คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 : นักเรียนใหม่
Chapter 1 : นักเรียนใหม่
“กรี๊ดดด กรี๊ดดดดดด คิเสะคุงงงง ได้โปรดมานั่งข้างชั้นด้วยเถอะค่ะ!!!”
เสียงกรี๊ดกราดของบรรดานักเรียนสาวดังกระหึ่มขึ้นทันทีที่เด็กหนุ่มผมทองก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ‘มัธยมปลายปี 1 ห้อง C’ เขาปรายตามองไปทั่วห้องพลางฉีกยิ้มกว้างส่งให้เพื่อนใหม่ตามนิสัยที่เป็นกันเองและชั้นเชิงนายแบบ กระนั้นตาเรียวคู่งามก็แสดงความผิดหวังออกมาเล็กน้อยเมื่อไม่พบคนที่เพิ่งเดินชนเมื่อเช้า ก่อนจะปรับแววตาให้เป็นปกติพร้อมกับแนะนำตัวตามมารยาท
“คิดว่าบางคนอาจจะรู้จักผมบ้างแล้ว แต่ผมก็จะขอแนะนำตัวใหม่! ผมชื่อ คิเสะ เรียวตะ ! เพิ่งย้ายมาใหม่ ต่อจากนี้ไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ!!” #กระพริบตาปิ๊งปิ๊ง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
หลังจากแนะนำตัวยังไม่ทันเสร็จดี เสียงกรี๊ดที่แทบจะทำให้ตึกถล่มแผ่นดินทลายก็พร้อมใจกันดังขึ้นทันที คิเสะยิ้มแหยๆส่วนอาจารย์ประจำชั้นพยายามตะโกนห้ามเสียงกรี๊ดอย่างจ้าละหวั่น
“เงียบ !! เงียบ !! พอที! ฉันบอกให้พวกเธอเงียบได้แล้ว !!”
“แหมมมม อาจารย์ขา ก็คิเสะคุงเค้าหล่อนี่ >///<”
“ใช่ค่ะๆ ให้เค้านั่งข้างหนูเถอะนะคะ นะคะอาจารย์ ><”
“ไม่! คิเสะคุงต้องนั่งข้างชั้นสิ!!”
“บ้าเหรอ! ชั้นต่างหากล่ะ!!”
“ไปไกลๆเลยเธอน่ะ! เค้าต้องนั่งข้างชั้นย่ะ!!”
“ข้างชั้นสิยะ!!”
“ชั้นเท่านั้นแหละ! พวกเธอหุบปากไปเลย!!”
“ชั้น!.....”
“เงียบ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงอาจารย์ประจำชั้นคนเดิมตวาดขึ้นอย่างโมโหจนพวกนักเรียนสาวต้องเงียบไป ก่อนอาจารย์จะถอนหายใจพลางหันไปบอกนักเรียนใหม่ให้เดินไปนั่งที่
“เอาล่ะ คิเสะคุง ที่นั่งเธอคือแถวหลังสุดข้างโต๊ะริมหน้าต่างนะ ที่นั่นว่างอยู่พอดี”
“เดี๋ยวก่อนครับอาจารย์”
ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มผมทองจะตอบรับคำก็มีเสียงทุ้มดังขัดขึ้นก่อน เรียกให้ทุกสายตาหันไปจ้องมอง…
‘อืมม ผมสีเขียว ตาสีเขียว มือซ้ายพันผ้าพันแผลไว้ บาดเจ็บเหรอ?
เรื่องนั้นช่างเถอะ แต่ตุ๊กตากระต่ายตัวใหญ่ที่วางไว้บนตักตัวเองมันอะไรเหรอนั่น?’
คิเสะคิด มองเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่อย่างสนใจ
“ผมคิดว่าตรงนั้น…..”
“อืมม เรื่องนั้นค่อยจัดที่นั่งกันใหม่ก็ได้นี่ ไม่เป็นไรหรอก เอาล่ะ คิเสะเธอไปนั่งที่เถอะ ตรงนั้นแหละ”
“………….”
“เอ่อ...ครับ”
คิเสะพยักหน้ารับคำก่อนจะเดินไปนั่งที่ ระหว่างทางบังเอิญสบตากับเจ้าของเรือนผมสีเขียวนั้น เขาส่งยิ้มให้แต่นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นกลับเมินเฉยไม่สนใจ เขาจึงได้แต่อมยิ้มแล้วเดินเลยไปนั่งที่ของตัวเอง
การเรียนล่วงเลยมาจนถึงเวลา 11 โมงซึ่งเป็นคาบสุดท้ายในภาคเช้า และผู้เป็นนักเรียนใหม่ดูจะดีใจเหลือเกินเนื่องจากยิ่งเรียนเปลือกตายิ่งหนักอึ้ง มือเรียวพยายามหมุนปากกาเล่นจนตกไปหลายรอบและได้รับสายตารำคาญมาจากเพื่อนร่วมห้องผมสีเขียวคนนั้นจนเขาต้องยิ้มแหยๆให้ไปหลายทีก็ยังไม่หมดคาบอีก ดังนั้นเมื่อเหลือบดูนาฬิกาที่ติดไว้หน้าห้องบอกเวลาใกล้พักเที่ยงแล้วจึงชวนให้สดชื่นจริงๆ
“นักเรียนเปิดหนังสือไปที่หน้า 119 ค่ะ เราจะเริ่มจากหน้านั้นก่อน อืม…คิเสะคุงช่วยอ่านด้วยจ้ะ”
เสียงเรียกของอาจารย์ทำให้เด็กหนุ่มหลุดจากภวังค์ เตรียมตัวจะลุกขึ้นอ่านตามคำสั่งแต่พลันนึกขึ้นได้
เดี๋ยวนะ….เรายังไม่มีหนังสือเลยนี่หว่า!?
เด็กหนุ่มผมทองหันรีหันขวางไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใครดี และแล้วก็ต้องขอบคุณสายตาและความคิดสุดล้ำ! ใช่! เขามีเพื่อนแล้ว(?)นี่นา คิดได้ดังนั้นปากกาแท่งแรกก็ลอยจากมือไปตกกระทบไหล่หนาที่นั่งเยื้องเขาไปทางขวาสามที่นั่งและค่อยๆไหลลงพื้นช้าๆ เจ้าของเรือนผมสีเขียวชะงักเล็กน้อยแต่ยังคงไม่หันมา….
ปากกาแท่งที่สองพร้อมยางลบลอยไปตกกระทบไหล่หนาอีกครั้งแต่ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ…
ดินสอ+ลิควิดลอยจากมือไปเป็นครั้งที่สาม คราวนี้มือเรียวด้านที่พันผ้าพันแผลกำตุ๊กตาน้องต่ายแน่น คนคิดจะยืมหนังสือจึงยิ้มกว้าง เนื่องจากคิดว่าได้ผลแล้วล่ะ พี่เขียวรู้ตัวแล้ว! ><
“เอ่อ ยืมหนังสือของผมก่อนมั้ยครับ?”
ก่อนที่กล่องดินสอสีเหลืองจะลอยไปเป็นครั้งที่สี่ เสียงเล็กด้านข้างก็ดังขึ้นเรียกให้นัยน์ตาสีทองเหลือบมามองก่อนจะเบิกตากว้าง แหกปากดังลั่นอย่างลืมตัว ส่งผลให้ทั้งชั้นเรียนสะดุ้งหันมามองต้นเสียงเป็นตาเดียว
“อ๊ะ!!!!!!! อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“ตายแล้ว เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะคิเสะคุง!?” เสียงอาจารย์ประจำวิชาที่เพิ่งตั้งสติได้ตะโกนถามมาจากหน้าห้องด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“อ๊ะ เอ่อ…ฮ่ะๆ ป เปล่าครับ พอดีผมไม่มีหนังสือเรียนเลยจะยืมเพื่อนเท่านั้น แหะๆ” มือเรียวยกขึ้นเกาหัวแกรกๆแก้เก้อพลางส่งยิ้มหวานให้อาจารย์และเพื่อนทุกคนในห้อง อาจารย์สาวถอนหายใจก่อนจะเอ่ยบอก
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะจ้ะ เอ้อ...แล้วคงต้องใช้หนังสืออ่านประกอบไปตลอดคาบ คิเสะคุงขยับโต๊ะไปใกล้เพื่อนคนนั้นเลยนะจ๊ะ จะได้ดูด้วยกันได้ง่ายๆ งั้นมิยาโมโต้คุงช่วยอ่านแทนคิเสะคุงก่อนนะจ๊ะ เอาล่ะเริ่มได้!”
สิ้นเสียงอาจารย์สาว มิยาโมโต้คุงก็ลุกขึ้นอ่านอย่างแข็งขัน ฟากคนที่แหกปากเมื่อครู่กำลังตัวสั่นระริก น้ำตาคลอเบ้าด้วยความดีใจ ใจที่เต้นแรงตอนนี้เป็นสิ่งพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไป เรือนผมสีฟ้านุ่มสลวยกับใบหน้าหวานที่เขาเห็นเมื่อเช้า ประกอบกับดวงตาสีฟ้าใสที่กำลังจ้องมองมา….ท ทำไมเขาถึงไม่รู้ตัวนะ ก็นั่งข้างกันมาตั้งนานแล้วนี่นา….
“เอ๊ะ? คิเสะคุงเป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ?” อาจารย์ส่งเสียงถามมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าร่างสูงของเด็กหนุ่มยังคงถือโต๊ะแบกเก้าอี้ค้างอยู่แบบนั้นไม่ยอมนั่งลงเสียที
“อ เอ่อ เปล่าครับ ผมไม่เป็นไร!! ><” เด็กหนุ่มที่ตอนนี้หน้าบานเป็นจานบินส่งเสียงตอบอาจารย์ แต่ด้วยความที่ตื่นเต้นไปหน่อยเสียงจึงดังกว่าปกติให้เพื่อนในห้องและอาจารย์สะดุ้งกันอีกครั้งก่อนที่เจ้าตัวจะแบกโต๊ะเก้าอี้ไปนั่งข้างร่างบางผมสีฟ้า เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่หลังจากเสียเวลาไปนาน เสียงหนึ่งก็ลอยมาตามสายลมให้ได้ยินเบาๆ….
“บากะ (นาโนะดาโยะ)”
TBC.
…………………………………………………………………………………………………………………
Talks : สวัสดีทุกคนนะคะ ไรท์เตอร์เองค่ะ ^^ ,, ตอนนี้สั้นมากก 555555 #โดนตบ #จะหัวเราะทำไม
// มาแวะพูดคุยกันก่อนเฉยๆ ตอนต่อไปสัญญาว่าจะยาวกว่านี้แน่นอนค่ะ >_<
ก่อนอื่นเลยเรื่องนี้ถือกำเนิดขึ้นด้วยอารมณ์อยากแต่งล้วนๆ แบบอยากก็แต่งเลย ดังนั้นภาษาอาจไม่ไหลลื่น ติดๆขัดๆ หรือหลุดคาแรคเตอร์ไปบ้างขออภัยและโปรดทำใจกันด้วยนะคะ 5555 XD สารภาพว่ากะลงไว้เฉยๆ ว่างๆมีอารมณ์ค่อยลงตอนต่อไป ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านด้วยซ้ำ ดังนั้นเลยดีใจมากที่มีคนเม้นกับแอดเฟบด้วย!? อารมณ์ประมาณ omg นี่เราจะทำเล่นๆไม่ได้แล้วนะ ประมาณนั้นเลยค่ะ 555 ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากนะคะ เป็นกำลังใจให้มุ่งมั่นอยากแต่งต่อมากเลย ^^d
ส่วนเรื่องคู่นั้น อืมม ….นั่นสินะ….บางทีอาจจะดูจากท่านผู้อ่านด้วยนี่แหละค่ะ 555 (จริงๆก็มีคู่ที่คิดในใจไว้แล้ว ^^) ยังไงก็ลุ้นไปด้วยกันนะคะ!! ^^
สุดท้ายก็ 1 เม้นของท่าน = 1 กำลังใจของเรา
(เม้นติยิ่งดี จะได้เอาไปปรับปรุง รู้ตัวว่าง่อยมากค่ะ 555 xD)
และสุดท้ายจริงๆก็ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ! แล้วพบกันตอนต่อไปค่า ^^
ps,,เครดิททุกภาพจากเพจ kuroko no basket manga
ความคิดเห็น