ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    || :: ,, ... The Star Story ... เรื่องราวของดวงดาว ... ,,::

    ลำดับตอนที่ #2 : เธอชื่อเช้งวับ

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 49


    ChapTer 2 : เธอชื่อ เช้งวับ

    แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!!!!!

    ตุ๊บ !!!!

    เด็กทั้ง 12 คนหล่นลงมาจากท้องฟ้า ก่อนที่จะตกลงมาสู้พื้นดิน เด็กทั้ง 12 คนล้มกันไปคนล่ะทิศคนล่ะทาง ก่อนที่จะพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้น ดีที่ข้างล่างเป็นพื้นหญ้า

    “ ที่นี่ที่ไหนเนี้ย ” อั๋นถามขณะที่มองไปดูรอบๆ มันเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และมีหญ้าอ่อนๆ มีภูเขาเป็นแนวกั้น และมีป่าปกคลุมอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา

    “ จะรู้ไหม มาด้วยกันเนี้ย ” จุหันมาส่งสายตาตะขวิดตะขวงใส่อั๋น

    “ ไม่ได้ให้เสนอความคิดเห็นคับ แต่ระวังหน่อยน๊ะ เค้าบอกว่าถ้าชอบพูดแบบเนี้ย นมจะแฟ้บ ” อั๋นทำหน้าตาทะเล้น จุรีบจับนมที่มีเพียงน้อยนิดของเธอ

    “ ของฉันใหญ่จะตาย ” จุพึมพัมกะตัวเอง

    “ แล้วเราจะไปไหนต่อเนี้ย ” อายเอามือเท้าวะเอว แล้วถาม

    “ ไปตามทิศเหนือกานเต๊อะ “ ปองชี้ไปทางใดทางหนึ่งของท้องฟ้า เพื่อนๆอีก 11 คนหันหน้าไปตามนิ้วปองพร้อมๆกัน

    “ ปองรู้ได้ไงว่าทิศนั้นทิศเหนือ ” แก้วถามด้วยน้ำเสียงอึ้งๆ ในความฉลาดของเพื่อนตัวเอง

    “ นั่นสิ ” ปองทำท่าครุ่นคิด กี้กะบูมหันหน้าหากันแล้วถอนหายใจ

    “ นาฬิกาเรามีเข็มทิศจ๊ะ ” ลูกตาลบอกกับทุกคน

    “ ไหนๆ ดูซิๆ “ หวานเดินเข้ามาดู

    “ แต่ว่า มันคงเสียแล้วล่ะ มันหมุนไปรอบทิศเลยอ่า “ ลูกตาลยื่นให้หวานกับแตงกวาดู เข็มที่ควรจะชี้ไปทางทิศเหนือตอนนี้มันหมุนไปเป็น 360 องศาอย่างรวดเร็ว

    “ ไม่หรอก สงสัยมาตั้งแต่เมื่อกี้ล่ะ ใช่ไหมปอง ” หมีพูห์ยักไหล่มาหาปอง

    “ อืม ก็คือตอนเราตกมาอ่า เราตกมาช้ากว่าที่ควรจะเป็นและเวลาเราตกไม่มีใครรู้สึกเจ็บเท่าที่ควร … และอีกอย่างหนึ่ง พวกเธอดูนี่น๊ะ ” ปองพูดและหยิบวัตถุสีดำขึ้นมา และโยนมันเบาๆ ขึ้นไป ปรากฏว่าวัตถุสีดำอันเล็กๆนั่น ลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ

    “ ใครพอจะเข้าสิ่งนี้บ้าง ” หมีพูห์หันหน้าไปถามทุกๆคน

    “ ฉันรู้ ” แก้วกระดี๊กระด๊า “ ตอนนี้เราอยู่ในที่ที่มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าปกติ และ มีพลังแม่เหล็กสูง จึงทำให้เข็มทิศหมุนไปทั่วรอบด้าน เพราะว่ามีคลื่นแม่เหล็กอยู่ทุกรอบด้าน และเมื่อโยนแม่เหล็กขึ้น แม่เหล้กจะลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ เพราะมันมีพลังแม่เหล็กอยู่ทุกรอบด้านซึ่งจะทำให้แม่เหล์กหยุดลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ ”

    “ ถูกต้อง ” หมีพูห์พูดอย่างอารมณ์ดี “ และในสถานที่นี้ยังมีออกซิเจนด้วย แต่ว่าบนโลกไม่มีที่ไหนที่ไม่มีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ”

    “ แต่มีอยู่ที่หนึ่งซึ่งน่าจะสันนิษฐานว่าเราน่าจะอยู่ที่ตรงนี้ ซึ่งก็คือ ชั้นบรรยากาศสตราโซสเฟียร์ ซึ่งมีอุณหภูมิคงที่ มีออกซิเจนบ้างเล็กน้อย และมีคลื่นพลังแม่เหล็กในชั้น ไอโอโนสเฟียร์ปกคลุมอยู่ ( เรียนตอน ม1 เปิดหาเองน๊ะจ๊ะ ) ” ปองจับคางตัวเอง

    “ ซึ่งพวกเราไม่น่าจะมาอยู่ในที่แบบนี้ใช่ไหม ” อ๊อฟยื่นหน้ามาถาม

    “ ใช่ … ” ปองและหมีพูห์พยักหน้า

    “ Under Ground ” เสียงตะโกนของใครสักคนดังขึ้นมาจากหลังต้นไม้ต้นหนึ่งไกลจากพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไรต่อไป พื้นก้อค่อยๆสั่น ก่อนที่มันจะค่อยๆแยกออกจากกัน เด็กทั้ง 12 คนรีบหนีกันไปคนล่ะทิศคนละทาง ดีที่บนที่นี้มีแรงโน้มถ่วงน้อยทั้ง 12 คนจึงสามารถกระโดดอย่างคล่องแคล่วก่อนที่จะมาถึงต้นไม้ที่มีบุคคลลึกลับ

    “ เธอเป็นใคร ” อายถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

    “ พวกเธอนั่นแหล๊ะ เป็นใคร ” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจาหลังต้นไม้ เธอเป็นเด็กผู้หญิงผมสีขาว ตาสีฟ้าสดใส ปากสีชมพูระเรื่อ ผิวขาวเหมือนหิมะ ใส่ชุดเหมือนชุดนอนซาบีน่า เป็นชุดทั้งตัว ที่ปก แขนเสื้อและกระโปรงมีลูกไม้ติด ในมือกำหนังสือสีน้ำตาล

    “ ใส่เสื้อผ้าไม่อินเทรนด์เลยมึง ” แก้วหันมาซุบซิบกะจุ

    “ นั่นสิเมิง ” จุตอบกลับอย่างกระดี๊กระด๊าา

    “ เอาเข้าไป ” กี้พูดอย่างประชัด อ๊อฟได้แต่ยิ้ม ส่วนแก้วก็กระดี๊กระด๊ากะจุต่อไป

    “ พวกเรามาจากสิ่งที่เรียกว่าโลก ” ลูกตาลพยายามอธิบาย

    “ งั้นเหรอ … พวกเธอมาจากมนุษย์โลกเหรอ ” สีหน้าของเด็กผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนเป็นสีหน้าปิติยินดีทันที “ ชั้นชื่อว่า เช้งวับ น๊ะ “

    “ ก๊ากๆๆๆๆๆๆ เช้งวับ ” แก้วหัวเราะออกมาดังระเบิดเถิดเถิง

    “ บ้านน๊อก บ้านนอก ” จุดัดเสียงแหลมๆ พูดแล้วก็หัวเราะกับแก้ว

    “ แก้ว จุ เงียบๆหน่อยสิ ” กี้หันมาพูด

    “ ถ้าเป็นคำสั่งของกี้ แก้วเชื่อฟังทุกอย่างค่ะ ” แล้วแก้วก็ทำหน้าเครียดทันที จุมองหน้าแก้วด้วยสายตาประมาณว่า “ อิดอก + อิหอย ”

    “ ที่นี้ที่ไหนเหรอ เช้งวับ ” ลูกตาลพูดไปกลั้นหัวเราะไป

    “ ตามดิฉันมาเถิด ” เช้งวับถอนสายบัวก่อนที่จะพาเดินไปที่ทะเลสาบแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆทุ่งหญ้านั้น ก่อนที่เธอจะหันหน้ากลับมาพูด

    “ ทุกๆคน กลั้นหายใจแล้วกระโดดลงไปในน้ำเลยน๊ะ อย่าหายใจเด็ดขาด เข้าใจไหมจ๊ะ ” เช้งวับบอก ก่อนที่เธอจะทำเป็นตัวอย่างให้ดู เธอบีบจมูกแล้วก็กระโดดลงไปเลย

    “ ทำก่อนเลย แก้ว ” กี้สั่ง

    “ กี้ ไม่รักฮาบ้างก๊ะ ” แก้วหันหน้ามทำตาหวานซึ้งใส่

    “ แก้ว ลองกลั้นหายใจสิ เหมือนกะลังโดนฮาจูบอยู่ กลั้นนานๆเลยหนา ” กี้ออกคำสั่ง

    “ ได้ๆ ” แก้วหลับตาแล้วกลั้นหายใจ

    ตู้ม !!!

    อั๋นใช้เท้ายันตูดแก้ว ตกลงไปในทะเลสาปในทันที ทุกคนพยายามเดินมามองดูที่ทะเลสาปอย่างสนอกสนใจ

    “ แก้วหายไปแล้วอ่า ” อ๊อฟพูดขึ้นมา

    “ งั้นเราลงไปแล้วน๊ะ ” ลูกตาลเอามือบีบจมูกแล้วก้กระโดดตามแก้วไป

    “ งั้นเราก็คงต้องตามพวกนั้นไปแล้วล่ะ ” กวาว่า แล้วก็กระโดดตาม 2 คนนั้นไป หลังจากนั้นทุกคนก็ค่อยๆพากันโดดตามมาเรื่อยๆ จนครบทุกคน

    อีกฝั่งหนึ่ง แก้วกะลังจมลงไปในที่มืดที่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะลอยเคว้งคว้างไปที่ ที่มีแสงสว่างเป็นลำแสงมา พอเธอรู้สึกอีกทีเธอก็มากองอยู่ที่หน้าทะเลสาปแล้ว

    “ ว่าไงค่ะ ” เช้งวับยื่นมือออกมาช่วยแก้วให้ลุก แก้วลังเลนิดนึงก่อนที่จะจับมือของเช้งวับลุกขึ้นมา เป็นเวลาเดียวกับที่ลูกตาลกับแตงกวาออกมาพอดี

    “ เป็นการเดินทางที่แปลกดีเน๊าะ “ ลูกตาลยักไหล่

    “ นั่นสิ ” แตงกวายิ้มอย่างอ่อนโยน

    เพื่อนๆอีก 9 คนก็ค่อยๆตามทยอยกันมา จนครบ แล้วจึงออกเดินทางต่อ การเดินทางผ่านไปอย่างช้าๆ ก่อนที่เช้งวับจะเอ่ยออกมา

    “ ระวัง หน่อยน่ะค่ะ แถวนี้มีสัตว์ดุๆเย๊อะ ” เช้งวับพูดก่อนที่จะหันหน้ากลับไป

    “ คุณเช้งวับค่ะ ที่นี่ที่ไหนเหรอค่ะ ” อายถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน

    “ นั่นดิ ” บูมตะโกนมาจากด้านหลัง

    “ เดี๊ยวพวกคุณก็จะได้ทราบค่ะ แต่ตอนนี้ตามดิฉันมาก่อนดีกว่าค่ะ ” เช้งวับหันกลับมายิ้มให้

    “ รุงรังจริงๆเลยแห๊ะ “ จุบ่นพึมพัม

    แง่ง ๆ ~

    เห้ยยย !!

    บูมร้องออกมา

    “ นั่นมันตัวอะไรอ่า ” บูมชี้ไปที่สัตว์ตัวหนึ่งมันเป็นสัตว์คล้ายๆหมู่ แต่มีงาและตัวสีดำ ที่ควรจะเป็นจมูกของมันพ่นไฟได้

    “ Modern Pig นี่ … ” เช้งวับร้องโวกเวก ส่วนอีจุกะอีแก้วยืนหัวเราะก๊ากอย่างอุบาทย์หลังเช้งวับ

    “ โมเดิร์น พิ๊ก ชื่อล๊าวลาว เมิง “ แก้วหัวเราะจนน้ำตาไหล

    “ นั่นสิเมิง ” จุก็หัวเราะน้ำตาไหลไม่แพ้แก้ว

    แต่ทันใดนั้น หมูตัวนั้นก็พ่นไฟใส่บูม ทำเอาแก้วหยุดหัวเราะแล้วกรี๊ดออกมา เด็กผู้หญิงคนนั้นกางหนังสืออกแล้วตะโกน

    “ Underground เช้งวับตะโกน

    พื้นดินสั่นสะเทือนอีกครั้ง แต่เป็นแค่บริเวณที่หมูตัวนั้นยืนอยู่ หมูตัวนั้นเสียการทรงตัว

    “ Earth Arm เช้งวับตะโกนอีกครั้ง คราวนี้ดินที่อยู่ใต้เท้าของหมูตัวนั้นกลายเป็นบางสิ่งที่คล้ายเถาวัลย์โผล่ออกมาจากดินก่อนที่จะจับขาทั้ง 4 ของหมูตัวนั้นไว้

    “ หนีเร็วสิค่ะ ” เช้งวับตะโกน ก่อนที่จะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เด็กทั้ง 12 คนรีบวิ่งตามไป

    “ เหนื่อยจังเลยอ่า ” อ๊อฟบ่นออกมาพึมพัม

    “ ที่นี่แรงโน้มถ่วงน้อยนี่นา … ” ปองพูดออกมา แต่อยู่ดีๆปองก็หยุด“ ถ้าแรงโน้มถ่วงน้อยล่ะก้อ เราไม่เห็นจำเป็นต้องวิ่งนี่หนา ”

    ปองกระโดดข้างหน้าไปได้ราวๆ 5 เมตรเลยทีเดียว ก่อนจะหันกลับมาบอกพวกเพื่อนๆ 11 คน

    “ เรากระโดดไปจะเร็วกว่าน๊ะ ” ปองหันมาบอก

    แก้วลองกระโดดดู ก็รู้สึกว่าจะเร็วกว่าไอ้วิ่งเมื่อกี้เย๊อะ ดังนั้นทุกคนจึงพร้อมใจกันทำตาม

    “ อย่าวิ่งเร็วกันสิค่ะ ” เช้งวับพูดออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

    แต่ไม่มีใครฟังคำของเช้งวับแล้ว ทั้ง 12 คนกระโดดๆ ต้นไม้เริ่มบางตาลงเป็นเครื่องหมายว่าป่านี้จะสิ้นสุดแล้ว

    “ เห็นทุ่งหญ้าแล้ว ” บูมตะโกนๆ

    “ ทุ่งหญ้าอีกล่ะ ” อั๋นบอกอย่างเบื่อๆ

    ทั้ง 12 คนกระโดดไปเรื่อยๆจนกระทั่ง

    “ ว้าวว ” ทั้ง 12 คนร้องออกมา

    มันเป็นเมืองสีขาว ตึกทุกตึกเป็นสีขาว รอบๆเมืองเป็นทุ่งหญ้า ท้องฟ้ากำลังสดใส พระอาทิตย์ทำให้เมืองนี้ดูอบอุ่น มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ทั่วเมือง มีหอนาฬิกาสีขาวตั้งอยู่กลางเมือง และมีปราสาทสีขาวอยู่บนสุดของหมู่บ้าน

    “ สวยจังเลยเน๊าะ ” อายพูด

    ในที่สุดเช้งวับก็ตามมาทันจนได้

    “ นี่แหล๊ะค่ะ ” เช้งวับหยุดพักหายใจเพราะว่าเหนื่อยจากการวิ่ง “ เมือง เอิ๊บเอิ้บ city

    เช้งวับตะโกน

    พื้นดินสั่นสะเทือนอีกครั้ง แต่เป็นแค่บริเวณที่หมูตัวนั้นยืนอยู่ หมูตัวนั้นเสียการทรงตัว

    “ Earth Arm เช้งวับตะโกนอีกครั้ง คราวนี้ดินที่อยู่ใต้เท้าของหมูตัวนั้นกลายเป็นบางสิ่งที่คล้ายเถาวัลย์โผล่ออกมาจากดินก่อนที่จะจับขาทั้ง 4 ของหมูตัวนั้นไว้

    “ หนีเร็วสิค่ะ ” เช้งวับตะโกน ก่อนที่จะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เด็กทั้ง 12 คนรีบวิ่งตามไป

    “ เหนื่อยจังเลยอ่า ” อ๊อฟบ่นออกมาพึมพัม

    “ ที่นี่แรงโน้มถ่วงน้อยนี่นา … ” ปองพูดออกมา แต่อยู่ดีๆปองก็หยุด“ ถ้าแรงโน้มถ่วงน้อยล่ะก้อ เราไม่เห็นจำเป็นต้องวิ่งนี่หนา ”

    ปองกระโดดข้างหน้าไปได้ราวๆ 5 เมตรเลยทีเดียว ก่อนจะหันกลับมาบอกพวกเพื่อนๆ 11 คน

    “ เรากระโดดไปจะเร็วกว่าน๊ะ ” ปองหันมาบอก

    แก้วลองกระโดดดู ก็รู้สึกว่าจะเร็วกว่าไอ้วิ่งเมื่อกี้เย๊อะ ดังนั้นทุกคนจึงพร้อมใจกันทำตาม

    “ อย่าวิ่งเร็วกันสิค่ะ ” เช้งวับพูดออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

    แต่ไม่มีใครฟังคำของเช้งวับแล้ว ทั้ง 12 คนกระโดดๆ ต้นไม้เริ่มบางตาลงเป็นเครื่องหมายว่าป่านี้จะสิ้นสุดแล้ว

    “ เห็นทุ่งหญ้าแล้ว ” บูมตะโกนๆ

    “ ทุ่งหญ้าอีกล่ะ ” อั๋นบอกอย่างเบื่อๆ

    ทั้ง 12 คนกระโดดไปเรื่อยๆจนกระทั่ง

    “ ว้าวว ” ทั้ง 12 คนร้องออกมา

    มันเป็นเมืองสีขาว ตึกทุกตึกเป็นสีขาว รอบๆเมืองเป็นทุ่งหญ้า ท้องฟ้ากำลังสดใส พระอาทิตย์ทำให้เมืองนี้ดูอบอุ่น มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ทั่วเมือง มีหอนาฬิกาสีขาวตั้งอยู่กลางเมือง และมีปราสาทสีขาวอยู่บนสุดของหมู่บ้าน

    “ สวยจังเลยเน๊าะ ” อายพูด

    ในที่สุดเช้งวับก็ตามมาทันจนได้

    “ นี่แหล๊ะค่ะ ” เช้งวับหยุดพักหายใจเพราะว่าเหนื่อยจากการวิ่ง “ เมือง เอิ๊บเอิ้บ city

    เช้งวับตะโกนอีกครั้ง คราวนี้ดินที่อยู่ใต้เท้าของหมูตัวนั้นกลายเป็นบางสิ่งที่คล้ายเถาวัลย์โผล่ออกมาจากดินก่อนที่จะจับขาทั้ง 4 ของหมูตัวนั้นไว้

    “ หนีเร็วสิค่ะ ” เช้งวับตะโกน ก่อนที่จะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เด็กทั้ง 12 คนรีบวิ่งตามไป

    “ เหนื่อยจังเลยอ่า ” อ๊อฟบ่นออกมาพึมพัม

    “ ที่นี่แรงโน้มถ่วงน้อยนี่นา … ” ปองพูดออกมา แต่อยู่ดีๆปองก็หยุด“ ถ้าแรงโน้มถ่วงน้อยล่ะก้อ เราไม่เห็นจำเป็นต้องวิ่งนี่หนา ”

    ปองกระโดดข้างหน้าไปได้ราวๆ 5 เมตรเลยทีเดียว ก่อนจะหันกลับมาบอกพวกเพื่อนๆ 11 คน

    “ เรากระโดดไปจะเร็วกว่าน๊ะ ” ปองหันมาบอก

    แก้วลองกระโดดดู ก็รู้สึกว่าจะเร็วกว่าไอ้วิ่งเมื่อกี้เย๊อะ ดังนั้นทุกคนจึงพร้อมใจกันทำตาม

    “ อย่าวิ่งเร็วกันสิค่ะ ” เช้งวับพูดออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

    แต่ไม่มีใครฟังคำของเช้งวับแล้ว ทั้ง 12 คนกระโดดๆ ต้นไม้เริ่มบางตาลงเป็นเครื่องหมายว่าป่านี้จะสิ้นสุดแล้ว

    “ เห็นทุ่งหญ้าแล้ว ” บูมตะโกนๆ

    “ ทุ่งหญ้าอีกล่ะ ” อั๋นบอกอย่างเบื่อๆ

    ทั้ง 12 คนกระโดดไปเรื่อยๆจนกระทั่ง

    “ ว้าวว ” ทั้ง 12 คนร้องออกมา

    มันเป็นเมืองสีขาว ตึกทุกตึกเป็นสีขาว รอบๆเมืองเป็นทุ่งหญ้า ท้องฟ้ากำลังสดใส พระอาทิตย์ทำให้เมืองนี้ดูอบอุ่น มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ทั่วเมือง มีหอนาฬิกาสีขาวตั้งอยู่กลางเมือง และมีปราสาทสีขาวอยู่บนสุดของหมู่บ้าน

    “ สวยจังเลยเน๊าะ ” อายพูด

    ในที่สุดเช้งวับก็ตามมาทันจนได้

    “ นี่แหล๊ะค่ะ ” เช้งวับหยุดพักหายใจเพราะว่าเหนื่อยจากการวิ่ง “ เมือง เอิ๊บเอิ้บ city

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×