ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [Feel The Love] Chapter 3
[Feel The Love] 3
ความรักคืออะไรกันแน่....
เฮ้อ!!~~ ทำไมการจะสัมผัสถึงความรักมันถึงยากขนาดนี้
ร่างบางลืมตาขึ้นช้าๆพลางกวาดสายตาไปรอบๆห้องอัด ทั้งที่ความรู้สึกในตอนแรก...คือความอึดอัดที่ต้องมาติดอยู่ในห้องแบบนี้กับคนที่ออกจะเกลียดขี้หน้าอยู่ไม่น้อย แต่ตอนนี้กลับไม่อยากจะหลุดออกจากอ้อมแขนของคนๆนี้เลย มันทั้งอบอุ่น....อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก และคุ้นเคย อ้อมกอดแบบนี้.... มันคุ้นเคยเหมือนกับเคยถูกกอดมาแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน.....
ไม่มั้ง!!!~~~ คิดในใจพลางสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าบอออกจากหัวสมอง กะอีแค่เขากอดนิดหน่อย ก็คิดเข้าข้างตัวเองไปไกล นายนี่ไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอก!!!!
“อืม.....” เสียงครางในลำคอของร่างสูงดังขึ้นที่ข้างหู ร่างบางจึงแสร้งทำเป็นหลับตาลงอีกครั้งเหมือนยังไม่ตื่นจากนิทรา แต่มีหรือที่คนตรงหน้าจะดูไม่ออก....
...นายตื่นแล้วล่ะน่า คยูฮยอน~
ว่าแล้วร่างสูงก็ก้มหน้าลงไปใกล้ก่อนจะหยุดค้างไว้อย่างนั้น หน้าใกล้กันเพียงคืบ ลมหน้าใจของร่างสูงสัมผัสกับที่เปลือกตาของร่างบางอย่างแผ่วเบา ถึงอย่างนั้นร่างบางก็กลับนิ่งไม่มีท่าทางหรือปฏิกิริยาตอบกลับทั้งที่ใจแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ ร่างสูงจึงเริ่มได้ใจแล้วยื่นหน้าลงไปใกล้อีก....คราวนี้ดวงตากลมใสลืมขึ้นก่อนจะจ้องกลับด้วยท่าทางตกใจ....ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบไปหมด....มีแต่ดวงตาสองคู่ที่จับจ้องกับอย่างไม่วางตา
...อย่าหวั่นไหวน่า เขาก็แค่แกล้ง!!!
ร่างบางคิดในใจพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า ช่างน่าแปลกที่ดวงตาคู่นี้มันดูหม่นหมองไม่สดใสพิกล มันเหมือนคนๆนี้กำลังขาดอะไรบางอย่างและโหยหาอะไรบางอย่าง
“ออกไป....” ไม่ทันทีประโยคนี้จะถูกพูดออกมาหมด ริมฝีปากอิ่มก็ถูกริมฝีปากเรียวประทับปิด ถึงจะตกใจกับการกระทำของคนตรงหน้าแค่ไหน ดวงตาที่เบิกกว้างเพราะความตกใจในตอนแรก ตอนนี้ก็หรี่ลงช้าๆ ก่อนจะรับความหวานที่ร่างสูงหยิบยื่นให้ แต่...เมื่อร่างสูงเริ่มรู้สึกตัวว่าทำสิ่งที่ผิดพลาดไป เขาก็รีบถอนจูบอย่างรวดเร็ว
“นายคงไม่ต้องการมันหรอกใช่ไหม....” กล่าวเสียงเรียบแต่ก็ทำเอาคนตรงหน้าถึงกับใจเสีย
....ไม่ต้องการ??? มันหมายความว่ายังไง พี่หมายความว่ายังไง ไม่ต้องการ....
“...........” ด้วยรู้สึกกดดันร่างบางจึงไม่มีคำตอบให้แก่คนตรงหน้า มีเพียงสายตาที่สลดลงเท่านั้น ร่างสูงหันมามองเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น
“คำว่าต้องการของพี่มันคืออะไรล่ะ” คยูฮยอนเอ่ยเสียงแผ่วก่อนจะช้อนสายตามองฮันคยองอย่างตัดพ้อ
“เอาไว้นายค่อยรู้...”
“เฮ้!!~~ พวกนาย” เสียงของลีดเดอร์ดังเข้ามาในห้องอัดเสียง เขาที่รีบมาบริษัทแต่เช้าก็เพื่อว่าดูว่า คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีทึกก้าวเข้าในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของคนทั้งคู่
....เฮอะ!!!! มันน่ากลัวยิ่งกว่าเก่าซะอีก
“อีทึกนายรีบพาคยูฮยอนกลับบ้านเถอะ” ฮันคยองกล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องไปไม่สนใจคยูฮยอนที่มองตามตาละห้อย ถึงตัวเขาเองจะเด็กแค่ไหน แต่ท่าทางแบบนี้ของฮันคยอง ยังกะงอนตัวเขาเองยังไงยังงั้น
“คยูฮยอน ฮันคยองเป็นอะไรไปน่ะ” อีทึกเอ่ยถามคยูฮยอนเสียงเบา
“ไม่รู้
สงสัยเชื้อบ้ากำเริบ!!!” คยูฮยอนร้องอย่างเหลืออด ก่อนจะก้าวปึงปังออกจากห้องโดยมีอีทึกเดินตามไปติดๆ ทั้งที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วเชียว ยังมาทำท่างอนเป็นเด็กไปได้ อีกอย่าง...เพราะเขาหรอ ผมบอกพี่ไว้อย่าง ผมไม่ง้อพี่นะ ผมไม่ผิด!!!
.......................................................
“คยูฮยอนไปจัดรายการวิทยุด้วยกันไหม”
ฮยอกแจเอ่ยปากชวนคยูฮยอนที่ตอนนี้นั่งหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์ มันน่าโมโหนัก!!!! ตั้งแต่วันนั้น ฮันคยองก็ทำเป็นเมินใส่เขาซะงั้น... มันคือเกมส์ของพี่งั้นหรอ มันไม่สนุกเลยนะ พี่ฮันคยอง!!~~
“ไปครับ” คยูฮยอนขานรับก่อนจะเดินไปที่ห้องนอนเพื่อแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย สายตาก็ค่อยแต่จะมองหน้าคนต้นเหตุคนนั้น แต่พอเจอก็กลับหลบสายตาไม่กล้ามองหน้า ไม่ใช่เพราะอาย แต่เพราะกลัวตัวเองจะวิ่งไปบีบคอเจ้าคนนั้นต่างหาก....รู้ไหมว่าคนต้นปัญหานั้นทำเขานอนไม่หลับมาเกือบทั้งคืน
ระหว่างนั่งจัดรายการวิทยุ....
“ครับ....วันนี้เรามีแขกรับเชิญพิเศษมานั่งในรายการของเราด้วย” อีทึกกล่าวเปิดรายการด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“ใช่ครับ... แขกพิเศษก็คือ ซูเปอร์จูเนียร์ คยูฮยอน!!~~” ฮยอกแจแนะนำคยูฮยอนด้วยท่าทางสดใสไม่แพ้กัน
“สวัสดีครับ คยูฮยอนครับ” คยูฮยอนกล่าวเสียงใส ก่อนที่อีทึกจะเริ่มหาหัวข้อสนทนาประจำวัน
“วันนี้เราจะมีหัวข้อสนทนาอะไรดีล่ะ”
“จูบแรกเป็นไง” ฮยอกแจโพล่งขึ้นมาพลางยิ้มกริ่ม อีทึกที่พยักหน้าเห็นด้วย จึงเริ่มยิงคำถามนี้ไปยังน้องเล็กที่นั่งอมยิ้มอยู่
“ดี....คยูฮยอนจูบแรกของนายมันตอนไหน”
“มันเป็นความลับครับพี่” คยูฮยอนเอ่ยพลางจับหัวตัวเองอย่างเขินๆ ทำเอาพี่ๆทั้งสองถึงกับอดขำไม่ได้
“จะไม่บอกหน่อยหรอ” ฮยอกแจเซ้าซี้คยูฮยอนเต็มที่แต่ก็ไม่เป็นผล คยูฮยอนยังส่ายหน้าดิกๆ เป็นนัยว่านี้มันคือความลับขั้นสุดยอด
“ม่าย!!!~~~~” คยูฮยอนลากเสียงยาวก่อนจะเลิกคิ้วน้อยๆให้พี่ๆทั้งสอง ด้วยความหมั่นไส้อีทึกจึงพูดหยอกล้อต่อไป
“สรุปแล้ว น้องเล็กของเราคงยังไม่เสียจูบแรกให้ใครหรอกมั้ง”
“ผมมีจูบแรกแล้วนะ กับ....” เมื่อจะพูดถึงชื่อนั้น มันก็ถูกกลืนหายลงไปทันที จูบแรกของเขา ใช่...เขาคนนั้นนั้นแหละ แต่ตอนนี้มันพูดไม่ได้หนิ...
“กับใคร ซองมินหรอ” อีทึกเอ่ยขึ้น ก็มันมีลัทธิคยูมินหนิ ส่งเสริมสักนิดไม่เสียหาย ทว่าสายตาพิฆาตจากฮยอกแจที่ถูกส่งผ่านมาถึงอีทึกภายในชั่ววินาที
“นั้นยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย พี่ซองมินน่ะเป็นของพี่ฮยอกแจต่างหาก” คยูฮยอนแก้ตัวทันควัน แต่คราวนี้กลับเป็นการแก้ตัวที่ออกจากสองแง่สองง่ามไปหน่อย เดือดร้อนถึงอีทึกที่ต้องรีบปรามคยูฮยอนเป็นการใหญ่
“คยู....นี้รายการวิทยุยอดนิยมนะ เด็กๆหลายๆคนอาจกำลังฟังอยู่ มันไม่เหมาะสมนะเนี่ย”
“ครับๆ ฮ่าๆๆๆ” คยูฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะหัวเราะร่า
“เอาเป็นว่า ฉันขอปิดหัวข้อสทนานี้ไว้เพียงเท่านี้ ก่อนรายการของเราจะโดนแบน”
..........................................................
เมื่อกลับถึงบ้านพัก สมาชิกทุกต่างก็ต่างพากันเข้าห้องนอนกันหมดแล้ว อีทึกและฮยอกแจก็เช่นกัน เมื่อกลับมาถึงบ้านปุ๊บก็ปรี่เข้าห้องนอนของตัวเองไปในทันที ผิดกับคยูฮยอนที่ไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด ทั้งที่ตอนนี้ก็ปาเข้าไป เกือบตี 1 แล้วมันควรเป็นเวลาที่คนป่วยอย่างเขาน่าจะพักผ่อน แต่ให้ทำอย่างไรได้ ก็ในเมื่อตามันสว่าง ในหัวสมองเรื่องนั้นเรื่องนี้มันก็ตีกันไปหมด เป็นอย่างนี้แล้วมันจะนอนหลับได้ยังไงล่ะ???
“เฮ้อ!!!~~” คยูฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางทิ้งตัวนั่งลงโซฟายาวสีครีม แต่การถอนหายใจเพียงครั้งเดียวมันคงยังไม่พอสำหรับเรื่องกลุ้มใจทั้งหลาย คยูฮยอนนั่งหายใจทิ้งหายใจขว้างเป็นว่าเล่น...จนรู้สึกว่าการทำอย่างนี้มันกลายเป็นเรื่องน่าสนุก!!!
“คิดว่าสนุกนักหรือไง นั่งถอนหายใจอยู่ได้” เสียงกวนประสาทเอ่ยขึ้นพลางยื่นมือหนามาแตะที่ไหล่ของคยูฮยอน ร่างบางสะดุ้งโหยงพลางหันขวับไปที่ตัวต้นปัญหาก่อนจะส่งสายตาไม่สบอารมณ์ให้แก่คนตรงหน้า
“เรื่องของผม” คยูฮยอนตอบเสียงแข็งพลางยื่นมือไปหยิบรีโมทเพื่อจะดูโทรทัศน์แต่มือแกร็งก็ยื่นมือไปรั้งไว้ ร่างบางช้อนสายตามองพลางเบ้ปากอย่างหงุดหงิด
“ไม่คิดว่ามันจะรบกวนคนอื่นหรอ...ดึกดื่นป่านนี้ยังจะมานั่งดูโทรทัศน์” ฮันคยองเอ่ยพลางดึงรีโมทออกจากมือเรียว ร่างบางได้แต่มองตามอย่างไม่ชอบใจ
....ทำไมถึงชอบขัดใจกันนักนะ!!!
“ยุ่งจริงโว้ย!!!” คยูฮยอนสบถเสียงดังพลางนั่งกอดอกด้วยความโมโห
“แล้วนี้มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ไปนอนซะสิ” ฮันคยองเอ่ยพลางดึงแขนคยูฮยอนให้ลุกขึ้นจากโซฟา ร่างบางหันมามองตาดุ ก่อนจะสะบัดตัวออกจากมือแข็งแรง
“โอ้ย!!! แล้วนายมายุ่งอะไรกับฉันฮะ” คำกล่าวที่เปลี่ยนสรรพนามจากผมเป็นฉัน จากพี่เป็นนาย ทำเอาคนตรงหน้าถึงกับพูดไม่ออก และเริ่มมีความโมโหขึ้นมาทีละนิด แต่ก็ยังพยายามยังเก็บมันเอาไว้ในใจ ก็ไอ้ที่ทำอย่างนี้ก็เพราะเป็นห่วง แต่เจ้าเด็กนี้มองเป็นเรื่องน่ารำคาญไปได้...
“จะไปดีๆ หรือจะให้อุ้มไปส่งถึงห้องฮะ” ฮันคยองกล่าวเสียงดุพลางจ้องร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์ คนที่ฟังอยู่ตอนแรกก็แค่เฉยๆ นึกว่าร่างสูงแค่พูดขู่ แต่สักพัก... ร่างทั้งร่างก็ลอยขึ้นเพราะพละกำลังของใครบางคน ร่างบางมองคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆก่อนจะดิ้นเต็มแรง
“เฮ้ย!!! ปล่อยนะ นายทำบ้าอะไร” คยูฮยอนโวยวายพลางเอามือทุบไปยังอกของฮันคยองหลายครั้ง แต่ร่างสูงก็มองสายตาเรียบเฉยและไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยร่างบางลงอย่างที่เขาหวัง
“จะนอนไหน ห้องนายเองหรือจะห้องฉัน” ร่างสูงกล่าวพลางเลิกคิ้วอย่างมีเลศนัย คยูฮยอนมองอย่างคาดโทษก่อนจะเริ่มดิ้นอีกครั้งพลางโวยวายเหมือนเด็ก
“นอนไหนก็ช่าง...แต่นายน่ะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“งั้นนอนห้องฉัน” ฮันคยองเอ่ยพลางตรงดิ่งไปยังห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะโยนร่างบางลงบนเตียงนุ่มดังตุบ...
“กินยาไม่เขย่าขวดหรือไง ถึงเกิดบ้าอย่างนี้ เมื่อเช้าทำยังกะไม่รู้จักกัน พอตอนนี้ก็มากวนประสาทฉัน นายคิดอะไรของนายกันแน่” ร่างบางโวยลั่นพลางลุกขึ้นจากเตียง เพื่อจะเดินหนีกลับห้องของตัวเอง ถึงจะนอนไม่เป็นสุขเท่าไร แต่มันก็ยังดีกว่า...ถ้าต้องมาเสี่ยงอันตรายกับไอ้พี่บ้าคนนี้
พลั่ก!!!
แต่ไม่ทันที่มือเรียวจะยื่นไปบิดลูกบิดประตู ร่างสูงก็ดึงร่างบางมาก่อนจะผลักไปที่กำแพงห้อง สายตาของร่างบางบ่งบอกถึงความกลัว เมื่อร่างสูงทำกิริยาท่าทางแบบนี้ ทั้งที่จริงๆแล้ว ฮันคยองเองใจดีกับทุกๆคน กับตัวเขาเองก็เช่นกัน...แต่ตอนนี้สายตาของร่างสูงที่ตอนแรกดูอ่อนโยนดี ตอนนี้กลับดูน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ
“นะ นะ นายปล่อย” คยูฮยอนเอ่ยเสียงสั่นพลางเบือนหน้าหลบสายตาของฮันคยองที่ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าไม่ปล่อยล่ะ” ฮันคยองเอ่ยเสียงเรียบและพยายามจ้องหน้าของคนตรงหน้าอย่างพินิจ นับได้ว่า เขาเองสามารถทำให้ร่างบางอึดอัดเสียเต็มประดา
“ฉันจะ....” คยูฮยอนเอ่ยทั้งๆที่ยังคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าจะทำยังไง ถ้าฮันคยองเกิดทำอะไรตัวเขาขึ้นมา
“จะอะไร...” ฮันคยองย้อนถามพลางเลิกคิ้วท่าทางยียวน
“จะฟ้องพี่อีทึก”
“เฮอะ!!! น่ากลัวจริง” ฮันคยองเอ่ยพลางยิ้มกริ่ม ทำเอาคนตรงหน้าถึงกับใจเสีย นี่เขาไม่กลัวลีดเดอร์ของวงเลยหรือไง
“แล้วที่ทำอย่างนี้ต้องการอะไรฮะ นายน่ะ” คยูฮยอนถามพลางขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด
“นาย...” ฮันคยองเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้คยูฮยอน ร่างบางมองเลิกลั่ก คิดอะไรก็คิดไม่ออก สมองมันตันไปหมด แต่ก็ถ้าเขาเล่นแบบนี้มา แล้วทำไมเราจะเล่นบ้างไม่ได้ล่ะ...
ตุบ!!!!
ว่าแล้วคยูฮยอนที่ใช่ว่าจะแรงน้อยก็ผลักฮันคยองลงบนเตียงก่อนจะคร่อมร่างสูงเอาไว้ ฮันคยองมองอย่างอึ้งๆ แต่ก็ฉุกคิดขึ้นได้
...เจ้าเด็กนี้ อวดเก่งตามเคย
“จะว่าไป นายก็ อืม...หน้าตาดี” คยูฮยอนเอ่ยพลางจ้องหน้าฮันคยองด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์
“เพิ่งรู้หรอ ว่าฉันหน้าตาดี” ฮันคยองเอ่ยพลางยื่นมือไปโอบเอวของร่างบางเอาไว้แน่น คยูฮยอนเองก็ถึงกับสะดุ้ง ที่จู่ๆ เอวของตัวเองก็ถูกร่างสูงโอบไว้ซะแน่น
“อ๊ะ!!! ปล่อยได้แล้ว ฉันไม่อยากจะเล่นบ้าเล่นบออะไรแล้ว” คยูฮยอนที่เล่นบทหื่นเองกลับทนไม่ได้กับท่าทางและสายตาของฮันคยองที่ดูจะเหนือชั้นกว่า เขาจึงยันตัวลุกขึ้นจากเตียง แต่ฮันคยองก็พลิกตัวกลับ ตอนนี้กลายเป็นฮันคยองที่คร่อมร่างบางเอาไว้
“อะไรกัน...ยังไม่ทันจะทำอะไรก็ถอยแล้วหรอ” ฮันคยองเอ่ยพลางเลิกคิ้วกวนประสาท ทำเอาคนที่ถูกคร่อมอยู่เกือบจะเก็บอารมณ์โมโหไว้ไม่อยู่
“ก็ไม่ได้ชอบ ไม่ได้รัก แล้วจะทำอย่างนั้นไปทำไม” คยูฮยอนเอ่ยออกมาทั้งๆที่ใจหนึ่งก็รู้สึกแปลกๆที่ต้องพูดอย่างนั้น แต่จะเป็นไรไป เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเราสักหน่อย
“ใช่...นายเกลียดฉันหนิ” ฮันคยองกล่าวอย่างตัดพ้อ คยูฮยอนขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ จริงๆแล้ว เขาไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย ก็บอกว่า... ไม่ได้ชอบ ไม่ได้รัก ไม่ได้พูดเกลียดเลยสักครั้ง
“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น” คยูฮยอนร้องลั่น เพราะความไม่พอใจที่ร่างสูงสื่อความหมายที่เขาพูดผิด แถมยังมาทำท่าทางเศร้าๆ เห็นแล้วทำเอาเขาเองรู้สึกหงุดหงิดชอบกล
“ปล่อยๆๆๆๆ” คยูฮยอนร้องอย่างรำคาญพลางดันอกของฮันคยองให้ห่างออกจากตัว ฮันคยองที่ตอนแรกทำสีหน้าเศร้าสร้อย จู่ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็กลับมาสู่ใบหน้าหล่อคมของเขาอีกครั้ง
“ปล่อยก็โง่” ฮันคยองเอ่ยเสียงเรียบพลางโน้มหน้าลงมาใกล้ๆหน้าของคยูฮยอนช้าๆ ร่างบางเบือนหน้าหนีทันควันพลางหลับตาปี๋ ทำเอาร่างสูงแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
“ก็บอกให้ปล่อยไง...อยากโดนข้อหาพรากผู้เยาว์หรือไง”
“ฮ่าๆๆ พอแล้วๆ สนุกจริงเวลาเล่นกับนายเนี่ย” ฮันคยองเอ่ยพลางหัวเราะรวนก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากเตียง คยูฮยอนมองร่างสูงตรงหน้าอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินปึงปังออกจากห้องนอนของฮันคยองไปพลางบ่นพึมพำให้ฮันคยองสารพัด จนเจ้าตัวอดขำไม่ได้ กับท่าทางน่ารักๆอย่างนี้...
.......................................................
...ลาก่อน สีผมธรรมชาติ!!~~
คยูฮยอนเอ่ยกับตัวเองในใจ พลางจ้องมองกระจกที่สะท้อนภาพของตัวเอง เด็กหนุ่มผมสีดำสนิทต่อไปนี้อีกไม่กี่สิบนาที ผมสีดำธรรมชาติของเขาก็จะถูกสไตลิสต์จอมโหด โมดิฟลายให้เข้ากับบุคลิกในอัลบั้มใหม่ แต่ก็ใช่ว่าเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะถูกแปลงโฉมใหม่...แต่มันก็ทุกคนนั้นแหละ เพราะนี้มันก็เพื่ออัลบั้มใหม่และเพื่อบริษัท!!
“โห...คยูนายดูเท่ห์มากเลยนะเนี่ย” เสียงของซองมินดังขึ้นเป็นคนแรกเมื่อเห็นทรงผมใหม่ของคยูฮยอน
“ผมว่ามันเหมือนคนป่วย” คยูฮยอนเอ่ยพลางทำหน้ามุ่ยก่อนจะเซตๆจับๆผมทรงใหม่ให้เข้าที่
“ผมนายก็สีคล้ายๆกับฉันนั้นแหละ คยูฮยอน” ฮันคยองเอ่ยเสียงเรียบ ตอนนี้สีผมของฮันคยองเป็นสีทองๆ ขาวๆ ดูแล้วคล้ายนกอินทรีย์ เจ้าตัวดูชื่นชมกับผมทรงใหม่เป็นพิเศษ ก่อนจะยื่นมือมาจับผมนุ่มของคยูฮยอนที่เป็นสีบรอนด์ทองคล้ายกับสีผมของฮันคยอง
“เอามือออกไปเลย ชิชะ!!! ฉันก็แค่ยอมจำนนท์ล่ะน่า ถ้าไม่ติดว่าพี่สไตลิสต์สั่งให้ฉันอยู่นิ่งๆ สั่งให้ฉันอย่าเรื่องมาก ป่านนี้ผมของฉันมันก็ยังเป็นสีดำธรรมชาติอยู่นั้นแหละ” คยูฮยอนร่ายยาว ฮันคยองรับฟังคำพูดนั้นพลางยิ้มกริ่ม แต่พี่ๆคนอื่นๆถึงกับอึ้ง เดี๋ยวนี้คยูฮยอนสนิทกับฮันคยองมากขนาดเรียกฉันเรียกนายกันเลยหรือ
“คยู ทำไมไม่เรียกฮันคยองว่าพี่ล่ะ มันดูแปลกๆนะ ห่างกันก็ตั้งสามสี่ปี” อีทึกเอ่ยขึ้นเป็นการว่ากล่าวตักเตือน คยูฮยอนได้แต่รับฟังแต่ก็ไม่ได้มีปฏิริยาตอบกลับมาหาลีดเดอร์ของวงเลยแม้แต่น้อย
“ปล่อยเขาไปเถอะ พวกเด็กเอาแต่ใจ” ฮันคยองเอ่ยพลางยิ้มกริ่ม ก่อนจะเลิกคิ้วใส่คยูฮยอนอย่างกวนๆ
“ใครเด็ก” คยูฮยอนร้องลั่น จนทำให้สมาชิกที่นั่งอยู่ในห้องแต่งตัว ต้องหันมามองเป็นตาเดียว
“นายไง” ฮันคยองตอบเสียงเรียบ ถึงจะเรียบยังไง แต่สิ่งที่คยูฮยอนได้สัมผัส มันก็คือการยั่วโมโหด้วยวิธีอันแยบยลต่างหาก
“ฉันอายุ 19 แล้วนะ” คยูฮยอนเถียงคอเป็นเอ็น แต่ฮันคยองก็ใช่ว่าจะยอม ปากของเขายังคงเถียงคยูฮยอนแบบเรียบๆ กวนๆ ไปเรื่อยๆ ทำเอาสมาชิกที่เหลือถึงกับส่ายหน้าอย่างระอา...
“19 หรอ นายโกงอายุหรือเปล่า”
“ฉันเรียนมหาลัยแล้ว”
“เอ็นท์ติดกับเขาตั้งแต่เมื่อไร” คยูฮยอนหยุดเถียงเพื่อพักหายใจ พลางคิดวิธีแก้เผ็ดเจ้าพี่ตัวแสบ ก็ในเมื่อเถียงเองไม่สำเร็จ คยูฮยอนจึงงัดไม้เด็ดมาใช้ ก็เล่นเถียงแทบตายแต่คนตรงหน้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดต่อปากต่อคำกับเขาสักที พี่ก็เคยทำแบบนี้กับผม... ฮะ!!!~~ ใช่พี่ฮีชอล รับรอง พี่ไม่ได้อยู่ดีหร๊อก... พี่ฮันคยอง!!~~
“พี่ฮีชอล ฮันคยองบอกว่า ทรงผมใหม่พี่ไม่เห็นสวยตรงไหนเลย” คยูฮยอนร้องลั่นพลางวิ่งไปหาฮีชอลที่นั่งอ่านหนังสืออยู่โซฟา ก่อนจะเริ่มฟ้องการกระทำของฮันคยองที่ตัวเองคิดและสร้างมันขึ้นมาเอง ฮันคยองมองตามอย่างอึ้งๆ และเริ่มพอจะเดาได้ ว่าชะตากรรมของตัวเองกำลังจะเป็นยังไง...
“ฮันคยอง นายคิดว่านายหล่อนักหรือไงห๊ะ!!!!!!!!!!”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น