คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
บทนำ
“พ่อครับใกล้ถึงรึยังอะ.....?”เสียงเด็กน้อยเริ่มมีอาการงอแงหลังจากการทนนั่งอยู่ในรถมานานกว่าสามชั่วโมง
“อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว.....ใจเย็นๆนะ”ผู้เป็นพ่อตอบพร้อมรอยยิ้มหากแต่นั่นกลับทำให้เด็กน้อยไร้เดียงสามุ่ยหน้าอย่างลงหงุดหงิด
เด็กน้อยอมลมแก้มป่องแล้วนั่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรอีกหากแต่ผู้เป็นพ่อแม่กลับรู้ดีว่าเจ้าตัวดีของพวกเขากำลังงอนมากๆ....เจ้าตัวจึงแกล้งทำไม่พูดไม่จาสักพักก็หลับสนิทไปเองช่างเป็นภาพที่ชวนมองให้อมยิ้มเล่นเสียจริง..
ไม่นานรถคันใหญ่ก็หยุดสนิทลงหน้าคฤหาสน์สไตล์อังกฤษยุคกลางที่ใหญ่โตราวกับพระราชวังขนาดย่อมก็ไม่ปานพร้อมกับเสียงนุ่มนวลของหญิงสาวที่หันกลับไปปลุกลูกชายเพียงคนเดียวที่กำลังหลับสนิทด้วยสีหน้าอมยิ้มขันๆ
“ไงจ๊ะกระแต....เดินทางราบรื่นดีไหม”เสียงหวานพร้อมกับร่างบางระหงที่เดินลงมาจากบันไดคฤหาสน์พลางส่งยิ้มหวาดทักทายทั้งสองคนอย่างเป็นมิตร
“นา....ไม่เจอกันนานเลยนะสบายดีรึเปล่า”หญิงสาวเดินเข้าไปทักทายเพื่อนสาวอย่างสนิทสนมก่อนจะอุ้มลูกชายตัวน้อย (ซะเมื่อไหร่- -) ลงมาจากรถโดยที่เด็กน้อยยังหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวแม้แต่น้อย...
“ต๊าย!!...นั่นวิทยาลูกชายเธอใช่เปล่าจ๊ะ??”หญิงสาวทักด้วยสีหน้าแจ่มใสพลางมองดวงหน้าของเด็กน้อยอย่างเอ็นดู
“จ๊ะ...”สกุณาตอบด้วยน้ำเสียงเอ็นดูริมฝีปากอิ่มเผยอมยิ้มพลางลูบเส้นผมสีนิลกาฬที่ปรกใบหน้าเจ้าตัวน้อยของเธอออกเผยให้เห็นดวงหน้าอ่อนเยาว์ที่หวานจนสตรียังอาย
“ว้าย....เหมือนแม่มากเลยนะเนี่ย”นารนาฎทักด้วยน้ำเสียงเหมือนจะอิจฉานิดๆพลางยื่นมือไปจับแก้มนุ่มๆของเด็กน้อยอย่างรักใคร่
“อะแฮ่ม!!!”เสียงขัดจังหวะความสุขที่ไม่ใช่ใครอื่นมาจากชายหนุ่มที่ชื่อวิริยะหรือผู้เป็นพ่อของเด็กน้อยนั่นเอง
“อ้าว....วิริยะไม่เจอกันนานนะ”นารนาฏทักชายหนุ่มห้วนๆก่อนจะหันไปสนใจเด็กน้อยวิทยาที่หลับใหลต่ออย่างสนุกสนานปล่อยให้คนโดนลืมยืนบ่นพึมพำอยู่ตรงนั้น..
“ชิ.....”
...........................
“เด็กๆเป็นยังไงบ้างจ๊ะนา?”สกุณาเอ่ยถามเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรและนุ่มนวลราวกับผู้ดีที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี
“ก็สบายดีทั้งสองคนนั่นแหละจ๊ะ...แถมยังเหมือนพ่อซะจนน่าตกใจเลยละ”หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงซึมๆ
สามีของนารนาฏหรือวีรวิทย์เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบินไปตั้งแต่5ปีก่อนเธอจึงต้องเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองคนเพียงลำพังหากแต่เธอก็ไม่เคยบ่นแม้แต่น้อยถึงเธอจะเสียใจจากการตายอย่างกะทันหันของสามีเธอแต่เธอก็เข้มแข็งพอที่จะเป็นหลักให้ครอบครัวโดยที่เธอไม่เคยปริปากแม้แต่น้อย
“.......”สกุณามองเพื่อนสาวอย่างเห็นใจก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่กำลังวิ่งเข้ามาหาตามมาด้วยเด็กชายอีกคนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นพี่คนโต
“อ้าว...ซัน มูนมีอะไรกันเหรอจ๊ะ?”
ซันหรือสุริยันคือเด็กน้อยคนเล็กสุดของบ้านดวงหน้าอ่อนเยาว์ใสซื่อราวกับเทวดาตัวน้อยเขามีผมสีดำนิลอมแดง ดวงตาสีดำน้ำตาลไหม้ประดุจเปลวเพลิงจากดวงอาทิตย์ก็ไม่ปานแววตาแฝงความขี้เล่นเฉพาะตัวพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่ประดับบนใบหน้าขับให้ดวงหน้าอ่อนเยาว์นั้นดูน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นเป็นกอง
ส่วนมูนหรือจันทราเป็นพี่คนโตที่อายุมากกว่าสุริยันและวิทยาเพียงปีเดียว ดวงหน้าเยาว์วัยคมคายน่ามองหากแต่กลับสงบนิ่งเสียจนแลดูน่ากลัว ผมสีนิลอมน้ำเงินเข้มรับกับดวงตาสีนิลเยือกเย็นราวกับแสงจันทร์ในยามราตรี แววตาดุดันเย็นชาจนน่ากลัวนั้นสามารถทำให้ผู้จบเห็นหวาดกลัวได้อย่างง่ายดายแต่ในขณะนี้มันกำลังฉายแววเหนื่อยหน่ายกับการวิ่งไล่จับน้องตัวที่ซนเสียจนลิงยังเรียกพี่....
“แม่ช่วยด้วยจิ...พี่มูนเขาว่าผมอะ”สุริยันตรงเข้าไปคลอเคลียกับผู้เป็นแม่ด้วยสายตาออดอ้อนราวกับลูกแมวเรียกให้คิ้วเรียวของคนถูกเอ่ยถึงกระตุกเป็นลางร้าย
“ซันเอาแมงมุมพิษของแม่ไปปล่อยที่สวนข้างบ้าน”เสียงเรียบๆของจันทราทำเอาเจ้าตัวดีถึงกับสะดุ้งก่อนจะหันไปมองนารนาฎอย่างออดอ้อน
“เหอๆคราวนี้คงได้กรี๊ดกันลั่นอีกแน่...”นารนาฎเอ่ยพึมพัมด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายปนขบขันโดยจนสกุณายังอดสงสัยไม่ได้
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด~”ยังไม่ทันขาดคำเลยจริงๆ....
“อย่าถือเลยจ๊ะสำหรับที่นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ...เดี๋ยวฉันมานะ”ไม่นานนารนาฎก็เดินกลับเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าปกติมีเพียงแขกทั้งสองคนและเด็กน้อยอีกหนึ่งที่ยังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว (ขี้เซาจริงวุ้ย- -) โดยมีสายตาของสองพี่น้องทีจับจ้องอยู่ตลอดเวลา
‘ดูเหมือนจะเจอคนที่ถูกใจแล้วแฮะ’
นารนาฎยิ้มเอ็นดูให้กับเด็กน้อยทั้งสองก่อนเอ่ยขึ้นเบาด้วยน้ำเสียงร่าเริงเต็มประดาจนแม้กระทั้งสกุณาและวิริยะยังรู้สึกขนลุก
“ทำไมไปจ้องน้องเขาแบบนั้นละจ๊ะทั้งสองคน”สองศรีพี่น้องสะดุ้งเฮือกพร้อมกับก่อนที่สุริยันจะเป็นฝ่ายเอ่ยตอบเพราะถ้ารอจันทราวันนี้ก็ไม่ต้องได้คำตอบกันละ- -
“แม่.......ผมอยากได้คนนี้อะ”คำตอบใสซื่อที่ชวนให้คนฟังอีกสามคนแทบช็อกตายหนำซ้ำยังช็อกกว่าเก่าเมื่อจันทราพยักหน้าเห็นด้วยเสียอีกหากแต่นารนาฎก็ยังคงฝืนยิ้มแล้วเอ่ยถามต่อ
“จะเอาน้องเขาไปทำอะไรละจ๊ะ?”
“ผมอยากได้มาเปนเจ้าสาวของพวกผมฮะ!!”
O[ ]O!!
ช็อก....คราวนี้ช็อกสนิททันทีก็จะไม่ให้ช็อกได้ไงละเล่นขอกันดื้อๆแบบนี้เป็นใครช็อกก็บ้าแล้วนอกจากจะใช้คำว่า “พวกผม”แล้วเจ้าคนที่ถูกขอนั่นน่ะผู้ชายทั้งแท่งนะเฟ้ย!!!
“อะ...เอ่อ”เจอไม้นี้เข้าไปคนเป็นแม่ถึงกับทำอะไรไม่ถูกก่อนที่เจ้าหล่อนจะคิดแผนการ (ชั่วร้าย) ที่เธอมั่นใจว่าแผนนี้ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน....
“งั้นลองไปถามน้านาก่อนนะ.........”
นั่นไงในเมื่อแก้ไม่ได้ก็โยนให้คนอื่นแก้ซะเลยเจริญละ...คนโดนขอลูก (ชาย) ซึ่งๆหน้ายิ้มรับอย่างเป็นมิตรแม้ว่ามันจะเป็นยิ้มแหยๆก็ตาม
“จ๊ะ....แต่ต้องรอให้โตก่อนนะ”
“ครับ”สองศรีพี่น้องขานรับพร้อมกันจนผู้ใหญ่ทั้งสามคนถึงกับเหงื่อตกจากจากนั้นเสียงเล็กๆของคนโดนสู่ขอไปโดยไม่รู้ตัวก็ตัวขึ้นอย่างงัวเงีย
“แม่ครับถึงแล้วเหรอ??”
“จ๊ะ....สวัสดีน้านาก่อนสิวิท”สกุณาเอ่ยกับลูกน้อยของตนอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันไปทางเด็กแสบทั้งสองที่ยืนจ้องลูกชายของเธอตาไม่กระพริบ
“คับ”วิทยายิ้มรับน่ารักน่าก (อ) ดแล้วยกมือน้อยๆไหว้นารนาฎที่ยิ้มเอ็นดูให้หลานชาย (ที่กำลังจะกลายเป็นลูกสะใภ้ในอนาคต) ก่อนที่สายตาของวิทยาจะหันไปพบกับเด็กทั้งสองแล้วยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตรหากแต่นั่นกลับทำให้ทั้งสองหน้าแดงก่ำจนถึงหู
“วิท....นี่พี่ซันกับพี่มูนนะ”
“ดีคับพี่ซันพี่มูน”วิทยายิ้มหวานให้เด็กทั้งสองก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดผู้เป็นแม่แล้วตรงไปคล้องแขนทั้งสองอย่างถือสิทธ์
“ไปเล่นกันนะ”สองศรีพี่น้องยิ้มกว้างให้กับร่างเล็กเบื้องหน้าก่อนจะเดินขนาบข้างวิทยาหายไปในอีกห้องหนึ่งโดยมีสายตาของพ่อแม่ที่มองตามไปอย่างเหนื่อยหน่าย..
และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องวุ่นวายที่กำลังจะตามมาในภายหน้า............
ความคิดเห็น