[Short Fic - KnB] AFD โกหกอย่างเธอ ต้องเจออย่างฉัน [AkaKuro] - [Short Fic - KnB] AFD โกหกอย่างเธอ ต้องเจออย่างฉัน [AkaKuro] นิยาย [Short Fic - KnB] AFD โกหกอย่างเธอ ต้องเจออย่างฉัน [AkaKuro] : Dek-D.com - Writer

    [Short Fic - KnB] AFD โกหกอย่างเธอ ต้องเจออย่างฉัน [AkaKuro]

    ถึงวันโกหกทั้งที คนอย่างอาคาชิคุงต้องโดนแกล้งซะมั่ง!

    ผู้เข้าชมรวม

    7,444

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    14

    ผู้เข้าชมรวม


    7.44K

    ความคิดเห็น


    77

    คนติดตาม


    214
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 พ.ย. 57 / 20:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Short Fic Kuroko no Basket
    โกหกอย่างเธอ ต้องเจออย่างฉัน

    [Akashi x kuroko]

    เรื่องราวของคู่รักในวันโกหก จะเป็นอย่างไรนะ
    เมื่อคนเจ้าเล่ห์โดนอีกคนเอาคืน(?) >///<

    เชิญรับชมได้ ณ บัดนี้ค่ะ !!






    Cr.Red king & Blue shadow page
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Short  Fic  Kuroko no Basket

      Title  :  April Fool Day  โกหกอย่างเธอ ต้องเจออย่างฉัน

      Pairing  :  Akashi x Kuroko

       

       


       

                                                                               
       

                  คุโรโกะ เท็ตสึยะ อดีตเด็กหนุ่มตัวเล็กแสนจืดจางของชมรมบาสเก็ตบอลทั้งระดับมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย บัดนี้ได้จบการศึกษาและมาประกอบอาชีพเป็นครูโรงเรียนอนุบาล เด็กหนุ่มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่เนื่องจากไม่ได้เล่นกีฬาหนักๆเหมือนเคย กล้ามเนื้อที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วยิ่งหายไปหมด ส่งผลให้รูปร่างดูโปร่งบางน่าทะนุถนอมในสายตาคนมองยิ่งนัก นอกจากจะเป็นครูอนุบาลแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปในชีวิตอีกอย่างหนึ่งคือ การที่เขาอยู่ในฐานะ คนรักของนักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง ทายาทกลุ่มทุนหมื่นล้านที่มีบริษัทในเครือกระจายไปทั่วโลก อาคาชิ เซย์จูโร่

                  ทุกวันในตอนเช้าอาคาชิจะสั่งให้คนขับรถแวะส่งคุโรโกะที่หน้าประตูโรงเรียนก่อนแล้วจึงขับเลยไปบริษัท ในตอนเย็นร่างบางก็จะยืนรออยู่หน้าโรงเรียนเพื่อรอกลับพร้อมกัน ความจริงแล้วคุโรโกะพยายามขอเดินมาโรงเรียนเองเนื่องจากระยะทางไม่ไกลจากบ้านมากนักแต่ถูกปฏิเสธเด็ดขาดจากผู้เป็นที่รักด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวเขาจะเป็นอันตราย คุโรโกะพยายามอธิบายอยู่หลายครั้งแต่ก็โดนจูบปิดปากกลับมาทุกครั้งทำให้จำใจต้องยอมมาด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนว่าวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ทั้งคู่ก้าวขึ้นรถลีมูซีนที่ลูกน้องเปิดประตูให้ ก่อนที่คนขับจะออกรถมุ่งหน้าสู่โรงเรียนอนุบาลเป็นที่แรก

       
       

                  ไม่สบายรึเปล่าเท็ตสึยะ? เช้านี้ดูไม่ร่าเริงเลยนะ”  อาคาชิเอ่ยถามคนข้างกายที่สีหน้าดูบึ้งตึงเล็กน้อย

                  เปล่าครับ”  ร่างเล็กตอบแค่นั้นพลางหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างให้ร่างสูงได้แต่อมยิ้ม

                  ยังไม่ชินอีกเหรอ หึหึ”  เสียงทุ้มเอ่ยกระเซ้าเรียกให้ใบหน้าหวานหันขวับมามอง คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยอย่างขัดใจ

                  นั่งรถเวอร์ขนาดนี้มาโรงเรียนอนุบาล ใครมันจะไปชินกันล่ะครับ!’ 

                ร่างบางคิดในใจก่อนจะสะดุ้งเมื่อใบหน้าคมหล่อเหลาค่อยๆเลื่อนลงมาใกล้ มือเล็กจึงรีบยกขึ้นดันแผงอกแกร่งทันทีอย่างตกใจ

                  อ อาคาชิคุงจะทำอะไรครับ

                  “จะง้อไงล่ะ ก็เท็ตสึยะกำลังโกรธฉันอยู่นี่ ใช่รึเปล่า?”  ใบหน้าคมเหยียดยิ้มจ้องมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีเรื่ออย่างน่าเอ็นดู

                  ม ไม่เอาง้อแบบนี้ค..อุ๊บ…!?...”  ยังไม่ทันได้พูดจบ ริมฝีปากเรียวบางก็โดนประกบจูบลงมาทันที ลิ้นร้อนหยอกเหย้ากลีบปากก่อนจะดุนดันเข้าไปควานหาความหวาน มือเล็กยกขึ้นกำเสื้อสูทของร่างสูงแน่น จูบดูดดื่มดำเนินไปได้ระยะหนึ่งร่างสูงจึงยอมถอนจูบออกก่อนที่ร่างบางจะหมดแรง

                  ใบหน้าหวานขึ้นสีก่ำสุก หยาดน้ำใสคลอดวงตาสีฟ้าสวย ร่างกายอ่อนระทวยในอ้อมกอดแกร่ง ริมฝีปากสีกุหลาบกำลังหอบหายใจเบา ภาพที่เห็นช่างเร้าอารมณ์ให้คนเจ้าเล่ห์อยากเอาเปรียบให้มากขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าคมจึงก้มลงมาหวังฉวยโอกาสอีกครั้งแต่เสียงเรียกของคนขับรถที่หน้าแดงก่ำไม่แพ้กันเมื่อเห็นนายน้อยของตนแสดงความรักต่อนายหญิงเล็กเอ่ยขัดขึ้นก่อน

       

                  อ เอ่อ คือถึงหน้าโรงเรียนอนุบาลของคุณคุโรโกะแล้วครับนายน้อย..”

                  ผู้เป็นนายน้อยจุ๊ปากอย่างขัดใจปนเสียดายส่วนคนตัวเล็กเหมือนสติและเรี่ยวแรงเริ่มกลับมาจึงดันตัวเองออกจากอ้อมกอดแล้วหันมาจัดความเรียบร้อยเตรียมลงจากรถ มือแกร่งเอื้อมไปคว้าหมับข้อแขนบางก่อนที่คนตัวเล็กจะเปิดประตูลง ใบหน้าหวานที่ยังคงขึ้นสีอยู่จึงหันมามองอย่างแปลกใจ

                  อยากให้ถึงตอนเย็นเร็วๆ ว่างั้นมั้ยเท็ตสึยะ?”  ใบหน้าคมเหยียดยิ้ม นัยน์ตาสองสีจ้องมองใบหน้าหวานที่บัดนี้แดงก่ำกว่าเดิมอย่างมีความหมาย แขนเล็กจึงสะบัดเบาๆแล้วรีบเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็ว

                  อาคาชิคุงบากะ!”  ปากเรียวพึมพำเสียงเบาแต่ดังพอให้ร่างสูงได้ยินก่อนเจ้าตัวจะปิดประตูแล้วรีบเดินเข้าไปในโรงเรียน อาคาชิจ้องมองร่างบางอย่างขำขัน

       แดงไปหมดทั้งตัวขนาดนั้นคงจะเขินอยู่มากสินะ น่ารักจริงๆ เท็ตสึยะของฉัน



      เมื่อรถลีมูซีนเคลื่อนตัวออกไป คุโรโกะจึงถอนหายใจแต่เมื่อนึกไปถึงตอนเย็นใบหน้าก็เริ่มร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เพียงแค่พละกำลังและความสูงที่เพิ่มมากขึ้น แต่อาคาชิ เซย์จูโร่คนนั้นยังเจ้าเล่ห์มากขึ้นด้วย เขาต้องโดนเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลาที่มีโอกาสและไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลยเหมือนอย่างเมื่อครู่

      มือเรียวล้วงไปหยิบมือถือขึ้นมาดูนาฬิกา ใกล้จะได้เวลาที่เด็กๆจะมาถึงโรงเรียนกันแล้ว แต่ร่างบางพลันชะงักกึกหัวสมองแล่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะอมยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ ลืมไปได้ยังไงนะ วันนี้คือ วันที่ 1 เมษายน วันแห่งการโกหก ดีละ เขาจะแกล้งอาคาชิคุงคืนบ้าง! มือเล็กกำโทรศัพท์อย่างมุ่งมั่นก่อนจะวางของแล้วเดินไปรอรับนักเรียนอนุบาลตัวน้อย

       

       

      ตกเย็น, ระหว่างทางกลับบ้าน

                  วงแขนแกร่งเอื้อมไปโอบกระชับเอวบางแล้วดึงให้ขยับมาชิดลำตัว ขณะที่นัยน์ตาสองสียังไม่ละจากตารางงานในแท็บเล็ตที่ถืออยู่ในมืออีกข้าง คนตัวเล็กพยายามขยับหนีออกห่างแต่ก็ถูกดึงให้กลับเข้ามาในอ้อมแขนทุกครั้งจนเจ้าตัวยอมแพ้ยอมนั่งให้กอดนิ่งๆจนกระทั่งรถเคลื่อนเข้ามาจอดในบริเวณบ้าน

       

                  ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ/ครับ นายน้อย , คุณหนูคุโรโกะ 

                  บรรดาพ่อบ้าน แม่บ้าน ตลอดจนคนสวนและคนเก็บขยะต่างยืนเรียงรายค้อมศีรษะให้ตลอดทางเดินเข้าสู่ตัวบ้าน มือแกร่งเอื้อมจูงมือเล็กโดยคุโรโกะได้ค้อมศีรษะเป็นการขอบคุณแก่ทุกคนก่อนจะรีบเดินตามร่างสูงเข้าไปในบ้าน

       

                  ยังสุภาพเหมือนเดิมนะเท็ตสึยะ”  ร่างสูงเอ่ยขึ้นพลางส่งเสื้อสูทให้ร่างเล็กที่รับไปแขวนให้

                  มันเป็นเรื่องปกติของผมนี่ครับ”  คุโรโกะตอบพลางวางกระเป๋าของตัวเองบ้าง [อันที่จริงเขาอยากจะตอบว่าเขาไม่เคยชินเรื่องอะไรแบบนี้มากกว่า]

                  “หึหึ นั่นสินะใบหน้าคมเหยียดยิ้ม มือแกร่งเลื่อนไปปลดเนกไทและกระดุมลงก่อนจะเดินไปหาร่างบางที่กำลังก้มเก็บของอยู่

                  เอ๊ะ!? อาคาชิคุง?”  คุโรโกะตกใจที่จู่ๆก็ถูกรวบกอดจากด้านหลัง ลมหายใจอุ่นที่รดต้นคออยู่ทำให้ใจเต้นแรง อ้อมแขนแกร่งกอดรัดร่างเล็กแน่นขึ้นพร้อมเสียงทุ้มต่ำดังกระซิบข้างหูให้ใบหน้าร้อนผ่าว

                  ฉันหิวแล้วล่ะเท็ตสึยะ

                  “ผ ผมจะไปทำอาหารมาให้ทานนะครับ

                  “แม่บ้านเราก็มี

                  “แต่ผมอยากช่วย...”

                  “เห..อย่างงั้นเหรอ?..”

                  “อ๊ะ!? ย อย่าครับอาคาชิคุง..อ๊ะ..!?”

                  มือซนเอื้อมสอดเข้าไปลูบไล้แผ่นอกบาง ยอดอกสีเชอร์รี่เริ่มชูชันตอบสนองต่อสัมผัสวาบหวาม แต่ก่อนจะได้เคล้นคลึงร่างเล็กก็รวบรวมกำลังทั้งหมดดันตัวออกจากร่างสูงได้ทัน

                  ทำไมล่ะเท็ตสึยะ ทั้งที่รู้สึกขนาดนั้นแล้วแท้ๆ

                  “เอ๊ะ!?...เอ่อคือ..ไม่ใช่นะ..//////..” ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อ มือเล็กรีบเลื่อนมาปิดส่วนล่างของตนหลังจากนัยน์ตาสองสีจ้องมองอยู่นาน

                  หืม?”  ร่างสูงเตรียมก้าวเข้าหาแต่ร่างเล็กที่สีหน้าเหมือนตัดสินใจบางอย่างเอ่ยขัดขึ้นก่อนอย่างรวดเร็วให้ชะงักนิ่ง

       

                  “เอ่อ..ค ความจริงแล้วผมไม่ได้ชอบอาคาชิคุงครับ...

                  “…………..”

                  “เพราะฉะนั้นกรุณาหยุดทำแบบนี้เถอะครับ

                  “…..หมายความว่ายังไงเท็ตสึยะ  เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างเย็นเยียบนัยน์ตาสองสีทอประกายเย็นชา

                  “...หมายความตามที่พูดนั่นแหละครับ ผมขอตัวก่อน” 

      พูดจบร่างเล็กก็หันหลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นชั้นสองทันทีด้วยกลัวว่าคนตรงหน้าจะพุ่งมากระชากตัวซะก่อน ระหว่างนั้นตากลมโตสีฟ้าใสแอบเหลือบไปมอง อาคาชิ เซย์จูโร่ ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงครู่หนึ่งแล้วเดินแยกไปห้องทำงานที่อยู่อีกด้าน แม้จะแปลกใจเล็กน้อยที่ร่างสูงไม่มีอาการตื่นตกใจมากนักแต่ช่างเถอะ พรุ่งนี้ค่อยไปบอกความจริงละกัน คนอย่างอาคาชิคุงต้องโดนแกล้งซะบ้าง!



      ....................Loading 40 เปอร์เซ็น(?)..........................

      ****omg โหลๆ ยังมีคนอยู่มั้ยคะ lol ไรท์กราบขอโทษงามๆ ;////:
      -edit คำนิดหน่อย

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×