คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ
Intro
มีเพียงความหวังเท่านั้น ที่ผลักดันให้มนุษย์ทุกคนก้าวต่อไป แม้พลาดพลั้ง แต่เพราะยังมีหวัง จึงยังมีชีวิตอยู่ได้...
สายลมบรรจบสายน้ำ นิทานแห่งความรักถูกขับขาน เล่าสืบต่อกันมาเป็นทอด ๆ นิทานแห่งความรักที่เชื่อกันว่า หากคู่รักคู่ใดได้ฟัง จะรักกันตราบสิ้นนิรันดร์กาล
เพราะรักมาก จึงแค้นมาก เมื่อความรักแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น จึงได้กลายเป็นคนชั่วร้าย เพราะความรัก จึงเปลี่ยนไป
กาลครั้งหนึ่ง นานแสนนานในดินแดนแห่งสายลม ราชาสายลมผู้หล่อเหลา งดงามเกินชายชาตรีเกิดหลงรักหญิงสาวที่เกิดมาจากสายน้ำในป่าลึก ทุกวัน ราชาสายลมจะไปพบเธอคนนั้น จวบจนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ทั้งสองก็รักกันจนมิอาจแยกจาก หากแต่เพราะหน้าที่แห่งราชา ทำให้ชายหนุ่มต้องเลือกระหว่างนางอันเป็นที่รักกับอาณาจักรสายลม
กระนั้น ราชาสายลมก็ยังตัดสินใจมิได้ ว่าควรจะเลือกใคร จนเจ้าหญิงผู้ชั่วร้ายผู้ซึ่งหลงรักราชาสายลมรู้ว่าชายหนุ่มนั้นรักกับหญิงสาวปริศนาในป่าลึก เจ้าหญิงจึงเข้าไปในป่า และสังหารเธอคนนั้นเสีย เมื่อความทราบถึงราชาสายลม เขาเสียใจมากที่มิอาจปกป้องผู้หญิงที่รักได้ จึงได้เพียงจดจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ ตราบจนชีวิตสูญสิ้น
‘เมื่อใดที่สายลมบรรจบกับสายน้ำ เราจะได้พบกันอีกครั้ง’
Nee hutari de chikatta hi no mabushiku hagayui eien
สิ่งนี้ บางทีมันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ ถึงวันที่เราอยู่เคียงกัน
ความทรงจำในฤดูหนาวกัดกินหัวใจของรัล มิลจิให้จมอยู่กับความเศร้า
ไม่มีแล้ว เจ้าคนที่ชอบกวนประสาท...
ไม่มีแล้ว เจ้าคนที่ชอบส่งยิ้มมาให้อย่างไร้เดียงสาเวลาต้องการสิ่งตอบแทน...
ไม่มีแล้ว เจ้าคนที่ชอบมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ...
ไม่มีแล้ว เจ้าคนที่ชอบมาปลุกในตอนเช้า...
ไม่มีแล้ว ไม่มีอีกแล้ว...
เพียงแค่คิด น้ำตาเจ้ากรรมก็พาลจะไหล ความเข้มแข็งที่เพียรสร้างมันขึ้นมาก็พลันพังทลายลงไป ทำไมแกชอบเล่นตลกกับฉันอยู่เรื่อยนะ โคโลเนโร่ รัล มิลจิคิด ก่อนจะเดินไปยังหุบเขาหลังบ้าน สถานที่สำคัญของเธอ
เมื่อมาถึงบนเนินเขา รัลก็นำช่อดอกเดซี่ไปวางไว้บนหลุมศพที่สลักป้ายชื่อไว้อย่างสวยงาม
โคโลเนโร่
“วันนี้ฉันมาเยี่ยมแกนะ โคโลเนโร่ หลับสบายดีมั้ย
” น้ำเสียงของรัลขาดห้วงไป หยาดน้ำตาที่เหือดหายกลับพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง
“แกจำวันแรกที่เราเจอกันได้มั้ย แกกวนประสาทฉันสุด ๆ เลยนะยะ นี่ก็เย็นแล้วฉันกลับล่ะ พรุ่งนี้ฉันจะมาเยี่ยมแกใหม่นะ โคโลเนโร่”
รัลหันหลังให้กับหลุมศพ ขาเรียวก้าวออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วเพราะถ้าหากเธอยังอยู่ที่นี่นานเกินไปล่ะก็โคโลเนโร่ก็จะนอนหลับไม่สบาย น้ำตาที่ยังไหลอยู่นั้นกลับไหลมากขึ้นกว่าเดิมอีก รัลหันกลับมามองที่หลุมศพราวกับกำลังรอให้คนที่หลับใหลนั้นตื่นขึ้นมา แต่มันก็คงเป็นได้แค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ในเมื่อความเป็นจริงแล้วคน ๆ นั้นได้จากเธอไปนานแล้ว
“Poi ci siamo incontrati My Darling.”
Hontou wa donna mono yori ibitsu datta koto
ว่าวันเวลา วันคืนดีดี เคยมีให้กันในวันนั้น
ช่อดอกฟอร์เก็ตมีน๊อตช่อใหญ่ถูกวางไว้บนหลุมศพบนหุบเขาในบ้านสวนของฮิบาริ
บ้านสวนที่เธออยากจะมา...แต่ไม่มีโอกาสได้มา...
บ้านสวนในฝันของเขากับเธอ...แต่ไม่มีโอกาสได้อยู่ร่วมกัน...
บ้านสวนที่เธอออกแบบเองกับมือ...แต่ไม่มีโอกาสเห็นมัน...
มือใหญ่ลูบไปบนแผ่นป้ายที่สลักชื่อของคนที่เขารักสุดหัวใจเอาไว้
ฮิบาริ โคลม(โคลม โดคุโร)
ถ้าหากวันนั้นเขาไปช่วยเธอทัน
ถ้าหากวันนั้นเขาเชื่อสึนะกับมุคุโร่ แล้วตามเธอไป
ถ้าหากวันนั้นเขาไม่เอาแต่จมอยูในทิฐิมากจนเกินไป
ถ้าหากวันนั้นเขาไม่ประชดเธอหนีไปอยู่กับไมโกะ
มันก็คงจะไม่มีวันนี้ วันที่เขาต้องมาเสียคนที่รัก วันที่เมฆาต้องกลับมาอ้างว้างอีกครา
แม้มุคุโร่จะบอกว่าไม่ใช่ความผิดของเขา ร่างกายของโคลมนั้นอ่อนแอลงไปมาก พลังในตัวเธอเริ่มลดลงจนในที่สุดก็หมดไป มุคุโร่เคยบอกเขาว่าโคลมมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ในช่วงสุดท้ายของชีวิตโคลมจึงอยากอยู่กับคนที่รัก ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีค่าที่สุด แต่ฮิบาริยังคิดว่ามันเป็นความผิดของตัวเขาเองที่ไม่ดูแลโคลมให้ดี
“วันนี้ฉันมาเยี่ยมเธอนะโคลม เจ้าเคียวสึเกะบ่นคิดถึงเธอตลอดเลย”
มีเพียงลมพัดผ่านตัวฮิบาริไปเท่านั้น สายลมที่ฮิบาริคุ้ยเคยดี
สายลมของผู้จากลา...
สายลมของหญิงสาวผู้เป็นที่รัก...
“แล้วฉันจะบอกเจ้าเคียวสึเกะให้ว่าเธอก็คิดถึงเหมือนกัน”
...............
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันดูแลลูกได้”
.............
“ฉันดูแลตัวเองอยู่แล้วแหละ”
.............
“วางใจเถอะโคลม รอยยิ้มของฉันมีให้เธอคนเดียว ฉันกลับนะ แล้วจะมาใหม่”
.............
“Tornerò alla promessa d'amore.”
สายลมพัดผ่านร่างของฮิบาริอีกครั้งเป็นการกล่าวลา พร้อมเสียงที่ดังก้องกังวานของหญิงสาวผู้เป็นดั่งดวงใจส่งไปถึงบุรุษผู้เป็นที่รัก ‘I will wait for your help Darlin.’
Sou hajime kara kizuiteitano
เรื่องราวที่มันผ่าน กลับผันแปรไปจากเดิม
สายลมยามเช้าพัดเอื่อย ๆ เสียงบาทหลวงสวดบทส่งวิญญาณดังไปทั่วสุสานของวองโกเล่ เหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง 5 ต่างยืนเงียบอยู่รอบ ๆ สุสาน เสียงร้องไห้ของนานะ ผู้เป็นแม่ของบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบ ซาวาดะ สึนะโยชิดังขึ้นท่ามกลางความเงียบข้าง ๆ คือหญิงสาวผู้เป็นภรรยาของสึนะ ซาวาดะ(ซาซางาวะ) เคียวโกะที่เสียใจไม่แพ้กัน ในอ้อมแขนของเคียวโกะมีร่างของเด็กน้อยวัย 5 ขวบที่กำลังหลับสนิทไม่รับรู้ถึงการจากไปของผู้เป็นบิดา อิเอมิสึได้แต่ยืนมองอยู่ข้างหลัง มือแกร่งโอบไหล่ภรรยาและลูกสะใภ้ไว้หลวม ๆ
เสียงสวดส่งวิญญาณจบลง เหล่าลูกน้องในวองโกเล่ต่างพากันนำดอกเดซี่ไปวางไว้ในหลุมศพของสึนะ
“หลับให้สบายนะซือคุง แม่กับพ่อจะดูแลเคียวโกะจังกับสึนาโนะเอง” นานะบอกกับลูกชายที่นอนหลับสนิทในโลงแก้ว
“รุ่นที่สิบ หลับให้สบายนะครับ” พูดจบโกคุเดระก็วางดอกเดซี่ไว้บนโลงศพ
“ลาก่อน สึนะ” ตามด้วยยามาโมโตะ
“แล้วเจอกันชาติหน้านะ ซาวาดะ” เรียวเฮพูดพร้อมวางช่อดอกเดซี่ช่อใหญ่
“หลับให้สบายนะครับวองโกเล่ ผมฝากดูแลน้องสาวผมด้วยนะครับ” ปิดท้ายด้วยมุคุโร่ ส่วนฮิบาริยืนเงียบอยู่ข้างยามาโมโตะ ก่อนจะเดินไปวางดอกเดซี่แล้วพึมพำประโยคหนึ่งเบา ๆ
“ฝากบอกโคลมด้วยนะครับว่าผมคิดถึงเธอมาก คุณซาวาดะ สึนะโยชิ”
เมื่อทุกคนวางดอกไม้เสร็จ เหล่าลูกน้องก็กลบหลุมศพของสึนะ ดีโน่กับรีบอร์นยืนดูอยู่ห่าง ๆ ข้างกายดีโน่คือ วอร์เช่ หญิงสาวคนรักของเขา แผ่นป้ายแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงถูกนำมาปักไว้บนหลุมศพ เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ทุกคนก็ออกมาจากสุสาน ปล่อยให้ท้องนภาแห่งวองโกเล่หลับอย่างสงบ เคียวโกะออกจากสุสานเป็นคนสุดท้าย เธอหันไปมองหลุมศพของสามีเป็นครั้งสุดท้าย น้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบดังออกมาจากริมฝีปากบาง
“Poi ti seguirò
............................
Chapter I TBC.
ความคิดเห็น