คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เธอชื่อเช้งวับ
ChapTer 2 : เธอชื่อ เช้งวับ
แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!!!!!
ตุ๊บ !!!!
เด็กทั้ง 12 คนหล่นลงมาจากท้องฟ้า ก่อนที่จะตกลงมาสู้พื้นดิน เด็กทั้ง 12 คนล้มกันไปคนล่ะทิศคนล่ะทาง ก่อนที่จะพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้น ดีที่ข้างล่างเป็นพื้นหญ้า
“ ที่นี่ที่ไหนเนี้ย ” อั๋นถามขณะที่มองไปดูรอบๆ มันเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และมีหญ้าอ่อนๆ มีภูเขาเป็นแนวกั้น และมีป่าปกคลุมอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา
“ จะรู้ไหม มาด้วยกันเนี้ย ” จุหันมาส่งสายตาตะขวิดตะขวงใส่อั๋น
“ ไม่ได้ให้เสนอความคิดเห็นคับ แต่ระวังหน่อยน๊ะ เค้าบอกว่าถ้าชอบพูดแบบเนี้ย นมจะแฟ้บ ” อั๋นทำหน้าตาทะเล้น จุรีบจับนมที่มีเพียงน้อยนิดของเธอ
“ ของฉันใหญ่จะตาย ” จุพึมพัมกะตัวเอง
“ แล้วเราจะไปไหนต่อเนี้ย ” อายเอามือเท้าวะเอว แล้วถาม
“ ไปตามทิศเหนือกานเต๊อะ “ ปองชี้ไปทางใดทางหนึ่งของท้องฟ้า เพื่อนๆอีก 11 คนหันหน้าไปตามนิ้วปองพร้อมๆกัน
“ ปองรู้ได้ไงว่าทิศนั้นทิศเหนือ ” แก้วถามด้วยน้ำเสียงอึ้งๆ ในความฉลาดของเพื่อนตัวเอง
“ นั่นสิ ” ปองทำท่าครุ่นคิด กี้กะบูมหันหน้าหากันแล้วถอนหายใจ
“ นาฬิกาเรามีเข็มทิศจ๊ะ ” ลูกตาลบอกกับทุกคน
“ ไหนๆ ดูซิๆ “ หวานเดินเข้ามาดู
“ แต่ว่า มันคงเสียแล้วล่ะ มันหมุนไปรอบทิศเลยอ่า “ ลูกตาลยื่นให้หวานกับแตงกวาดู เข็มที่ควรจะชี้ไปทางทิศเหนือตอนนี้มันหมุนไปเป็น 360 องศาอย่างรวดเร็ว
“ ไม่หรอก สงสัยมาตั้งแต่เมื่อกี้ล่ะ ใช่ไหมปอง ” หมีพูห์ยักไหล่มาหาปอง
“ อืม ก็คือตอนเราตกมาอ่า เราตกมาช้ากว่าที่ควรจะเป็นและเวลาเราตกไม่มีใครรู้สึกเจ็บเท่าที่ควร และอีกอย่างหนึ่ง พวกเธอดูนี่น๊ะ ” ปองพูดและหยิบวัตถุสีดำขึ้นมา และโยนมันเบาๆ ขึ้นไป ปรากฏว่าวัตถุสีดำอันเล็กๆนั่น ลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ
“ ใครพอจะเข้าสิ่งนี้บ้าง ” หมีพูห์หันหน้าไปถามทุกๆคน
“ ฉันรู้ ” แก้วกระดี๊กระด๊า “ ตอนนี้เราอยู่ในที่ที่มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าปกติ และ มีพลังแม่เหล็กสูง จึงทำให้เข็มทิศหมุนไปทั่วรอบด้าน เพราะว่ามีคลื่นแม่เหล็กอยู่ทุกรอบด้าน และเมื่อโยนแม่เหล็กขึ้น แม่เหล้กจะลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ เพราะมันมีพลังแม่เหล็กอยู่ทุกรอบด้านซึ่งจะทำให้แม่เหล์กหยุดลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ ”
“ ถูกต้อง ” หมีพูห์พูดอย่างอารมณ์ดี “ และในสถานที่นี้ยังมีออกซิเจนด้วย แต่ว่าบนโลกไม่มีที่ไหนที่ไม่มีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ”
“ แต่มีอยู่ที่หนึ่งซึ่งน่าจะสันนิษฐานว่าเราน่าจะอยู่ที่ตรงนี้ ซึ่งก็คือ ชั้นบรรยากาศสตราโซสเฟียร์ ซึ่งมีอุณหภูมิคงที่ มีออกซิเจนบ้างเล็กน้อย และมีคลื่นพลังแม่เหล็กในชั้น ไอโอโนสเฟียร์ปกคลุมอยู่ ( เรียนตอน ม1 เปิดหาเองน๊ะจ๊ะ ) ” ปองจับคางตัวเอง
“ ซึ่งพวกเราไม่น่าจะมาอยู่ในที่แบบนี้ใช่ไหม ” อ๊อฟยื่นหน้ามาถาม
“ ใช่ ” ปองและหมีพูห์พยักหน้า
“ Under Ground ” เสียงตะโกนของใครสักคนดังขึ้นมาจากหลังต้นไม้ต้นหนึ่งไกลจากพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไรต่อไป พื้นก้อค่อยๆสั่น ก่อนที่มันจะค่อยๆแยกออกจากกัน เด็กทั้ง 12 คนรีบหนีกันไปคนล่ะทิศคนละทาง ดีที่บนที่นี้มีแรงโน้มถ่วงน้อยทั้ง 12 คนจึงสามารถกระโดดอย่างคล่องแคล่วก่อนที่จะมาถึงต้นไม้ที่มีบุคคลลึกลับ
“ เธอเป็นใคร ” อายถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ พวกเธอนั่นแหล๊ะ เป็นใคร ” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจาหลังต้นไม้ เธอเป็นเด็กผู้หญิงผมสีขาว ตาสีฟ้าสดใส ปากสีชมพูระเรื่อ ผิวขาวเหมือนหิมะ ใส่ชุดเหมือนชุดนอนซาบีน่า เป็นชุดทั้งตัว ที่ปก แขนเสื้อและกระโปรงมีลูกไม้ติด ในมือกำหนังสือสีน้ำตาล
“ ใส่เสื้อผ้าไม่อินเทรนด์เลยมึง ” แก้วหันมาซุบซิบกะจุ
“ นั่นสิเมิง ” จุตอบกลับอย่างกระดี๊กระด๊าา
“ เอาเข้าไป ” กี้พูดอย่างประชัด อ๊อฟได้แต่ยิ้ม ส่วนแก้วก็กระดี๊กระด๊ากะจุต่อไป
“ พวกเรามาจากสิ่งที่เรียกว่าโลก ” ลูกตาลพยายามอธิบาย
“ งั้นเหรอ พวกเธอมาจากมนุษย์โลกเหรอ ” สีหน้าของเด็กผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนเป็นสีหน้าปิติยินดีทันที “ ชั้นชื่อว่า เช้งวับ น๊ะ “
“ ก๊ากๆๆๆๆๆๆ เช้งวับ ” แก้วหัวเราะออกมาดังระเบิดเถิดเถิง
“ บ้านน๊อก บ้านนอก ” จุดัดเสียงแหลมๆ พูดแล้วก็หัวเราะกับแก้ว
“ แก้ว จุ เงียบๆหน่อยสิ ” กี้หันมาพูด
“ ถ้าเป็นคำสั่งของกี้ แก้วเชื่อฟังทุกอย่างค่ะ ” แล้วแก้วก็ทำหน้าเครียดทันที จุมองหน้าแก้วด้วยสายตาประมาณว่า “ อิดอก + อิหอย ”
“ ที่นี้ที่ไหนเหรอ เช้งวับ ” ลูกตาลพูดไปกลั้นหัวเราะไป
“ ตามดิฉันมาเถิด ” เช้งวับถอนสายบัวก่อนที่จะพาเดินไปที่ทะเลสาบแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆทุ่งหญ้านั้น ก่อนที่เธอจะหันหน้ากลับมาพูด
“ ทุกๆคน กลั้นหายใจแล้วกระโดดลงไปในน้ำเลยน๊ะ อย่าหายใจเด็ดขาด เข้าใจไหมจ๊ะ ” เช้งวับบอก ก่อนที่เธอจะทำเป็นตัวอย่างให้ดู เธอบีบจมูกแล้วก็กระโดดลงไปเลย
“ ทำก่อนเลย แก้ว ” กี้สั่ง
“ กี้ ไม่รักฮาบ้างก๊ะ ” แก้วหันหน้ามทำตาหวานซึ้งใส่
“ แก้ว ลองกลั้นหายใจสิ เหมือนกะลังโดนฮาจูบอยู่ กลั้นนานๆเลยหนา ” กี้ออกคำสั่ง
“ ได้ๆ ” แก้วหลับตาแล้วกลั้นหายใจ
ตู้ม !!!
อั๋นใช้เท้ายันตูดแก้ว ตกลงไปในทะเลสาปในทันที ทุกคนพยายามเดินมามองดูที่ทะเลสาปอย่างสนอกสนใจ
“ แก้วหายไปแล้วอ่า ” อ๊อฟพูดขึ้นมา
“ งั้นเราลงไปแล้วน๊ะ ” ลูกตาลเอามือบีบจมูกแล้วก้กระโดดตามแก้วไป
“ งั้นเราก็คงต้องตามพวกนั้นไปแล้วล่ะ ” กวาว่า แล้วก็กระโดดตาม 2 คนนั้นไป หลังจากนั้นทุกคนก็ค่อยๆพากันโดดตามมาเรื่อยๆ จนครบทุกคน
อีกฝั่งหนึ่ง แก้วกะลังจมลงไปในที่มืดที่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะลอยเคว้งคว้างไปที่ ที่มีแสงสว่างเป็นลำแสงมา พอเธอรู้สึกอีกทีเธอก็มากองอยู่ที่หน้าทะเลสาปแล้ว
“ ว่าไงค่ะ ” เช้งวับยื่นมือออกมาช่วยแก้วให้ลุก แก้วลังเลนิดนึงก่อนที่จะจับมือของเช้งวับลุกขึ้นมา เป็นเวลาเดียวกับที่ลูกตาลกับแตงกวาออกมาพอดี
“ เป็นการเดินทางที่แปลกดีเน๊าะ “ ลูกตาลยักไหล่
“ นั่นสิ ” แตงกวายิ้มอย่างอ่อนโยน
เพื่อนๆอีก 9 คนก็ค่อยๆตามทยอยกันมา จนครบ แล้วจึงออกเดินทางต่อ การเดินทางผ่านไปอย่างช้าๆ ก่อนที่เช้งวับจะเอ่ยออกมา
“ ระวัง หน่อยน่ะค่ะ แถวนี้มีสัตว์ดุๆเย๊อะ ” เช้งวับพูดก่อนที่จะหันหน้ากลับไป
“ คุณเช้งวับค่ะ ที่นี่ที่ไหนเหรอค่ะ ” อายถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ นั่นดิ ” บูมตะโกนมาจากด้านหลัง
“ เดี๊ยวพวกคุณก็จะได้ทราบค่ะ แต่ตอนนี้ตามดิฉันมาก่อนดีกว่าค่ะ ” เช้งวับหันกลับมายิ้มให้
“ รุงรังจริงๆเลยแห๊ะ “ จุบ่นพึมพัม
แง่ง ๆ ~
เห้ยยย !!
บูมร้องออกมา
“ นั่นมันตัวอะไรอ่า ” บูมชี้ไปที่สัตว์ตัวหนึ่งมันเป็นสัตว์คล้ายๆหมู่ แต่มีงาและตัวสีดำ ที่ควรจะเป็นจมูกของมันพ่นไฟได้
“ Modern Pig นี่ ” เช้งวับร้องโวกเวก ส่วนอีจุกะอีแก้วยืนหัวเราะก๊ากอย่างอุบาทย์หลังเช้งวับ
“ โมเดิร์น พิ๊ก ชื่อล๊าวลาว เมิง “ แก้วหัวเราะจนน้ำตาไหล
“ นั่นสิเมิง ” จุก็หัวเราะน้ำตาไหลไม่แพ้แก้ว
แต่ทันใดนั้น หมูตัวนั้นก็พ่นไฟใส่บูม ทำเอาแก้วหยุดหัวเราะแล้วกรี๊ดออกมา เด็กผู้หญิงคนนั้นกางหนังสืออกแล้วตะโกน
“ Underground ” เช้งวับตะโกน
พื้นดินสั่นสะเทือนอีกครั้ง แต่เป็นแค่บริเวณที่หมูตัวนั้นยืนอยู่ หมูตัวนั้นเสียการทรงตัว “ Earth Arm ” เช้งวับตะโกนอีกครั้ง คราวนี้ดินที่อยู่ใต้เท้าของหมูตัวนั้นกลายเป็นบางสิ่งที่คล้ายเถาวัลย์โผล่ออกมาจากดินก่อนที่จะจับขาทั้ง 4 ของหมูตัวนั้นไว้
“ หนีเร็วสิค่ะ ” เช้งวับตะโกน ก่อนที่จะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เด็กทั้ง 12 คนรีบวิ่งตามไป “ เหนื่อยจังเลยอ่า ” อ๊อฟบ่นออกมาพึมพัม “ ที่นี่แรงโน้มถ่วงน้อยนี่นา
” ปองพูดออกมา แต่อยู่ดีๆปองก็หยุด“ ถ้าแรงโน้มถ่วงน้อยล่ะก้อ เราไม่เห็นจำเป็นต้องวิ่งนี่หนา ” ปองกระโดดข้างหน้าไปได้ราวๆ 5 เมตรเลยทีเดียว ก่อนจะหันกลับมาบอกพวกเพื่อนๆ 11 คน “ เรากระโดดไปจะเร็วกว่าน๊ะ ” ปองหันมาบอก แก้วลองกระโดดดู ก็รู้สึกว่าจะเร็วกว่าไอ้วิ่งเมื่อกี้เย๊อะ ดังนั้นทุกคนจึงพร้อมใจกันทำตาม “ อย่าวิ่งเร็วกันสิค่ะ ” เช้งวับพูดออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ไม่มีใครฟังคำของเช้งวับแล้ว ทั้ง 12 คนกระโดดๆ ต้นไม้เริ่มบางตาลงเป็นเครื่องหมายว่าป่านี้จะสิ้นสุดแล้ว “ เห็นทุ่งหญ้าแล้ว ” บูมตะโกนๆ “ ทุ่งหญ้าอีกล่ะ ” อั๋นบอกอย่างเบื่อๆ ทั้ง 12 คนกระโดดไปเรื่อยๆจนกระทั่ง “ ว้าวว ” ทั้ง 12 คนร้องออกมา มันเป็นเมืองสีขาว ตึกทุกตึกเป็นสีขาว รอบๆเมืองเป็นทุ่งหญ้า ท้องฟ้ากำลังสดใส พระอาทิตย์ทำให้เมืองนี้ดูอบอุ่น มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ทั่วเมือง มีหอนาฬิกาสีขาวตั้งอยู่กลางเมือง และมีปราสาทสีขาวอยู่บนสุดของหมู่บ้าน “ สวยจังเลยเน๊าะ ” อายพูด ในที่สุดเช้งวับก็ตามมาทันจนได้ “ นี่แหล๊ะค่ะ ” เช้งวับหยุดพักหายใจเพราะว่าเหนื่อยจากการวิ่ง “ เมือง เอิ๊บเอิ้บ city”
พื้นดินสั่นสะเทือนอีกครั้ง แต่เป็นแค่บริเวณที่หมูตัวนั้นยืนอยู่ หมูตัวนั้นเสียการทรงตัว
“ Earth Arm ” เช้งวับตะโกนอีกครั้ง คราวนี้ดินที่อยู่ใต้เท้าของหมูตัวนั้นกลายเป็นบางสิ่งที่คล้ายเถาวัลย์โผล่ออกมาจากดินก่อนที่จะจับขาทั้ง 4 ของหมูตัวนั้นไว้
“ หนีเร็วสิค่ะ ” เช้งวับตะโกน ก่อนที่จะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เด็กทั้ง 12 คนรีบวิ่งตามไป “ เหนื่อยจังเลยอ่า ” อ๊อฟบ่นออกมาพึมพัม “ ที่นี่แรงโน้มถ่วงน้อยนี่นา
” ปองพูดออกมา แต่อยู่ดีๆปองก็หยุด“ ถ้าแรงโน้มถ่วงน้อยล่ะก้อ เราไม่เห็นจำเป็นต้องวิ่งนี่หนา ” ปองกระโดดข้างหน้าไปได้ราวๆ 5 เมตรเลยทีเดียว ก่อนจะหันกลับมาบอกพวกเพื่อนๆ 11 คน “ เรากระโดดไปจะเร็วกว่าน๊ะ ” ปองหันมาบอก แก้วลองกระโดดดู ก็รู้สึกว่าจะเร็วกว่าไอ้วิ่งเมื่อกี้เย๊อะ ดังนั้นทุกคนจึงพร้อมใจกันทำตาม “ อย่าวิ่งเร็วกันสิค่ะ ” เช้งวับพูดออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ไม่มีใครฟังคำของเช้งวับแล้ว ทั้ง 12 คนกระโดดๆ ต้นไม้เริ่มบางตาลงเป็นเครื่องหมายว่าป่านี้จะสิ้นสุดแล้ว “ เห็นทุ่งหญ้าแล้ว ” บูมตะโกนๆ “ ทุ่งหญ้าอีกล่ะ ” อั๋นบอกอย่างเบื่อๆ ทั้ง 12 คนกระโดดไปเรื่อยๆจนกระทั่ง “ ว้าวว ” ทั้ง 12 คนร้องออกมา มันเป็นเมืองสีขาว ตึกทุกตึกเป็นสีขาว รอบๆเมืองเป็นทุ่งหญ้า ท้องฟ้ากำลังสดใส พระอาทิตย์ทำให้เมืองนี้ดูอบอุ่น มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ทั่วเมือง มีหอนาฬิกาสีขาวตั้งอยู่กลางเมือง และมีปราสาทสีขาวอยู่บนสุดของหมู่บ้าน “ สวยจังเลยเน๊าะ ” อายพูด ในที่สุดเช้งวับก็ตามมาทันจนได้ “ นี่แหล๊ะค่ะ ” เช้งวับหยุดพักหายใจเพราะว่าเหนื่อยจากการวิ่ง “ เมือง เอิ๊บเอิ้บ city”
“ หนีเร็วสิค่ะ ” เช้งวับตะโกน ก่อนที่จะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เด็กทั้ง 12 คนรีบวิ่งตามไป
“ เหนื่อยจังเลยอ่า ” อ๊อฟบ่นออกมาพึมพัม
“ ที่นี่แรงโน้มถ่วงน้อยนี่นา ” ปองพูดออกมา แต่อยู่ดีๆปองก็หยุด“ ถ้าแรงโน้มถ่วงน้อยล่ะก้อ เราไม่เห็นจำเป็นต้องวิ่งนี่หนา ”
ปองกระโดดข้างหน้าไปได้ราวๆ 5 เมตรเลยทีเดียว ก่อนจะหันกลับมาบอกพวกเพื่อนๆ 11 คน
“ เรากระโดดไปจะเร็วกว่าน๊ะ ” ปองหันมาบอก
แก้วลองกระโดดดู ก็รู้สึกว่าจะเร็วกว่าไอ้วิ่งเมื่อกี้เย๊อะ ดังนั้นทุกคนจึงพร้อมใจกันทำตาม
“ อย่าวิ่งเร็วกันสิค่ะ ” เช้งวับพูดออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
แต่ไม่มีใครฟังคำของเช้งวับแล้ว ทั้ง 12 คนกระโดดๆ ต้นไม้เริ่มบางตาลงเป็นเครื่องหมายว่าป่านี้จะสิ้นสุดแล้ว
“ เห็นทุ่งหญ้าแล้ว ” บูมตะโกนๆ
“ ทุ่งหญ้าอีกล่ะ ” อั๋นบอกอย่างเบื่อๆ
ทั้ง 12 คนกระโดดไปเรื่อยๆจนกระทั่ง
“ ว้าวว ” ทั้ง 12 คนร้องออกมา
มันเป็นเมืองสีขาว ตึกทุกตึกเป็นสีขาว รอบๆเมืองเป็นทุ่งหญ้า ท้องฟ้ากำลังสดใส พระอาทิตย์ทำให้เมืองนี้ดูอบอุ่น มีผู้คนพลุกพล่านอยู่ทั่วเมือง มีหอนาฬิกาสีขาวตั้งอยู่กลางเมือง และมีปราสาทสีขาวอยู่บนสุดของหมู่บ้าน
“ สวยจังเลยเน๊าะ ” อายพูด
ในที่สุดเช้งวับก็ตามมาทันจนได้
“ นี่แหล๊ะค่ะ ” เช้งวับหยุดพักหายใจเพราะว่าเหนื่อยจากการวิ่ง “ เมือง เอิ๊บเอิ้บ city”
”
ความคิดเห็น