ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi]My Friend รักนี้มีแค่นาย!!

    ลำดับตอนที่ #3 : A2 I come back to you

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 55


    A2

    “นายๆขอนั่งด้วยได้ปะ?”

    “อื้อๆเอาดิว่างอยู่พอดี...เห..เฮ้ย!!!!!”ปุนเงยหน้ามองคนที่นั่งลงข้างๆก่อนจะอุทานเสียงหลงจนคนรอบข้างหันมามองด้วยความสงสัยพลางชี้ไม้ชี้มือไปทางเจ้าตัวราวกับเห็นผี

    “เบียร์!

    “ครับ...กลับมาแล้วนะ ปุน”ดวงหน้าคมแสนคุ้นเคยเผยยิ้มบางๆก่อนที่เจ้าของมือหนาจะเดินเข้าไปลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆพร้อมเผยรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่ปรือดวงตาลงรับสัมผัสที่เหินห่างมานาน

    “...อืม”ปุนน้อยยิ้มตอบก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสมือแกร่งของอีกฝ่ายมากุมไว้หลวมๆโดยที่มีสายตาแปลกใจของอีกฝ่ายที่ส่งมากับการกระทำที่คาดไม่ถึงของเขา

    “ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”

    “นานเลยนะ...”

    “หืม?”

    “นาน...จนลืมไปแล้วว่าเบียร์ชอบทำแบบนี้”คนฟังถึงกับพูดไม่ออกก่อนที่รอยยิ้มบางๆจะปรากฏขึ้นบนดวงหน้าคมก่อนที่อีกฝ่ายจะรั้งร่างบางมาไว้แนบอก

    “ขอโทษนะปุน...ที่ไม่ได้ติดต่อมาเลย”

    “อือ...”

    “โกรธรึเปล่า?”

    “โกรธ”ร่างในอ้อมแขนสวนขวับแทบจะทันทีทำเอาคนฟังหน้าเสียไปเล็กน้อยก่อนที่ปุนจะผละออกจากอ้อมกอดของเพื่อนหนุ่มแล้วกันมายิ้มให้

    “แต่เบียร์ก็กกลับมาแล้วนี่นา...งั้นเราก็ไม่มีเหตุผลให้โกรธแล้วละ”คำตอบแสนน่ารักพร้อมรอยยิ้มหวานที่ส่งมาทำให้เบียร์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมายิ้มกว้างให้เพื่อนหนุ่ม ถ้ามีใครสังเกตดีๆจะเห็นว่าเมื่อกี้ที่ข้างแก้มเนียนของเบียร์มีรอยแดงๆปรากฏขึ้น

    “อืม...ขอบคุณนะ”

    “ฮ่ะๆ...ว้าก!”ไม่ทันไรปุนน้อยก็มีอันต้องร้องเสียงหลงอีกครั้งเมื่อสบเข้ากับสายตานับสิบคู่ที่จ้องมาที่พวกเขาแบบแฝงเล่ห์นัยอันตราย

    “หืม...แบบนี้เองเหรอ?”เนโมยิ้มแสยะเล็กน้อยก่อนจะหันไปสบตากับเพื่อนหนุ่มแว่นข้างกายที่โผล่มาจากไหนไม่รู้พร้อมสมุดและปากกา

    “ไม่เคยจะบอกนะ...ปุน”ต้นยิ้มกว้างก่อนจะเขียนทุกคำพูดของพวกเขาสองคนลงในสมุดแล้วตีความมันไปในอีกความหมาย (งานถนัดละเลยละ: คนเขียน)

    “...?”

    “พวกนี้...เพื่อนปุนเหรอ?”เบียร์ถาม

    “คงงั้น...เหอะๆ”ปุนตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ

    เพียงไม่กี่นาทีที่ต้นและเนโมกลับไปนั่งคุยข่าวลือเรื่องนักเรียนใหม่กับปุนน้อยแห่งม.4/2ก็กลายเป็นประเด็นสุดฮอตประจำรุ่นไปเสียแล้ว ทั้งเสียงซุบซิบนินทาและเสียงหัวเราะจากบรรดาเพื่อนตัวแสบทั้งหลายแถมยังจ้องมาที่พวกเขาแปลกๆจนปุนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีด้วยความเขินอาย

    “โอ๊ย!เมื่อไหร่มันจะหยุดกันวะ”

    “อีกนานว่ะปุนเอ้ย”เบ็นซ์ปลอบก่อนจะเดินเลี่ยงๆออกไปเมื่อใครบางคนเดินเข้ามาหาปุน

    “โทษนะปุน”ปุนยิ้มแห้งๆให้เพื่อนหนุ่มอย่างอ่อนใจก่อนจะส่ายหัวเบาๆเป็นเชิงบอกว่านี่ไม่ใช่ความผิดเขาแต่เป็นคนอื่นต่างหาก!

    “มันไม่เกี่ยวกับเบียร์อะ”

    “งั้นเกี่ยวกับปุน?”

    “จะไปรู้เรอะ...”

    “ถ้ามันเกี่ยวกับปุนมันก็เกี่ยวกับเราด้วยดิ”ปุนถึงกับงุนงงเล็กน้อยกับคำพูดของเบียร์ก่อนจะต้องหน้าแดงก่ำอีกรอบเมื่อดวงหน้าคมโน้มลงมาพร้อมเอ่ยคำกระซิบที่ข้างหู

    “ก็...เราสัญญากันไว้แบบนั้นนี่นา”

    ปุนถึงกับก้มหน้านิ่งเพื่อกลบเกลื่อนความเขินที่ดูเหมือนจะแผ่รังสีออกมาทางหน้าเขาจนเขากลัวว่าคนตรงหน้าจะรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกไป

    “ยังจำได้อีกเหรอเนี่ย...”

    “ก็...ปุนเป็นคนบอกเองนะว่าห้ามลืมน่ะ”เบียร์ยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายก่อนจะเอื้อมมือหนาไปขยี้เส้นผมอ่อนนุ่มของอีกอีกฝ่ายจนยุ่ง

    “พอเลยเบียร์อายคนอื่นบ้าดิ!!!”ปุนโวย

    ทั้งคู่คงหยอกล้อกันตามเดิมโดยไม่รู้สึกตัวอีกเช่นเคยว่าทุกการกระทำและคำพูดของพวกเขานั้นกำลังถูกมองและจดจำโดยคนสอดรู้สอดเห็นสองสามคนแถวๆนี้

    “คิดว่าใช่มะ?”

    “จะเหลือรึ...”

    “แน่เลยแก!!!!!

    ไม่ทราบว่า3พระนางนี่มารวมหัวกันตั้งแต่เมื่อไหร่แต่กว่ารุ่นพี่จะรู้ว่ามีคนแปลกหน้าแอบเนียนมาอยู่ในห้อง4/2ด้วยกันถึงสองคน ซึ่งไม่ได้สังเกตนักหากหนึ่งในนั้นไม่ทำตัวเรียกร้องความสนใจเสียเหลือเกิน

    “ปั้น...เบาๆหน่อยเดี๋ยวได้โดนเด้งกลับห้องกันหมด”ต้นปรามเพื่อนสาว(?)เนื่องจากเห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนเริ่มหันมามองพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นซึ่งนังกระเทยของเรานั้นก็ทำตัวได้เรียบร้อยตามที่บอกจริงๆ

    “อย่าได้แคร์ค่ะ...เชิด!”...ดูมันตอบ

    “ตามสบาย...โดนจับได้กูไม่รู้จักมึง”

    “แรง!!มึงเพื่อนกูรึเปล่าเนี่ย”

    “ใช่มั้ง”ต้นยักไหล่ก่อนจะแสยะยิ้มยียวนกวนประสาทไปให้

    “ตบกะกูไหมสาดดด!?

    “กูไม่โง่พอไปมีเรื่องกับกระเทยถึกอย่างมึงหรอก”

    “อะไรอะ...เค้าออกจะอ่อนแอสู้ใครไม่เป็นอีกอย่าเจ๊เป็นเก้งย่ะไม่ใช่กระเทย”

    “เออกูเชื่อ”...ตายแหละ เด็กหนุ่มคิดกับตัวเองต่อในใจ

    “ปั้นจั่น...พี่เค้าเรียกแล้วไปเร็ว”นัทเพื่อนสนิทอีกคนของอิเจ๊เดินมาเรียกด้วยสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะลากSheกลับห้องโดยไม่ลืมหันมาทักทายเพื่อนในกลุ่มแต่นังปั้นจั่นดันขออยู่ต่ออีกแปบ ถึงนัทจะตัวโตพอๆกับปั้นจั่นแต่แรงกระเทยกับแรงชายแท้มันผิดกันลิบเลยต้องจำใจกลับไปห้องคนเดียวตามเคย

    “งั้นเจ๊ไปก่อนนะทุกคน~...รักนะจูบุจูบุ!”ประโยคแรกทำให้ใครบางคนถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแต่ก็ต้องไม่วายขนลูกซู่อีกครั้งเมื่อเจอเข้ากับคำทิ้งท้ายสุดสยองก่อนที่นางจะเดินกระแทกพื้น (8.7ริกเตอร์) จากไป

    “แร_มาก...งั้นเรากลับห้องก่อนนะเนโม”ต้นโค้งลาเนโมแบบล้อเลียนก่อนจะหันไปบอกลาเพื่อนคนอื่นๆสองสามคำแล้วเดินจากไปเงียบๆด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก

    “แล้วเจอกัน”

    .........................................

    “โอ๊ย!เหนื่อยชิบหาย!!!”เจ้าของดวงหน้าหวานปานสตรีบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจเหมือนกับคนเพิ่งตื่นนอน

    “เหอๆได้กลับบ้านซักทีวันนี้จะเล่นให้หนำใจไปเลย!”ปุนน้อยพูดบ้างด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

    “เด็กติดเกม~

    “ปุน!”เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับร่างคุ้นตาที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าซึ่งมันทำให้รอยยิ้มแสยะแฝงเล่ห์นัยอันน่าสะพรึงกลัวของเนโมกว้างขึ้น

    “ใครมาหาแหนะ ปุน”

    “เสื_ก...มีอะไรเหรอเบียร์”ปุนตอกกลับห้วนๆก่อนจะหันไปทักตอบคนเรียกพร้อมรอยยิ้มหวานกระชากใจผิดกับท่าทางเมื่อกี้จากหน้ามือเป็นหลัง...

    เนโม (จงใจ) เดินแยกออกไปรวมกลุ่มกับพวกปั้นจั่นที่เดินตามมาพอดีทิ้งให้ทั้ง2คนอยู่กันตามลำพังเพื่อจุดประสงค์บางอย่างที่ไม่ต่อให้ต้องบอกก็น่าจะรู้กัน

    “จะกลับบ้านแล้วใช่มะ?...งั้นเบียร์ไปส่งนะ”

    “จะดีเหรอ?แล้วบ้านเบียร์...?”จนถึงตอนนี้ปุนเพิ่งรู้ตัวว่าเขายังไม่ได้ถามเลยว่าเพื่อนคนนี้ของเขาตอนนี้อยู่ที่ไหนหรือกับใคร

    “เอาเป็นว่าผ่านบ้านปุนแน่นอนน่า...เชื่อดิ”ปุนมีท่าทีลังเลเล็กน้อยแต่พอสบกับสายตาคาดหวังของอีกฝ่ายแล้วต้องยอมจำนนพยักหน้าตอบกลับไป

    “ก็ได้...กลับก่อนนะ”เด็กหนุ่มหันมาเอ่ยลากับพวกสอดรู้สอดเห็นที่ยังคงซุ่มดูพวกเขาสองคนอยู่ทุกอิริยาบถตั้งแต่พวกเขาเจอกัน แถมทั้งยังพร้อมใจกันเดินออกมาจากที่ซ่อนพร้อมคำอวยพรที่น่าจับเชือดทิ้งเรียงตัว

    “กลับให้ถึงบ้านละ”>>เนโม

    “อย่าหลงไปโรงแรมไหนซะละ”>>ต้น

    “ไอพวกเลว!!

    หลังจากการบอกลาอย่างดุเดือดกับเพื่อนตัวแสบทั้งหลายเบียร์และปุนก็เดินลงจากอาคารเรียนชั้น3ด้วยความเงียบกริบเพราะทั้งคู่ไม่รู้จะพูดอะไรกัน ปุนก็เอาแต่เงียบกริบส่วนเบียร์ก็เอาแต่จ้องหน้าปุนแล้วยิ้มน้อยๆมาให้อยู่ตลอดจนคนถูกจ้องนานอดรู้สึกเขินไม่ได้

    “เอ่อ...หน้าเรามีอะไรติดอยู่งั้นเหรอ?”

    “เปล่า...แค่รู้สึกว่าปุนน่ารักน่ารักขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะเลย”คำเปรยลอยที่ทำเอาคนน่ารักหน้าขึ้นสีจนต้องก้มหน้างุดปิดความเขินที่แผ่ซ่านออกมาทางใบหน้า

    “ไม่ใช่ซักหน่อย...ตาของเบียร์นั่นแหละที่เพี้ยน”ปุนบ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆแต่เจ้าตัวดันได้ยินซะงั้น

    “555...คงงั้น”เบียร์หัวเราะเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเส้นผมดำสวยของคนน่ารักด้วยความเคยชินแต่เจ้าตัวกลับปัดมันทิ้งด้วยความเขินอายก่อนจะหันมาตวาดใส่กลบเกลื่อน

    “หยุดหัวเราะเลยนะ!!

    “โอเคๆครับไม่หัวเราะแล้วก็ได้...แท็กซี่!”เบียร์ละความสนใจจากปุนไปเรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านมาพอดีหลังจากทั้งเดินมาถึงหน้าโรงเรียน

    “ไปxxx...ครับ”

    เบียร์บอกคนขับเรียบในขณะที่ปุนได้ขึ้นไปนั่งเอนตัวบนเบาะหลังในรถแท็กซี่อย่างสบายใจเฉิบเรียบร้อยแล้วทิ้งให้เบียร์ยืนมองเพื่อนหนุ่มด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆ

    “อ่าวทำไมไม่นั่งหน้าละ?”ปุนเลิกคิ้วถามอย่างฉงน

    “แอร์เย็นน่ะ...”เบียร์ตอบยิ้มๆก่อนจะเอื้อมมือมาลูบศีรษะคนร่างบางเบาๆ

    “อือ”ในตอนแรกเหมือนปุนน้อยของเราจะไม่ปักใจเชื่อง่ายๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่ถอดกระเป๋านักเรียนออกมาวางไว้คั่นกลางระหว่างเขาสองคนแต่เบียร์ก็ฉวยมันไป

    “เอามาไว้ตรงนี้จะได้ไม่เกะกะเวลานั่ง”เบียร์ตอบคำถามทางสายตาของอีกฝ่าย

    “มันเบียดนะ”

    “นิดเดียวเองน่า”

    “ตามใจ”

    จากนั้นทั้งคู่ก็ชวนคุยเรื่องสารพัดตั้งแต่เรื่องวันเก่าๆของพวกเขาไปจนถึงชีวิตของพวกเขาทั้งสองคนหลังจากห่างหายกันไปแม้ว่าส่วนใหญ่เบียร์จะเป็นฝ่ายเล่าเสียมากกว่า

    “แล้วก็นะที่โน่นพวกนั้น....”

     

    ตุบ!

     

    “ฟี้~”น้ำหนักที่กดลงบนไหล่มาพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆของคนข้างกายทำให้เขารู้ว่าคนข้างกายเขาได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยแล้วโดยใช้ไหล่เขาหนุนต่างหมอนซะด้วย

    “คิก...หลับไปแล้วเหรอเนี่ย”เบียร์พึมพำกับตัวเองเบาๆพร้อมรอยยิ้มบางก่อนจะเอื้อมมือหนาไปปัดปอยผมที่ยาวลงมาปรกใบหน้าหวานนั่น แม้เป็นเพียงการลูบเบาๆแต่การที่เขาได้สัมผัสที่ห่างหายไปกลับคืนมาทำให้เบียร์เผลอจ้องใบหน้าที่แสนคิดถึงอยู่นาน

    “ปุนจะรู้ไหมนะ...ที่เรากลับมาครั้งนี้เพราะเราอยากเจอปุนนะ”เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ส่งไปไม่ถึงของเบียร์มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่ได้ยินก่อนที่เจ้าตัวจะโอบร่างบอบบางนั้นมาไว้ในอ้อมแขนพร้อมดวงตาสีนิลที่ปรือลงช้าๆโดยเอนศีรษะลงไปซบกับศีรษะของอีกฝ่ายเพื่อตักตวงช่วงเวลาที่ขาดหายไประหว่างพวกเขา2คน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×