คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Side Story : เรื่องราวของฟ้าไฟ (1) : นักเรียนใหม่อีกคน
Side Story : เรื่องราวของฟ้าไฟ (1) : นักเรียนใหม่อีกคน
Time line : ย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์ปัจจุบันประมาณ 2 อาทิตย์
“ฮ้าวว แจ๊บ แจ๊บ…..”
อาโอมิเนะ ไดกิ เด็กหนุ่มผิวคล้ำรูปร่างสูงใหญ่วัย 16 ปี นักเรียนโรงเรียนเทย์โคคุ มัธยมปลายปี 1 ห้อง F ความสามารถทางกีฬาจัดว่าเป็นเลิศถึงขั้นอัจฉริยะ ผู้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเอสของทีมแห่งปาฏิหาริย์ แต่ชื่อเสียงเหล่านี้กลับไม่มีความหมายเมื่ออยู่ในห้องเรียน ใช่ หลังจากมาโรงเรียนในตอนเช้าเขาจะตรงเอากระเป๋า(ซึ่งแทบไม่มีหนังสือเรียนอยู่เลย)มาไว้ที่ห้องก่อนจะอันตรธานหายไปนอนเอกเขนกอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนด้วยความสุขใจจนถึงตอนพักเที่ยง(ลงมากินข้าว และกลับขึ้นไปใหม่ = =”)
แต่วันนี้กลับต่างออกไป เมื่อบรรดาอาจารย์ฝ่ายปกครองหน้าโหดผนึกกำลังไปยืนดักอยู่ทางขึ้นดาดฟ้าแทบทุกทางที่เป็นไปได้ เด็กหนุ่มจุ๊ปากอย่างหงุดหงิดขัดใจ ไม่ใช่ว่าเขากลัวอาจารย์ฝ่ายปกครองหรอก แต่การโดนจับได้และบทลงโทษมันไม่น่ารื่นรมนัก ยิ่งกับเขาที่การบ้านแทบไม่เคยจะทำยิ่งลืมไปได้เลย ระหว่างทางที่ถอดใจหันหลังเดินกลับห้องเขาก็เจอกับอาจารย์ประจำชั้นหน้าตาจิ้มลิ้มที่คงจะเดินมาตามเขาพอดี เหอะ บางทีอาจารย์ฝ่ายปกครองพวกนั้นคงจะโดนเธอขอร้องมานี่แหละ เป็นเขาก็คงใจอ่อนยอมทำตามคำร้องขออย่างรวดเร็วอยู่หรอก หน้าหวานแถมคัพ F ขนาดนั้น เป็นใครก็เคลิ้ม+อยากจับกันทั้งนั้นแหละ คิดแล้วก็นึกถึงไมจังที่เข้าแอบซ่อนเธอ(หนังสือ)ไว้บนดาดฟ้าซะจริง
“มาพอดีเลยอาโอมิเนะคุง” เสียงหวานเอ่ยทักลูกศิษย์ตัวดีอย่างจงใจ
“………….” เงียบ…
“อาโอมิเนะคุง?” เธอเอ่ยทักขึ้นอีกรอบหลังจากเด็กหนุ่มตรงหน้าแน่นิ่งไป แต่เมื่อมองไปที่แววตาของลูกศิษย์ตัวดีก็ทำให้เธอเข้าใจ เจ้าเด็กแสบมันกำลังจ้องหน้าอกเธออยู่!
“ไอ้เด็กลามก! นี่แหนะ!! กลับเข้าห้องเรียนกับฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”
“โอ๊ยยยยย!!! เจ็บๆๆๆ เจ๊บบบบ!! ทำอะไรของเธอเนี่ยหา!!? อ๊ากกกก” เด็กหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่ออาจารย์สาวผู้น่ารักกลายร่างเป็นนางยักษ์ขมูขีดึงหูเขาให้เดินตามกลับห้องเรียนเขาจึงจำใจต้องรีบเดินตามให้ทันไม่งั้นมีหวังได้หูฉีกจริงๆแน่
“แค่นี้ก็เรียบร้อย เอ้า กลับไปนั่งที่ซะ วันนี้มีนักเรียนย้ายมาใหม่ ฉันอยากให้ห้องเรียนของเราดูดีจะได้เป็นที่ประทับใจของเขาแต่แรกเห็น เพราะฉะนั้นกรุณาให้ความร่วมมือด้วยนะยะ อาโอมิเนะ ไดกิคุง เอสของชมรมบาสผู้โด่งดัง(ในทางเสียหาย)”
อาจารย์สาวพูดแดกดันเสร็จก็เดินออกทางประตูหลังห้องพร้อมล็อคจากข้างนอกทันทีจากนั้นจึงเดินไปเข้าประตูหน้าห้องแล้วหันมายิ้มให้นักเรียนทุกคน แต่เฉพาะเด็กตัวปัญหาที่เธอส่งยิ้มอย่างผู้มีชัยมาให้ เด็กหนุ่มถึงกับสบถด้วยความเซ็งแล้วเดินกลับไปนั่งที่พร้อมกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะตามนิสัย จริงๆแล้วใช่ว่าเขาจะนิสัยเกเรซะหน่อย แต่การเรียนเมื่อเทียบกับการเล่นบาสแล้วมันที่สุดของอภิมหาความน่าเบื่อในความคิดเขาเลยทีเดียว อีกอย่างก็ไม่ได้จะตื่นเต้นอะไรนักหนา ในเมื่อคนที่จะย้ายมาน่ะมันเพื่อนเก่าสมัยประถมที่คุ้นเคยกันดี จริงๆก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้วแต่มันดันส่งเมสเซจมาถามย้ำให้แน่ใจเป็นร้อยๆครั้งว่าเขาเรียนอยู่โรงเรียนนี้รึเปล่า ก็เป็นอันรู้กันว่ามันจะย้ายมา ชิ ไหนละเรื่องตื่นเต้น? น่าเบื่อชะมัด...
“ฮ้าวว แจ๊บ แจ๊บ….”
เขาจงใจส่งเสียงหาวและเสียงสูดน้ำลายให้ดังขึ้นอีกครั้งอย่างกวนอารมณ์ และมันก็ได้ผลเมื่ออาจารย์สาวหน้าห้องที่ถึงแม้ใบหน้าจะยิ้มแต่เส้นเลือดข้างขมับปูดออกมาอย่างน่ากลัว เธอพยายามรวบรวมสติก่อนจะกลับมายิ้มหวานได้เหมือนเดิมพร้อมกับเสียงสดใสที่ส่งไปเรียกนักเรียนใหม่ให้เข้ามาในห้อง
“เข้ามาได้เลยจ้ะ”
ครืดดดด
“กรี๊ดด ว๊ายย ดูเขาสิสูงจังเลยเนอะ ><”
เสียงบรรดานักเรียนสาวดังกระซิบกระซาบอย่างตื่นเต้นเมื่อนักเรียนใหม่เดินเข้ามาในห้อง เด็กหนุ่มที่ฟุบหน้าอยู่ได้แต่ถอนหายใจ ความวุ่นวายเมื่อสมัยประถมกำลังจะกลับมา…
“สูงพอๆกับอาโอมิเนะคุงเลย เค้าเล่นบาสด้วยรึเปล่าน๊า”
เห…ไม่เลวนี่คิเสะ ถ้าเล่นจริงลองมาเจอกันหน่อยเป็นไง…
“ผมสีแดงสลับดำแบบนั้นดูเท่จังเลยเนอะ >//<”
หืม?....ได้ยินว่าเจ้านั่นทำงานเป็นนายแบบด้วย คงย้อมสีผมล่ะมั้ง…
ฮ้าววว อืม..ท่าจะง่วงจริงๆแล้วแฮะ…..zZ
จ๊อกแจ๊กกกๆ
เสียงซุบซิบยังคงดังเซ็งแซ่ต่อไปพร้อมกับเด็กหนุ่มร่างสูงที่เริ่มเคลิ้มหลับ แต่แล้ว….
โป๊กกกกกก!!? โครมมมม!
“โอ๊ยยย อะไรฟะ!!?”
อาโอมิเนะ ไดกิ สะดุ้งสุดตัวแหกปากโวยวายหาเรื่องทันที มือแกร่งเอื้อมไปลูบทายทอยป้อยๆ เจ็บหยั่งกะโดนไม้ฟาดนี่มันอะไรกันวะ!
“อูยย…เอ่อ sorry “
คนที่น่าจะเป็นคู่กรณีดูสภาพแล้วน่าจะแย่กว่า เพราะหลังจากแนะนำตัวหน้าชั้นเสร็จกำลังจะเดินกลับเข้าที่ดันสะดุดขาตัวเองลมหัวกระแทกกับคนที่กำลังฟุบหลับอยู่พอดี มิหนำซ้ำยังลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าให้น้ำตาเล็ดอีกต่างหาก
“ซอรี่(?)บ้านป้าแกสิ! มันเจ็บนะเฟ้ย!”
“ก็ซอรี่แล้วไง ยังไม่พอใจอีกเหรอฟะ!!”
“หนอยย!!.....”
“ยู๊ดดดด หยุดๆๆ หยุดเลยพวกเธอน่ะ แยกๆ ไปนั่งที่ได้แล้วไป๊ ทั้งคู่เลยนะ!”
อาจารย์สาวแผดเสียงขึ้นห้ามอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อเด็กหนุ่มผิวคล้ำตั้งท่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินมาดึงเสื้อเด็กหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ นี่มันอะไรกันเนี่ย พระเจ้าช่วยบอกลูกทีว่ามันไม่จริงใช่มั้ย!? แค่อาโอมิเนะ ไดกิคนเดียวก็รับมือไม่ไหวแล้ว ยังจะเพิ่มอีกคนมาให้ปวดหัวอีก ไปขอให้อาจารย์ใหญ่ช่วยเปลี่ยนห้องประจำชั้นให้ยังทันม๊ายยย T^T อาจารย์สาวคิดในใจอย่างร้าวราน….
เมื่อทั้งคู่ยอมกลับไปนั่งที่ตัวเองอย่างหงุดหงิด ทั้งอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นต่างพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เกือบจะได้พาเจ้าเด็กจอมโดดกับเจ้าคนที่เพิ่งเข้าใหม่ก็ไปมีเรื่องไปห้องปกครองซะแล้ว แหม ประวัติดีๆกันทั้งน๊านน….
หลังจากเหตุการณ์เข้าสู่ปกติอาจารย์สาวก็เริ่มต้นคาบเรียนด้วยความเร่งรีบเนื่องจากเสียเวลามานานมากแล้ว ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบ ตาเรียวคมสีน้ำเงินเข้มเหลือบมองเพื่อนข้างกายคนใหม่อย่างไม่สบอารมณ์ เส้นเลือดยังปูดและเต้นตุบๆอยู่ข้างขมับ ไอ้บ้านี่ พักเที่ยงเมื่อไหร่ต้องเจอกันหน่อย ว่าแต่มันเป็นใครวะ?
ฟากคนที่เพิ่งย้ายมาใหม่ก็หงุดหงิดพอกัน คิ้วสองแฉกขมวดมุ่น มือเรียวยังกุมสะโพกด้วยความเจ็บ แมร่มก็คนมันไม่ได้ตั้งใจนี่หว่าขอโทษไปแล้วยังจะเอาอะไรอีกวะ หาเรื่องกันชัดๆ พักเที่ยงคงต้องขอเคลียร์กันหน่อยแล้ว ว่าแต่มันเป็นใครเนี่ย กร่างชะมัด แถมยังจะนั่งข้างกันอีก ซวยกว่านี้ไม่มีแล้วโว้ย!
คิดแล้วให้แอบเหลือบมองคู่กรณีข้างกายแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อสบกับนัยน์ตาคมสีน้ำเงินที่จ้องมาอย่างอาฆาตแค้นอยู่ก่อนแล้ว เด็กหนุ่มจึงปรับสีหน้าให้เข้มขึ้นพลางส่งสายตาอาฆาตกลับ อุณหภูมิระหว่างทั้งคู่จึงร้อนระอุขึ้นอีกครั้งราวกับมีเปลวเพลิงสีน้ำเงินกับเปลวเพลิงสีแดงเข้มรายล้อมทั้งคู่เอาไว้ เพื่อนที่นั่งใกล้บริเวณนั้นจึงได้แต่คิดภาวนาในใจให้หมดคาบเร็วๆแล้วจะขออาจารย์ย้ายที่นั่งใหม่…
“แกเป็นใครวะ? ไอ้คิ้วสองแฉก ตลกเป็นบ้า ฮ่ะๆ” หลังจากจ้องกันได้พักใหญ่อาโอมิเนะก็เปิดปากกระซิบอย่างกวนอารมณ์คนฟัง
“หนวกหู! แล้วแกล่ะเป็นใครไอ้เถิก” ปากเรียวขยับหมุบหมิบเอ่ยตอกกลับอย่างกวนประสาท ทั้งสองจึงเข้าสู่โหมดชาวไซย่าอีกครั้ง…
……………………………
“ฉันจะถามแกอีกครั้ง แกเป็นใคร แล้วเอาเพื่อนฉันไปไว้ไหน…” อาโอมิเนะกระซิบเสียงเครียดพยายามระงับอารมณ์ที่กำลังคุกกรุ่น
“เพื่อนอะไรของแก ฉันเพิ่งย้ายมาใหม่ ไม่รู้เรื่องด้วยโว้ย!” คนโดนถามกระซิบตอบพลางขมวดคิ้วเข้มอย่างไม่พอใจ
“….งั้น..แล้วแกชื่ออะไรไอ้คิ้วสองแฉก” เมื่อคิดได้ว่าเพื่อนเก่าคงยังไม่ได้ย้ายมาหรือย้ายมาแล้วแต่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันอาโอมิเนะจึงเปลี่ยนเรื่อง ไม่เคยมีคนกวนโมโหเขาได้ขนาดนี้ ขอถามชื่อมันหน่อยเถอะ
“เรื่องอะไรฉันจะบอกแกไอ้เต่อ” ใช่ เรื่องอะไรจะบอกมันวะ พ่อแม่ไม่เคยสอนรึไงว่าก่อนจะถามชื่อใครให้บอกชื่อตัวเองก่อน!
“พ่อแม่ไม่เคยสอนรึไงว่าเข้าถิ่นใครให้บอกชื่อตัวเองก่อน” อาโอมิเนะเอ่ยบอกคนข้างกายหน้าตายเสียงเรียบ และมันก็ทำให้เด็กหนุ่มผู้มาใหม่ถึงกับสะอึก
พ่อแม่มันเป็นยากูซ่ารึงายฟร๊า!!!!!!!!!!!!!
โอ๊ยย เวรกรรมอะไรของตรูเนี่ยย อุตส่าย้ายมาจากอเมริกาทั้งที
ไม่น่าเลือกโรงเรียนใกล้บ้านเลยให้ตายสิ!!
“ไง เงียบไปนานเลยนี่ อย่าบอกนะว่าจำชื่อตัวเองไม่ได้?” เด็กหนุ่มหัวน้ำเงินเอ่ยหน้าตายแต่คำพูดกลับยียวนกวนเบื้องล่างจนทำให้นักเรียนใหม่ของเราทนไม่ไหวหลุดแหกปากดังลั่นห้อง
“แก๊!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“ว๊ายยตาเถร!? ป เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะคากามิคุง…”
นอกจากเพื่อนร่วมชั้นที่สะดุ้งสุดตัว อาจารย์สาวหน้าห้องก็มีอาการไม่แพ้กัน แปรงลบกระดานหล่นจากมือบางด้วยอารามตกใจให้ฝุ่นคละคลุ้งพร้อมกับหันมาเอ่ยถามเสียงหวาดๆ
“อ เอ่อคือ…..”
“คากามิงั้นเหรอ งั้นก็บากะมิสินะ!!! วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!” ยังไม่ทันที่คากามิจะตอบอาจารย์ เด็กหนุ่มหัวน้ำเงินที่รอจังหวะอยู่นานแล้วก็แทรกขึ้นทันทีอย่างสะใจพลางหันหน้าไปแสยะยิ้มเยาะเย้ยพ่อนักเรียนใหม่ที่กำลังเอามือกุมขมับ
เสร็จมัน!! ชื่อตรู๊!!!!!!! T^T
แต่เสียใจได้ไม่นาน เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างเขาบ้างแล้ว! เมื่อเสียงหวานของอาจารย์สาวดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้มุ่งตรงไปยังเด็กหนุ่มหัวน้ำเงินเข้าเต็มเปา
“อ อาโอมิเนะคุงด้วย ป เป็นอะไรเหรอ??”
“อาโอมิเนะ? เดี๋ยวก่อนสิ! ต้องเข้าใจผิดแน่ๆ!! เพราะจริงๆน่าจะชื่อ ’อาโฮ่’ มิเนะ มากกว่านะ!? แหม่ เพราะจริงๆ พ้องเสียงกับปลากระโห้ด้วย!! กร๊ากกกกกก 555555555555555++”
คากามิไม่รอช้าสวนกลับทันควันด้วยความสะใจพลางหันหน้าไปส่งยิ้มอย่างผู้มีชัยให้อาโอมิเนะ เด็กหนุ่มหัวน้ำเงินกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ นัยน์ตาเรียวคมสองคู่สบประสานราวท้าทายซึ่งกันและกัน แต่ยังไม่ทันได้พุ่งเข้าปะทะ เสียงประตูหลังห้องที่ล็อคจากข้างนอกก็เปิดผางออกอย่างแรงทันที พร้อมกับอาจารย์ฝ่ายปกครองร่างกำยำสี่คนเดินตรงมาล็อคตัวทั้งคู่แล้วลากออกจากห้องเรียนไปอย่างเงียบเชียบ……..
ใช่แล้ว ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วินาที อาจารย์สาวผู้น่าสงสารที่มือไม้ยังสั่นอยู่ได้ตะโกนให้หัวหน้าชั้นวิ่งไปตามอาจารย์ฝ่ายปกครองที่ยืนเฝ้ายามอยู่ตรงบันไดทางขึ้นดาดฟ้าให้รีบมาที่ห้องนี้นั่นเอง…….
TBC.
…………………………………………………………
Talks : ขอโทษที่หายไปหลายวันนะคะ ไรท์ติดอ่านตูนวายที่เพิ่งไปซื้อมา อ่านแล้วหมดสิ้นเรี่ยวแรงจะทำอะไรเพราะโลหิตจางกะทันหัน 55555 >.,< #โดนโบก #ข้ออ้างเรอะ
อืม… side story นี้กำเนิดขึ้นมาได้จากประเด็นหลักๆเลยคือ ตั้งใจจะเขียนเรื่องราวของฟ้าไฟรวมไปในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะเขียนในเนื้อเรื่องหลักก็จะดูยืดเยื้อและเขียนได้ไม่เต็มที่เท่าที่ใจอยากจะเขียนเลยมาบรรยายในนี้แทน 55555555 ก็เป็นจุดเริ่มต้นของอีกคู่หนึ่งที่น่ารัก(เหรอ) XD แบบไรท์ไม่ชอบที่อยู่ดีๆก็มารักกันเลย มันง่ายไปอ่ะค่ะอ่านแล้วไม่ค่อยอิน เลยอยากให้รู้เรื่องราวความเป็นมาบ้างนิดหน่อย ทั้งนี้ คู่นี้จะเปรียบเหมือนพ่อแม่ให้กับน้องครก.ในเรื่องหลักด้วย(รึเปล่านะ?) แล้วเหตุการณ์ก็เกิดพร้อมกันไปอะไรอย่างเงี๊ย >< (วาดฝันซะสวยหรู แต่จะทำได้มั้ยอีกเรื่อง XD)
อาจจะไม่สนุก แต่ไรท์อยากเขียน 5555 #โดนตบ แล้วอาจจะมีคนไม่ชอบคู่นี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ข้ามไปก็ได้ ในเรื่องหลักก็น่าจะมีกุ๊กกิ๊กพอประมาณ ก็รอข้ามไปอ่านตอนหน้าๆได้เลย 555 เรื่องของฟ้าไฟ (1) จะจบในตอนหน้าค่ะ แล้วจะไปเจอกันในชมรมบาสน๊า บอกแบบนี้อาจงงกันได้ ไม่เป็นไร อ่านๆไปเถอะเนอะ ขำๆค่ะ 5555 XD
Ps,,ปรับอารมณ์กันไม่ทันสินะ ตอนก่อนยังเหมือนจะดราม่าลึกลับกับอาคาชิซามะอยู่เลย ตอนนี้แบบ….. 555555 สำหรับใครที่คิดถึงนายน้อยก็อีกไม่นานเกินรอค่ะ มาเมื่อไหร่กลัวแย่งซีนคนอื่นเค้าจริงจริ๊ง ><”
Ps2,,เห็นเม้นแล้วดีใจ ขอบคุณที่อ่าน ขอบคุณที่เม้นนะคะ ^^
ความคิดเห็น