ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [Feel The Love] Chapter 5
[Feel The Love] 5
ใช่แล้ว....เขาคนนี้ คนที่ผมออกจะเกลียดขี้หน้า
แต่ตอนนี้....
เขาคือ ความรักของผม !!~~
หลังอาหารเย็นสมาชิกทุกคนก็ต่างพากันพักผ่อนตามอัธยาศัย ฮยอกแจที่คืนนี้ไม่ต้องไปจัดรายการวิทยุจึงเข้ามาช่วยฮันคยองล้างงานในห้องครัว...
“ฮยอกแจ...คืนนี้ฉันยกห้องนอนของฉันให้นาย อ้อ...แล้วก็พาซองมินไปนอนด้วยล่ะกัน เห็นคยูฮยอนบ่นมาหลายคืนแล้ว ว่านอนไม่หลับเพราะซองมิน...” ฮันคยองกล่างเสียงเรียบแต่ทำเอาฮยอกแจถึงกับตาเบิกกว้างพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
...ซองมินทำมิดีมิร้ายน้องเล็กงั้นหรอ
“ซองมินเขาลวนลามคยูฮยอนงั้นหรอ...” ฮยอกแจเอ่ยพลางมองไปที่ซองมินที่นั่งดูโทรทัศน์ด้วยสายตาตัดพ้อ
“ไม่ใช่...นายก็คิดไปได้...ที่ว่านอนไม่หลับน่ะ ฉันหมายถึง ซองมินนอนกรนเสียงดังจนคยูฮยอนนอนไม่หลับต่างหาก...นายไม่รู้หรือไง...ว่าซองมินนอนกรน” ฮันคยองย้อนถามคราวนี้คนที่สงสัยกลับกลายเป็นฮันคยองบ้าง ฮยอกแจนึกอยู่นานแต่ก็นึกไม่ออกว่าซองมินนอนกรน... หรือเป็นเพราะตัวเขาเองเป็นคนหลับลึกจนไม่รู้สึกว่าคนที่นอนอยู่ข้างตัวนอนกรนกันแน่
“ก็ไม่เคยได้ยินสักที...แต่ก็ได้เดี๋ยวให้ซองมินไปนอนกลับฉันก็แล้วกัน...แล้วว่าแต่นายจะนอนไหนล่ะ...”
แกร๊ก...แกร๊ก!~~
ฮันคยองเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของคยูฮยอน ร่างบางที่นอนอยู่ที่เตียงริมหน้าต่างยังคงหลับสนิทไม่รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนเข้าในห้อง ฮันคยองเหล่ตามองคยูฮยอนเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของซองมิน ที่ตอนนี้เจ้าของเตียงถูกคนรักของตัวเองพาตัวออกไปเพราะเป็นตัวรบกวนเวลาพักผ่อนของคนป่วย ร่างสูงยังคงเบิกตากว้างนอนไม่หลับ เสียงของดงเฮที่บอกให้ตัวเขาบอกความรู้สึกที่มีอยู่กับเด็กดื้อยังคงดังก้องอยู่ในหูและโสตประสาท แต่ให้ทำยังไงได้ ก็เจ้าเด็กนี้เล่นหลับซะสนิท แล้วจะบอกยังไงล่ะ...
“ฉันรักนาย...” ฮันคยองเอ่ยขึ้นมาลอยๆ พลางคิดในใจว่า
...มันก็ไม่ยากนี้หว่า...รู้งี้บอกตั้งนานแล้ว
“มากไหม...” เสียงของใครบางคนเอ่ยถามกลับมา ฮันคยองที่ตอนนี้พยายามข่มตาหลับก็ตอบออกมาตามหัวใจของตัวเอง
“มากซิ เฮ้ย!!!” ฮันคยองร้องลั่นพลางสปริงตัวลุกขึ้นจากเตียง เมื่อหันไปที่เตียงของคยูฮยอนก็เจอะกับเจ้าตัวกำลังหัวเราะชอบใจอยู่
“รักจริงหรอ” คยูฮยอนถามอีกครั้งพลางเลิกคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะลุกขึ้นนั่งกอดอกที่เตียง ฮันคยองมองตาดุก่อนจะกลับมาใช้มาดกวนประสาทอีกครั้ง
“รักน่ะ เด็กอย่างนายน่ะรู้จักด้วยหรอ” ฮันคยองเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยท่าทางที่ดูกวนประสาทเหมือนเดิม คยูฮยอนมองพลางเบ้ปากอย่างหงุดหงิด
“รู้หรือไม่รู้ก็คงไม่เกี่ยวกับนาย” คยูฮยอนตอบด้วยความฉุนก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งแต่ฮันคยองก็ฉุดแขนของร่างบางให้ลุกขึ้นนั่งเหมือนเดิม ร่างบางหันขวับมามองด้วยท่าทางหงุดหงิดก่อนจะพ่นลมออกจากปากอย่างหน่ายๆ
“ทำไมมันถึงไม่เกี่ยวกับฉัน” ฮันคยองถามกลับเสียงเย็นพลางนั่งลงที่เตียงของคยูฮยอน ร่างบางเขยิบตัวหนีแต่มือหนาก็ยื่นมาโอบเอวเอาไว้ ความรู้สึกร้อนผ่าวๆที่หน้าเกิดขึ้นแบบฉับพลันพร้อมกับจังหวะของหัวใจที่เต้นถี่เสียจนแทบจะกระดอนออกจากอก แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางก็ยังทำเป็นเหมือนไม่รู้สึกอะไรอยู่ดี
“ไม่รู้...” คยูฮยอนบอกปัดพลางยื่นมืออีกข้างมาดันอกของฮันคยองให้ออกห่าง
“อ้าว...ไหงว่างั้นล่ะ...” ฮันคยองกล่าวเสียงเรียบพลางจ้องหน้าเรียวของคยูฮยอนอย่างไม่วางตา ร่างบางที่ตอนนี้รู้สึกตัวเองไร้เรี่ยวแรงเพราะสายตาหวานเยิ้มของร่างสูงก็ลุกพรวดขึ้นก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป ร่างสูงมองตามพลางหัวเราะน้อยๆกับท่าทางของเด็กดื้อ
โครม!!!!
คยูฮยอนที่วิ่งมาที่ออกมาจากห้องแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ร่างบางวิ่งมาชนเข้ากับประตูห้องน้ำที่ถูกเปิดออกมาเพราะใครบางคน ร่างบางล้มลงกับพื้นพลางเอามือเรียวจับหน้าผากของตัวเองอย่างมึนๆ ฮันคยองที่เดินตามมาก็วิ่งมาดูอาการของร่างบางแต่ก็กลับอดขำไม่ได้ที่เจ้าเด็กเอาแต่ใจวิ่งมาชนประตูจนล้มไม่เป็นท่า
“คยู...เป็นไรมากไหม” ซองมินเอ่ยด้วยท่าทางตกใจก่อนจะนั่งลงดูอาการของคยูฮยอนที่ยังคงมึนๆอยู่ ร่างบางมองตาขวางพลางสบถอย่างหงุดหงิด
“พี่อีกแล้วหรอ...กี่ครั้งแล้วที่พี่เปิดประตูแล้วมันก็กระแทกหน้าผมเนี่ย”
“ขอโทษๆ” ซองมินกล่าวขอโทษอีกครั้งพลางยื่นมือไปจับหน้าผากของคยูฮยอนที่ตอนนี้บวมเป่งเป็นลูกมะนาว
“อ๊ะ....ทำอะไรพี่บ้า” คยูฮยอนร้องลั่นเมื่อแขนแกร่งของฮันคยองอุ้มร่างเขาขึ้น ฮันคยองมองด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะพาร่างบางกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง ซองมินที่ยืนมองตาแป๋วอยู่ก็ถึงกับอึ้งกับการกระทำของพี่ร่วมวง
“พี่อุ้มไอ้เด็กบ้านั้นไหวได้ไงเนี่ย...ตัวใหญ่จะตาย!!~~”
................................................................
“โอ้ย!!! เจ็บนะเฟ้ยเบาๆหน่อยได้ไหม” คยูฮยอนโวยวายเสียงดังเมื่อฮันคยองเอาน้ำแข็งที่ห่อไว้ด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวประคบที่หน้าผาก ร่างสูงยิ้มกริ่มก่อนจะยื่นยาแก้ปวดให้ร่างบางตรงหน้า
“กินซะ...จะได้หายปวด”
“ไม่กิน...” คยูฮยอนส่ายหน้าดิกๆพลางทำหน้ามุ่ย
“จะกินไหม...หรือจะให้ป้อนแบบปากต่อปาก” ฮันคยองกล่าวเสียงเรียบ ทำเอาคยูฮยอนถึงกับตาโตก่อนจะหยิบยาในมือของร่างสูงเข้าปาก
“อี๊...ขมชะมัด” คยูฮยอนบ่นพึมพำเมื่อกินยาแก้ปวดเข้าไป แต่สายตาของเขาก็เบนไปเจอะกับสร้อยข้อมือสีเงินที่เหมือนกับสร้อยที่อยู่ที่ข้อมือของเขาไม่มีผิดเพี้ยนแถมยังอยู่ที่ข้อมือของฮันคยองอีกหรือว่า...
“พี่แอบเอาสร้อยข้อมือผมไปก๊อปหรอ” คยูฮยอนเอียงคอถามพลางชี้นิ้วไปที่สร้อยข้อมือในมือของฮันคยอง
“ยอมเรียกฉันว่าพี่แล้วหรอ” ฮันคยองเอ่ยพลางเลิกคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ คยูฮยอนมองพลางขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
“ช่างมันเถอะน่าไอ้เรื่องเรียกพี่...”
“งั้นฉันนอนล่ะ” ฮันคยองกล่าวก่อนจะเดินไปที่เตียงสีชมพูหวานของซองมิน แต่มือเรียวของร่างบางก็รั้งมือหนาเอาไว้ ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหล่อคมของร่างสูงด้วยท่าทางเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ร่างสูงจึงนั่งลงที่พื้นตรงหน้าร่างบาง พลางส่งยิ้มยียวน
“เดี๋ยวก่อน...ยังไม่เคลียร์...ตกลงสร้อยนี้ล่ะของพี่ เอ๊ย!! นายใช่ไหม” คยูฮยอนถามอย่างอายๆ จนเผลอเรียกฮันคยองว่าพี่ จนแก้คำพูดของตัวเองจนลิ้นแทบพันกัน ร่างสูงช้อนสายตามองอย่างเรียบๆ ก่อนจะถามกลับอย่างตัดพ้อ
“ถ้ามันเป็นของฉันนายยังจะต้องการมันอยู่ไหม”
“ต้องการสิ...” คยูฮยอนพยักหน้ารับน้อยพลางเอ่ยเสียงแผ่ว และฮันคยองก็ยังคงถามร่างบางต่อไป
“แล้วความรู้สึกของฉันล่ะ...นายต้องการมันไหม”
“อืม...” คยูฮยอนพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่คราวนี้หัวใจดูจะเต้นแรงจนผิดปกติ ฮันคยองก้มหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ตัวเองเก็บไว้มานาน
“แล้วถ้าฉันจะบอกนายว่า ฉันรักนายล่ะ นายต้องการมันไหม”
“อืม...ห๊ะ!!! พี่พูดใหม่ดิ” คยูฮยอนร้องลั่นด้วยความตกใจกับคำพูดที่ไม่น่าเชื่อของฮันคยอง รักงั้นหรอ...พี่กำลังล้อเล่นกับผมอยู่หรือเปล่า ???
“ฉันรักนาย” ฮันคยองเอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง คยูฮยอนมองเลิกลั่กพลางเบือนหน้าหนีสายตาของร่างสูง
“เอ่อ....” คยูฮยอนที่อ้ำอึ้งอยู่นาน เขาไม่ยอมเอ่ยความรู้สึกของตัวเองออกมาสักที จนฮันคยองที่นั่งฟังอยู่เริ่มทนไม่ไหว ร่างสูงดึงร่างบางลงมานั่งตักพลางโอบเอวเอาไว้แน่น ก่อนจะเอาคางหนาเกยที่ไหล่บาง
“แล้วนายล่ะ รู้สึกยังไงกับฉัน” ฮันคยองเอ่ยถามคยูฮยอนอีกครั้ง เพราะอยากรู้ว่าจริงๆแล้ว ร่างบางนั้นคิดอะไรอยู่...อาจใช่ว่าเด็กดื้อยอมรับความรู้สึกของเขา แต่ใจจริงแล้ว ร่างบางนั้นคิดอะไรอยู่กันแน่...
“เอ่อ...คือผม...เอ่อ...”
“โอเค...ฉันไปนอนดีกว่า ขืนนายนั่งตักฉันต่อไป ฉันว่าฉันคงต้องขาหักแน่” ฮันคยองบอกปัดอย่างตัดพ้อ แต่ยังคงมาดคุณชายกวนประสาทเอาไว้ เมื่อคยูฮยอนได้ยินดังนั้นก็ถึงกับโมโห...คนกำลังบิ้วอารมณ์อยู่แท้ๆ
“นาย...ไอ้พี่บ้า...ก็จะบอกอยู่ว่า...”
“ว่าอะไร...” ฮันคยองถามกลับพลางเลิกคิ้วเจ้าเล่ห์
“ชอบ....” คยูฮยอนเอ่ยเสียงแผ่วที่ข้างหูของฮันคยอง ร่างสูงยิ้มกริ่มก่อนจะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“อะไรนะ....”
“ผมชอบพี่!!!~~” คยูฮยอนเอ่ยพลางพร้อมๆกับใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีเพราะความเขินอาย ฮันคยองมองก่อนจะกระชับกอดร่างบางในแน่นขึ้น...ตอนนี้ร่างบางรู้สึกว่าตัวเองรีบไปในขนัดตา...อ้อมกอดที่ได้รับมาช่างอบอุ่นจนไม่อยากจะถูกคลายกอด...ความรู้สึกแบบนี้...ทำไมมันถึงคุ้นเคยนักนะ
“ไม่ได้รักหรอ...” ฮันคยองเอ่ยอย่างตัดพ้อ เมื่อร่างบางได้ยินดังนั้นก็รีบแก้ทันควัน
“อีกไม่นานหรอก...ความรักน่ะมันต้องใช้เวลาไม่ใช่หรอกหรอ”
“ขอบคุณมากๆที่นายมีความรู้สึกดีๆให้กับฉัน...ขอบคุณที่นายสัมผัสหัวใจของฉัน...”
..................................................................
“คยูมากอดฉันทำไมห๊ะ!!!! เดี๋ยวฮยอกแจเขาจะงอนฉันนะ!!~~” ซองมินร้องลั่นเมื่อจู่ๆ คยูฮยอนก็กระโจนมากอดเขา คยูฮยอนกอดอยู่นานก่อนจะปล่อยแล้วเดินไปหาอีทึก ที่นั่งเช็คตารางงานอยู่...
“พี่อีทึก...ขอกอดหน่อย” คยูฮยอนเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน เมื่ออีทึกได้ยินดังนั้นก็อ้าแขนรับคยูฮยอน พลางกอดตอบจนน้องเล็กพอใจ แต่จู่ๆ หมีขาวก็ตรงดิ่งมาหาเขาพลางจ้องหน้าคยูฮยอนเขม็ง
“ไอ้เด็กนี้มากอดทึกกี้ของฉันทำไม” คังอินร้องลั่นก่อนจะแยกคยูฮยอนออกจากอีทึก คยูฮยอนมองยิ้มๆก่อนจะเดินไปหารยออุคที่นั่งอยู่ที่โซฟา
“คยู...นายมากอดฉันทำไมขนลุก~~” รยออุคร้องโวยวายพลางเอามือดันหน้าคยูฮยอนออก ร่างบางทำหน้ามุ่ยก่อนจะเดินไปหาซีวอนที่นั่งคุยอยู่กับฮีชอลอย่างสนุกสนาน
“คยูฮยอนมากอดพี่ทำไม...” ซีวอนเอ่ยด้วยท่าทางตกใจ คยูฮยอนช้อนสายตามองเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่
“เด็กบ้า...แกกอดฉันมากี่ครั้งแล้ว...พอเลยกระดูกฉันมันจะหักเพราะแกนี้แหละ” ฮีชอลแผดเสียงลั่นจนคยูฮยอนผละออกแทบไม่ทัน ก่อนจะยืนมองฮีชอลตาละห้อย
“ฮันคยองมาลากเด็กในสังกัดนายไปดิ...รำคาญโว้ย...เที่ยวกอดคนอื่นไปทั่ว” คังอินที่ยืนมองคยูฮยอนเที่ยวไล่กอดคนอื่นไปทั่วตะโกนลั่นใส่ฮันคยองที่ยืนทำอาหารอยู่ในครัว ฮันคยองวางมือจากการทำอาหารก่อนจะเดินมาฉุดข้อมือคยูฮยอนไปที่นอกระเบียง
“อือ...” ไม่พูดพร่ำทำเพลงฮันคยองดึงคยูฮยอนเข้ามากอดแน่น ร่างบางมองอย่างอึ้งๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอด ร่างสูงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆคลายกอด
“กอดแบบนี้ใช่ไหมล่ะ” ฮันคยองเลิกคิ้วถามด้วยท่าทางมีเลศนัย คยูฮยอนมองพลางพยักหน้ารับน้อยๆ ที่เขาเที่ยวกอดคนอื่นไปทั่ว ก็เพื่อหาว่าใครกันแน่ที่เป็นคนไปนอนกอดเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแทบทุกคืน แต่มันก็แค่รู้สึก พอลืมตามาทีไรคนๆนั้นก็มักไม่อยู่ให้เขาเห็นหน้าทุกที...ตกลงแล้ว...เขาคนนั้นคือฮันคยองงั้นหรอ
“พี่มาเยี่ยมผมตลอดเลยหรอ ตอนที่ผมอยู่โรงพยาบาลน่ะ” คยูฮยอนถามด้วยท่าทางอายๆ พลางก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้า ร่างสูงยิ้มกริ่มก่อนจะยื่นมือหนาไปจับแก้มของร่างบาง
“อืม...พี่ไปเยี่ยมเราตลอด ถึงงานจะเยอะยังไงก็ต้องไปให้ได้...ไม่รู้สิ...ถึงเราจะหลับอยู่...พี่ก็อยากอยู่เฝ้า”
“ไม่เบื่อหรอ” คยูฮยอนเอียงคอถามพลางมองคนตรงหน้าตาแป๋ว ฮันคยองยิ้มน้อยๆ พลางเอามือลูบผมนุ่มของร่างบางอย่างแผ่วเบา
“ไม่เบื่อหรอก...ก็แค่อยากจะดูแลคนที่ตัวเองรัก...ทำไมต้องเบื่อด้วยล่ะ”
“รัก...พอเถอะน่า...พี่พูดคำว่ารักมากเกินไปแล้วรู้ไหม” คยูฮยอนกล่าวด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย...ตั้งแต่คบๆกันมา คำว่ารักของฮันคยอง มันดูจะเยอะเกินไปซะแล้ว...หูคนเรามันก็มีลิมิต...เลือดของคนเรามันก็มีจำกัด เล่นบอกอย่างนี้ทุกวัน เลือดจะหมดตัวอยู่แล้วนะ!!!
“อ้าว!!~~ ก็พี่รู้สึกยังไง พี่ก็พูดยังงั้น” ฮันคยองเอ่ยพลางขมวดคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ คยูฮยอนมองอย่างหน่ายๆ กับท่าทีที่ดูจะหวานเกินไปของคนตรงหน้า...
“หรอ....” คยูฮยอนเอ่ยด้วยท่าทางกวนๆ ฮันคยองยิ้มกริ่มก่อนจะยื่นมือไปโอบเอวบางพลางค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้...จนจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน...
“พวกนายจะสวีทกันไปถึงไหน พวกฉันหิวข้าวแล้วนะ!!~~~”
การจะสัมผัสถึงความรัก...
เพียงแค่รู้สึกถึงมัน ไม่มองข้ามมัน...
มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก...ที่จะรู้สึกรักใครสักคน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น