คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : A2 I come back to you
A2
“นายๆขอนั่งด้วยได้ปะ?”
“อื้อๆเอาดิว่างอยู่พอดี...เห..เฮ้ย!!!!!”ปุนเงยหน้ามองคนที่นั่งลงข้างๆก่อนจะอุทานเสียงหลงจนคนรอบข้างหันมามองด้วยความสงสัยพลางชี้ไม้ชี้มือไปทางเจ้าตัวราวกับเห็นผี
“เบียร์!”
“ครับ...กลับมาแล้วนะ ปุน”ดวงหน้าคมแสนคุ้นเคยเผยยิ้มบางๆก่อนที่เจ้าของมือหนาจะเดินเข้าไปลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆพร้อมเผยรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่ปรือดวงตาลงรับสัมผัสที่เหินห่างมานาน
“...อืม”ปุนน้อยยิ้มตอบก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสมือแกร่งของอีกฝ่ายมากุมไว้หลวมๆโดยที่มีสายตาแปลกใจของอีกฝ่ายที่ส่งมากับการกระทำที่คาดไม่ถึงของเขา
“ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
“นานเลยนะ...”
“หืม?”
“นาน...จนลืมไปแล้วว่าเบียร์ชอบทำแบบนี้”คนฟังถึงกับพูดไม่ออกก่อนที่รอยยิ้มบางๆจะปรากฏขึ้นบนดวงหน้าคมก่อนที่อีกฝ่ายจะรั้งร่างบางมาไว้แนบอก
“ขอโทษนะปุน...ที่ไม่ได้ติดต่อมาเลย”
“อือ...”
“โกรธรึเปล่า?”
“โกรธ”ร่างในอ้อมแขนสวนขวับแทบจะทันทีทำเอาคนฟังหน้าเสียไปเล็กน้อยก่อนที่ปุนจะผละออกจากอ้อมกอดของเพื่อนหนุ่มแล้วกันมายิ้มให้
“แต่เบียร์ก็กกลับมาแล้วนี่นา...งั้นเราก็ไม่มีเหตุผลให้โกรธแล้วละ”คำตอบแสนน่ารักพร้อมรอยยิ้มหวานที่ส่งมาทำให้เบียร์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมายิ้มกว้างให้เพื่อนหนุ่ม ถ้ามีใครสังเกตดีๆจะเห็นว่าเมื่อกี้ที่ข้างแก้มเนียนของเบียร์มีรอยแดงๆปรากฏขึ้น
“อืม...ขอบคุณนะ”
“ฮ่ะๆ...ว้าก!”ไม่ทันไรปุนน้อยก็มีอันต้องร้องเสียงหลงอีกครั้งเมื่อสบเข้ากับสายตานับสิบคู่ที่จ้องมาที่พวกเขาแบบแฝงเล่ห์นัยอันตราย
“หืม...แบบนี้เองเหรอ?”เนโมยิ้มแสยะเล็กน้อยก่อนจะหันไปสบตากับเพื่อนหนุ่มแว่นข้างกายที่โผล่มาจากไหนไม่รู้พร้อมสมุดและปากกา
“ไม่เคยจะบอกนะ...ปุน”ต้นยิ้มกว้างก่อนจะเขียนทุกคำพูดของพวกเขาสองคนลงในสมุดแล้วตีความมันไปในอีกความหมาย (งานถนัดละเลยละ: คนเขียน)
“...?”
“พวกนี้...เพื่อนปุนเหรอ?”เบียร์ถาม
“คงงั้น...เหอะๆ”ปุนตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เพียงไม่กี่นาทีที่ต้นและเนโมกลับไปนั่งคุยข่าวลือเรื่องนักเรียนใหม่กับปุนน้อยแห่งม.4/2ก็กลายเป็นประเด็นสุดฮอตประจำรุ่นไปเสียแล้ว ทั้งเสียงซุบซิบนินทาและเสียงหัวเราะจากบรรดาเพื่อนตัวแสบทั้งหลายแถมยังจ้องมาที่พวกเขาแปลกๆจนปุนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีด้วยความเขินอาย
“โอ๊ย!เมื่อไหร่มันจะหยุดกันวะ”
“อีกนานว่ะปุนเอ้ย”เบ็นซ์ปลอบก่อนจะเดินเลี่ยงๆออกไปเมื่อใครบางคนเดินเข้ามาหาปุน
“โทษนะปุน”ปุนยิ้มแห้งๆให้เพื่อนหนุ่มอย่างอ่อนใจก่อนจะส่ายหัวเบาๆเป็นเชิงบอกว่านี่ไม่ใช่ความผิดเขาแต่เป็นคนอื่นต่างหาก!
“มันไม่เกี่ยวกับเบียร์อะ”
“งั้นเกี่ยวกับปุน?”
“จะไปรู้เรอะ...”
“ถ้ามันเกี่ยวกับปุนมันก็เกี่ยวกับเราด้วยดิ”ปุนถึงกับงุนงงเล็กน้อยกับคำพูดของเบียร์ก่อนจะต้องหน้าแดงก่ำอีกรอบเมื่อดวงหน้าคมโน้มลงมาพร้อมเอ่ยคำกระซิบที่ข้างหู
“ก็...เราสัญญากันไว้แบบนั้นนี่นา”
ปุนถึงกับก้มหน้านิ่งเพื่อกลบเกลื่อนความเขินที่ดูเหมือนจะแผ่รังสีออกมาทางหน้าเขาจนเขากลัวว่าคนตรงหน้าจะรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกไป
“ยังจำได้อีกเหรอเนี่ย...”
“ก็...ปุนเป็นคนบอกเองนะว่าห้ามลืมน่ะ”เบียร์ยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายก่อนจะเอื้อมมือหนาไปขยี้เส้นผมอ่อนนุ่มของอีกอีกฝ่ายจนยุ่ง
“พอเลยเบียร์อายคนอื่นบ้าดิ!!!”ปุนโวย
ทั้งคู่คงหยอกล้อกันตามเดิมโดยไม่รู้สึกตัวอีกเช่นเคยว่าทุกการกระทำและคำพูดของพวกเขานั้นกำลังถูกมองและจดจำโดยคนสอดรู้สอดเห็นสองสามคนแถวๆนี้
“คิดว่าใช่มะ?”
“จะเหลือรึ...”
“แน่เลยแก!!!!!”
ไม่ทราบว่า3พระนางนี่มารวมหัวกันตั้งแต่เมื่อไหร่แต่กว่ารุ่นพี่จะรู้ว่ามีคนแปลกหน้าแอบเนียนมาอยู่ในห้อง4/2ด้วยกันถึงสองคน ซึ่งไม่ได้สังเกตนักหากหนึ่งในนั้นไม่ทำตัวเรียกร้องความสนใจเสียเหลือเกิน
“ปั้น...เบาๆหน่อยเดี๋ยวได้โดนเด้งกลับห้องกันหมด”ต้นปรามเพื่อนสาว(?)เนื่องจากเห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนเริ่มหันมามองพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นซึ่งนังกระเทยของเรานั้นก็ทำตัวได้เรียบร้อยตามที่บอกจริงๆ
“อย่าได้แคร์ค่ะ...เชิด!”...ดูมันตอบ
“ตามสบาย...โดนจับได้กูไม่รู้จักมึง”
“แรง!!มึงเพื่อนกูรึเปล่าเนี่ย”
“ใช่มั้ง”ต้นยักไหล่ก่อนจะแสยะยิ้มยียวนกวนประสาทไปให้
“ตบกะกูไหมสาดดด!?”
“กูไม่โง่พอไปมีเรื่องกับกระเทยถึกอย่างมึงหรอก”
“อะไรอะ...เค้าออกจะอ่อนแอสู้ใครไม่เป็นอีกอย่าเจ๊เป็นเก้งย่ะไม่ใช่กระเทย”
“เออกูเชื่อ”...ตายแหละ เด็กหนุ่มคิดกับตัวเองต่อในใจ
“ปั้นจั่น...พี่เค้าเรียกแล้วไปเร็ว”นัทเพื่อนสนิทอีกคนของอิเจ๊เดินมาเรียกด้วยสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะลากSheกลับห้องโดยไม่ลืมหันมาทักทายเพื่อนในกลุ่มแต่นังปั้นจั่นดันขออยู่ต่ออีกแปบ ถึงนัทจะตัวโตพอๆกับปั้นจั่นแต่แรงกระเทยกับแรงชายแท้มันผิดกันลิบเลยต้องจำใจกลับไปห้องคนเดียวตามเคย
“งั้นเจ๊ไปก่อนนะทุกคน~...รักนะจูบุจูบุ!”ประโยคแรกทำให้ใครบางคนถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแต่ก็ต้องไม่วายขนลูกซู่อีกครั้งเมื่อเจอเข้ากับคำทิ้งท้ายสุดสยองก่อนที่นางจะเดินกระแทกพื้น (8.7ริกเตอร์) จากไป
“แร_มาก...งั้นเรากลับห้องก่อนนะเนโม”ต้นโค้งลาเนโมแบบล้อเลียนก่อนจะหันไปบอกลาเพื่อนคนอื่นๆสองสามคำแล้วเดินจากไปเงียบๆด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก
“แล้วเจอกัน”
.........................................
“โอ๊ย!เหนื่อยชิบหาย!!!”เจ้าของดวงหน้าหวานปานสตรีบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจเหมือนกับคนเพิ่งตื่นนอน
“เหอๆได้กลับบ้านซักทีวันนี้จะเล่นให้หนำใจไปเลย!”ปุนน้อยพูดบ้างด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เด็กติดเกม~”
“ปุน!”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับร่างคุ้นตาที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าซึ่งมันทำให้รอยยิ้มแสยะแฝงเล่ห์นัยอันน่าสะพรึงกลัวของเนโมกว้างขึ้น
“ใครมาหาแหนะ ปุน”
“เสื_ก...มีอะไรเหรอเบียร์”ปุนตอกกลับห้วนๆก่อนจะหันไปทักตอบคนเรียกพร้อมรอยยิ้มหวานกระชากใจผิดกับท่าทางเมื่อกี้จากหน้ามือเป็นหลัง...
เนโม (จงใจ) เดินแยกออกไปรวมกลุ่มกับพวกปั้นจั่นที่เดินตามมาพอดีทิ้งให้ทั้ง2คนอยู่กันตามลำพังเพื่อจุดประสงค์บางอย่างที่ไม่ต่อให้ต้องบอกก็น่าจะรู้กัน
“จะกลับบ้านแล้วใช่มะ?...งั้นเบียร์ไปส่งนะ”
“จะดีเหรอ?แล้วบ้านเบียร์...?”จนถึงตอนนี้ปุนเพิ่งรู้ตัวว่าเขายังไม่ได้ถามเลยว่าเพื่อนคนนี้ของเขาตอนนี้อยู่ที่ไหนหรือกับใคร
“เอาเป็นว่าผ่านบ้านปุนแน่นอนน่า...เชื่อดิ”ปุนมีท่าทีลังเลเล็กน้อยแต่พอสบกับสายตาคาดหวังของอีกฝ่ายแล้วต้องยอมจำนนพยักหน้าตอบกลับไป
“ก็ได้...กลับก่อนนะ”เด็กหนุ่มหันมาเอ่ยลากับพวกสอดรู้สอดเห็นที่ยังคงซุ่มดูพวกเขาสองคนอยู่ทุกอิริยาบถตั้งแต่พวกเขาเจอกัน แถมทั้งยังพร้อมใจกันเดินออกมาจากที่ซ่อนพร้อมคำอวยพรที่น่าจับเชือดทิ้งเรียงตัว
“กลับให้ถึงบ้านละ”>>เนโม
“อย่าหลงไปโรงแรมไหนซะละ”>>ต้น
“ไอพวกเลว!!”
หลังจากการบอกลาอย่างดุเดือดกับเพื่อนตัวแสบทั้งหลายเบียร์และปุนก็เดินลงจากอาคารเรียนชั้น3ด้วยความเงียบกริบเพราะทั้งคู่ไม่รู้จะพูดอะไรกัน ปุนก็เอาแต่เงียบกริบส่วนเบียร์ก็เอาแต่จ้องหน้าปุนแล้วยิ้มน้อยๆมาให้อยู่ตลอดจนคนถูกจ้องนานอดรู้สึกเขินไม่ได้
“เอ่อ...หน้าเรามีอะไรติดอยู่งั้นเหรอ?”
“เปล่า...แค่รู้สึกว่าปุนน่ารักน่ารักขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะเลย”คำเปรยลอยที่ทำเอาคนน่ารักหน้าขึ้นสีจนต้องก้มหน้างุดปิดความเขินที่แผ่ซ่านออกมาทางใบหน้า
“ไม่ใช่ซักหน่อย...ตาของเบียร์นั่นแหละที่เพี้ยน”ปุนบ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆแต่เจ้าตัวดันได้ยินซะงั้น
“555...คงงั้น”เบียร์หัวเราะเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเส้นผมดำสวยของคนน่ารักด้วยความเคยชินแต่เจ้าตัวกลับปัดมันทิ้งด้วยความเขินอายก่อนจะหันมาตวาดใส่กลบเกลื่อน
“หยุดหัวเราะเลยนะ!!”
“โอเคๆครับไม่หัวเราะแล้วก็ได้...แท็กซี่!”เบียร์ละความสนใจจากปุนไปเรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านมาพอดีหลังจากทั้งเดินมาถึงหน้าโรงเรียน
“ไปxxx...ครับ”
เบียร์บอกคนขับเรียบในขณะที่ปุนได้ขึ้นไปนั่งเอนตัวบนเบาะหลังในรถแท็กซี่อย่างสบายใจเฉิบเรียบร้อยแล้วทิ้งให้เบียร์ยืนมองเพื่อนหนุ่มด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆ
“อ่าวทำไมไม่นั่งหน้าละ?”ปุนเลิกคิ้วถามอย่างฉงน
“แอร์เย็นน่ะ...”เบียร์ตอบยิ้มๆก่อนจะเอื้อมมือมาลูบศีรษะคนร่างบางเบาๆ
“อือ”ในตอนแรกเหมือนปุนน้อยของเราจะไม่ปักใจเชื่อง่ายๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่ถอดกระเป๋านักเรียนออกมาวางไว้คั่นกลางระหว่างเขาสองคนแต่เบียร์ก็ฉวยมันไป
“เอามาไว้ตรงนี้จะได้ไม่เกะกะเวลานั่ง”เบียร์ตอบคำถามทางสายตาของอีกฝ่าย
“มันเบียดนะ”
“นิดเดียวเองน่า”
“ตามใจ”
จากนั้นทั้งคู่ก็ชวนคุยเรื่องสารพัดตั้งแต่เรื่องวันเก่าๆของพวกเขาไปจนถึงชีวิตของพวกเขาทั้งสองคนหลังจากห่างหายกันไปแม้ว่าส่วนใหญ่เบียร์จะเป็นฝ่ายเล่าเสียมากกว่า
“แล้วก็นะที่โน่นพวกนั้น....”
ตุบ!
“ฟี้~”น้ำหนักที่กดลงบนไหล่มาพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆของคนข้างกายทำให้เขารู้ว่าคนข้างกายเขาได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยแล้วโดยใช้ไหล่เขาหนุนต่างหมอนซะด้วย
“คิก...หลับไปแล้วเหรอเนี่ย”เบียร์พึมพำกับตัวเองเบาๆพร้อมรอยยิ้มบางก่อนจะเอื้อมมือหนาไปปัดปอยผมที่ยาวลงมาปรกใบหน้าหวานนั่น แม้เป็นเพียงการลูบเบาๆแต่การที่เขาได้สัมผัสที่ห่างหายไปกลับคืนมาทำให้เบียร์เผลอจ้องใบหน้าที่แสนคิดถึงอยู่นาน
“ปุนจะรู้ไหมนะ...ที่เรากลับมาครั้งนี้เพราะเราอยากเจอปุนนะ”เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ส่งไปไม่ถึงของเบียร์มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่ได้ยินก่อนที่เจ้าตัวจะโอบร่างบอบบางนั้นมาไว้ในอ้อมแขนพร้อมดวงตาสีนิลที่ปรือลงช้าๆโดยเอนศีรษะลงไปซบกับศีรษะของอีกฝ่ายเพื่อตักตวงช่วงเวลาที่ขาดหายไประหว่างพวกเขา2คน
ความคิดเห็น