คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : A1 When we meet
A1
แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านบานหน้าต่างที่ถูกเปิดออกพร้อมกับสายลมอุ่นๆในฤดูร้อนของเดือนพฤษภาคมที่พัดผ่านเข้าในห้องพอจะช่วยคลายความร้อนของสภาพอากาศในตอนนี้ลงได้บ้างแต่ก็ไม่มากพอที่จะคลายความดุเดือดในใจใครบางคนที่ตอนนี้กำลังรัวคีย์บอร์ดอย่างเมามัน
“ตายซะ!”
เสียงคำรามพร้อมนิ้วเรียวที่กระแทกลงบนแป้นพิมพ์อย่างรุนแรงเกินจำเป็นจนแทบจะกลายเป็นทุบสิ่งนั้นให้แหลกเป็นเสี่ยงคามือ
You Win!
“ไชโย!”
เจ้าของเสียงผุดลุกจากที่นั่งด้วยความยินดีก่อนจะตะโกนโห่ร้องออกมาซะดังลั่นก่อนจะหันกลับไปเช็คบางอย่างอีก2-3ครั้งแล้วกลับมากระโดดโลดเต้นไปทั่วห้องเช่นเดิมด้วยความปลื้มปิติ แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักกึกเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาบอกเวลา...
8.00 น.
“ซวย”คำบ่นสั้นๆพร้อมกับคอมที่ดับลงอย่างรวดเร็ว ร่างบางของปุนก็หายไปในประตูห้องน้ำเรียบร้อยแล้วโดยไม่ลืมหยุดมองภาพใบเล็กๆที่ใส่กรอบอย่างดีตั้งไว้บนหัวเตียงด้วยสายตาที่โหยหา
‘เมื่อไหร่นายจะกลับมานะ...’
เด็กหนุ่มมองคนในรูปทั้งสองคนเพียงชั่วครู่ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเร่งรีบพร้อมกับสะบัดภาพความทรงจำในวัยเยาว์ที่แสนคิดถึงของเขาออกไปจากสมอง...แต่ก็ได้เพียงชั่วครู่ภาพนั้นมักจะตามหลอกหลอนเข้าทุกครั้งที่มองภาพนั้นจนบางทีเขาก็คิดว่าตัวเองท่าจะบ้าไปแล้ว
แต่ก็นะ...คนซื่อ(บื้อ)อย่างปุนน่ะเหรอจะรู้ว่าไอความรู้สึกโหยหาที่มีต่อคนในภาพจนน่ารำคาญนี้คืออะไร เขาคิดเพียงแค่ว่าคิดถึงเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานก็แค่นั้น (แต่ท่าทางคนอ่านบางคนจะไม่คิดแบบนั้น: คนเขียน)
หลังจากนั้นเกือบๆ10นาทีเด็กหนุ่มก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่บนรถที่หยุดนิ่งบนสีแยกไฟแดงที่ไหนซักแห่งเพราะการจราจรที่เป็นอัมพาตซึ่งเป็นเรื่องปกติที่น่าหงุดหงิดของเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพ
“เฮ้อ~สายตั้งแต่วันแรกเลยแฮะ”ปุนปลอบใจตัวเองเงียบๆด้วยการถอนหายใจอย่างปลงๆหลายต่อหลายครั้งถึงแม้มันจะไม่ช่วยให้ไปถึงโรงเรียนเร็วขึ้นซักนิดก็ตาม
‘ไปสายตั้งแต่วันปฐมนิเทศจะโดนอะไรมั่งเนี่ย’เด็กหนุ่มบ่นกับตัวเองเป็นรอบที่ร้อยแล้วพยายามหาเหตุผลร้อยแปดมาปลอบใจตัวเองอีกครั้ง...
แต่ก็ไม่ได้ผล...
“เอาวะ...ไปสายบวกเวลอัพก็คุ้มฟะ” (ตรงไหนของแกมิทราบฟะ: คนเขียน) แต่เหตุผลร้อยแปดดังที่กล่าวมานั้นก็มีแต่นี่แหละที่พอจะคลายความกังวลของเขาไปได้
........... อีก 20-30 นาทีต่อมา ..........
“ถึงแล้วเว้ยเฮ้ย~!”เจ้าของร่างโปร่งจ้ำอ้าวเข้าสู่รั้วโรงเรียนอย่างรวดเร็วก่อนจะทำเนียนพวกรุ่นพี่เข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนห้องเดียวกันอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครทันสังเกตเห็น (แกเป็นนินจาใช่ไหม: คนเขียน)
“มาช้านะปุน...”เด็กหนุ่ม(?)เจ้าของดวงหน้าหวานสวยจนสตรีแทบแทรกแผ่นดินหนีเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มแสยะแบบมีเล่ห์นัยจนเจ้าของชื่ออดขยาดไม่ได้ทันทีที่เขาเดินเข้ามาในกลุ่ม
“ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึไง”เด็กหนุ่มอีกคนเอ่ยเสริมด้วยความนึกสนุกหรืออะไรไม่ทราบได้ พร้อมกับยื่นผ้าพันคอสีชมพูเขาที่รีบรับมาใส่อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเขาเป็นคนเดียวในระดับชั้นม.4ที่ไม่มีผ้าพันคอเขาจึงต้องรีบปรับตัวให้กลมกลืนทันที
“แหงละ...ทำไรอยู่ละเล่นเกมอะดิ”เด็กหนุ่มหน้าหวานเอ่ยกัดเบาๆด้วยความสะใจส่วนตัวจนคนโดนกัดถึงกับสะอึกเพราะมันเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“สมควรแล้วแหละที่มาสาย”
“ยุ่งกะกุน่า...เออๆเนโมเมื่อเช้าโคตรสะใจเลยอะได้ตบเกรียนไอเวรนั่นจนเวลอัพเลย 555+”
“ก็มึงเกรียนกว่าไงจบปะ?แล้วไม่มีรอกุด้วยไง”เนโมสวนขวับด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะหันไปคุยกับเด็กหนุ่มอีกคน
“เบ็นซ์...วันนี้เติมให้กุด้วย89วันนี้กุกะไม่เล่นอะ...ไม่ใช่อะไรฟิคมันอัพแระตั้ง4-5บทกุอยากอ่านว่ะ แมร่งน้องกุก็โคดเ_ยอะมันเสือกมานั่งดูตอนอ่านฟิคแล้วกุก็อ่านไม่ได้อีก อีด_ก!!วันนี้แหละกุจะอ่านให้ตายคาฟิคไปเลย!!”เนโมร่ายยานิดไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ทัดทานใดๆทั้งสิ้นก่อนจะตัดจบอย่างรวดเร็ว
“เออ”จนแล้วจนรอดก็ต้องยอมจนได้ ก็นะ...ใครจะไปกล้าขัดชายผู้มีอิทธิพลที่สุดในห้องม.4/2ได้ละ!!!
ตึง!!!!ตึง!!!!!!
“น้องเนมมมม~”เสียงหวานปานน้ำผึ้ง (ในโคลนตม) มาพร้อมแรงสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว8.7ริกเตอร์ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นมันมาพร้อมกับการปรากฏตัวอย่างสง่างาม (?)ของใครบางคนที่ทำให้คนใกล้ๆต้องแหวกทางหนีเป็นทางยาว
“อีปั้น...มึงตะโกนหาผัวเหรอวะเล่นซะดัง”เด็กหนุ่มใส่แว่นอีกคนเดินตามหลังเจ้าของชื่อเอ่ยแขวะด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะส่ายหน้าเบาด้วยความเอือมระอา
“แรง!แต่ถ้าเรียกแล้วมาก็เอานะแกขอแบบนิชคุณนะ!!”Sheหันกลับมาสวนเพื่อนหนุ่มด้วยความแรดส่วนตัวแบบที่ไม่มีใคร (อยาก) เหมือน
“ฝันเหอะ...ช่วยสำรวจหนังหน้ามึงด้วยก่อนจะพูดออกมาน่ะ”เนโมเอ่ยขัด กัด แขวะครบสูตรใส่ปั้นจั่นจนSheถึงกับชักสีหน้าก่อนจะโดนเพื่อนตัวเล็กดึงไปนั่งเมาส์สนั่นโดยมีเพื่อนหนุ่มอีกคนนั่งฟังด้วยรอยยิ้มเงียบๆ
ปุนน้อยนั่งมองเหล่าเสือ สิง กระทิง แรดรอบตัวเขากำลังเห่า (?) ใส่กันอย่างออกรสก่อนจะเขาไปร่วมวงสนทนากับเพื่อนในกลุ่มโดยไม่ทันสังเกตว่าสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่
ไม่นานหลังจากนั้นปั้นจั่นและต้นก็ต้องขอตัวกลับห้องตัวเองเพราะดูเหมือนวงพวกเขาจะเมาส์ดังไป (ไม่) นิดทำให้พวกรุ่งพี่สังเกตเห็นว่ามีพวกเนียนข้ามห้องมาอยู่ด้วย
“เฮ้ย!ไปเจ๊ก่อนนะทุกคนพี่เขามาไล่แล้ว...อ้ายพี่คนนั้นหล่ออ่า!!ไปก่อนนะคะทุกคนรักนะจุ๊บๆ!”พูดจบsheแกก็เดินตึงตังกลับไปเช่นเดิม
“ปุน”เนโมหันไปเรียกเพื่อนชายข้างกายซึ่งเป็นเหยื่อเมาส์รายใหม่แต่ทว่าเจ้าตัวกลับตกอยู่ในโลกส่วนตัวจนไม่ได้ยินไปซะนี่
“อีปุน!!”
“....”
“สัดจุ๊บ!มึงจะฟังกูไหม!!”สรรพนามที่ล่วงเกินอันดังสนั่นทำให้คนที่นั่งเหม่อถึงกับหันขวับมาส่งสายตาเคืองๆให้ทันที
“อะไรอะ!!แค่นี้ต้องด่าแม่เราด้วย”ปุนน้อยเริ่มงอแงได้น่าถีบซักป้าบสองป้าบ
“สตอเบอรี่!!กูเรียกมึงตั้งนานแมร่งก็ไม่หันพอกูเปลี่ยนไปเรียกชื่อหมาที่ไหนก็ไม่รู้ดันเสือกหัน”คนตัวเล็กด่ากราดก่อนจะใช้นิ้วนิ้วหน้าผากเพื่อนหนุ่มหลายต่อหลายครั้ง
“แรงอ่า!เบ็นซ์ดูดิมันเอาแม่เราไปเทียบกับหมาอะ”ปุนหันไปหาแนวร่วมจากเพื่อนใกล้ๆที่นั่งไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าตัวเองกำลังงานเข้า...งานใหญ่ซะด้วย
ตอนแรกคนโดนขอก็มีทีท่าลังเลอยู่หรอกว่าควรจะช่วยมันดีไหมแต่พอสบกับสายตาอาฆาตปานจะฆ่าของใครบางคนทำให้เขาต้องรีบงัดไม้ตายเอาตัวรอดที่มีทั้งหมดออกมา
‘ช่วยมัน...ตาย!’
“เอ่อ...เรื่องนี้กูไม่เกี่ยวพวกมึงเคลียร์กันเองเหอะอย่าเอากูไปซวยด้วยเลย”ละครดราม่าของเบ็นซ์ทำให้มันรอดจากสายตาพิฆาตขอเนโมไปได้ทำให้ปุนน้อยตกเป็นจำเลยโดนต้อนซะจนมุมเพียงลำพัง
“ปุน...เมื่อวานออนเกมกี่โมง?”
“ไม่รู้ดิ”
“เจออริกุเปล่าวะจำชื่อไม่ได้อะ”
“อ๋อๆไอนักเวทย์เกรียนนั่นชิมิ?”
“นั่นแหละมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง...บลาๆๆๆๆๆๆ”เนโมร่ายยาวพร้อมสถบคำด่าออกมาเป็นสิบชุดในทุกคำพูดจนคนฟังได้แต่นั่งพยักหน้าตามเงียบเพราะตอบไม่ทัน
ตึ๊ง ตึง~
“นักเรียนชั้นม.4ทุกคนขอให้เข้าประจำตามห้องของตัวเองด้วย”เสียงประกาศดังก้องไปทั่วโรงอาหารทำให้เหล่าทโมนทั้งหลายกลับสู่สภาวะเงียบสงบ
“โอ๊ย!เมื่อไหร่จะเสร็จอะเจ๊อยากแรดๆๆๆๆ!!!!”สุภาพสตุ๊ดพึมพำก่อนจะแอบแมนเข้ารวมกลุ่มกับเพื่อนในห้องม.4/7จนเพื่อนหนุ่มอีกคนอดแขวะไม่ได้
“ปั้นจั่นแรดมาก...เลิกแอ็บเดะ!”
“มึงเลิกกัดกูได้ยัง...ว้าย!!!”เนื่องจากความซุ่มซ่ามขั้นอันตรายของเจ๊แกจึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับวัตถุขนาดใหญ่ที่ตกกระแทกพื้นและเสียงร้องที่แมนเกินร้อย (?) ดังสนั่นไปทั่วโรงอาหาร
“ถามคำเดียว...อายไหม?”ต้นทำเป็นไม่รู้จักก่อนจะเหลือบมองด้วยหางตาแล้วพึมพำเบาๆให้ได้ยินแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับห้อง4/6ทิ้งให้กระเทยเดี้ยงอยู่ที่เดิมท่ามกลางสายตาประชาชี
“มึงแกล้งกู~!”
“...โง่”
กลับมาทางปุนน้อยของเราที่พอเนโมหันไปหาเหยื่อเมาท์รายใหม่เขาก็หยิบการ์ตูนขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาทันทีโดยไม่ได้สังเกตรอบตัวว่ามันวุ่นงายขนาดไหน แต่ไม่นานความอดทนต่อสภาพแบบนั้นของปุนก็เริ่มหมดลงเมื่อเนโมและเพื่อนอีกคนหนึ่งเปิดสงครามน้ำลายใกล้ๆเขา
“โอ๊ย!พวกมึงสองคนเงียบดิ๊!!”
“หุบปาก!”ทั้งสองประสานเสียงกันสวนกลับมาก่อนจะหันกลับด่ากันต่อปล่อยคนโดนย้อนหน้าตึงจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งเงียบแบบเจียมเนื้อเจียมตัว
“นายๆ...ขอนั่งด้วยได้ปะ?”เสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากคนโดนเรียกให้หันไปสบกับใบหน้าที่ทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“นี่นาย...!?”
ความคิดเห็น