ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [Feel The Love] Chapter 7
[Feel The Love] 7
คนที่รักกัน เขาต้องดูแลกัน ใส่ใจกัน ใช่ไหมครับ...
แล้วทำไม...เขาถึง...
ไม่ค่อยจะใส่ใจผมเลย???
หรือ เขาเบื่อผมแล้ว...
“ฮันคยอง...คยูฮยอน ลงมากินข้าวสักทีสิ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน!!~” ฮีชอลตะโกนโวยวายลั่นบ้าน เมื่อเจ้าของชื่อที่ตนร้องเรียกทั้ง 2 ยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็น ทั้งๆที่ตอนนี้ก็สายโด่งแล้วแท้ๆ โชคดีไปที่วันนี้มีงานในช่วงเย็น ถ้าหากมีงานในตอนเช้าละก็ มีหวังอาเจ้ของวงคงได้กระวีกระวาดไปลากคอคู่รักแปลกประหลาดประจำบ้านลงมาแน่ๆ ส่วนสมาชิกคนอื่นๆที่นั่งทานข้าวอยู่ก็อดจะอมยิ้มและคิดอะไรไปต่างๆนานาไม่ได้...
...ตื่นสายทั้งคู่...
...นอนห้องเดียวกัน...
...แล้วมันจะมีอะไรอื่นเล่า... (ง่ะ!! เอสเจแอบหื่น >.,< หรือว่า... คนแต่งหื่นฟ่ะ -*-;;)
“ครับ...พี่ฮีชอลลงมาแล้ว” ว่าแล้ว ร่างบางเจ้าของชื่อที่ฮีชอลเรียกไปหมาดๆก็วิ่งหน้าตั้งลงมาจากห้องนอน พร้อมกับร่างสูงสัญชาติจีนที่เดินตามหลังมาติดๆ คนอื่นๆหันหน้ามามองทั้งคู่ไปตาเดียว จนคยูฮยอนเริ่มรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
...ผมมีอะไรผิดปกติงั้นหรอ???
“ทำไมพวกพี่มองผมอย่างงั้นล่ะ...” คยูฮยอนเอ่ยถามทุกๆคนพลางนั่งลงที่เก้าอี้ข้างฮีชอล โดยมีฮันคยองยื่นจานข้าวให้ และนั่งลงข้างๆคยูฮยอน ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะงงๆกับสายตาของพี่ๆในวง
“ทำไมตื่นสายจังล่ะ คยู...” ดงเฮเอ่ยถามพลางอมยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
“ก็เมื่อคืนนี้นอนดึกไง...” คยูฮยอนตอบก่อนจะตักข้าวเข้าปาก...
“จริงหรอ...ก็นึกว่า...” ดงเฮหยุดพูดก่อนจะแอบหัวเราะอยู่ในใจ สายตาของทุกคนละจากจานข้าว กลายมาจ้องคยูฮยอน และฮันคยองแทน...
“จ้องผมทำไม...” คยูฮยอนเริ่มโวยวายกับสายตาของทุกคน แต่กลับตรงข้ามกับฮันคยอง ที่กินข้าวไปก็นั่งยิ้มไป...
“สงสัยนายคงรีบลงมากินข้าวมากไปมั้ง...กระดุมเสื้อน่ะ ติดให้มันดีๆหน่อย หรือว่ามึนจนติดผิดเม็ดฮะ...” ซองมินแทรกขึ้นมาพลางหัวเราะคิกคัก ทำเอาทุกคนถึงกับตาโต ใช่... กระดุมเสื้อของคยูฮยอนมันติดผิดเม็ดจริงๆ และนั่นมันเผยให้เห็นผิวขาวบริเวณคอที่มีรอยแดงๆอยู่... (ภาพชวนจินตนาการ >///<)
“โอ้ว...รอยกลีบกุหลาบ!!” คังอินร้องลั่นพลางชี้นิ้วไปที่คอของคยูฮยอน เจ้าตัวมองหน้าพี่หมีขาวอย่างงงๆก่อนจะกระพริบตาปริบๆ และเครื่องหมายปรัศนีก็ผุดขึ้นมาทีละตัว
...ผมไม่เข้าใจ อะไรรอยกลีบกุหลาบ!!~~ (ใสซื่อจริง พ่อคุณ!!~~ =___=’’)
“อะไร...มันก็แค่รอยยุงกัด... ตุ่มยุงแบบนี้ เรียกว่า รอยกลีบกุหลาบหรอครับพี่” คยูฮยอนเอ่ยถามพี่ๆขึ้นมา คราวนี้ทำเอาหัวเราะกันทั้งโต๊ะทานข้าว รวมไปถึงเฮนรี่ด้วย... (เกือบลืมรี่ไปแว้ว แฮะๆ ต้องมีบทนิดส์ ^^’’)
“ไอ้รอยกลีบกุหลาบน่ะมันคือ... อันอือออยอูบไอ (ไปแปลกันเองนะค่ะพี่น้อง หุหุ ><)” ดงเฮยังพูดไม่ทันจบประโยค มือหนาของคิบอมก็ยื่นมาปิดปากของเขาเอาไว้ ก็จะพูดเรื่องอย่างนี้ต่อสาธารณชนได้ยังไงเล่า ดงเฮ...
“คิบอม...ปิดปากดงเฮทำไมเล่า ...นี้คยู ไอ้รอยกลีบกุหลายน่ะ มันคือ รอยจูบยังไงเล่า เข้าใจยังล่ะ” แต่ปิดปากคนตัวเล็กได้ก็เท่านั้น กระต่ายน้อยของวงผู้ซึ่งไม่มีใครห้าม (หรือห้ามไม่ทัน -_-+) ก็เอ่ยขึ้นมาทำเอาสมาชิกที่นั่งทานข้าวอยู่พร้อมใจกันเงียบกริบ...
“ผมไม่ได้ทำอย่างที่พวกพี่คิดสักหน่อย ถึงเมื่อคืนจะนอนเตียงเดียวกัน ผมก็แค่นอนหนุนแขนพี่ฮันคยองก็แค่เท่านั้น ไม่ได้มี เอ่อ...อะไรสักหน่อย” คยูฮยอนร้องลั่นเสียงตะกุกตะกักหวังจะแก้ตัว แต่คราวนี้มันยิ่งทำให้สมาชิกต่างฮือฮากันใหญ่ เห็นทีว่าบทสนทนาเรื่องของเขา คงไม่ถูกเก็บลงไปง่ายๆ
“คยู...ห้องนายมันมีสองเตียงไม่ใช่หรอ...ทำไมนายไปนอนเตียงเดียวกับฮันคยองได้น้า....” ซองมินยังแกล้งกระเซ้าต่อไปคยูฮยอนไม่เลิกเพราะด้วยความหมั่นไส้ที่บังอาจทำกระแสคยูมินเริ่มถดถอย เพราะเดี๋ยวนี้ รูปในอินเทอร์เน็ตของฮันคยองและคยูฮยอนมันเริ่มมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน หนอย...ฉันอุตส่าห์สร้างกระแสดีๆไว้แล้วเชียว(?)
“อ้าว...ก็...” ตอนนี้ข้อแก้ตัวของคยูฮยอนเริ่มจะไม่มีซะแล้ว...ทำไมพี่ไม่ช่วยผมล่ะ ฮันคยอง!!!
“พอได้แล้ว!!! จะพูดเรื่องนี้อีกนานไหมฮะ อายๆกันบ้าง เฮนรี่ก็นั่งอยู่ด้วยแท้ๆ เฮอะ!! ไอ้พวกนี้ ไม่รู้จักอายเด็ก!!~~” ฮีชอลตะโกนลั่นพลางกำตะเกียบในมือแน่น...มันน่าโมโหนัก ส่งเสียงดังทำยังกะตัวเองเป็นเด็กไปได้... แถมยังคุยกันเรื่องติดเรทอีก เฮนรี่ก็นั่งอยู่กับพวกเรานะเฟ้ย!!!!!!!!!!!!!!
“คือไม่เป็นไรหรอกครับ...ทุกๆคนคุยกันตามสบายเถอะครับ ผมว่าพวกพี่ก็เฮฮากันดีออก...” เฮนรี่เอ่ยพลางฉีกยิ้มกว้างให้ทุกๆคน คยูฮยอนมองหน้าเฮนรี่น้อยๆก่อนจะเบ้ปากด้วยความขัดหูขัดตา
“นายจะอยู่กับพวกเราอีกนานไหม” คยูฮยอนเอ่ยถามเฮนรี่บางกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ แต่มันกลับทำให้บรรยากาศในบ้านดูอึมครึมขึ้นมาในทันที (คยูแอบร้าย O_o)
“2 อาทิตย์ ครับ เพราะผมต้องกลับไปเรียนที่จีน” เฮนรี่ตอบพลางยิ้มบางๆให้คยูฮยอน
“งั้นหรอ...”
“เอางี้สิเฮนรี่ ก่อนกลับพวกเราก็ไปเที่ยวกันหน่อยไหม” ฮันคยองเสนอความคิดของตัวเอง และทุกต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยกันใหญ่มีเพียงคยูฮยอนที่หันขวับมามองฮันคยองก่อนจะส่งสายตาเป็นการตัดพ้อ
“ดีซะที่ไหนล่ะ...” คยูฮยอนสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนจะวางตะเกียบลงบนจานข้าวและเดินปึงปังขึ้นไปบนห้องนอน...
ฮันคยองมองตาแผ่นหลังบางนั้นพลางยิ้มกริ่มแต่ก็ไม่ได้ลุกตามเจ้าของแผ่นหลังนั้นไป คิดจะรู้อยู่แก่ใจว่าคยูฮยอนออกจะหึงและหงุดหงิดเวลาที่เขาคุยกับเฮนรี่ แต่ฮันคยองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หวังจะสั่งสอนคยูฮยอนให้รู้ถึงคำว่า “เชื่อใจ” ซะบ้าง รักกันยังไง ความเชื่อใจมันก็ต้องมี ซึ่ง ณ ตอนนี้ คยูฮยอนยังไม่มีความเชื่อใจให้กับฮันคยองเลย
.................................................................
ตกเย็นรถของบริษัทก็มารับทุกๆคนไปทำงาน แน่นอน ทุกๆคนต่างเฮฮากันได้ทุกเวลาถึงแม้ว่างานจะเยอะแค่ไหน แต่ที่เฮฮาไม่ลง ก็คือ น้องเล็กของวงอย่างคยูฮยอนที่ยังงอนฮันคยองไม่เลิก...
...ทั้งน้อยใจ
...ทั้งหึงหวง
...ทั้งกลัวว่าคนตรงหน้าจะเบื่อ
...ทั้งไม่ชอบใจ นิสัยเอาแต่ใจของตัวเอง
...ถ้าเป็นอย่างนี้ เขาจะอดทน และ จะรักเราได้นานแค่ไหนเชียว
“คยูฮยอน เขยิบไปหน่อยสิ พี่จะนั่งด้วย...” ฮันคยองเอ่ยพลางส่งยิ้มยียวนให้คยูฮยอนที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่บนรถ คยูฮยอนช้อนสายตามองเล็กน้อยก่อนจะเขยิบไปชิดที่นั่งฝั่งริมหน้าต่าง พลางเบือนหน้าออกไปทางหน้าต่างรถ
“ทำไมไม่ไปนั่งกับเฮนรี่ล่ะ” คยูฮยอนเอ่ยถามแบบประชดประชัน ฮันคยองหันมามองคยูฮยอนด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะเขยิบเข้าไปชิดร่างบางที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด
“คยูฮยอน นายต้องเชื่อใจพี่สิ...” ฮันคยองเอ่ยเสียงเรียบพลางจ้องมองใบหน้าเรียวใสและดวงตากลมโตของร่างบางอย่างพินิจ
“เชื่อใจ...” คยูฮยอนทวนคำพูดของฮันคยองพลางขบคิดเรื่องอยู่ใจใน
“ใช่...นายต้องเชื่อใจพี่...” ฮันคยองเอ่ยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คยูฮยอน ร่างบางก้มมองสร้อยข้อมือสีเงินแวววาวของตัวเองกับสร้อยข้อมือของฮันคยองสลับกัน ก่อนจะพยักหน้ารับปาก...
“อืม...ผมจะเชื่อใจพี่”
...............................................................
เมื่อเดินทางมาถึงสถานที่อัดรายการ ทุกคนเตรียมตัวกันพร้อมที่จะขึ้นเวที บรรดาแฟนคลับเฝ้ารอวันนี้มานาน เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่ Super Junior จะขึ้นโชว์เพลงเปิดตัวเป็นครั้งแรก พวกเขาก็เช่นกัน วันที่ทุกคนจะได้ขึ้นโชว์เพลงเปิดตัวเพลงแรก และ วันนี้สมาชิกอยู่บนเวทีแบบพร้อมหน้าพร้อมตาครบทั้ง 13 คน
“ตื่นเต้นจัง...” ซองมินเอ่ยพร้อมกับยกมือทั้งสองขึ้นมากุมกันพลางภาวนาอยู่ในใจให้การโชว์ครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
“สู้ๆน่า...กระต่ายน้อย” ฮยอกแจเอ่ยพลางเดินมากอดซองมินเพื่อให้กำลังใจ ถึงจะไม่เคยแสดงความรักให้ใครต่อใครได้เห็นกัน แต่ก็นับว่า ทั้งฮยอกแจและซองมินต่างไว้ใจและรู้ถึงหัวอกหัวใจของทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี...(555+ ฮยอกมินๆๆ เชียร์คู่นี้ขาดใจค่ะ เอิ๊ก >///< นอกเรื่องล่ะ -*-)
“นี้พวกนายไปขึ้นโชว์เถอะน่า หวานกันอยู่ได้...” อีทึกส่งเสียงเรียกฮยอกแจและซองมินทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกันในทันที
...กลับบ้านไปและค่อยกอดกันต่อนะจ้ะ ไก่ฮยอก!!! ^____^’’
“กรี๊ด!!!!!!!! อ๊าย อะไรจะเท่ห์ปานนั้น”
“หล่อโฮกกกกก ข้าพเจ้าจะเป็นลม เฮือก!!!”
“อ๊ากกกกกกกกก หล่อกว่านี้มีอีกไหม!!!! หม้อถังกะลามังไห!!! หล่อกระชากจิ้น” (บ้ารึเปล่าแก =__=’’)
เสียงกรี๊ดของบรรดาแฟนคลับดังลั่นเมื่อการโชว์ของพวกเขาเริ่มขึ้น...ทุกคนพากันตกตะลึงในลุคส์ใหม่ของพวกเข้าที่ดูเท่ห์และแปลกใหม่เสียเหลือเกิน เสียงตะโกนนั้นดังลั่นจนตลอดการแสดง และจนกระทั่งการแสดงจบลงเสียงกรี๊ดก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง...
เคร้ง!!!!!
เสียงของอะไรบางอย่างตกลงบนเวที แต่...เสียงนั้นมันเบาเสียจนเจ้าของสิ่งนั้นไม่รู้ตัวว่าได้ทำสิ่งที่สำคัญที่สุดตกทิ้งไว้บนเวที...
“กลับบ้านไป...ฉลองให้เต็มที่เลยดีไหม” คังอินหัวโจกของเรื่องฉลองในทุกเรื่องเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางมีความสุขกับการโชว์ครั้งนี้ และแน่นอน...กลับบ้านไปมันต้องฉลอง!!!!
“คังอิน...พรุ่งนี้นายไม่มีงานหรือไง” อีทึกเอ่ยเสียงเรียบพลางมองหน้าคังอินอย่างเคืองๆ
“มี...แต่หน่านะ....วันเดียวเองนะ ทึกกี้~~” คังอินเริ่มออดอ้อนอีทึก พลางส่งสายตาหวานเยิ้มให้คนหน้าสวย และแน่นอน...อีทึกก็ใจอ่อนจนได้...
“ก็ได้....”
...............................................................
“พี่ฮันคยอง...สร้อยข้อมือล่ะ” คยูฮยอนเอ่ยถามฮันคยองด้วยความสงสัยขณะขึ้นรถกลับบ้าน เมื่อเหลือบไปเห็นข้อมือของร่างสูงปราศจากสร้อยข้อมือสิ่งสำคัญที่สุดระหว่างเขาทั้งสอง
“หือ....อ้าวหายไปไหนเนี่ย...” ฮันคยองร้องท่าทางตกใจเมื่อรู้สึกว่าสร้อยหายไปจากข้อมือ เจ้าตัวกวาดสายตามองไปทุกที่แต่ก็ไม่เห็นสร้อยเจ้ากรรมนั้นอยู่ดี
“หาดูดีๆสิ ทำไมพี่ซุ่มซ่ามจัง...ถ้าหายล่ะน่าดู!!~” คยูฮยอนบ่นพึมพำพลางทำหน้ามุ่ย ของสำคัญแท้ๆ ทำหายได้ยังไงกัน???
“อยู่ไหนกันนะ สร้อยข้อมือ...”
“พี่หาสร้อยข้อมืออันนี้อยู่ใช่ไหมครับ” เฮนรี่เอ่ยพลางยื่นสร้อยข้อมือของฮันคยองที่อยู่ในมือให้ ฮันคยองฉีกยิ้มกว้างให้เฮนรี่ก่อนจะยื่นมือไปหยิบสร้อยข้อมือนั้นจากเฮนรี่ คยูฮยอนมองอย่างอึ้งๆ และอาการน้อยใจมันก็เริ่มปะทุขึ้นมาอีกซะแล้ว...
“ขอบใจมากนะ...” ฮันคยองเอ่ยขอบคุณเฮนรี่พลางใส่สร้อยข้อมืออย่างทะนุถนอม ก่อนจะยื่นมือหนาไปขยี้หัวเฮนรี่เบาๆเพราะความเอ็นดู...
“ไม่เป็นไรครับ....” เฮนรี่เอ่ยพลางส่งยิ้มบางให้ก่อนจะก้าวกลับไปนั่งที่ที่นั่งของตัวเอง คยูฮยอนมองฮันคยองด้วยสายตาว่างเปล่า แต่ก็พยายามเก็บอาการน้อยใจนั้นเอาไว้
...พี่เคยเห็นว่าผมสำคัญไหม เคยเห็นสร้อยนั้นสำคัญไหม ทำไมพี่ถึงทำมันหายเสียง่ายๆ แล้วทำไม เขาต้องเป็นคนหามันเจอด้วย ผมไม่ต้องการให้ใครแตะต้องมัน นอกจากผมและพี่ เพราะสร้อยมันเป็นของเราสองคน ไม่ใช่ของคนอื่น แล้วทำไม พี่ต้องทำอะไรกับเขาเหมือนที่พี่ทำกับผมด้วย...
เมื่อทุกๆคนกลับถึงบ้าน งานฉลองเล็กๆก็เริ่มขึ้น....
“คยู...นายจะดื่มมันหรอ” ซองมินถามคยูฮยอนอย่างอึ้งๆเมื่อเห็นว่า น้องเล็กของวงที่ไม่เคยแตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำท่าจะยกเบียร์ทั้งขวดขึ้นดื่ม
“อืม...” คยูฮยอนตอบสั้นๆก่อนจะยกเบียร์ขวดขึ้นดื่ม ซองมินจะเอ่ยปากห้ามก็ไม่ทัน ตอนนี้ไม่มีใครห้ามคยูฮยอนได้สักคน แต่อย่างว่าคนเดียวที่ห้ามคยูฮยอนได้ตอนนี้กลับหายไปไหนก็ไม่รู้
“พี่ฮันคยองล่ะ” ซองมินกระซิบถามฮยอกแจที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางมึนๆ แต่ก็ยังพอมีสติอยู่
“ออกไปซื้อของกินน่ะ สักพักเดี๋ยวก็กลับมา”
“เอ่อ...สักพัก เห็นทีไอ้เด็กบ้านี้มันคงจะเมาแอ๋ไปแล้วมั้ง”
“ดน ดน!!! โมดึลเกดนเซซัง วออาเนคาทินนอ โอ้ว ลีซูมาน!!~~~~” แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ คยูฮยอนที่ดูเหมือนจะเมาได้ที่ เพราะฤทธิ์เบียร์ก็เริ่มมีอาการของคนเมาออกมาเต็มที่ ทั้งๆที่ดื่มเบียร์เข้าไปแค่อึกสองอึก
“เฮ้ย!!!! คยูฮยอนอย่าเล่นของสูงดิ ท่าจะเมาก็ต้องเมาแบบมีสติและมีศิลปะ” คังอินที่ดูเหมือนจะมึนๆเล็กน้อย (อาจเมา -*-) ร้องลั่นเมื่อเห็นว่าเพลงที่คยูฮยอนร้องออกมา อาจทำให้อนาคตนักร้องของเจ้าตัวต้องดับวูบ
“ช่าง!!! ผมม่ายสน ฮึก!~”
“คยูฮยอน นายเมามากแล้วนะ ไปนอนเถอะไป” อีทึกที่ตอนนี้ยังไม่ได้จิบแอลกอฮอล์เลยสักนิด เตือนน้องเล็กด้วยท่าทางเป็นห่วง นานทีปีหนจะเห็นน้องเล็กเป็นสภาพแบบนี้ อย่างนี้คงมีเรื่องแน่ๆ
“คายว่าโผมเมา...โผมม่ายเมานะ ฮ่าๆ” คยูฮยอนตอบเสียงยานคาง อีทึกส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่พอสักพัก บุคคลที่คยูฮยอนเชื่อฟังมากที่สุด ก็ย่างกายเข้ามาในห้องรับแขก และแทบจะในทันที ฮันคยองก้าวเข้าไปหาคยูฮยอนที่ตอนนี้เมาไม่ได้สติอย่างรวดเร็ว
“ใครให้นายกินเหล้าฮะ!!!” ฮันคยองร้องเสียงดังเมื่อเห็นสภาพคยูฮยอนเมาหนักอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“กินเอง ม่ายมีคายห้าม!!~~ หึหึ” คยูฮยอนตอบพลางหัวเราะน้อยๆ และดวงตาก็เริ่มจะหลับอยู่ทุกที
“พี่ไม่ให้นายกินไปนอนได้แล้ว” ฮันคยองกล่าวเสียงเข้มพลางพยุงร่างบางขึ้นก่อนจะจับศีรษะของร่างบางแนบกับอกกว้าง
“ปล่อยโผมนะ พี่บ้า!!~~~” คยูฮยอนร้องโวยวายแบบคนเมา แต่สักพักก็หมดสติไป... ฮันคยองมองร่างบางในอ้อมแขนด้วยความหงุดหงิด และความเป็นห่วง...
...นายเป็นอะไรไปคยูฮยอน
ฮันคยองวางร่างบางลงบนเตียงอย่างเบามือ เพราะกลัวคนในอ้อมแขนจะตื่น ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดที่หน้าของร่างบางอย่างทะนุถนอม มือหนาเอื้อมไปลูบผมสีทองของคนที่นอนหลับพริ้มอย่างเอ็นดู ก่อนที่จะหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ร่างบาง จากนั้นร่างสูงก็ก้าวไปอีกเตียงหนึ่งพลางทิ้งตัวลงนอนด้วยท่าทางไม่สบายใจ...
...นายคิดอะไรอยู่คยูฮยอน นายโกรธพี่ นายหวงพี่ หรือนายไม่เชื่อใจพี่
“นอนด้วยสิ!!~~” เสียงของร่างบางที่น่าจะหลับไปแล้ว เอ่ยเรียกสติของฮันคยองให้หลุดจากภวังค์ ฮันคยองลืมตาขึ้นก็พบว่าเจ้าของร่างบางกำลังยื่นยิ้มให้กับเขาก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆร่างสูงของเขา ร่างบางเอื้อมแขนมาโอบกอดร่างสูงเอาไว้แน่น พลางเอาหน้าซุกที่อกกว้างก่อนที่น้ำใสๆจะเริ่มไหลรินออกจากดวงตา การกระทำแบบนี้ ทำเอาร่างสูงถึงกับทำอะไรไม่ถูก นี้เป็นครั้งแรกที่ฮันคยองไม่สามารถจะเดาใจของคยูฮยอนออก...
“เราเป็นแฟนกันใช่ไหม...และทำไมพี่ไม่เห็นว่าผมสำคัญเลย พี่คิดอะไรอยู่...ทำไมพี่ถึงทำสร้อยหาย และทำไมพี่ต้องทำอะไรกับคนอื่นเหมือนที่ทำกับผม ตกลงแล้ว พี่รักผมอย่างที่พูดหรือเปล่า...ผมกลัวจัง กลัวว่าพี่จะเบื่อเด็กเอาแต่ใจอย่างผม...”
ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่วทั้งๆที่ยังหลับตาพริ้ม มันเป็นความในใจที่แสนจะอัดอั้นสำหรับคยูฮยอน อาจเพราะความเมาหรือเพราะอะไร ฮันคยองเองก็ไม่รู้ว่าทำไมคยูฮยอนถึงทำอย่างนี้ มือหนาเอื้อมไปปาดน้ำตาของคนในอ้อมอกอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ริมฝีปากเรียวจะสัมผัสกับหน้าผากเนียนของร่างบางด้วยความอ่อนโยน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรล่วงเกินไปมากกว่านั้น เพราะเป็นสัมผัสที่ไม่ต้องการให้คนรักจะต้องเจ็บปวด...หากแต่จะกอดร่างนั้นไว้ในอ้อมแขนแน่น...
...ขอโทษ ที่พี่ทำให้นายคิดอย่างนี้ พี่ไม่เคยเบื่อ หรือ คิดจะเลิกรักนายเลยนะ คยูฮยอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น