ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [Feel The Love] Chapter 10
[Feel The Love] 10
เพราะเพียงแค่อยากจะได้ใครคนหนึ่งมาครอบครอง
เมื่อการกระทำทุกอย่าง...
..ทำลายสิ่งสวยงามที่สร้างไว้
..ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจ
และ... ทำลายหัวใจของใครบางคน...
สำหรับเช้าวันใหม่วันนี้ ยังคงดำเนินไปในแบบเดิมๆ เมื่อฮันคยองไม่อยู่ กับข้าวทุกอย่างจึงต้องสั่งที่ร้านอาหารแทน หากแต่ความคิดเห็นในเรื่องเมนูอาหารประจำวันก็ยังไม่มีที่สิ้นสุด...
“วันนี้น่ะ กินหม้อไฟดีไหม” คังอินเสนอความคิดของตนเองต่ออีทึก ที่นั่งจัดตารางงานอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ไม่เอาล่ะ กินอาหารฟักทองดีกว่า...” ซองมินเอ่ยขัด พลางทำหน้าวิงวอนหัวหน้าวง อีทึกช้อนสายตามองสมาชิกในวงอย่างหน่ายๆ พลางส่ายหน้าน้อยๆ
“จะกินอะไรก็กินกันเถอะ จะเถียงกันทำไม” กล่าวจบ สายตาก็กลับไปจดจ่อกับตารางงานต่อ ทำไมถึงชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่กันก็ไม่รู้ จะกินข้าวก็ยังมาเถียงกัน...แถมยังอ้อนวอนเขาอีก
เฮ้อ!!~~ เดี๋ยวแม่จะสละตำแหน่งหัวหน้าวงให้ฮีชอลซะเลย!!! หึหึ มีหนาว...
“งั้นกินสเต็กเนื้อนะ...” คยูฮยอนว่าพลางส่งยิ้มแวววาวให้ลีดเดอร์
“แต่มันแพง” ซองมินที่ตอนแรกเถียงกับคังอินอยู่หยกๆก็หันขวับมาตามเสียง ก่อนจะร้องขัดยกใหญ่ ถ้าขืนคยูฮยอนเสนอความคิด พี่ๆในวงก็ต้องเห็นดีเห็นงามด้วยทุกที โดยเฉพาะ อีทึก ที่รักน้องยิ่งกว่าอะไร
“แพงก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย น้องจะกินอะไรก็ให้น้องมันกินเถอะ...” ไม่ทันที่ความคิดของซองมินจะถูกประมวลผลเสร็จ ความคิดที่คิดไว้ก็เป็นจริงในบัดดล
“พี่ก็เอาใจมันทุกที...ทีผมจะกินปูอลาสก้า พี่ก็ยังขัด พอคยูมันอ้อนนิดอ้อนหน่อย พี่ก็ตามใจมันอีกล่ะ โหย!!! กระต่ายเซ็ง!!!~
” ซองมินบ่นกระปอดกระแปดอย่างเหลืออด ตามใจๆๆๆๆ ตามเคย เมื่อไรพี่ฮันคยองจะกลับมาสักที...
ซองมินฟึดฟัดเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปด้วยความหงุดหงิด ส่วนคยูฮยอนก็ได้แต่นั่งหัวเราะกับท่าทางที่ไม่สมกับวัยของซองมิน...
- - - rrrRRRrrr - - -
เสียงโทรศัพท์มือถือของคยูฮยอนดังขึ้นในขณะกำลังจะเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อทานข้าว แอบหงุดหงิดเล็กน้อยที่มีใครโทร.มาตอนกำลังจะได้สวาปาม หากแต่เมื่อมือเรียวยกมือถือขึ้นเพื่อดูว่าใครโทร.เข้า อาการหงุดหงิดเมื่อกี้ ก็สลายหายไปกับความหิว...
‘พี่ฮันคยอง ขี้เก็ก!!!’
ชื่อที่เมมไว้แบบกวนๆ หากแต่เพียงเห็นชื่อนี้ ก็ทำเอาหัวใจพองโตไปถึงไหนต่อไหน
“ฮัลโหล...” เอ่ยเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆปรากฏสู้ใบหน้า
(คยูฮยอน เป็นไงบ้าง กินข้าวยัง) เสียงปลายสายดังขึ้น ทำเอาตัวเองรู้สึกอิ่มไปในทันที
“กำลังจะกิน แต่พี่โทร.มาขัดก่อน” ว่าพลางนั่งอมยิ้มไปเรื่อยๆ จนลืมเรื่องทานข้าวไปในทันที
(งั้นวางล่ะ) ฮันคยองที่กำลังจะเข้าฉากถ่ายรายการก็อดจะยิ้มไม่ได้ ได้ยินเสียงแบบนี้ทีไร กำลังใจมันก็พุ่งสูงอยู่เสมอ
“เฮ้!!! พี่จะวางทำไม” คยูฮยอนร้องลั่น ทำเอาปลายสายแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่ทัน
(ก็บอกว่าขัด ก็นึกว่าไม่อยากคุยด้วย) กล่าวเสียงเรียบทำเอาคนที่รับฟังใจเสียไปเล็กน้่อย มือเรียวของข้างจับโน้นจับนี่ไปเรื่อย เพื่อแก้เขิน ทำเอาคนอื่นๆที่เฝ้าดูเหตุการอยู่ห่างๆ อดจะยิ้มตามไม่ได้
“อยากสิ...” คยูฮยอนกล่าวน้ำเสียงงอแง พยายามรวมรวบความกล้าอยู่หลายนาทีกว่าจะกล้าพูด เอาเถอะ!!! เขาจะได้รู้ว่าเรารู้สึกยังไง
(งั้นหรอ..)
“คิดถึงพี่จัง” ฟังเพียงเท่านั้น ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็จางหายไป ฮันคยองยิ้มบางๆที่เรียวปาก นี่เป็นครั้งแรก...ที่คยูฮยอนพูดแบบนี้กับเขา คำว่า ...คิดถึง...
(พอดีงานเสร็จเร็ว พรุ่งนี้อาจจะได้กลับ)
“จริงหรอ” คยูฮยอนเบิกตากว้างก่อนจะถามกลับด้วยความตื่นเต้น
(จริงสิ พี่จะโกหกทำไม)
“อืม... มาเร็วๆนะ อยากเห็นหน้าพี่แล้ว” ว่าเสียงใส ทำเอาคนรับฟังหัวใจแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วันนี้มาแนวไหนล่ะ คยู...
(ย้อมผมดำยัง) กล่าวเปลี่ยนประเด็นเพราะกลัวตัวเองจะฉีกยิ้มกว้างจนเมื่อยซะก่อน
“ย้อมตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว พี่ล่ะ”
(ย้อมแล้ว)
“หึหึ พี่จะได้ย้อนวัยกับเขาสักที” คยูฮยอนเริ่มแขวะ พลางหัวเราะคิกคัก
(อะไรกัน พี่ยังหนุ่มอยู่เลย)
“อายุน่ะใช่...แต่หน้าตาไม่ใช่...”
(วางสายดีไหมเนี่ย) ฮันคยองเอ่ยน้ำเสียงเคืองๆ เพื่อแกล้งคยูฮยอนกลับบ้าง คราวนี้เล่นเอาคยูฮยอนแทบจะนั่งไม่ติดพื้น...
“อย่าเพิ่ง...ให้ผมพูดอะไรก่อน” เอ่ยเสียงติดขัด มือเรียวยกขึ้นจับที่หน้าอกข้างซ้ายสัมผัสถึงหัวใจที่เต้นแรงกว่าทุกครั้ง...
(อะไรอีกล่ะ จะขอของฝากหรือไง) ทั้งที่ใจเฝ้ารอแต่กลับเอ่ยวาจาไม่้เข้าหูตามประสา หากแต่ครั้งนี้ คนรับฟังไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิด
“เปล่า... ก็แค่อยากจะบอกว่า...”
//คยูฮยอนมากินข้าวได้แล้ว...// เสียงของซีวอนดังขัดช่วงเวลา คยูฮยอนถอนหายใจอย่างหน่ายๆ อุตส่าห์กล้าๆแล้วเชียว...!!~~
แต่ไม่ใช่แค่คยูฮยอนที่โดนขัด...
//คุณฮันคยองค่ะ ได้เวลาถ่ายทำแล้วค่ะ// เสียงทีมงานสาวคนหนึ่ง ร้องเรียกให้ฮันคยองที่นั่งยิ้มอยู่ที่เก้าอี้ภายในห้องแต่งตัว ร่างสูงจิ๊ปากหงุดหงิด ก่อนจะปรับเสียงให้กลับมาเป็นปกติ...
(คยูฮยอน พูดมาสิ พี่รอฟังอยู่...)
“ถ้าพี่กลับมาผมค่อยบอกล่ะกัน” คยูฮยอนที่ตอนนี้ความกล้าหายวับไปกับเสียงของซีวอน บอกปัดอย่างเสียดาย ส่วนคนปลายสายก็แอบอารมณ์เสียไปเหมือนกัน เด็กดื้อของเขาจะบอกอะไรกันนะ???
(อืม...พี่รักเด็กดื้อนะ) เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจก็กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ทุกระบบในร่างกายทำงานรวนไปหมด...
“ตะ...ตะ...ตั้งใจทำงานนะ” เอ่ยน้ำเสียงตะกุกตะกักพลางยิ้มอย่างมีความสุข
(ครับเด็กดื้อ!!~~)
พอกดวางสาย เสียงฝีเท้า... เสียงเลื่อนเก้าอี้.. ดังโครมคราม ถ้าให้คยูฮยอนคิด... แน่นอน พี่ๆทั้งหลายแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์กับฮันคยอง เมื่อเดินเข้าไปในครัว พี่ๆในวงก็พากันนั่งทานข้าวด้วยท่าทางที่แปลกไปกว่าทุกครั้ง... เงียบกริบ... ซึ่งปกติ มันต้องมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของซองมินและดงเฮดังสลับกันไปตลอด
“ทำไมเงียบกันจังล่ะครับ” และในทันใดนั้น...!!!
“เฮ้!!! ซองมิน ฮยอกแจนอนห้องเดียวกันเป็นไงบ้าง...” ดงเฮว่า
“ดงเฮ นายเคยดูการ์ตูน เรื่องนี้ป่ะ อะไรนะ... อ้อ...เคโรโระ...” ซองมินว่า
“ชินดง กินเยอะๆซะ จะได้อ้วนๆ น่าใช้แรงงาน...” ฮยอกแจว่า
“อ้วนไม่อ้วนพวกนายก็ใช้แรงงานฉันอยู่ดี...” ชินดงว่า
“คังอิน ว่างๆนายก็ช่วยฉันจัดตารางงานบ้างสิ ฉันก็เหนื่อยเป็นนะ...” อีทึกว่า
“ทึกกี้ก็ หมีขาวก็จะช่วยอยู่ แต่พอดี คนมันเป็นซูเปอร์สตาร์ งานเลยรัดตัว...” คังอินว่า
“เงียบ!!!!!!!!!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายเมื่อครู่ เงียบกริบลงในทันใด ด้วยอำนาจพลังเสียงของ ฮีชอล... คยูฮยอนที่ตอนแรกหัวเราะร่าก็ต้องหุบยิ้มอย่างช่วยไม่ได้...
...น่ากลัวชะมัด!!!!!!
“แหกปากยังกะัตลาดแตก...กินข้าวซะสิ”
สิ้นเสียง... บนโต๊ะอาหารที่ตอนแรกมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวดังลั่น ก็กลับเงียบลงและกลับสู่สภาพเดิม...
..........................................................
ร่างโปร่งเดินทอดน่ิองไปยังห้องรับแขก ที่ซึ่งสมาชิกทุกคนกำลังพักผ่อนสบายใจ หากแต่ขายาวสองข้างเป็นต้องหยุดกึก เมื่อสายตาเบนไปเจอะกับร่างเพรียวที่ยืนพิงประตูอยู่ ใบหน้าสวยราวอิสตรียักยิ้มทีุ่มุมปากอย่างเย้อหยัน สายตาเฉียวคมตวัดมองร่างโปร่งตรงหน้าพลางหัวเราะในลำคอ คนถูกจ้องมองกลับด้วยสายตาว่างเปล่า นึกสงสัยอยู่ในใจ เหตุใดคนสนิทตรงหน้าถึงได้ส่งสายตาแบบนี้ให้กับเขา...
“มันไม่มากไปหน่อยหรอ...” ฮีชอลเอ่ยเสียงเย็นพลางจ้องหน้าซีวอนด้วยสายตาบอกอารมณ์ไม่ถูก
“พี่ต้องการจะสื่ออะไร” ร่างโปร่งถามกลับอย่างไม่เข้าใจ คิ้มหนาสองข้างขมวดเข้าหากันแทบจะในทันที ร่างเพรียวหัวเราะเหยียดก่อนจะเอ่ยคำพูดในคนตรงหน้าตาสว่าง
“ของๆคนอื่น ยังไงมันก็ต้องเป็นของๆคนอื่นอยู่วันยังค่ำ” คำพูดเสียดแทงที่ออกมาจากปากของฮีชอลทำเอาซีวอนรู้สึกราวกับเข็มหลายเล่มทิ้มแทงเข้าที่หัวใจ เจ็บจนไม่รู้จะเอ่ยถ้อยคำอะไร ทำได้เพียงแต่เม้นริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรง
“และถ้ายิ่งจิตใจของสิ่งนั้น ได้ตกไปอยู่ในหัวใจของเจ้าของมันแล้ว จะใช้วิธีนับร้อยวิธี สิ่งๆนั้นก็ไม่มีทางถูกแย่งมาเป็นอันเด็ดขาด...”
“ผมเคยคิดว่าผมไม่ต้องการอะไรจากคยูฮยอน...แต่ตอนนี้ ผมต้องการทั้งร่างกายและหัวใจของเขา...ผมต้องการเขา พี่เข้าใจไหม!!!...”
เพี๊ยะ!!!!!!
ใบหน้าคมคายหันไปตามแรงของคนตรงหน้า มือหนายกขึ้นจับแก้มของตัวเองที่โดนร่างเพรียวตบเข้าที่หน้าเต็มแรง ฮีชอลจ้องหน้าซีวอนด้วยสายปวดร้าว ทั้งเจ็บปวด...ทั้งเสียใจ...
“ถ้านายไม่นึกถึงฮันคยองเขา ก็นึกถึงจิตใจของคยูฮยอนเขาบ้างสิ นายก็น่าจะรู้ว่าสภาพจิตใจเขามันแย่ขนาดไหน...” ฮีชอลกล่าวน้ำเสียงสั่น มือไม้กำแน่นจนแดงไปหมด นึกสงสารคยูฮยอนมากที่สุด ฮีชอลรู้ตลอดว่าเวลา คยูฮยอนรู้สึกโกรธ รู้สึกเสียใจ หรือ เมื่อมีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ อาการปวดหัวของคยูฮยอนก็จะกำเริบตลอดเวลา อาจเป็นเพราะ เรื่อง อุบัติเหตุ แต่เขาไม่เคยบอกฮันคยอง เพราะ คยูฮยอนห้ามเอาไว้ ถ้าหาก เรื่องที่ฮีชอลกำลังคิดคาดเดาเกิดเป็นจริงขึ้นมา คยูฮยอนจะเป็นอย่างไรล่ะ...
“ผมรู้...แล้วผมก็จะรักษาเรื่องเลวร้ายของเขาเอง...ผมนี่แหละจะเป็นคนดูแลเขา ดูแลหัวใจของเขา” ซีวอนกล่าวเสียงเรียบพลางหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้าที่ดูเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน...
“แต่...คยูเขารัก ฮันคยอง ไม่ใช่นาย...”
“เรื่องนี้ผมรู้ดี ผมรู้ว่าเขารักฮันคยองมากแค่ไหนและฮันคยองรักคยูฮยอนมากแค่ไหน แต่ผมก็รักเขามากไม่น้อยไปกว่าใคร...”
“ซีวอนที่ฉันเคยรู้จักคนนั้น มันหายไปไหนแล้ว...”
................................................................
แต็ก แต็ก...
มือเรียวของคยูฮยอนพิมพ์ข้อความบันทึกลงบนไซเวิร์ดของตัวเอง ว่างทั้งวันว่างจนไม่รู้จะทำอะไร ไหนจะอึดอัด นอนไม่หลับที่ ฮันคยองไม่อยู่ ยิ่งทำให้ข้อความในไซเวิร์ดของเขายาวเฟือยไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดที่บรรทัดใด...
KyuHyun’s Diary
เหงา...
เบื่อ...
คิดถึง...
ทำไม... พระเจ้าถึงชอบแกล้งให้ผมต้องกระวนกระวายใจด้วยครับ
ความเหงา... มันเล่นงานผมจนผมไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรแล้ว...
แถมยังจะไอ้เจ้า ความคิดถึงอีก... ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย
ความคิดถึงที่มากจนเอ้อล้นขนาดนี้...
มากจนผมนอนไม่หลับ กินข้าวไม่ลง
เนี่ย...ท่าเป็นอย่างงี้ เจ้าของแมวตัวนี้ ขอความกรุณาอย่าทำให้แมวของท่านต้องเหงาเลย
กลับมาดูแล แมวของท่านเร็วๆเถอะ...
ผมคงพล่ามพอแล้วล่ะ...
คิดถึงจัง!!! พี่บ้า!!~~~
จาก... ลูกแมว ของ คนจีน!!
“พี่ซีวอนหน้าไปโดนอะไรมาอ่ะ แดงเถือกเลย” คยูฮยอนที่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์บังเอิญหันหน้ามาเจอะกับซีวอนที่เดินจับแก้มของตัวเองเข้าในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางแปลกๆ เป็นต้องร้องลั่น ก่อนจะักระวีกระวาดหายาทาให้ซีวอนยกใหญ่
“เจ็บไหม...” คยูฮยอนถามเสียงแผ่วเมื่อเอายาทาที่รอยแดงบนหน้าของซีวอน ร่างสูงส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะนั่งนิ่งต่อไป
...เจ็บที่ร่างกายไม่เท่าไรหรอก คยูฮยอน แต่ที่ใจสิื...
“แล้วไปทำอะไรมาเนี่ย” ว่าพลางนั่งลงข้างๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับแก้มของซีวอนอย่างเบามือ หากแต่คำตอบก็คือความเงียบ ร่างบางถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อจะเดินกลับประจำตำแหน่งเดิม คือ หน้าจอคอมพิวเตอร์
หมับ!!!!
ยังไม่ทันที่ขาเรียวจะได้ก้าวออกจากตำแหน่งเดิม ร่างสูงก็โอบกอดร่างบางจากด้านหลัง คยูฮยอนสะดุ้งโหยงก่อนจะพยายามดิ้นจากอ้อมกอดที่ตนเองไม่ทันได้จะตั้งตัวรับความอบอุ่นนี้ไว้ คางหนาเกยที่ไหล่บางของคนในอ้อมกอดก่อนจะโอบรัดในแน่นมากขึ้น...
“พี่ปล่อย...” คยูฮยอนเอ่ยด้วยความตกใจก่อนจะดิ้นสุดชีวิตอีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็สู้แรงของซีวอนไม่ได้อยู่ดี
“พี่ซีวอนปล่อย!!!”
“พี่รักนายนะ คยูฮยอน...”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น