คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Kiss2>>>บ้านใหม่
บทที่2 บ้านใหม่
“โว้ย~ถึงซะที”ผมรำพึงกับตัวเองเบาๆ....แมร่งสาดดดดนานชิบหายเล่นซะกรุเหมื่อยไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ยแถมยังถูกไอ้บ้ากามที่ไหนก็ไม่รู้ลวนลามทางเพศอีกTwT
ดีนะคนอยู่เยอะไม่งั้นมีแหลกกกกกกกกกกกก!!!
“ไอ้บ้านั่นอยู่ไหนวะ”ผมกวาดสายตามองไปรอบๆสถานีรถไฟที่แออัดไปด้วยผู้คนอยู่นานจนนายสถานีต้องเดินออกมาไล่ผมออกไปจากบริเวณเส้นเหลืองที่ผมยืนอยู่
เออขอบใจ......วันหลังไม่ต้อง=_=
“โว้ย...ไอ้บ้านั่นมันหายหัวไปไหนของมันฟะ”ก็ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหนหรอกครับไอ้บ้าที่ผมว่าอยู่น่ะก็ไอ้พี่ชายโรคจิตของน่ะสิบกว่าจะมารอรับแต่นี่หายหัวไปไหนก็ไม่รุกรุก็ลงถูกสถานีนี่หว่าป่านนี้ทำไมยังไม่โผล่หัวมาอีกวะ
“อย่าให้เจอหน้านะพ่อจะ......”
“จะทำอะไรไม่ทราบ?”คราวนี้ผมร้องจ้ากเลยครับ....เสียงนี่มัน!
“พะ...พี่ไซ”ใช่....ผมไม่มีทางลืมมันเด็ดขาดน้ำเสียงนุ่มชวนฟังของเขาแต่มันกลับเต็มไปด้วยความเย็นชาที่ไร้อารมณ์ยิ่งกว่าก้นบึ้งของมหาสมุทร
เสียงที่ผมพร่ำคิดถึงหามาตลอด7ปีนี้......
“ไง...ไม่เจอกันนานเลยนะ เซน”
....................................................
“อะ....เอ่อ นายไม่เปลี่ยนไปเลยนะไซ......หวา!!”ผมเอ่ยทักมันเป็นคำแรกตั้งแต่เดินตามมันต้อยๆขึ้นรถมาเนี่ยก็เฮียแกเล่นไม่พูดอะไรซักคำแถมยังขับรถหยั่งกะจะไปแข่งชิงแชมป์โลกงั้นแหละ
“เบาๆหน่อยโว้ย!!เดี๋ยวได้ตายกันหมดก่อนถึงบ้านกันพอดี”ผมแทบจะกรี๊ดลั่นเมื่อไอ้พี่บ้าเหยียบคันเร่งอย่างแรงจนแทบพังจากนั้นรถที่เราสองนั่งอยู่ก็พุ่งออกสู่ถนนด้วยความเร็วสูงสุด
“ว้ากกก~”ผมร้องลั่นเมื่อไอ้พี่ไซขับรถปาดหน้าสิบล้อแถมยังกลับรถกลางวันเวย์อย่างรวดเร็วชนิดที่ทำให้รถคันอื่นต้องโยกหลบกันเป็นทิวแถว
“ขับช้าๆหน่อยได้ไหมไอ้พี่บ้าเหยี่ยวจะแตกแล้วโว้ยยย!!!”แต่ดูเหมือนคำพูดของเป็นเพียงลมผ่านหูเจ้านั่นยังคงขับด้วยความเร็วกระชากตับไตไส้พุงเหมือนเดิม
“หนวกหู”อ้าวไอ้พี่เวร....ไหงพูดแบบนี้วะ
เอี๊ยดดดดดดดด~~~ปึก!!!โครม!!!
“แอ้ก!!”จู่ๆไอ้บ้านั่นก็เหยียบเบรกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ผมที่ไม่ได้รัดเข็มขัดกระเด็นไปชนกระจนหน้าเสียงดังโครม.......หัวฉานนนนนT0T
“งี่เง่า”พูดแบบนี้มาต่อยกันไหมไอ้พี่บ้า....แล้วที่กรูเป็นแบบนี้มันเพาะใครละฟะ!!!
“สาดดดด...ขับรถส้นตีนอย่างนี้เกิดผมตายไปว่าไงเนี่ย”ไอ้พี่ไซเหล่หงตาองผมเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาช้อนใบหน้าผมขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว....
“ฮะ...เฮ้ย!!”อ้ากกกกกไอ้หล่อออออ!!!มันหล่อเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะเฟ้ยอิจฉาโว้ยยยย!!!!!
แล้วก็ไม่ต้องเข้ามาใกล้ขนาดนั้นก็ได้กูเขินเป็นนะโว้ย~T///T
ที่ผมพูดก็ไม่ได้เกินจริงหรอกนะครับผมต้องยอมรับเลยว่าไอ้ชายบ้าๆของผมเนี่ยแหละหล่อลากดินจริงๆแมร่งหน้าหยั่งกะพระเอกซีรีย์เกาหลีหลุดมาแถมรูปร่างของมันยังสูงโปร่งกำยำแบบนักกีฬามิน่าไปไหนมาไหนกับมันทีไรมีเรื่องให้หงุดหงิดได้ทุกที!!
“จะ..จะทำอะไรน่ะ”อ้ากกกกก....มันจะใกล้ไปแล้วเฟ้ยเอาหน้าหล่อๆของแกออกไปเดี๋ยวนี้น้า~><
“นาย.....น่ารัก”จนถึงตอนนี้.....ผมก็รู้ตัวเองแล้วว่า
ผมไม่เคยเปลี่ยนไป....ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขายังเหมือนเดิมแม้ว่าผมจะพยายามลบมันไปก็ตามความรักต้องห้ามที่มีต่อเขายังคงอยู่เพียง แค่เพราะคำพูดสองสามคำก็ทำให้ผมใจเต้นแรง ถ้อยคำที่เหมือนจริงจังแต่ก็เป็นเพียงการเสแสร้งแต่ทำไมนะ...
ทำไมผมถึงดีใจ.....
“อย่า....มาพูดบ้าๆนะ!!”ผมผลักหน้าหล่อๆของพี่ไซออกห่างด้วยหัวที่เต็มไปด้วยความสับสนสองผมในตอนนี้ตีกันจนยุ่งไปหมดแล้ว
“หึ.....ไม่เปลี่ยนไปเลยจริง”ราวกับเขาล่วงรู้ถึงความคิดของผม ยิ่งน้ำเสียงเย้ยยันน่าโมโหของเขาทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าเจ้าบ้านี่ทำไปเพียงแค่อยากแกล้งเท่านั้น.....งั้นดีละ!!
ในเมืออยากเล่นนักฉันก็จะเล่นกับนายเอง!!!
“ฉันชอบพี่”ผมพูดมันออกมาอีกครั้งหลังจากที่ไม่พูดมานานถึง7ปีเต็มแต่ครั้งนี้แตกต่างกันตรงที่ผมไม่มีความรู้สึกตามที่พูดไปซักนิดเดียว......ละมั้ง
แต่แมร่งกระดากปากชิบหายเลยวุ้ย!!>//<
“รู้”ไอ้บ้านั่นตอบด้วยสีหน้าเฉยชาจนน่าจักหักคอ....- -*
“ฉันชอบพี่จริงๆนะ”ตั้งแต่เกิดก็มีวันนี้แหละที่ลูกผู้ชายเกินร้อย (?) อย่างไอ้เซนอยากกระโดดตึกตายให้รู้แล้วรู้รอดดีกว่ามานั่งอ่อยใส่เจ้าบ้าตรงหน้านี่....ทุเรศสุดๆT T
“งั้นจำไว้ซะ....ฉันเกลียดนาย”
อึก........
ทำไมนะ....ไม่ว่าฟังกี่ครั้งก็รู้สึกเจ็บแปลบๆที่หัวใจทุกทีสิน่าทั้งที่ผมน่าชินชาได้แล้วไม่น่าจะรู้สึกอะไรแต่ทำไมน้ำตาถึงยังไหลละ.....บอกผมทีพี่ชาย
พี่เกลียดผมจริงๆเหรอ?
................................................
หลังจากนั้นเราสองคนก็ไม่พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งชั่วโมงเฉียดตายได้หยุดลงตรงหน้าบ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่งที่มีป้ายเขียนระบุไว้หน้าบ้านว่า
นาคาจิม่า....
“เอาหัวลงมาจากรถได้แล้ว”ไอ้พี่ไซไม่ฟังคำท้วงผมซักคำเขาเปิดประตูรถให้ผมแล้วกระชากผมออกมาจากรถคันหรูของเขา....
“ปล่อยได้แล้วโว้ยกรูเดินเองได้...สาดดดด”ไอ้พี่ไซมองผมนิ่งๆจากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอยู่ๆผมก็รู้สึกตัวเบาโหวงขึ้นมาฉับพลัน.....
“สาดดดด....ปล่อยกรู!!”ไม่รู้ว่ามันกินยาลืมเขย่าขวดหรือไรไอ้บ้านั่นก็อุ้มผมขึ้นท่าอุ้มเจ้าสาวแล้วเดินดุ่มๆไปที่ประตูบ้านกระชากมันออกทันที
“กลับมาแล้ว”
แชะ แชะ!!!!!
“ทำบ้าอะไรอยู่ไม่ทราบ...ยัยป้ามาฮิรุ”ไอ้พี่ไซถึงกับหน้าซีดจนแทบจะปล่อยผมลงจากอ้อมแขนของเขาเมื่อเจอกับแสงแฟลตจากกล้องถ่ายรูปกระหน่ำใส่โดยมีเจ้าของเป็นหญิงสาววัยกลางคนแต่ก็ยังดูสวยสดงดงามตามประสาป้าๆ (แรงงงง- -;;)
“เสียมารยาทนะยะ”sheย้อนคำพูดของไอ้พี่โรคจิตโดยที่ยังไม่ยอมหยุดกระหน่ำชัตเตอร์
“พอได้แล้ว!!!”ไอ้พี่ไซปล่อยผมลงแล้วย่างก้าวเข้าไปคว้ากล้องดิจิตอลสุดหรูออกมาจากมือของหญิงสาวโดยที่ผมได้แต่มองตาแป๋วเพราะยังมึนงงกับแสงแฟลต
“ใจร้ายยย~”sheเถียงกลับบ้างจากนั้นก็พยายามแย่งกล้องคืนแต่มีรึหญิงแก่ๆ (แรงไปเฟ้ยไอ้เซน) จะเอาชนะคนหนุ่มแถมสูงหยั่งเปรตแบบพี่ไซได้
“นานๆทีลูกจะพาหนุ่มน้อยน่ารักมาบ้านทั้งทีแม่จะพลาดโอกาสนี้ได้ยังไงเล่า!!”เอ่อ...ป้าครับไม่ทราบว่าเคยตายไหมครับเรียกผมน่ารักอย่างนี้มีฆ่านะครับป้า!!
“เลิกเข้าใจผิดได้แล้ว....นี่มันน้องชายผม!!”เฮียไซฟิวส์ขาดแล้วโว้ยยยยย.....เทอนาโดถล่มญี่ปุ่นแน่ๆแต่ว่าคนที่ทำให้ไอ้พี่บ้านั่นโมโหได้ข้าน้อยขอนับถือจริงๆขอรับ- -
“เอ๋!?....อ๋อ!จำได้แล้วนี่เซนจังใช่ไหมจ๊ะ”sheหันกลับมาที่ผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับพระแม่ผู้แสนดี....แต่ขอโทษทีเถอะมันช้าไปแล้วป้า
“ครับ...คุณมิซากิสินะครับ?”ผมโค้งคำนับคุณเธอเล็กน้อยด้วยความที่ยังรู้จักมารยาทอยู่บ้างก่อนจะเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มอีกคนที่แอบมองพวกเราอยู่ในอีกด้านหนึ่งของบานประตู
“ว้าย~น่ารักจังเรียกแม่สิจ๊ะเซนจังยังไงเราก็ครอบครัวเดียวกันนะ”ครอบครัว?....เอาเถอะถึงผมจะไม่ชอบนักที่เจ้าหล่อนเข้ามาในชีวิตพ่อแทนที่แม่แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเจ้าหล่อนเป็นคนดีจริงๆแฮะ
“ครับ...คุณแม่”
“นี่ไซ!!พาน้องไปที่ห้องก่อนสิ”เอ่อ....ผมอยากจะรู้จริงๆคุณเธอมีสองบุคลิกเปล่าวะทำไมวิธีการเรียกผมกับพี่ไซถึงได้แตกต่างกันปานฟ้ากับเหวเช่นนี้.....
แต่คิดอีกที....สะใจจอร์จ!!555+
“เออ”ดูมันตอบ- -
“ตามมา”ไอ้พี่ไซเดินนำผมขึ้นไปชั้นสองของบ้านเป็นระเบียงทางเดินค่อนข้างยาวครับมีห้องทั้งหมดหกห้องด้วยกัน
พี่ไซเดินดุ่มๆไปจนสุดและหยุดลงที่ห้องสุดท้ายโดยมีผมเดินแบกของใช้ส่วนตัวตามมาอย่างยากลำบาก....ก็แมร่งงงบันไดมันชันนี่หว่า (มั้ง)
“ห้องนี้”มันหันกลับมามองผมด้วยสีหน้าเฉยชาแล้วไปที่บานประตูที่แปะชื่อตัวอักษรเป็นภาษาอังกฤษว่า
SEN.....
“ขอบใจนะ”ผมรีบเปิดประตูห้องแล้วโยนของทั้งหมดลงบนเตียงนุ่มทันที....ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆห้อง
ห้องขนาดไม่เล็กมีฟอร์นิเจอร์อยู่ไม่กี่ตัวตั้งแต่เตียงสีขาวธรรมดาโต๊ะรับแขก โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมโคมไฟและชั้นหนังสือเก่าๆอีกตัวนอกจากนี้ยังมีเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความอุ่นครบเซ็ตพูดได้เลยว่าสวรรค์ของไอ้เซนจริงจริ๊ง!!!
“นี่....”
“หืม....อะไรเหรอ”ผมหันไปตามเสียงเรียกของเจ้าพี่บ้านั่นแล้วก็ต้องผงะออกมาด้วยความตกใจกับสีหน้าเย็นชาที่ไม่ว่าดูกี่ครั้งก็น่ากลัวตลอด....
“แม่ฝากมาบอกว่า....นายจะต้องมาอยู่ที่นี่กับพ่อจนกว่าจะเรียนจบมหาลัย”ห๊ะ!!....อะไรนะอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบมหาลัยงั้นเหรอ!!
“ไม่นะ!!!”ผมตะโกนค้านสุดเสียงก็แน่สิ...แค่เจอกันไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะบ้าตายอยู่แล้วถ้าต้องอยู่ด้วยกันเป็นปีแบบนี้ผมจะเหลือเหรอ!!
หม่ามี๊ทรยศโผมมมมมT[]T!!
ความคิดเห็น