ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [Feel The Love] Chapter 9
[Feel The Love] 9
ความคิดถึง...ความห่วงหา...
สื่อกันได้ทางหัวใจ...ของคนสองคน
หากมีตัวแทน...
ก็ไม่สามารถทดแทนความอบอุ่นที่เคยได้รับ...
เพราะ ความรักของคนเรา มักฝังใจกับใครคนนั้นเสมอ
แม้มีใครคนอื่นดูแลไม่ห่างอยู่ก็ตาม...
“ไปจีน!!! ไปทำไม” คยูฮยอนร้องลั่นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเจือไปด้วยความงอแงบวกด้วยความเอาแต่ใจ เมื่อได้ยินคำพูดที่เอ่ยออกมาจากร่างสูง
“ไปทำงาน...แล้วก็กลับบ้าน” ฮันคยองเอ่ยเสียงเรียบแต่เรียวปากกลับยิ้มกริ่ม ชอบใจจริงกับท่าทางงอแงของคนตรงหน้า แกล้งสักหน่อยจะเป็นอะไรหรือเปล่าน้า...
คยูฮยอนจากที่ตอนแรกกำลังจะอ้าปากเถียงกลับกลับด้วยความเอาแต่ใจสักหน่อย แต่ก็ต้องเงียบและพับเก็บความคิดดื้อดึงของตัวเอง เมื่อได้ยินว่าร่างสูงจะต้อง ‘กลับบ้าน’ จะเอาแต่ใจดึงดันให้คนตรงหน้าต้องหงุดหงิดทำไมกัน ก็แค่กลับบ้านนี่นา...
“จะไปด้วยหรือไง...” ฮันคยองเอ่ยถามก่อนจะเลิกคิ้วยียวน ที่นั่งชิดกันในตอนแรก ตอนนี้กลับใกล้ขึ้นไปอีก ใกล้กันจนคยูฮยอนแทบจะตกโซฟาอยู่แล้ว!!!
“หือ...จะไปด้วยทำไมเล่า...” เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก พลางยกมือเรียวขึ้นดันอกของร่างสูงที่ขยับตัวเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ
“งั้นคิดถึงใช่ไหม...”
“อืม...ฮะ!!! เปล่า....”เผลอหลุดปากออกไปว่าคิดถึง เมื่อรู้ตัวอีกที ร่างสูงข้างตัวก็ดึงร่างของตัวเองเข้าไปกอด กอดยาวนานที่ไม่มีการปฏิเสธเพื่อรับเอาไออุ่นกักเก็บไว้...
“ปล่อยได้แล้วน่า...” คยูฮยอนกล่าวอย่างอายๆ ถ้ามีใครมาเห็นเขา มีหวังคงโดนล้อไปทั้งวัน หากแต่ฮันคยองกลับยิ่งกระชับกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
“ปล่อยดิ...ไม่งั้นจะไม่ให้กอดอีกเลย!” กล่าวเป็นนัยน์เหมือนขู่ จนร่างสูงค่อยๆคลายกอด ก่อนจะจ้องมองใบหน้าขาวใสของคนร่างบางด้วยสายตาแวววาว
...นี้จะทำอะไรอีกเนี่ย
คยูฮยอนคิดในใจพร้อมกับหัวใจที่เต้นโครมคราม... หน้าของฮันคยองโน้มเข้ามาใกล้มากเรื่อยๆ ส่วนร่างบางก็ได้แต่หลับตาปี๋ ไม่ใช่ว่ากลัว... แต่ไอ้สายตาเจ้าเล่ห์แบบนี้ของฮันคยอง มันชอบทำเอาเขาแทบคลั่งต่างหาก...สบตากันทีไร หัวใจเกือบวาย...
“อะแฮ่ม!!~~ ฮันคยองไปเก็บของไปจีนได้แล้วมั้ง...” เสียงเข้มของหัวหน้าวงดังขึ้นขัดช่วงเวลาอันแสนหวานของฮันคยอง แต่กลับเป็นช่วงเวลาอันตรายของคยูฮยอน ร่างสูงถอนหายใจอย่างหน่ายๆ หากแต่คนในอ้อมแขนก็ได้แต่แอบขอบคุณหัวหน้าวงคนสวยอยู่ในใจ
...เกือบไปแล้วไหมล่ะ ขอบคุณคร้าบ... พี่ทึกกี้คนสวย << คยู >///<
...กะแล้วเชียวว่าต้องโดนขัด << ป๋า =___=’’’
...ทำอะไรก็อายฟ้าอายดินกันบ้างเถอะ!!! << ทึกกี้ -_-a
..........................................................
ในขณะที่ฮันคยองกำลังจัดเก็บข้าวของลงกระเป๋าเดินทาง ใจหนึ่งก็ไม่ค่อยอยากจะกลับจีนสักเท่าไร ทั้งๆที่เป็นบ้านเกิดของตัวเองแท้ๆ ทำยังไงได้ ก็ในเมื่อไม่อยากจะห่างจากเด็กดื้อจอมเอาแต่ใจ หากจะมีงานมารั้งเอาไว้ จึงจำใจต้องยอมกลับบ้านเกิดของตัวเองไปแต่โดยดี หัวสมองของฮันคยองว้าวุ่นไปหมด ไหนจะไปจีนตั้งเกือบอาทิตย์ แล้วใครกันจะดูแลเจ้าเด็กนี้ล่ะ ในเมื่อคนทั้งบ้านมัวแต่เอาใจ...และก็เอาใจ ถ้าไม่ขัดซะบ้าง เดี๋ยวก็จะติดเป็นนิสัย ชักไม่อยากจะไปจีนจริงๆแล้วล่ะสิ...
ขายาวก้าวออกจากห้องนอนก่อนจะก้าวเดินไปอย่างไม่รีบ จุดหมายคือที่ห้องรับแขก... สมาชิกคนอื่นๆอยู่กันไม่มากเท่าไร คิบอมและฮีชอลไปถ่ายละคร อีทึก อึนฮยอก ซองมิน และ คังอินไปจัดรายการวิทยุ ถ้าอยู่กันน้อยขนาดนี้...
...คงได้กอด
ร่ำลากันอยู่ใช่ไหมเนี่ย!!!~
“ฮันคยอง ถ้านายไม่อยู่ใครมันจะทำกับข้าวเนี่ย...” ชินดงบ่นอุบพลางหยิบขนมเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ฮันคยองมองยิ้มๆก่อนจะเอ่ยแซวไปตามประสา
“ให้คยูฮยอนทำไง... กินมาม่าไปสักอาทิตย์คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง คิดซะว่าลดน้ำหนักไปในตัว” เอ่ยแซวแบบสองแง่สองง่าม เหมือนเป็นห่วงเป็นใย แต่กลับแขวะคยูฮยอนไปซะงั้น... ชินดงหัวเราะรวนในขณะที่คนรับฟังอีกคนกลับนั่งหน้ามุ่ยพลางเบือนหน้าหนีอย่างอนๆ
“จะไปไหนก็ไปเลยไป” คยูฮยอนบ่นพึมพำ แต่ก็ดังพอที่คนรู้ทันอย่างฮันคยองจะได้ยิน ร่างสูงเดินเข้าไปหาร่างบางที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือหนาไปจับข้อมือของร่างบาง พลางก้าวฉับๆไปที่หน้าประตูบ้าน...
คยูฮยอนตวัดสายตาของอย่างเคืองๆ พลางสะบัดมือหนี ฮันคยองยักยิ้มที่มุมปากก่อนจะเลิกคิ้วยียวนกวนประสาทตามแบบฉบับ
“มีอะไรอีกเล่า...ไปๆซะทีซิ จะไปเล่นเกมส์...” คยูฮยอนเอ่ยเสียงดุพลางยืนกอดอกไม่ชอบใจ ฮันคยองมองยิ้มๆ พองแก้มซ้ายขึ้นก่อนจะยกนิ้วเรียวขึ้นชี้แก้มของตัวเอง ดวงตากลมโตจับจ้องมองใบหน้าคมคายอย่างงงๆจนคิ้วเรียวสองข้างขมวดเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว...
“อะไร...” ถามกลับด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของคนตรงหน้าแล้ว เรื่องที่สงสัยอยู่ก็ค่อยๆกระจ่างขึ้นทีละน้อย...
“หอมแก้มพี่หน่อยสิ” ฮันคยองเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน หากแต่คนตรงหน้ามีเพียงหน้าบึ้งตึงมอบกลับไปเท่านั้น ร่างสูงจึงบ่นพึมพำไปเรื่อย...
“ไม่เจอกันตั้งอาทิตย์...จะไม่คิดถึงกันเลยหรอ...”
“หอมแก้มลากันก็ยังดี...”
หนึ่งคำอ้อนสองคำอ้อนก็แล้ว ร่างบางก็ยังเฉยอยู่ดี แล้วคราวนี้ร่างสูงจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ???
“เฮนรี่ก็กลับจีนกลับพี่ อ๊ะ!!! สงสัยคงรออยู่ที่สนามบินนานแล้วมั้ง...”
“พี่เดี๋ยว...หลับตาก่อน...” แผนขั้นเด็ดขาดที่ใช้แล้วได้ผลทุกครั้ง ยังคงใช้ได้ดีอยู่เหมือนเดิม คยูฮยอนหันขวับมามองหน้าฮันคยองตาขวาง พลางจิ๊ปากไม่สบอารมณ์นัก...ฮันคยองหลับตาตามที่คยูฮยอนบอกแต่โดยดี...หากแต่ในใจก็คิดอยู่ว่า เด็กดื้อจะแกล้งอะไรเขาอีกหรือเปล่า...
“พี่ชิน...” พูดยังไม่ทันขาดคำ คำว่า ชินดง กำลังจะหลุดออกจากปากแท้ๆ หากแต่...
“อื้อ....” ฮันคยองก็ดึงร่างของคยูฮยอนเข้าไปกอด ก่อนจะฝังจมูกโด่งๆลงบนแก้มใสของร่างบาง สูดเอาความหอมจนเต็มปอดก่อนจะที่ร่างบางจะสะบัดตัวออกไปเอง หน้าขาวซีดของคยูฮยอนแดงระเรื่อขึ้นมาแทบจะในทันที
ที่เขาจะเรียกชินดงเมื่อกี้ ก็เพื่อจะให้ชินดงมาหอมแก้มฮันคยองแท้ๆ แต่สุดท้ายเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็รู้ทันเขาอีกจนได้...
“ถ้าพี่กลับมาแล้ว...ไอ้ผมทองๆเนี่ย หวังว่ามันคงจะกลายเป็นสีดำแล้วนะ...ผมดำเนี่ยน่ารักกว่ากันเยอะ...” ฮันคยองเอ่ยเสียงนุ่มพลางเอื้อมมือไปขยี้ผมนุ่มของคนที่เพิ่งขโมยหอมแก้มไปเมื่อครู่อย่างเอ็นดู... คยูฮยอนที่ตอนนี้ได้แต่อายจนพูดอะไรไม่ออก จึงพยายามกลับมารวบรวมสติอีกครั้ง...
“อืม...พี่ก็ด้วย ผมขาวเหมือนคนแก่ก็ย้อมกลับเถอะ แค่นี้หน้าก็แก่เลยวัยแล้ว คิกๆ...” คยูฮยอนเอ่ยพลางหัวเราะคิกคัก ฮันคยองมองดูคนตรงหน้าก็แอบหมั่นไส้อยู่น้อยๆ มันน่านักเด็กอะไรกัน....
“เดี๋ยวเถอะ คราวนี้จะไม่ใช่แค่หอมแก้ม แต่จะเป็น...จูบ!!!”
“ไปได้แล้วน่า...ตกเครื่องไม่รู้ด้วยนะ!!~~”
.
.
.
ขณะที่ฮันคยองลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปขึ้นรถของบริษัทที่มาจดรอรับ ร่างบางที่เอ่ยร่ำลากันเมื่อกี้ โบกมือร่ำลาพร้อมด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม เป็นกำลังใจชั้นเยี่ยมของฮันคยอง แต่ก่อนที่จะขึ้นรถไปนั้น เสียงทุ้มของใครบางคนก็เอ่ยแทรกเข้าสู่โสตประสาท
“ตั้งใจทำงานนะพี่...” ซีวอนเอ่ยเสียงเรียบพลางยักยิ้มที่เรียวปากบาง รอยยิ้มที่แปลกไปจากทุกครั้ง รอยยิ้มที่ดูแล้ว มันมีอะไรมากไปกว่าการให้กำลังใจ รอยยิ้มที่ดูแล้วไม่น่าไว้ใจ...
“ฝากดูแลคยูฮยอนด้วยล่ะกัน ฉันรู้ว่านายดูแลเขาแทนฉันได้ในช่วงอาทิตย์นี้...ซีวอน” ฮันคยองเอ่ยเสียงเรียบพลางยิ้มบางๆให้เพื่อนร่วมวง ก่อนจะก้าวขึ้นรถบริษัทไป...
...นายคงไม่คิดอะไรกับคยูฮยอนใช่ไหม ซีวอน
...ฉันห่วงเขา... รักเขามาก... จนไม่สามารถจะยอมเสียคยูฮยอนไปให้ใครง่ายๆ
...นายคือน้องชายร่วมวงฉัน ซีวอน นายคงไม่คิดทรยศพี่ชายของนายใช่ไหม???
เพราะรอยยิ้มเจ้ากรรมที่ซีวอนไม่เคยมี... ทำเอาฮันคยองคิดไม่ตก ขออย่าให้เรื่องที่เขาคิดอยู่เป็นความจริงเลย...
..........................................................
เช้าตรู่วันต่อมา คยูฮยอนตื่นขึ้นมาพบกับเตียงอีกเตียงที่ว่างเปล่า เพราะคนชอบขัดใจไปทำงาน ผ่านไปเพียงแค่วันเดียวทั้งๆที่ยังเหลือเวลาอีกตั้งนานกว่าที่จะได้เจอหน้าฮันคยองอีกครั้ง ทำไม...หัวใจมันถึงรู้สึกว้าเหว่เช่นนี้...
นอนก็ไม่หลับ พลิกตัวไปมาทั้งคืน ก็ถ้าไม่ได้เถียงหรือไม่ได้นั่งมองหน้ายียวนของฮันคยอง ก็ทำเอาอาการขี้เหงาของคยูฮยอนมันกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง...
...ทำไมมันรู้สึกคิดถึง ฮันคยอง มากขนาดนี้นะ???
“ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว คยู...คึดถึงเจ้าของหรือไง” ซองมินที่เห็นคยูฮยอนเดินลงมาจากห้องนอนด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับก็ที่อดจะเอ่ยแซวไม่ได้ คยูฮยอนตวัดสายตามองซองมินเล็กน้อยพลางเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“ไม่ได้กินกับข้าวฝีมือพี่ฮัน...สงสัยคงจะลงแดงตายไปก่อนล่ะมั้ง...” คำพูดเอ่ยแซวยังออกมาเรื่อยๆจากปากของร่างเล็ก ส่วนคนอื่นๆก็ต่างอมยิ้มกันไปกับท่าทางของเพื่อนร่วมวง
“เอ่อ...คยู เดี๋ยวอีกไม่กี่วันนายก็ได้เจอพี่ฮันอยู่ดี พี่ฮันไม่ได้ไปออกรบนะ ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิ” ดงเฮเสริมขึ้นมาอีกคน แต่ก็ไม่เป็นผล
ก็คนมันคิดถึง...จะมีใครเข้าใจผมไหม???!!!
“ยิ้มหน่อยสิ...” เสียงทุ้มเอ่ยพลางยื่นนิ้วเรียวมาวาดรูปรอยยิ้มที่ใบหน้าของร่างบาง ไล่ตั้งแต่แก้มใสผ่านริมฝีปากเป็นรูปรอยยิ้ม คยูฮยอนช้อนสายตามองอย่างอึ้งๆ ใช่แล้ว...พี่ชายคนดีของเขานั้นแหละ
แต่...ทำไม ซีวอนถึงกล้าแตะเนื้อต้องตัวเขาต่อหน้าคนอื่นล่ะ ที่สำคัญแตะที่ริมฝีปากของเขาด้วย!!!
“ครับๆ ยิ้มก็ยิ้ม” เอ่ยล่ำละลั่กพลางกรีดยิ้มกว้าง เพราะไม่อยากให้พี่ๆในวงต้องเป็นห่วง โดยเฉพาะ...ซีวอน...ที่ดูจะเป็นห่วงเขามากเป็นพิเศษ
“ค่อยน่ารักหน่อย....” ซีวอนกล่าวเสียงเรียบก่อนจะกดยิ้มที่มุมปากพลางยื่นมือหนามาจับศีรษะของคยูฮยอนโยกไปมาเบาๆ เพราะเอ็นดู รอยยิ้มนั้นถึงจะเห็นลักยิ้มไม่ชัดนัก แต่ก็พอที่จะทำให้คยูฮยอนสามารถฉีกยิ้มกว้างตามคำพูดและท่าทางของคนตรงหน้า หากแต่สายตาของคนอื่นๆ...กลับดูแปลกตาเสียเหลือเกิน ปกติก็เห็นแต่สองคนนี้เงียบๆใส่กัน แต่ถ้าเป็นฮันคยองกับคยูฮยอนล่ะก็...ค่อยว่าไปอย่าง
“เล่นกันน่ารักเชียว...คยูระวังพี่ฮันเขาจะหึงเอานะ” ดงเฮกล่าวพลางยิ้มเจื่อนๆ ดวงตาหวานมองสลับไปมาระหว่าง ซีวอนและคยูฮยอน ตกลงสองคนนี้มันยังไงกันแน่นะ ???
“พี่ฮันคยองเขาไม่หึงหรอก เขารู้ว่าผมกับพี่ซีวอนน่ะ เราเป็นพี่น้องกัน ใช่ไหมครับพี่ซีวอน!!” คยูฮยอนเอ่ยพลางตักข้าวเข้าปากคำโต เคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มทั้งสองข้างพองออกมาเพราะข้าวที่มีอยู่เต็มปาก ก่อนจะหันไปยิ้มบางๆให้กับซีวอน แต่กลับต้องชะงัก เมื่อมือหนาเอื้อมมาหยิบเม็ดข้าวที่ติดแก้มออกให้...ถึงจะไม่ใจเต้น... ถึงจะไม่รู้สึกร้อนที่หน้า... แต่อากัปกิริยาของซีวอนมันดูจะแสดงออกมากเกินไป จนทำให้เขารู้สึกแปลกพอควร
“มากไปไหมเนี่ย...เอาๆ กินข้าวสิจะค้างทำไมเล่า...” เสียงดุดันของฮีชอลทำเอาสมาชิกที่นั่งอึ้งตะลึงงันมีสติกลับคืนมา...
...ก็นึกว่า ซีวอน ชอบ ฮีชอล แต่ไหงกลับดูแลคยูฮยอนจนออกนอกหน้าละเนี่ย???
“พี่ฮันคยองฝากผมดูแลคยูฮยอน ผมก็ต้องทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดสิครับ...” สิ้นเสียงของซีวอนมีเพียงความเงียบ สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ซีวอนและคยูฮยอนเป็นตาเดียว ที่นั่งทานข้าวข้างคยูฮยอนที่เคยเป็นของฮันคยอง ตอนนี้กลับมีซีวอนนั่งแทนที่ คนที่น่าจะดูแลคยูฮยอนมากที่สุดกลับเป็นซีวอนซะเอง...
...แต่ในเมื่อโอกาสมาถึง จะยอมสละโอกาสนี้ทิ้งไปเพื่ออะไร และ เพื่อเหตุใด ???
“ขอบคุณครับที่พี่ค่อยดูแลผม...แต่” คยูฮยอนเอ่ยก่อนที่ประโยคสุดท้ายจะขาดห้วงและไม่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปาก
“แต่...อะไร” ซีวอนทวนคำพูดของคยูฮยอนพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“อ้อ...ไม่มีอะไรหรอกครับ กินข้าวต่อเถอะ...” คยูฮยอนบอดปัด ทิ้งให้คำพูดของเขาคาใจซีวอน และ คนอื่นๆ
....................................................
ร่างบางหลับฟุบอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ภายในห้องนั่งเล่น อาจเพราะด้วยความที่เจ้าตัวนอนไม่หลับเมื่อคืน จึงส่งผลให้ความง่วงกลับมาทักทายเขาอีกครั้งในช่วงกลางวัน ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในห้องเพราะต้องการจะชวนน้องชายร่วมวงไปเดินเล่นแก้เซ็ง กลับต้องหยุดกึก ไม่อยากส่งเสียงดัง เพราะบางทีเจ้าเด็กที่นอนอยู่อาจสะดุ้งตื่นขึ้นมา...
ใบหน้าเรียวใสของคยูฮยอน สามารถดึงดูดให้ซีวอนก้าวเข้าไปเรื่อยๆ ใบหน้าใสราวกับเด็กไร้เดียงสา ผมสีดำนิลสนิทที่เพิ่งไปย้อมกับมาใหม่ดูน่าสัมผัส กลิ่นหอมละมุนลอยผ่านสายลมที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่ปิดค้างไว้ ร่างสูงโน้มหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากเรียว เพียงชั่วครู่ที่ได้รับกลิ่นหอมแบบใกล้ชิด มือหนาเอื้อมไปจับปอยผมที่ปรกหน้าของร่างบาง เสียงครางน้อยๆพร้อมๆกับการขยับตัวของคนตรงหน้า ทำเอาร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อย อดยิ้มไม่ได้กับหน้าตาใสซื่อของคนตรงหน้า
แต่...เสียงฝีก้าวถี่ๆของใครบางคนห่างออกไปเรื่อยๆ ตามด้วยเสียงกุกกักทำให้ซีวอนรู้ว่าคนเคยอยู่ในช่วงเวลาเมื่อกี้...
มีคนเห็นหรือ เหตุการณ์เมื่อครู่...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น