คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3 : ห้วงคำนึง (จากคนหนึ่งถึงอีกคน)
Chapter 3 : ห้วงคำนึง (จากคนหนึ่งถึงอีกคน)
“อาคาชิคุงคนโกหก…”
“…..!?.......”
“ผมจะไม่เชื่อใจอาคาชิคุงอีกแล้ว”
“เดี๋ยวสิเท็ตสึยะ!”
“ทำไม…ทำไมถึงชอบทำให้ผม…ฮึก…” หยาดน้ำใสไหลรินจากดวงตาคู่สวย มือเล็กยกขึ้นเช็ดแบบลวกๆ ดวงตาสีฟ้าแดงก่ำเงยสบมองคนตรงหน้าอย่างผิดหวังเศร้าสร้อย
อย่าทำหน้าอย่างนั้น…...อย่ามองฉันอย่างนั้นสิ….เท็ตสึยะ…..
“ผม…เกลียด…อาคาชิคุง…”
ไม่ ไม่!! ฟังฉันก่อนได้มั้ยเท็ตสึยะ!!?…….
“เท็ตสึยะ!!!?”
เปลือกตาบางเบิกโพลงพร้อมกับร่างสูงสมส่วนที่สะดุ้งลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว เหงื่อกาฬไหลชุ่มชุดยูกาตะสีดำ เรือนผมสีแดงเปียกชื้นเล็กน้อย เมื่อตั้งสติได้นัยน์ตาสองสีจึงกวาดมองไปทั่วห้องเห็นสาวใช้สามคนกำลังนั่งคุกเข่าข้างเตียงนอนกว้างใหญ่ จ้องมองเขาด้วยสายตากังวลและห่วงใย
“น นายน้อยเป็นอะไรรึเปล่าคะ ดิฉันเห็นท่านละเมอเสียงดัง เลยคิดว่าจะปลุก ต แต่บังเอิญนายน้อยตื่นขึ้นก่อน….” สาวใช้คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง แววตามองสำรวจอาการของผู้เป็นนายอย่างเป็นห่วง
“เปล่า ฉันแค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้น พวกเธอไปทำงานต่อเถอะ”
“ค่ะ”
ทั้งสามคนรับคำพร้อมกับลุกขึ้นยืนทำความเคารพและเดินออกจากห้องไป พวกเธอรู้ดีว่าเจ้านายไม่ชอบให้พูดซ้ำหลายครั้ง และหากเขาต้องการอะไรก็จะกดออดเรียกเอง ยกเว้นถึงเวลาอาหารหรือของว่างที่หัวหน้าแม่บ้านจะยกขึ้นมาให้เองไม่ต้องกดออดเรียก ดังนั้นตอนนี้ ในเมื่อนายน้อยคนสำคัญบอกว่าไม่เป็นไรก็คือไม่เป็นไร พวกเธอจึงมีหน้าที่เพียงออกไปรอเตรียมการรับใช้ก็เท่านั้น
หลังจากสาวใช้เดินออกไป ร่างสูงโปร่งก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตั้งใจจะเดินทะลุไปห้องแต่งตัวข้างๆเพื่อเปลี่ยนชุดใหม่ ในหัวคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ เขาจำได้ว่ากำลังนั่งอ่านรายงานอยู่แต่รู้สึกเมื่อยจึงเปลี่ยนอิริยาบถมานั่งอ่านบนเตียงนอนแทน สงสัยจะเผลอหลับไปตอนนั้น…..
ผม…เกลียด…อาคาชิคุง…
“ให้ตายสิ ช่างเป็นฝันที่น่ากลัวจริงๆ..”
เด็กหนุ่มสบถ ภาพของร่างบางที่กำลังร้องไห้ยังคงติดตา เขาสะบัดศีรษะเพื่อไล่ภาพนั้นออกไป เตรียมหยิบยูกาตะชุดใหม่ขึ้นสวม แต่แล้วก็เปลี่ยนใจหยิบเสื้อยืดสีขาว กางเกงกีฬาสีดำขึ้นมาสวมแทน
“ฉันทำงานต่อไม่ได้เพราะนายเลยนะ เท็ตสึยะ…” ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้อง ใหนๆแล้วก็ถือโอกาสพักไปเลยละกัน ออกกำลังกายหนักๆให้เหงื่อท่วมคงช่วยให้ใจเย็นลงได้
ณ ลานกว้างข้างคฤหาสน์ตระกูลอาคาชิ
เด็กหนุ่มเรือนผมสีแดงกำลังเลี้ยงลูกบาสไปมาอย่างคล่องแคล่วว่องไว ทั้งการวิ่งไปเลย์อัพหรือแม้กระทั่งการ ‘ดังค์’ เสียงรองเท้าเสียดสีกับพื้นสนามหวีดหวิวราวกับเล่นกันหลายคน เพียงไม่นานเหงื่อก็ไหลปานสายน้ำชุ่มใบหน้าและร่างกายอีกครั้ง เด็กหนุ่มเล่นบาสมาเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่ไม่มีทีท่าจะหยุดแต่อย่างใด การเล่นดำเนินมาได้อีกครู่หนึ่งเสียงเรียกและเหล่าบุคคลที่มาปรากฏกายก็ทำให้จำต้องหยุดลง
“อยู่นี่เองเหรอเซย์…”
“..ท่านพ่อ”
“งานของกลุ่มทุนอาคาชิที่สาขาย่อยจูบุเป็นยังไงบ้าง?”
เด็กหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปาก สีหน้าและแววตาเย็นชาไร้อารมณ์จ้องมองผู้เป็นบิดานิ่ง ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงโปร่งผู้มีเรือนผมสีเดียวกับเขาเป๊ะ ไม่สิ ต้องบอกว่าเขาถอดแบบมาจากผู้ชายคนนี้แทบจะพิมพ์เดียวกัน ยกเว้นสีตาเท่านั้น ตาสองสีนี้เขาได้มาจากผู้เป็นมารดาที่กำลังยืนก้มหน้านิ่งอยู่ข้างๆ
มาหานึกว่าจะมีเรื่องอะไร…..ที่แท้ก็……
“หึ..ก็เรียบร้อยดี เหลือแค่ตรวจสอบรายละเอียดอีกนิดหน่อยเท่านั้น” เด็กหนุ่มตอบเสียงห้วนอย่างไม่สนใจ แต่ผู้เป็นพ่อยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงอาการใดๆก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไป
“ก็ดี แล้วนั่น..ใกล้จะไปโรงเรียนได้แล้วสินะ?”
“ก็ถ้า ‘งาน’ เสร็จเร็ว”
“…อืม”
นายใหญ่ของบ้านรับคำแค่นั้นแล้วทำท่าจะเดินจากไป แต่ก็หยุดชะงักเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้จึงหันหน้าไปทางลูกชายที่กำลังถอดเสื้อยืดสีขาวชื้นเหงื่อออกพอดี
“แล้วอาการป่วย…”
“ผมไม่เป็นไร”
เด็กหนุ่มตัดบทก่อนจะเดินไปหยิบลูกบาสไปตั้งท่าจะเล่นต่อ ผู้เป็นพ่อมองลูกชายคนเดียวอยู่ครู่หนึ่งจึงหันหลังเดินจากไป เหลือไว้แต่เพียงผู้เป็นแม่และสาวใช้บางส่วนที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
หญิงสาวรูปร่างเล็กบอบบางในชุดยูกาตะ ผิวซีดขาวราวหิมะ ใบหน้างดงามรับกับเรือนผมสีน้ำตาลออกแดงยาวสลวยระบั้นเอว ตากลมโตสองสีจ้องมองลูกชายคนเดียวด้วยความห่วงใย เมื่อสามีเดินจากไปจึงรีบเอ่ยเรียกลูกชายทันที
“เซย์..มาหาแม่ซักเดี๋ยวสิจ๊ะ”
เด็กหนุ่มชะงัก เหลียวกลับไปมองก็เห็นมารดากำลังยิ้มให้ มือแกร่งจึงส่งลูกบาสให้กลิ้งไปทางนั้นพร้อมกับตัวเองที่เดินตามไป
“อาการป่วยดีขึ้นแล้วหรือลูก” พูดจบมือเล็กของแม่ก็ยกขึ้นลูบหัวลูกชายด้วยความรักใคร่
“ครับ”
“พ่อเขาก็ทำเกินไปหน่อย ลูกไม่ต้องไปทำตามคำสั่งเขาเป๊ะๆหรอก พักผ่อนบ้างนะลูก แม่เป็นห่วงเซย์มากนะ”
“นั่นสิคะ อิฉันก็ไม่เข้าใจนายท่านซักเท่าไหร่ นายน้อยต้องขาดเรียนเพราะไม่สบาย แต่นายท่านกลับนำงานของบริษัทกลุ่มทุนมาให้นายน้อยทำอีก มันหนักเกินไปจริงๆนะคะนายหญิง นายน้อยเพิ่งจะอายุ 16 ปีเองนะคะ! เอ่อ…อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
เสียงหญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นหัวหน้าแม่บ้านเอ่ยสมทบนายหญิงของเธอ ก่อนจะรีบก้มหน้าเงียบไปเมื่อดวงตาสองสีทั้งสองคู่หันมามอง นายหญิงของบ้านอมยิ้มอย่างขำขัน….
….รอยยิ้มและใบหน้าที่งดงามของแม่ มันทำให้นึกถึงใครอีกคน…
“เซย์ ลูกฟังแม่อยู่รึเปล่าจ๊ะ?” เสียงผู้เป็นแม่เรียกลูกชายที่ดูเหมือนกำลังเหม่อลอย เด็กหนุ่มจึงหลุดจากภวังค์แล้วหันหน้ากลับมามองมารดาของตนอีกครั้ง
“ครับ ฟังอยู่...” เมื่อลูกชายรับคำ หญิงสาวจึงถอนหายใจ
“ที่จริงพ่อเขาเป็นห่วงเซย์มากนะ แต่เพราะเขาถูกปลูกฝังให้ทำงานมาตั้งแต่เล็ก พอลูกขึ้นม.ปลายเขาเลยให้ทำแบบเดียวกัน แต่แม่ไม่เห็นด้วย แม้ว่าลูกจะทำออกมาได้ดีก็เถอะ แต่ลูกยังเด็ก…”
“ช่างเถอะครับ ผมชินแล้วล่ะ”
“เซย์ ลูกป่วยอยู่นะ!”
“………..”
“นายหญิงครับ นายท่านเรียกให้นายหญิงกลับบริษัทใหญ่ด้วยกันแล้วครับ”
เสียงบอดี้การ์ดหนุ่มร่างกำยำสวมสูทสีดำ แว่นตาสีดำเดินมาค้อมศีรษะแล้วเอ่ยขัดขึ้นอย่างนอบน้อม ดวงตาสองสีคู่สวยของนายหญิงเพียงปรายตามองแล้วจึงหันกลับมาพูดกับลูกชายต่ออย่างไม่สนใจผู้มาตามมากนัก
“เซย์ สัญญากับแม่ว่าลูกจะพักผ่อนกว่าที่เป็นอยู่”
“…………”
“ตอบแม่มาสิ เซย์จูโร่!” แม้จะดูเหมือนขึ้นเสียงเกรี้ยวกราด แต่น้ำใสกำลังคลอดวงตาคู่สวยของมารดา เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขานรับเสียงเรียบ
“ครับ”
หญิงสาวโล่งใจเมื่อลูกชายยอมรับคำ แม้จะไม่รู้ว่าตอบส่งๆไปรึเปล่า แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น
“งั้นแม่ไปก่อนนะจ๊ะ แล้วจะโทรหาลูกเป็นระยะ ยูมิโกะ ฝากดูแลนายน้อยด้วยนะ”
“ทราบแล้วค่ะนายหญิง”
ประโยคสุดท้ายเธอหันไปบอกสาวใช้คนหนึ่งก่อนจะหันหน้ามามองลูกชายอย่างเป็นห่วงแล้วจึงยอมเดินกลับไปหาสามีที่ยืนรออยู่ไม่ไกล เด็กหนุ่มถอนหายใจพลางก้าวเดินไปหยิบลูกบาสมาเล่นอีกครั้ง เขาเล่นอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เล่นไปเรื่อยๆจนร่างกายชุ่มเหงื่อ มือแกร่งยกขึ้นเสยผมพลางหอบหายใจเบา แต่ก่อนที่จะเริ่มเล่นอีกครั้ง เสียงของสาวใช้คนดังกล่าวก็เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
“เอ่อ นายน้อยจะเล่นต่ออีกหรือคะ?”
“……เธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันจะอยู่อีกนาน”
“ต แต่ว่า……”
“หูหนวกรึไง”
“ค ค่ะ”
น้ำเสียงเย็นเยียบ ประกอบกับสายตาวาวโรจน์ที่จ้องตรงมาทำให้สาวใช้รีบกุลีกุจอกลับคฤหาสน์ไป เด็กหนุ่มจึงเดินมานั่งที่ม้านั่งข้างสนาม ยกโทรศัพท์ขึ้นดูเวลาแต่ก็ต้องชะงักค้าง เมื่อภาพหน้าจอปรากฏรูปภาพของใครบางคนในห้วงคำนึง
หึ…นายนี่ชอบมาให้ฉันเห็นหน้าทั้งตอนหลับตอนตื่นเลยนะ เท็ตสึยะ…..
ริมฝีปากเหยียดยิ้ม แต่เมื่อนึกไปถึงภาพของใบหน้าหวานที่กำลังร่ำไห้พร้อมกับคำพูดนั้น ใบหน้าคมก็หุบยิ้มทันที แล้วนัยน์ตาสองสีก็แปรเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นเย็นชา
TBC.
........................................
Talks : เนื่องจากมีตอนเต็มๆของคิเสะคุงมาบ้างแล้ว เลยอยากจะเขียนตอนเต็มของอาคาชิคุงบ้างนะคะ
ต่อไปคงจะมีดราม่า เพราะงั้นก่อนหน้านั้นจะกุ๊กกิ๊กก่อน 55555 ยังไงก็ขอบคุณที่อ่าน ขอบคุณที่เม้นค่ะ ^^
ความคิดเห็น