คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Star
Love is in the Air
05
Star
คงเรียกได้ว่านี่เป็นตารางงานสุดท้ายของปี 2014
หลังจากผ่านพ้นการฝึกซ้อมและการเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มใหม่ที่หนักหน่วงไม่แพ้วันทำงาน สิ้นปีนี้วินเนอร์ได้รับเชิญให้ไปแสดงในคอนเสิร์ตส่งท้ายปีของสถานีโทรทัศน์ที่เมืองจีน บรรยากาศเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นแสนครึกครื้น หากเอาเข้าจริงแล้วกับคิมจินอูกลับไม่รู้สึกสนุกสนานไปตามเทศกาล คงเป็นเพราะงานทัวร์แฟนมีตติ้งที่ตามมาหลังปีใหม่นั่นเอง
วินเนอร์กำลังแต่งหน้าทำผมสำหรับเตรียมขึ้นเวทีตามกำหนดการตอน 3 ทุ่มครึ่ง แทฮยอนกับมิโนเข้าสู่โลกส่วนตัวด้วยการฟังเพลงจากมือถือ ในขณะที่จินอูกำลังให้สไตลิสต์ทำผมพร้อมกับเตรียมท่องสคริปท์ภาษาจีนที่อยู่ในมือ อันที่จริงสำหรับงานคราวนี้เห็นจะมีก็แค่แนะนำตัวรวมถึงพูดภาษาจีนสั้นๆ แต่นอกจากนั้น ต้องใช้สำหรับการทักทายทีมงานเบื้องหลังรวมถึงดารานักแสดงจีนในงาน
และที่มากกว่านั้น สำหรับงานแฟนมีตติ้งในเดือนหน้าที่วินเนอร์ตั้งใจจะไม่ใช้ล่าม! งานหินเลยล่ะสำหรับคนอ่อนหัดเรื่องภาษาอย่างคิมจินอู
ริมฝีปากเรียวบ่นขมุบขมิบเป็นภาษาจีนขณะที่หลับตาลงให้สไตลิสต์จัดแต่งทรงผมให้ หลังจากไปญี่ปุ่นคราวก่อนที่จินอูพูดภาษาญี่ปุ่นไม่เป็นท่า คราวนี้เขาเรียนรู้ว่าต้องพยายามทำตัวให้ชินกับภาษาจีนมากที่สุด
“จินูฮยอง...อย่าลืม จังหวะตอนลงมาจากสลิงฮยองเดินให้เร็วหน่อยนะ ดูแทฮยอนเอาไว้” ซึงฮุนที่นั่งทำผมอยู่ข้างๆ ว่าขึ้น
“อา...หว่อ...” เขารับคำ พยายามนึกภาษาจีนที่เพิ่งท่องไป “หว่อ...ปู๋กั่นเล่อ”
“ฮยองหมายความว่าจะไม่ทำ?”
“ไม่ใช่ จะตอบว่าเข้าใจแล้วต่างหาก”
“งั้นต้องพูดว่า ‘หว่อหมิงป๋ายเลอ’ สิ ถึงจะแปลว่าเข้าใจแล้ว”
“อา...ทำไมมันยากแบบนี้เนี่ย” จินอูได้แต่บ่นอุบกับตัวเองก่อนจะหลับตาท่องประโยคเดิมๆ ซ้ำไปมา “หว่อ-หมิง-ป๋าย-เลอ… หว่อ-หมิง-ป๋าย-เลอ”
กระทั่งอะไรเย็นๆ สัมผัสถูกมือจนเขาต้องเบิกตาขึ้นโพลง
ขวดน้ำเย็นเจี๊ยบ กับใบหน้าลีดเดอร์ของวงอย่างคังซึงยูน
“กินน้ำสิ” อีกฝ่ายว่า ในขณะที่เขาส่งยิ้มบางๆ ให้อีกฝ่ายเป็นการขอบคุณตามวิสัย เหมือนกับซึงยูนจะรู้เลยว่าเขากำลังหิวน้ำอยู่
“ขอบใจนะซึงยูน...อ๊ะ...หว่อ...” พยายามนึกตอบเป็นภาษาจีนที่เพิ่งเรียนหลังจากกระดกน้ำกินเข้าอึกใหญ่ “หวอ...เหิน...” เรามองตากันแน่นิ่ง ตอนนั้นที่เรียวนิ้วของซึงยูนค่อยๆ ปาดเอาคราบน้ำบนริมฝีปากเขาออกช้าๆ
ครั้นพอเผลอสบตา ชั่ววูบนั้นที่ทำเอาคิมจินอูราวกับจมหายไปในแววตาคู่กลม
“หวอเหินกั่นเซี่ยะ” เป็นซึงยูนซะอีก ที่พูดแทนประโยคที่เขาคิดอยู่ข้างในใจ เรียกสติคนตรงหน้าให้กลับคืน “พี่จะพูดคำนี้ใช่ไหม?”
“อ..อื้อ ใช่ จะพูดคำนี้แหละ”
“ผมเพิ่งสอนฮยองเมื่อคืนเอง ยังจำไม่ได้อีกหรอ” อีกฝ่ายว่าเสียงขรึม แค่นั้นก็ทำเอาพี่ใหญ่ของวงหางลู่หูตกไปในพริบตา จินอูได้แต่ช้อนตาหวาน มองอ้อนแบบที่ชอบทำกับแทฮยอน
“ซึงยูนอา...ก็ฮยองลืมนี่”
ลีดเดอร์ของวงยืนนิ่งเหมือนจะนึกอะไรบางอย่าง “ก็ท่องใหม่สิ” ว่าเรียบๆ แค่นั้น ก่อนเดินเฉไปหามิโนที่มุมห้อง
จินอูได้แต่มองตาตามลีดเดอร์ของวงที่กำลังคุยกับมิโนตามวิสัย รู้สึกจ๋อยอีกแล้วที่ซึงยูนชอบทำดุใส่แบบนี้
อุตส่าห์ปรึกษาวิธีให้ซึงยูนหายโกรธกับแทฮยอนมาแท้ๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย
แถมยังลืมหมดแล้ว ว่าเมื่อกี๊ท่องภาษาจีนคำไหนไป
- - -
5
4
3
2
1
!!!!! Happy New Year 2015 !!!!!
เสียงพลุจุดดังสนั่นรวมถึงเสียงโห่ร้องของผู้คนทั่วสารทิศดังเข้ามาภายในหน้าต่างห้อง ซึงฮุนเปิดขวดแชมเปญ พร้อมกับเสียงโห่ร้องของคนอื่นๆ ในวง สมาชิกแต่ละคนต่างกล่าวขอบคุณกันและกันเนื่องในโอกาสเริ่มต้นปีใหม่ บรรยากาศการเฉลิมฉลองดูจะเพิ่งเริ่มต้นเมื่อลองมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง รถราแน่นขนัดไม่ต่างจากช่วงกลางวัน โชคดีที่ค่ำวันนั้นวินเนอร์รีบเดินทางกลับโรงแรมมาฉลองเคาท์ดาวน์หลังจากที่แสดงโชว์เสร็จทันที
เราเข้าปีใหม่ไปพร้อมกันทั้งสมาชิกวินเนอร์ 5 คนรวมถึงเมเนเจอร์ เสียง ‘Cheers’ ดังขึ้นเป็นระยะขณะที่เรานั่งจิบแอลกอฮอล์กัน เว้นก็แต่ซึงฮุนที่แพ้เหล้า และซึงยูนที่ไม่ถูกกับของมึนเมาเอาเสียเลย
“ฮยอง ดื่มพอแล้วมั้ง” ซึงยูนว่ากับจินอูที่ล้มลงนั่งซ้อนตักมิโน ใบหน้าหวานแดงซ่าน ขณะที่มือหนึ่งถือแก้วไวน์เอาไว้อยู่... คังซึงยูนแค่ละจากคนอื่นๆ เพื่อออกคุยโทรศัพท์กับแม่เพียงครู่เดียว กลับมาอีกทีทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แทฮยอนกับมิโนดื่มหนักตามประสาคนคอแข็ง ในขณะที่ซึงฮุนซึ่งไม่ดื่มอะไรเลยยืนเต้นไปตามเสียงเพลงราวกับเมาดิบกับพี่ผู้จัดการ ส่วนพี่ใหญ่อย่างจินอูก็อยู่ในสภาพร่อแร่แบบนี้ ไม่รู้ดื่มไปมากขนาดไหน
“ฮยอง...ฮยอง! ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้ดีๆ สิ” ลีดเดอร์จอมเผด็จการว่าเสียงดุ หากดูเหมือนมันจะไม่เข้าถึงโสตประสาทคิมจินอูเลยสักนิด มีเพียงแต่เสียงทัดทานของมิโนที่บอกให้ซึงยูนใจเย็นๆ ซ้ำยังกอดเอวจินอูไว้อีกต่างหาก
“ย่า...ซึงยูน ปีใหม่ทั้งที เมานิดเมาหน่อยเป็นไรว้า” มิโนว่า ก่อนจะหันไปชนแก้วกับแทฮยอนต่อ ให้มันได้อย่างนี้สิ!
ไม่ต้องถามความเห็นใคร ซึงยูนก็จัดการดึงตัวพี่ใหญ่ของวงออกมาจากตักมิโนได้สำเร็จ คิมจินอูตาหวานอยู่แล้ว และมันยิ่งกลายเป็นหวานเยิ้ม เมื่อบวกเข้ากับฤทธิ์แอลกอฮอล์
“ซึงยุนนี่...ดื่มไวน์หน่อยไหม? รสชาติดีมากเลยนะ คิคิคิ” ว่าแล้วก็เซมาซบเข้าตรงบ่าของเขาอย่างไม่ตั้งใจ
“อา...ฮยองคนนี้นี่” ซึงยูนว่าเหมือนบ่นกับตัวเองเสียมากกว่า “เดี๋ยวผมพาจินูฮยองไปนอนก่อนละกัน” รวบรัดตัดความเท่านั้น มือก็แกะแก้วไวน์ออกจากมือเล็กนั่น ก่อนจะลากคนตัวเล็กไปในห้องนอน
“คนอื่นๆ ก็อย่านอนดึกนักล่ะ พรุ่งนี้ต้องบินแต่เช้า” หากยังมิวายหันมาสั่งการสมาชิกคนอื่นในวง อันที่จริงมีเมเนเจอร์ฮยองคอยช่วยปลุกก็โอเคอยู่หรอก แต่ดูสภาพแล้ว คืนนี้เมเนเจอร์ฮยองเองก็คงจะสุดเหวี่ยงเหมือนกัน
“ซึงยูนนี่...จะนอนแล้วหรอ ยังหัวค่ำอยู่เลยน้า” จินอูว่าขณะที่ถูกจับให้นั่งลงที่เตียง ว่าเสียงอ้อแอ้เหมือนเด็กขณะที่เกาะตัวเขาไว้แน่น
“จะตีสามแล้วเนี่ยนะฮยอง” ซึงยูนว่าก่อนจะถอนหายใจเพลียๆ ออกมา ที่พูดไปไม่รู้ว่าพี่ใหญ่รู้เรื่องรึเปล่าด้วยซ้ำ เห็นเอาแต่นั่งหัวเราะคิกคักคนเดียว
“ง่า...เพิ่งสามทุ่มเองซึงยูนอา... ไม่เห็นง่วงเลย”
“ผมบอกว่าตีสาม ...ถ้าฮยองไม่นอนแล้วจะทำอะไร? พรุ่งนี้จะได้กลับโซลแล้ว นอนแปปเดียว ตื่นมาฮยองจะได้กลับบ้านแล้วไง”
“กลับบ้านหรอ?”
“ใช่ เราได้หยุดคนละสามวัน ฮยองจะได้กลับบ้านไง”
“อื้อ กลับบ้าน... จินูอยากกลับบ้าน” ตากลมคู่นั้นฉ่ำวาวเคลือบไปด้วยน้ำ ไม่รู้เพราะเมาหรือเพราะกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์นั้นจริงๆ
“จินูคิดถึงอัปป้า ออมม่า กับนูน่า...”
คังซึงยูนทำตัวไม่ถูกเท่าไรนักเมื่อเห็นพี่ใหญ่ทำท่างอแงแบบนี้ ปกติเขาไม่ค่อยได้ปลอบใคร ซ้ำยังไม่เคยดูแลคนเมา หากกระนั้น มือหนาก็ค่อยๆ ลูบศีรษะพี่ใหญ่ของวงน้อยๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเลี้ยงเด็กอยู่ก็ไม่ปาน
“คิดถึงอิมจาโดด้วย...ซึงยูนนี่...” พี่ใหญ่หันมาเรียกเสียงอ้อแอ้ แววตาคู่นั้นยังคงฉ่ำน้ำเหมือนกำลังจะร้องไห้ “อยากดูดาว ซึงยูนนี่พาไปดูดาวหน่อยได้เปล่า... อยากดูดาวแบบตอนอยู่อิมจาโด” ใบหน้าหวานเอียงคอมอง “นะนะ ถ้าได้ดูดาวแล้วจินูจะรีบเข้านอน”
ซึงยูนมองหน้าพี่ใหญ่ขี้เมาที่ลดอายุไปเป็นเด็กสามขวบแล้วได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย บนโรงแรมชั้น 17 จะหาดาวมาจากไหนได้
“ฮยองหลับตาลงก่อนสิ” ซึงยูนว่าเสียงขรึม เห็นอีกคนเหมือนไม่สนใจจึงพยายามพูดให้ช้าลงราวกับกล่อมเด็กเข้านอน “หลับตา...ลงก่อน...”
คิมจินอูลังเลเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ หลับตา ตอนนั้นที่ซึงยูนเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟในห้องให้มืดลง จะมีก็แต่แสงจากใต้ประตูที่ลอดเข้ามา กับแสงไฟจากวิวด้านนอกให้เห็นตึกสูงเสียดฟ้าทั่วเมือง
“ไม่เห็นมีดาวเลยซึงยูนนี่”
หันมาอีกทีอีกฝ่ายก็ลืมตาโพลง มองดูไปรอบๆ ราวกับจะสอดส่องดวงดาว
“นั่นไงดาว” ซึงยูนว่าพลางชี้ไปที่แสงไฟจากตึกที่หน้าต่าง
“ใช่หรออออ?” จินอูว่าพลางมองสอดส่องอย่างเลื่อนลอย
“ฮยอง...เห็นดาวรึยัง?”
“ขอ..ดู..ก่อน..” ว่าขณะที่ยังสอดส่องรอบๆ ตัวไปมา ชั่วขณะที่เราหันมาประจันหน้ากันเข้าอย่างจัง ตอนนั้นที่จินอูสำรวจใบหน้าอีกฝ่ายแทนที่จะเป็นนอกหน้าต่าง
เราประสานมองตากันในความมืดมนของห้องนอน ท่ามกลางแสงไฟน้อยๆ ที่ลอดเข้ามากระทบแววตา
มือบางของจินอูค่อยๆ เลื่อนจากลาดไหล่กว้างขึ้นมาจรดที่ใบหน้า... สัมผัสที่ข้างแก้มของซึงยูน ก่อนจะบรรจบที่ดวงตาคู่กลม...
“เห็นดาว...แล้ว...รึเปล่านะ...” นิ้วมือเรียวค่อยๆ ลูบป้อยๆ สัมผัสดวงดาวในจินตนาการ “อื้อ...นี่ไง...ดาว...”
“......”
“ดาว...สวย...จัง...เนอะ...”
คังซึงยูนมองภาพตรงหน้าด้วยลมหายใจติดขัด มือหนาค่อยๆ เลื่อนมาประคองใบหน้าอีกฝ่ายให้ถนัด ในความมืดนั้น ดวงตาของจินอูสว่างสไวยิ่งกว่าอะไร
“อืม... ดาวสวยดี”
เราได้แต่มองตากันอยู่อย่างนั้น
และนั่นคือความทรงจำสุดท้ายในคืนข้ามปี
TBC
หายไปซะนาน แวะมาสวัสดีปีใหม่ทุกคนค่า เย้ ><
หวังว่าอารมณ์ฟิคจะต่อเนื่องจากตอนเก่านะค้า (ไม่ได้ต่อนานจนต้องไปอ่านทวนของเก่าอีกรอบเลย ฮ่าๆๆ)
เหมือนเคย สามารถเม้นได้ในแท็กฟิค #YoonWoointheair น้า เราจะรออ่าน ฮี่ๆๆ
ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่า
ความคิดเห็น