข้อชัดเจนเพราะมันพูดถึงเรื่องเดี่ยวๆ ไม่ได้ มันต้องไปด้วยกันจริงๆ ค่ะ LOL (พยายามแล้วแต่มันจะวกไปวนมามากๆ!)
จากใจ, ตอนแรกที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะนึกถึง One Piece
ไม่รู้วูล์ฟเคยดูไหมนะ แต่ไม่จำเป็นหรอก ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นในตอนอ่านนิยายเรื่องนี้ในส่วนแรกๆ อดไม่ได้จริงๆ ที่จะมีภาพจากฉากต่างๆ ที่คล้ายคลึงกันในมังงะเรื่องดังกล่าวซ้อนทับขึ้นมา เรื่องของเพื่อนพ้อง เหตุการณ์ที่ดึงใครสักคนจากความมืด กองทัพ สัญญาระหว่างโจรสลัดและกองทัพเรือ อดไม่ได้จริงๆ ค่ะ
แต่พอเข้าถึงแก่นของเรื่องจะพบว่า P.I.R.A.T.E. เป็นตัวของตัวเองและค่อนข้างจะโดดเด่นในรายละเอียด, ทำให้รู้สึกว่าได้เดินเข้าไปในโลกใบหนึ่งที่จะไม่มีใครเหมือน
ถ้าให้เปรียบเทียบ, นิยายของคุณมองเหมือนชายคนนึงที่ไม่ได้ดูโดดเด่นเมื่อยืนรวมตัวกับคนอื่นๆ (ในที่นี้คือนิยายเรื่องอื่นๆ) แต่หลังจากได้รู้จักเข้าหน่อยถึงชายคนนี้จะอยู่เงียบๆ ไม่โดดเด่นแต่จะมีตัวตนเสมอ เขาจะมีอะไรบางอย่างที่คนอื่นจะตระหนักถึง ...อธิบายไม่ถูกค่ะจริงๆ #ขำ อาจพอสังเขปได้ว่าเขามีมิติ มีกลิ่นไอที่ยูนิค และเสน่ห์เฉพาะตัว (เป็นนิยายที่มีเสน่ห์จริงๆ ค่ะเรื่องนี้) ที่บอกว่าอยู่นิ่งๆ แต่มีตัวตนก็คือถ้าให้เรานึกถึงอะไรที่เกี่ยวกับโจรสลัดตอนนี้ที่แล่นเข้าหัวต้องมี P.I.R.A.T.E. แน่ๆ และอีกนัยหนึ่งเพราะนิยายเรื่องนี้จะมามีใครคล้ายยากอยู่ อินเนอร์ของนิยายเรื่องนี้คือตัวของวูล์ฟจริงๆ ค่ะ ภาษาเอย ลักษณะตัวละคร และอื่นๆ จะมีความเฉพาะที่อ่านแล้วรู้เลยว่าใครเขียน (ตอนรู้ว่าเจ้าชายได้เข้ารอบ 10 คนของเอนเทอร์ก็ไม่ค่อยแปลกใจ) โดยเฉพาะในด้านของความประทับใจในตอนจบ ไม่ใช่ตอนจบที่แปลกแต่อ่านแล้วมันวูล์ฟดีจริงๆ (อันนี้อธิบายยาวเดี๋ยวคุยอีกที 55555)
และที่สำคัญ..
นิยายเรื่องนี้มีได้อโรม่าแผ่ออกมา แสดงถึงความเหนือที่ถูกปิดของนิยายเรื่องนี้ค่ะ รู้สึกถึงความม้ามืดแบบวินๆ ที่อธิบายไม่ถูก (แต่ส่วนตัวชอบฟิลลิ่งนี้มากอ่ะ LMAO) เป็นเรื่องที่มีจุดสมดุลและสมบูรณ์ในตัวเองแบบลงตัวมาก อย่างที่บอกว่านิยายเรื่องนี้เหมือนคน ถึงจะไม่เพอร์เฟค แต่มีความเป็นตัวของตัวเอง และดีที่สุดแล้วที่เป็นแบบนี้ ถ้าผู้ชายคนนี้จะไม่ได้ถูกรับเลือกจากหัวใจหญิงสาว (คนอ่านหรือกรรมการอะไรก็ว่าไป) ก็เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ตรงสไตล์มากกว่าเพราะเป็นคนที่ไม่ดีพร้อมค่ะ
จินตนาการขณะอ่านนิยายเรื่องนี้แล่นมาก แต่ละฉากมาเป็นมุมกล้องเลย ลักษณะท่าทาง น้ำเสียง สิ่งแวดล้อม บรรยากาศ โดยรวมถูกจัดองค์ประกอบและเรียบเรียงมาได้ดีทีเดียว และที่สุดที่ชอบมากคือส่วนของความมีชีวิตชีวา อย่างที่บอกไปค่ะ เขาเหมือนชายคนหนึ่ง เขามีความพิเศษที่ทำให้มีตัวตนตลอดเวลา เขาเป็นคนที่น่าสนใจแต่จะไม่สามารถอ่านทุกความคิดได้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ (ลุ้นกันต่อไปว่าตอนต่อๆ ไป จะเป็นยังไง)
อีกจุดที่ต้องเอ่ยถึงคือความสมเหตุสมผลของโลกแฟนตาซี ขอบเขต กฎเกณฑ์ ไม่เกินเลย ทำออกมาได้สวยๆ เลย ทั้งรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องของการปกครอง บ้านเมือง ระบบต่างๆ ของหัวเมืองต่างๆ ด้านของการลงทะเบียนนักเวท สัญญาระหว่างกองทัพและโจรสลัด ทั้งหมดดูจิตรกรรมที่ถูกดราฟท์และให้รายละเอียดอย่างรอบคอบ เก็บเหลี่ยมเก็บขอบมาได้อย่างสะอาดจริงๆ
อาจมีติดขัดยิบย่อยในด้านรายละเอียดที่อาจจะเป็นเราคนเดียวที่ติดใจ คืองี้..
มาดามมาไง?
โอเคว่าเป็นสัตว์เวท โอเคว่ามีเวทหายตัวสุ่มไปได้เรื่อยๆ หลายที่ ...แต่การที่จู่ๆ มาโผล่กลางเรือที่แล่นกลางมหาสมุทรแบบจะๆ นี่มันเป็นอะไรที่พอดิบพอดีแบบสุดยอดไปเลย ...มันทำเราอยากถามจริงๆ นะว่าเวทของสัตว์เวทมันพิเศษขนาดนี้เลยเหรอ จับวางกลางมหาสมุทรเลยนะเว้ย อยากได้คำอธิบายเล็กๆ น้อยๆ ในเรื่องนี้ จะเป็นการเดามั่วๆ ของวลาดก็ได้เพราะคงไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้นอกจากผู้รู้จริงๆ อย่างน้อยมาเป็นแนวทางนิดนึง
ยกมือยอมแพ้
ตั้งแต่เรื่องเจ้าชายแล้ว เป็นอากัปกิริยาที่เป็นแฟชั่นมาก อ่านไปอ่านมาเลยสงสัยว่าวลีนี้เป็น กิริยาจริงๆ หรือ คำวิเศษณ์ ของเรื่องกันแน่ ถ้าทำแค่มารูนจะไม่อะไรเลย ยกมือยอมแพ้กันแทบทั้งเรื่อง
ริกซัสรู้ได้ไงว่าราล์ฟเป็นลูกเบอร์ตัน
ตอนที่เห็นหน้าตากันก่อนเข้าบ้านก็จริงอยู่ แต่สงสัยว่าไปมีข้อมูลอะไรถึงได้กล้าโพล่งไปว่าราล์ฟซึ่งเป็นลูกของเบอร์ต้นได้อยู่บนเกาะๆ นั้น ทำไมถึงได้มั่นใจขนาดฟันลงไปว่าสองคนนี้เป็นพ่อลูกกันเพราะช่วงเวลาที่อยู่ในบ้านของเบอร์ตันที่เราเข้าใจคือองค์ชายท่านไม่ได้ไปเก็บเกี่ยวข้อมูลเพิ่มเติมในด้านนี้เลย
และนั่นเป็นทั้งหมดที่พอจับได้
แต่ด้านที่ดีก็ดีเสียจนดีเยี่ยมจนต้องอภัยให้เรื่องยิบย่อยเหล่านี้เลยนะ มันรู้สึกว่าเป็นการพลาดที่ รับได้ ซะแบบนั้น LOL
จำได้ไหมที่เคยบอกว่านิยายวูล์ฟทำให้นึกถึงจิบลิ
เรื่องนี้ฟีลมาเต็มกว่าเดิมอีกนะ 55555 คือเป็นอะไรที่คุ้มแน่ๆ ถ้าจะกลับไปอ่าน และให้ความรู้สึกเหมือนจะมีอะไรเพิ่มเติมมาเสมอเวลาได้อ่านใหม่ เป็นเรื่องราวที่ควรได้อ่านตอนมีวิจารณญาณระดับนึงเพราะมิติตัวละครและความคิดของพวกเขา อาจจะไม่ได้ลึกซึ้งมากแต่ก็กลับมาพลิกดูและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ได้ อย่างน้อยก็เป็นอัลบั้มภาพที่ครั้งนึงเราเคยมีเวลาดีๆ ร่วมกัน
ปมเรื่องนี้ขมวดเล็กขมวดน้อย ขมวดใหญ่ขมวดมาก เป็นแนวที่ไม่รู้จะแก้ปมยังไงเพราะเดาทางอะไรไม่ได้ LOL แต่การจัดลำดับเหตุการณ์ว่าจะปล่อยเรื่องนี้ตอนไหนหรือเฉลยปมนี้ตอนไหนก็ถูกจัดเหตุการณ์อย่างสมเหตุสมผล
ด้านพล็อตไม่มีอะไรให้เอ่ยถึงมากเพราะกล่าวไปก็เหมือนมาเล่าเรื่องที่วูล์ฟรู้อยู่แล้วให้ฟังอีกรอบ และเงื่นของคุณก็เป็นเงื่อนที่สวยด้วย ไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ ค่ะ
คาแรกเตอร์ของเรื่องนี้ความเป็นมนุษย์สูง
ส่วนนึงก็คำพูดและความนึกคิดที่ ปลุกความเป็นมนุษย์ นี่แหละ (เป็นอีกจุดขายของเจ้าชาย โจรสลัด)
ไม่ว่าจะเป็นเฮดของตอนนั้นๆ หรือจะในเนื้อเรื่องอย่าง..
ตัวอย่าง
Chapter 41
เสน่ห์ของวลีพวกนี้อาจจะถูกมองว่า เท่จัง เจ๋งอ่ะ อาจทำให้ตัวละครดูพระเอกขึ้นมาแม่หน้าจะโจรโดยกรรมพันธุ์ แต่เราชอบในแง่ที่ว่ามันมีค่าต่อการใช้ชีวิตแต่คนมักมองข้ามกันง่ายเกินไป เป็นการสะท้อนรูปแบบแนวความคิดในการใช้ชีวิตของคนรูปแบบต่างๆ ตรงนี้แหละที่อยากให้คนมีวิจารณญาณได้มาอ่าน เขาจะได้อะไรมากกว่าคนที่มาอ่านสนุกๆ แล้วผ่านไปได้รับ เขาจะทะลุในจุดของตัวละครแล้วโยงเข้าหาตัวเองได้ ด้านคาแรกเตอร์แต่ละคนที่นำมาเป็นสื่อในการนำเสนอนั้นดีมาก พวกเขาไม่ได้มีชีวิตนิยายแบบแข็งทื่อ พวกเขาเหมือนคน พวกเขามีหลายด้าน นอกจากนั้นตัวละครทุกคนที่นอกจากจะต่างในเรื่องนิสัยก็ได้เรื่องของคำพูดปลุกความเป็นมนุษย์นี้ไปแบ๊คทำให้ดู 3D ขึ้นมาไม่มากก็น้อย อ่านจบเรารักทุกคนจริงๆ ถึงจะอิจฉามิเชลเล็กๆ ก็เถอะ แต่รักนางนะ 55555
โดยองค์รวมแล้วตัวละครทุกคนจะมีจุดสมดุลและความเป็นเหตุเป็นผลของตัวเอง การกระทำของพวกเขาจะมีบรรทัดฐานที่สม่ำเสมอ ไม่มีหลุดหรือขาดเหตุผลรองรับ ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้จัดว่าเยอะ แต่พวกเขามีตัวตนทุกคน ถูกแบ่งน้ำหนักและบทบาทให้ดีจริงๆ วูล์ฟบาลานซ์ได้เจ๋ง และที่สำคัญพวกเขาส่งผ่านความมีชีวิตชีวาของตัวเองทำให้นิยายเรื่องนี้มีชีวิตค่ะ (เพราะดูเหมือนมีชีวิตก็เลยได้นำไปเปรียบเป็นผู้ชายอย่างในตอนต้น) การนำเสนอมุมมอง/สติปัญญา/ลักษณะของแต่ละตัวละครก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความเป็นมนุษย์ถูกเสริมขึ้นมาเรื่อยๆ (อันที่จริงในจุดนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้ภาษาที่ใช้นำเสนอเหมือนกันนะ) เช่น
(Chapter 06)
หากก่อนที่จะได้ออกตัววิ่ง ราล์ฟก็ชะงักไปนิดหนึ่ง ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
อ้อ แล้วก็... คำเอ่ยทิ้งท้าย ถ้าไม่อยากกลับไปเป็นทาส ก็บอกพวกมันไปว่าข้าเป็นคนใส่ตรวนอันนั้นละกันนะ
เสียง โวยวายของเหล่าทหารเรือดังใกล้เข้ามา แล้วคนมีค่าหัวก็ยักคิ้วให้เป็นเชิงลา ก่อนที่ร่างสูงๆ นั่นจะวิ่งลับหายไปจากตรอกแคบๆ ที่ยืนอยู่อย่างรวดเร็วตามประสาคนเป็นโจร
วลาดิเมียร์กลืนน้ำลายไม่ลงคอ
เขาอาจจะคิดไปเอง
แต่โซ่ตรวนที่พันธนาการข้อแขนมันหนักขึ้นทันทีที่ผู้ชายคนนั้นพูดจบ
(Chapter 41)
ถึง จะได้แผลมามากไปหน่อย เสียเลือดเยอะไปนิด แต่มันยังติดกันเป็นเนื้อเดียว ฟรองซัวร์ไม่ได้กระจอกขนาดจะยอมโดนตัดขาทิ้งไปได้ง่ายๆ เขาพยายามบอกตัวเองว่ายังวิ่งไหว ยังหลบได้ -- มันต้องได้สิวะ -- ถ้าไม่วิ่งแล้วจะหนีพ้นได้ยังไง มันต้องได้ เขาต้องไปได้ ไม่ว่าเนื้อที่ถูกเฉือนไปจะร้องประท้วงว่าอย่างไรก็ตาม
เป็นการใช้ภาษาง่ายๆ และการบรรยายเรียบๆ แต่มีอานุภาพในการส่งผ่านความรู้สึกไปยังผู้อ่านได้ดีมากจริงๆ ค่ะ ถึงจะนำเสนอได้เรียบง่ายและตรงไปตรงมาแต่กระชับและชัดเจน
นี่ถือเป็นอีกด้านที่ดีมาตั้งแต่เรื่องเจ้าชาย ยอมจริงๆ ค่ะ ดีงามค่ะ #clap
และถึงบาโฟจะโผล่ไม่บ่อย นากาอินไม่ได้มีบทบาทเยอะ แต่เรายังมีผู้ชายในเครื่องแบบผู้รักชาติและเอ่อด้วยออร่าอย่างการิสต้ามาแทน ความคิดฮีนี่เราหลงมาก เสป๊คสุด ชอบ w |