คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Question
Love is in the Air
04
Question
คิมจินอูยืนมองตัวเองที่หน้ากระจก หลุบตาขึ้นลงซ้ายขวา เอียงหน้าล่อกแล่กสำรวจตัวเอง เขารู้สึกไม่มั่นใจเอาซะเลยกับสภาพในตัวเองในตอนนี้ แต่ถึงอย่างไรเสียก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว ทำได้แค่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้น
“จินูอา...”
“ครับ เสร็จแล้วครับ” เขาตอบรับพี่โคดี้ที่ยืนรออยู่ด้านนอกก่อนจะหันหลังเปิดประตูพรวดออกไป ทันทีที่กะพริบตาอีกครั้ง เขาเองคงต้องกลายเป็นคนใหม่
“สวยมากเลยจินอู เพอร์เฟ็คสุดๆ” พี่โคดี้จัดการเสื้อผ้าเขาให้เรียบร้อยขึ้น แต้มสีลิปสติกสีหวานบนริมฝีปากเล็ก พร้อมทั้งจัดแจงวิกผมที่ยุ่งเหยิงให้ดูเข้าที่เข้าทางกว่าเดิม คิมจินอูยืนนิ่งเหมือนคนไม่ได้สติ ในหัวมีแต่สคริปตามที่ซักซ้อมกันไว้ ความรู้สึกตื่นเวทีมันกลับมาอีกแล้ว จินอูเหมือนหัวใจจะวายเอาให้ได้ แค่ร้องเพลงปกติก็ว่าแย่แล้ว วันนี้เขายังต้องแต่งตัวเป็นรุ่นพี่ในค่ายออกมาร้องเพลงอีก
คิมจินอูยืนนิ่งๆ ตรงนั้น จิตใจปั่นป่วนพอๆ กับจังหวะเพลง Oh Yeah ในหัว มันเป็นโชว์พิเศษในโชว์เคสญี่ปุ่นที่ต้องการให้แฟนๆ เห็นด้านใหม่ๆ แล้วคิมจินอูก็ตกลงทำไปตามที่สองแรพเปอร์ของวงเป็นคนเสนออย่างช่วยไม่ได้ เพราะแทฮยอนกับซึงยูนร้องเพลงดูเอทคู่กันสองคนไปแล้ว
แต่ถ้าเขาร้องแย่ล่ะ
ถ้าเขาเสียงหลงล่ะ
ถ้าบล็อกกิ้งผิดล่ะ
แล้วถ้าลืมเนื้อเหมือนตอนนั้นอีกล่ะ
“ทำอะไรอยู่ตรงนี้ พี่ไปเตรียมตัวสิ จะถึงเวลาแล้วนะ” ตอนนั้นที่เสียงดุๆ ของใครสักคนดังขึ้นด้านหลัง จินอูไม่ทันจับประเด็นใจความอะไรได้หรอกเพราะเสียงข้างนอกที่ดังไม่แพ้กัน แต่ก็เหมือนจะพาให้เขาหลุดออกจากความคิดของตัวเองได้ชั่วครู่หนึ่ง
เป็นซึงยูนนี่เอง เราสบตากัน ซึงยูนมองเขาเหมือนสำรวจอะไรสักอย่าง ก่อนจะพูดขึ้น
“บอมมูนูน่า มั่นใจหน่อยสิ” เขาเห็นรอยยิ้มหวานที่ซึงยูนไม่ค่อยยิ้มให้เขาสักเท่าไหร่ จินอูในคราบของนักร้องรุ่นพี่อย่างปาร์คบอมหยุดมองรอยยิ้มนั้น ก่อนจะรีบก้าวออกไปแสดงหน้าเวทีร่วมกับแรพเปอร์ทั้งสองของวงเพราะถึงคิวพอดี
ในค่ำคืนที่เหล่าดวงดาวส่องแสงอย่างคืนนี้ โชคชะตาเรียกร้องเราอยู่
ร้องตะโกนออกมาที่ฉันด้วยเสียงที่ไพเราะแบบนี้...แบบนี้...แบบนี้...
Oh yeah (Oh yeah ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือน) Oh
Oh yeah (Oh yeah โปรดอย่าห้ามผม) oh yeah
Oh oh oh na na na oh yeah (Oh yeah) oh yeah (Yeah yeah yeah)
เขาร้องเพลงนั้นราวกับไม่ใช่จินอูคนเดิม... คงเพราะวันนี้เขากลายเป็นจินบอมมูไปแล้วล่ะมั้ง คิมจินอูในคราบผู้หญิงโยกย้ายร่างกายไปตามบล็อกกิ้งที่วางไว้ เขาไม่ได้เต้นอะไรมากมายหรอก ส่วนมากจะฟรีสไตล์เสียมากกว่า ส่วนเรื่องการร้อง เขาพยายามคลายกังวล แล้วใส่อารมณ์สนุกสนานอย่างที่ฝึกซ้อมมา ช่วงท่อนแรกดูจะยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่ท่อนต่อๆ ไปดูเหมือนมันจะเข้าที่ขึ้นเยอะเลย
ความกังวลค่อยๆ หายออกไปจนหมดสิ้น จากที่แรกเริ่มขมวดคิ้วน้อยๆ ตอนนี้เขายิ้มออกมาตลอดทั้งเพลง ไม่ว่าจะทำอะไร เคลื่อนไปทางไหน... มันเหมือนว่ากำลังเห็นรอยยิ้มของซึงยูนเคลื่อนที่อยู่ตรงหน้าตลอดเวลา
Oh yeah (Oh yeah now I’m feelin like) oh oh oh
Oh yeah (Oh yeah 제발 날 멈추지 마 Please don’t stop) oh yeah
Oh oh oh na na na oh yeah (oh yeah Yeah yeah yeah)
เสียงแฟนคลับกรี๊ดกร๊าดยกใหญ่ ที่มากไม่แพ้ตอนที่เขาปรากฏตัวออกมาในชุดผู้หญิงแบบนี้ ก็คงเป็นช็อตที่จินอูเดินเข้าไปเต้นกับซึงฮุนและมิโนตามสคริปท์ แอบมีสกินชิพโอบเอวเล็กๆ น้อยๆ ตามบทบาทกันไป
Yeah Yeah Yeah ... You make me wanna say
Oh Yeah Yeah Yeah ... Alll day everyday
เสร็จจากฟากซึงฮุน จินอูก็เดินไปหามิโนอีกทาง หนุ่มร่างสูงยื่นมือมาประคองใบหน้าของจินอูไว้ เราสบตากันในระยะประชิด เขาเพิ่งเห็นในตอนนั้นเองว่ามิโนมองเขาตาเป็นประกายวาววับ มันออกเจ้าชู้ตามประสา แต่ที่รู้ๆ ดูมิโนจะมีความสุขมากจริงๆ
คงเพราะตั้งแต่เดบิวท์มิโนก็ตัดขาดเรื่องสาวๆ ไปเลย พอมิโนได้ใกล้ชิดกับเขาในร่างจินบอมมูแบบนี้เลยอาจจะ ‘ฟิน’ เป็นพิเศษล่ะมั้ง
Oh Oh Yeah
Oh Yeah Oh Yeah Oh Yeah
เรามองตากันแน่นิ่ง จนตอนจบท่อนสุดท้าย นึกยังไงไม่รู้ที่อยู่ดีๆ มิโนก็ขยับเข้ามา ก่อนจะจรดจมูกโด่งๆ นั่นฝังลงมาที่แก้มใสของจินอู เขาไม่ได้หลบอะไรหรอกได้แต่ยืนนิ่งๆ ทั้งที่นึกเขินอยู่เหมือนกัน โชว์เพลง Oh Yeah จบลงท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของแฟนๆ ในฮอลล์ ซึงฮุนรีบเดินมาแยกเขากับมิโนออกจากกันเรียกเสียงเฮฮาได้เป็นอย่างดี
“จินบอมมูนูน่า จะเลือกใครครับ ระหว่างเราสองคน?” ซึงฮุนถามเป็นภาษาญี่ปุ่นแบบช้าๆ ในขณะที่คิมจินอูยืนถือไมค์นิ่งเตรียมตอบคำถาม
ตอนอยู่เกาหลีเขาก็พูดไม่เก่งจะแย่ แล้วนี่ต้องตอบเป็นภาษาญี่ปุ่น คิมจินอูผู้โง่เขลาด้านภาษายิ่งตื่นเต้นก็ยิ่งนึกไม่ออกเข้าไปใหญ่ “อา...ซึงฮุนคุง ...มิโนคุง” เรียกชื่อทั้งสองคน ก่อนจะควงแขนเข้ามาซะอย่างนั้น ภาษาไม่ถนัดเลยต้องทำท่าทางนำแทน
“โอ้วเย... อ่า...ฉัน...เลือกมิโนคุง” แกล้งทำท่าผละออกจากซึงฮุนซะอย่างนั้น ก่อนจะควงมิโนลงไปจากเวทีด้วยกัน ตัดจบมันแบบงงๆ เช่นนั้นแล...
“อ๊า...จบแล้ว ฉันคิดว่าฉันจะตายให้ได้เลยมิโนอา...” ลงเวทีไปจินอูก็เกาะแขนกรีดร้องกับมิโนยกใหญ่
“ฮยองขึ้นไปทำอะไรกันบนเวทีน่ะ เสียงแฟนๆ กรี๊ดดังลั่นเลย” แทฮยอนถามขึ้นมา ซึงฮุนก็ช่วยเล่าในทันที
“ก็มิโนหอมแก้มจินูฮยองน่ะสิ”
“หอมแก้ม”
“แบบนี้ไง...” มิโนว่าอย่างไม่ยี่หระแถมยังฉายหนังซ้ำต่อไป แน่นอน ว่าคิมจินอูก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เราเล่นกันบ่อยๆ อยู่แล้วไม่มีอะไรให้ต้องกังวล คิมจินอูเป็นฝ่ายขยับเข้าไป หากก่อนที่เราจะหอมกันอีกรอบ เสียงหัวเราะก็ระเบิดออกมาดังลั่น
“แต่จินูฮยอง...พี่น่ารักจริงๆ ว่ะ แต่งหญิงแล้วไปเดทกับผมเหอะ ผมเหงามากเลยตอนนี้” มิโนว่าทีเล่นทีจริง จินอูได้ฟังก็เอาแต่หัวเราะออกมา ตอนนั้นเองที่ซึงยูนเดินเข้ามาพลางยื่นเสื้อยืดสีน้ำเงินลายทางสลับขาวมาให้ ใบหน้าของลีดเดอร์ดูจะตึงๆ ไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อมองมา
“ยืนเล่นอะไรกัน พี่รีบไปเปลี่ยนชุดสิ เดี๋ยวต้องขึ้นเวทีแล้วนะ”
ถึงไม่ระบุชื่อว่าใครแต่เหมือนเขากำลังโดนดุ ก็สายตาคู่นั้นของซึงยูนมันมองมาที่เขาตรงๆ คนเดียวแทบไม่เหลือเผื่อใคร จินอูได้แต่รับคำพลางรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจนได้ ท่ามกลางความรู้สึกแปลกๆ ในที
ทั้งที่ก่อนหน้าซึงยูนยังยืนส่งยิ้มให้กำลังใจเขาอยู่เลย แต่พอลงจากเวที ซึงยูนก็กลับมาดุเขาอีกแล้ว ทั้งหมดนี่ต่างกันแค่ห้านาทีเอง
มันเกิดอะไรอีก เขาทำอะไรผิดไป ใครก็ได้บอกคิมจินอูที...
สุดท้าย เจแปนทัวร์รอบแรกนี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เรานั่งรถกลับมายังที่พัก ... ตอนขากลับเขานั่งเบาะหลังกับมิโนและซึงฮุน หลับยาวจนถึงเพราะพักผ่อนกันมาน้อย แต่ไม่รู้ทำไมพอตื่นขึ้นมากลับเป็นซึงยูนที่จ้องเขาเขม็งเลย
“คราวนี้พี่อยู่ห้องเดียวกับผม” อีกฝ่ายว่าเท่านั้น คนเพิ่งตื่นอย่างจินอูก็รับคำแบบงงๆ เดินตามลีดเดอร์ของวงเข้าโรงแรมไปยังห้องนอน มาอยู่ที่ญี่ปุ่นเรามักจะจับฉลากเลือกรูมเมทกันใหม่ทุกครั้ง ต่างจากที่หอพักที่มีห้องนอนประจำตายตัว แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เขาได้นอนด้วยบ่อยที่สุดก็ยังเป็นคังซึงยูนไม่ต่างจากที่เกาหลีเลย
เขานั่งอยู่ที่ปลายเตียงด้านซ้าย เหลือบมองคังซึงยูนที่เดินดุ่มไปมาในห้อง มันไม่ใช่เราไม่สนิทกัน ที่จริงเรารู้เรื่องของกันและกันแทบทุกอย่าง แต่ถึงอย่างนั้น บางครั้ง คิมจินอูก็นึกไม่เข้าใจอะไรในตัวน้องชายคนนี้เลยสักนิดเดียว
“ซึงยูนนี่ นาย...มีอะไรรึเปล่า?” เขาทำลายความเงียบงันระหว่างเราในห้องนั้น เขาได้คำตอบเป็นการส่ายหน้าหงิกๆ นั่น “นาย...ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี” ตั้งแต่จบคอนเสิร์ต หรือบางที...คงเป็นตั้งแต่หลังเวทีในตอนนั้น “มีอะไรรึเปล่า?”
ซึงยูนหยุดเดินในตอนนั้น ก่อนจะทอดสายตาลงมองมาที่พี่ใหญ่ของวงที่นั่งอยู่ปลายเตียง ใบหน้าของซึงยูนขมวดคิ้วแน่น “บางที...ผมก็ไม่เข้าใจ”
คิมจินอูช้อนสายตามองซึงยูน มือบางจับข้อมืออีกคนไว้เบาๆ ราวกับกำลังส่งกำลังใจไปให้ ตอนนั้นที่ร่างสูงค่อยๆ โน้มตัวลงมาอย่างเชื่องช้า
“ฮยองจะว่าอะไรไหม...ถ้า...”
เขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ มันเป็นเพียงชั่วขณะเดียวในอารมณ์ที่ไม่ได้คิดจะเอ่ยถามหรือต่อต้านอะไร จินอูนั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น ใจเต้นระส่ำเมื่อใบหน้าอีกฝ่ายค่อยๆ ก้มลงมา ทีละนิด...ทีละนิด...
1 ฟุต...
เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือของเราที่จับกุมกันแน่นเข้าไปอีก
ครึ่งฟุต...
แววตาคู่คมที่ซุกซ่อนความรู้สึกบางอย่าง
สามนิ้ว...
กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ
สามเซ็น...
และลมหายใจร้อนๆ ของคังซึงยูน
…
…
“ย่า! ...พวกนายใครมีแปรงสีฟันให้ยืมบ้างไหม? ฉันลืมเอามา”
เหมือนลูกโป่งน้ำที่แตกโพละออกมา เรากระเด้งออกจากกันแทบจะในทันทีในตอนนั้นเมื่อมิโนเปิดประตูเข้ามาในพรวดเดียว ลีดเดอร์ของวงได้แต่ขยี้หัวก่อนจะเดินไปหยิบของบางอย่างจากกระเป๋าเดินทางยื่นให้ ในขณะที่จินอูได้แต่นั่งเอามือพัดใบหน้าที่ร้อนไปถึงไหนต่อไหน
ไม่เห็นจะรู้สึก...เหมือนตอนถูกมิโนหอมแก้ม...เลยสักนิดเดียว
สุดท้ายแล้ว คืนนั้น เราทั้งคู่ต่างหลับตาลงด้วยคำถามบางอย่างที่ยังคงติดค้างในใจ
เป็นอะไรไปนะ... คิมจินอู
เป็นอะไรไป... คังซึงยูน
TBC
เห็นคอมเมนท์หลายอันเลย ฮือ ดีใจน้ำตาจิไหล ขอบคุณทุกคนมากๆ นะค้า >.<
ตอนแรกว่าจะแต่งลงตอนวันเกิดจินู แต่ไม่ทัน 555
เราแอบไปคิดแท็กฟิคในทวิตเตอร์มาแหละ เผื่อใครไม่ถนัดเม้นในเด็กดีเท่าไหร่ (อย่างเช่นเราเองเป็นต้น)
สามารถติดแท็ก #YoonWoointheair เพื่อคอมเมนท์ได้นะคะ อิอิ
ความคิดเห็น