คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : B1 BL Writer
My Friend
B1
“...ร่างบางค่อยๆเคลื่อนดวงหน้าเข้าใกล้ในระยะเพียงลมหายใจกั้น”คิ้วเรียวกดลงด้วยความรำคาญก่อนที่จะกดลบข้อความทั้งหมดแล้วเริ่มต้นเขียนใหม่อีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องยอมแพ้กดเซฟงานที่เขียนไปได้เพียงน้อยนิดก่อนจะเปิดหน้าเพจของเว็บไซต์ประจำตัวขึ้นมา
ดวงตาหลังกรอบแว่นฉายแววเบื่อหน่ายต่อโลกในขณะที่มือกำลังเลื่อนเมาส์ขึ้นลงอย่างเบื่อๆพลางตรวจดูคอมเม้นของคนที่เข้ามาอ่านนิยายของเขาที่ส่วนใหญ่เหมือนจะมาทวงงานเขามากกว่า
ไอ้เขาก็อยากจะต่อให้เร็วหรอกนะ แต่หัวมันไม่แล่นเลยนี่สิ...เฮ้อ ยิ่งคิดยิ่งเศร้า เขียนนิยายมาก็หลายปีแล้วแต่ไม่เคยลงตีพิมพ์แม้แต่ครั้งเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะเขาเป็นประเภทจะเขียนตามใจชอบไงละ หากเบื่อก็หยุดเขียน ตันก็เลิกเขียน และเปลี่ยนเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆทำให้ผลงานหลายชิ้นของเขายังคงครึ่งๆกลางๆไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นานๆทีถึงจะเขียนจบซักเรื่องแต่นั่นก็แค่เรื่องสั้นตอนเดียวจบที่มีความยาวแค่5หน้ากระดาษA4 ใช่ว่าเขาจะไม่เอือมนิสัยนี้ของตัวเอง แต่มันกลับเปลี่ยนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เขาเริ่มเขียนนิยายมาตั้งแต่ตอนม.1ตอนนี้เขาอยู่ม.6แล้วนิยายเรื่องแรกก็ยังเขียนไม่จบ เขาเริ่มเปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็เพิ่งมารู้ตัวว่าชอบแนวBLมาเป็นพิเศษจึงเริ่มเขียนตั้งแต่นั้นมา แต่ถึงจะเป็นแนวที่ชอบก็มีหลายเรื่องที่เขายังคงค้างคาเอาไว้เพราะไม่สามารถเขียนให้มันจบได้ หลายครั้งที่เขาต้องหันไปพึ่งอนิเมะเพื่อให้ตนเองสามารถเขียนนิยายต่อไปได้ เขาไม่มีแรงบันดาลใจในการเขียนแม้แต่น้อย ถึงจะตื่นเต้นบ้างที่เห็นเพื่อนๆผู้ชายสนิทสองคนกันเกินจำเป็นแต่มันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราวและหายไปอย่างรวดเร็ว
เรื่องความรักระหว่างชาย-ชายใช่ว่าเขาจะไม่เคยมี มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาคบกับรุ่นพี่ผู้ชายที่อยู่ต่างประเทศผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่ความรักครั้งนั้นก็จบลงได้ไม่สวยเท่าไหร่และหลังจากตอนนั้นเขาก็ปลงเรื่องความรักและไม่คิดจะมีอีก แน่นอนว่าสิ่งนั้นก็ทำให้กำลังใจในการเขียนนิยายของเขาลดลงไปด้วย เขาสามารถเริ่มความรักครั้งใหม่ในเนื้อเรื่องได้แต่กลับไม่สามารถจบมันลงได้
“เฮ้อ...เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจะดีหรือเรา?”ก่อนที่จะได้บ่นอะไรคนเดียวตามนิสัยมือถือของเขาก็สั่นพร้อมสัญญาณเตือนสายเรียกเข้าทำให้เขาต้องเอื้อมไปรับโดยไม่ทันได้ดูหมายเลข
“อีต้นนนนนนนนน!!!!!!!!”เสียงหวีดแหลมสูงดังเปรตวัดสุทัศน์ทำให้เขาเกือบทำโทรศัพท์สุดที่รักตกพื้นก่อนจะที่อีกฝ่ายจะโวยวายไปมากกว่านี้เขารีบกดวางสายแทบจะทันที และรอให้อีกฝ่ายโทรกลับเข้ามาอีกรอบแล้วก็เป็นไปตามคาดอีกฝ่ายโทรกลับมา
ติ๊ด!
“ฮัลโหล...อะไรของมึงวะอีปั้นจั่นจะมีซักครั้งได้ไหมที่มึงไม่โทรมาแล้วตะโกนใส่หูกูเนี่ย อีดวก!”คำร่ายยาวปิดท้ายด้วยสบถด่าเจ้าของเสียงแหลมสูงที่เป็นอันตรายต่อแก้วหูของเขาอย่างแรง
“เอ้า!อีดอก ถ้ากุไม่มีธุระแล้วกุจะโทรมาหาอะไรละ อีกอย่างมึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยไหนมึงบอกว่าจะอัพนิยายให้วันนี้ไงวะ? มายเฟรนด์อะมายเฟรนด์กุอยากอ่านนนนนน วันนี้กุอุตส่าได้โมเม้นของอิเบียร์กะอิปุนมาตั้งเยอะ!!”ถ้ามึงมีแล้วทำไมไม่ส่งมาให้กุมั่งวะ? อีช้างเย็ด! เม็ดแน่แล้วให้กุนั่งตันอยู่ตั้งนาน
ผมได้แต่ก่นด่ามันในใจแต่ไม่คิดที่จะพูดอะไรเพราะไม่อยากจะสู้รบตบมือกับนังกระเทยแรงช้างอย่างมันเด็ดขาด โอย! พอๆวันนี้ไม่ตงไม่แต่งมันแล้วออกไปเดินเล่นข้างนอกดีกว่า
“วันนี้มันตันว่ะเดี่ยวกุว่าจะไปเดินแซ่ดซะหน่อยถ้าหัวโล่งแล้วค่อยกลับมาอัพให้แล้วกัน แค่นี้นะ!”พูดแค่นั้นแล้วกดวางไปเลย ไม่มีประโยชน์ที่จะฝืนแต่งต่อเมื่อพล็อตเรื่องตันสนิท
คิดแล้วร่างโปร่งก็กระโจนเข้าห้องน้ำไปในทันที อีกหลายสิบนาทีต่อมาเขาก็เดินออกมาอยู่ท่ามกลางแสงแดด รอบตัวเขามีแต่งคนเดินไปเดินมาเต็มไปหมด สองเท้าก้าวเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
“...You need to give it up
Had about enough!
It's not hard to see
The-boy-is-mine!!!”ริมฝีปากขยับพึมพำตามบทเพลงในขณะที่พาร่างของตนเองมาหยุดอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเจ้าประจำที่ตนชอบมาเดินเล่น ด้วยความที่เขาชอบแต่งกายแปลกกว่าชาวบ้านทำให้เขาตกเป็นเป้าสายตาได้อย่างไม่ยาก
ก็แหงละอากาศอย่างเมืองไทยปกติก็ร้อนตับจะแตกแต่ดันมีคนใส่เสื้อกันหนาวออกมาเดินในวันที่อากาศร้อนจัดแบบนี้ ที่จริงนี่แหละสไตล์การแต่งตัวที่เขาชอบละ เสื้อยืดคอกลมสีดำใส่ทับกับแจ๊คเกตหนังสีดำอีกทีแม้จะเข้ากันได้ดีกับกางเกงยีนต์สีน้ำเงินเข้มก็เถอะ แต่มันไม่เข้ากับสภาพอากาศของเมืองไทยแม้แต่น้อย
“I'm sorry that you
Seem to be confused?
He belongs to me!
The boy is mine!!!”ร่างโปร่งเดินฮัมเพลงไปเรื่อยๆพลางสอดส่ายสายตาไปตามทางเพื่อดุนั่นดูนี่บ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เขาเดินเข้าร้านหนังสือและกวาดสายตาไปตามชั้นอย่างเบื่อหน่ายเช่นเคยและเมื่อพบว่าไม่มีหนังสือที่เขาต้องการจึงเดินออก
ร่างโปร่งเดินเรื่อยเปื่อยไปจนถึงชั้นบนสุดของห้างซึ่งเป็นสถานที่สถิตประจำของเขานั่นคือ ร้านการ์ตูนแต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์หลัก ร้านแห่งนี้แตกต่างจากร้านการ์ตูนทั่วไปเล็กน้อยตรงที่เป็นแหล่งรวมการ์ตูนBLไว้มากมายซึ่งนั่นแหละทำให้สีหน้าที่เบื่อโลกตลอดกาลกลับมากระดี้กระด๊าได้
“เล่มนี้...เล่มนี้ แล้วก็เล่มนี้แล้วกัน เอาอีกซัก4-5เล่มก็พอมั้ง อ้อ! เผื่ออีปั้นจั่นกับเจ้านาย (เนโม) ด้วยดีกว่า”กลายเป็นว่าการ์ตูนที่ซื้อมาทั้งหมดก็เกือบโหลอีกจนได้ขนาดยับยั้งชั่งใจมาดีแล้วนะเนี่ย!! แต่ที่ไม่น่าแปลกใจคือการ์ตูนทั้งหมดเป็นBL สำหรับต้นBLเป็นเหมือนยาเสพติดหรือไม่ก็อาหารหลัก เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้!
ทันทีที่จ่ายเงินเสร็จ (ยัยพนักงานหญิงทำหน้าเหมือนเห็นผีไปแวบนึงก่อนจะคิดเงินให้) เขาก็ตั้งใจว่าจะกลับบ้านเลย ก็แหงละ แค่การ์ตูนก็หมดไปเป็นพันละ เขาต้องใช้เงินที่เก็บมาตลอด2อาทิตย์ไปจนหมดนี่คงต้องอยู่แบบแร้นแค้นไปจนถึงอาทิตย์หน้าแหงๆ
ปึก!โครม!!
“อ๊ะ!!โทดที”ร่างโปร่งโดนกระแทกจนเสียหลักล้มลงรวมทั้งการ์ตูนทั้งหมดของเขาก็หล่นกระจัดกระจายไปทั่วพื้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้มถึงหนังสือร่างที่ล้มก็ลุกขึ้นมารวบหนังสือทั้งหมดแล้วโยนใส่ถุงอย่างลวกๆแล้ววิ่งหนีไปทันทีโยไม่มองแม้กระทั่งคนชนด้วยซ้ำ!!!
“เฮ้ย!เดี๋ยวตรงนี้อีกเล่ม”
………………………..
“ให้ตายสิ...ซวยชะมัด! หวังว่ามันคงไม่ยับนะ”ร่างโปร่งกระชับแว่นตาให้เข้าที่อย่างหงุดหงิด ก่อนจะยัดการ์ตูนทั้งหมดใส่กระเป๋าแล้ววิ่งขึ้นรถเมล์กลับบ้านในทันที
และเมื่อมาถึงบ้านเขาเปิดถุงออกเพื่อนำการ์ตูนมาจัดวางเช่นเคยและพบว่า...
“เฮ้ย!!!!!!!!!!!!”
การ์ตูนหาย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ที่สำคัญเล่มนั้นเป็นเล่มที่ตั้งใจจะซื้อฝากเจ้านายเสียด้วย!!!
100%
ความคิดเห็น