ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WINNER - YoonWoo ||| Love is in the Air ミ

    ลำดับตอนที่ #3 : Cute

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ย. 57


     

     

    Love is in the Air

    - Cute -

     

     

     

     

    บางที มันก็ยากเหลือเกินสำหรับคิมจินอู ที่จะหาเวลาเป็นส่วนตัวจริงๆ เสียบ้าง


    ตลอด 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน คิมจินอูใช้มันไปกับวินเนอร์เกินกว่าสองในสาม ช่วงนี้พวกเขาเหนื่อยมากสำหรับการเดบิวท์ทั้งในเกาหลี และในญี่ปุ่นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกจากเรื่องร้องเรื่องเต้นแล้ว เรื่องภาษาและทักษะการออกทีวีก็สำคัญไม่แพ้กัน


    พี่ใหญ่อย่างจินอูแอบทำลับๆ ล่อๆ หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง หันซ้ายแลขวา เมื่อไม่เห็นตัวรูมเมทพ่วงด้วยตำแหน่งหัวหน้าวง ก็ยืนส่องกระจกตาแป๋ว มองหน้าตัวเองในนั้นก็พลางทำท่าทางแปลกๆ ที่เจ้าตัวไม่คุ้นชินนัก ตั้งแต่การหยีตาให้เล็กลง อมลมที่แก้มจนพอง หรือกำมือขึ้นมาตรงข้างแก้มเป็นท่าแมว


    มันเป็นสิ่งที่หลายคนบอกว่าเหมาะกับเขา แต่ดูเหมือนใครๆ ต่างก็บอกว่าเขาทำได้แย่... ไอ้การ แอ๊บแบ๊ว นี่ล่ะนะ สุดท้ายเลยต้องมาแอบซ้อมหน้ากระจกแบบนี้ ก็เขาเองไม่ได้เก่งกาจพอจะมีหน้าที่อะไรในวงมากมาย นอกจากตำแหน่ง Vocal กับพี่ใหญ่ หลายๆ รายการเขาก็เคยแนะนำตัวไว้บ้าง ว่าเป็นคนที่ น่ารักที่สุดในวง


    แต่เรื่องการทำเอคโยแบบนี้ บอกตรงๆ เขากระดากอายเหลือเกิน ไม่เหมือนมิโนหรือซึงยูนที่ทำเสียคล่อง ไม่รู้ไปหัดมาจากไหน ครั้งก่อนในรายการทีวีเขาอุตส่าห์ตั้งใจแอ๊บแบ๊ว สุดท้ายสมาชิกในวงก็หัวเราะกันซะจนเขาเสียเซลฟ์


    คิมจินอูยืนมองตัวเองหน้ากระจก พยายามแอ๊บแบ๊วซ้ำไปมาหลายท่า ลองดูนักร้องคนอื่นๆ ตามคลิปแล้วก็ทำตาม ถึงแววตาจะยังดูเก้อเขินก็เถอะ...แต่แบบนี้มันก็...


    “ปุอิ๊งปุอิ๊ง~” เขาว่าเสียงสูง หัวเราะขำแก้เก้อคนเดียวตรงนั้น พอเริ่มชิน ก็เลยกลายเป็นสนุกขึ้นมาเสียเอง “อิอ๊าง~ คิกคิกคิก”


    “ทำอะไรของฮยองน่ะ?” หากเสียงทุ้มที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาจินอูแทบจะหน้าหงาย ไม่ใช่ใครหรอกนอกจากเจ้าของห้องนี้อีกคน คังซึงยูนเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย


    “อา...ซึงยูนนี่” เขาร้องครวญเสียงสูง เหมือนจะติดโหมดแอ๊บแบ๊วก่อนหน้านี้ พอรู้ตัวถึงพยายามกลับมาขรึมตามเดิม “ตกใจหมด ทีหลังนายก็เคาะประตูด้วยสิ”


    “เคาะทำไม นี่ก็ห้องผมนี่” ลีดเดอร์ของวงว่า “ตกลงพี่ทำอะไร? เอคโย?”


    “ก็...ก็...” เขาอ้ำอึ้งอย่างนั้น สุดท้ายเขาก็ไม่เคยมีความลับต่อซึงยูนได้ มันน่าอายออกที่ต้องหัดทำเอคโยที่หอแบบนี้  “ก็วันนั้นพี่ทำเอคโยออกทีวีแล้วพวกนายหัวเราะกันใหญ่เลย”


    “พี่เลยกำลังฝึกมัน?”

    “อื้อ แต่ไม่ทำแล้ว นี่ได้เวลานอนแล้วนี่ พรุ่งนี้ตารางงานแต่เช้า เรานอนกันเถอะ” คิมจินอูว่าแล้วก็พยายามเดินเลี่ยงออกไป หากก่อนที่นิ้วเรียวจะกดสวิตช์ปิดไป เสียงใครอีกคนก็เอ่ยขึ้นก่อน


    “ผมยังไม่ง่วงเท่าไหร่ พี่ซ้อมไปก่อนสิ”

    “ห๊ะ”


    “ทำสิ เดี๋ยวผมช่วยดูให้” ซึงยูนว่าหน้านิ่ง นั่งลงที่เตียงของเขาพลางตบปุๆ ตรงพื้นที่ข้างๆ เขาลังเลใจนิดหน่อย แต่พอเห็นสีหน้านิ่งสนิทเหมือนจะข่มขู่กลายๆ ก็เดินเข้าไปหาก็ได้

    “ทำสิ”


    “อา...ขอตั้งสติก่อนสิ” จินอูว่า รู้สึกหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองมาตาไม่กะพริบ สุดท้ายก็กลั้นใจยกมือกำหมัดน้อยๆ ตรงข้างแก้ม ก่อนจะขยับมือร้อง “ปุอิงปุอิง”


    “ไม่เห็นได้เรื่อง” ซึงยูนว่าเสียงเรียบ “ก่อนหน้าผมจะมายังดีกว่านี้อีก”


    “อา...ก็ตอนนั้นมัน...” ไม่ได้โดนนายจ้องแบบนี้นี่! จินอูร้องครวญในใจ


    สุดท้าย เขาก็พยายามทำเอคโยให้ซึงยูนดูใหม่  เขาแอบใจหวิวน้อยๆ เมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมากอบกุมมือของเขาที่ชูสองนิ้ว จัดท่าทางให้สูงขึ้นไปอีกเหมือนกับกระต่าย


    “กระต่ายน้อย” ซึงยูนว่า เขาไม่ได้ยิ้มออกมาหรอก หากแววตาคู่นั้นที่มองมาราวกับกำลังยิ้ม “พูดด้วยสิ”


    “ปุอิ๊งปุอิ๊ง” จินอูพูดออกมาเขินๆ จนได้ แน่นอนว่าสองนิ้วที่ชูเป็นกระต่ายชูขึ้นหดลงไปมา


    “ก็...พอใช้ได้” ซึงยูนว่าแล้วก็บอกให้เขาทำอีก “คำอื่นมั่งสิ”


    “แล้วจะพูดว่าอะไรดีล่ะ?”


    “เรียกชื่อผมสิ”


    “ชื่อนาย? ...ซึงยูนอา...”


    “ให้มันน่ารักหน่อยสิ”


    “ซึงยูนนี่ น่ารักรึยัง?” จินอูเห็นอีกคนเงียบ เลยได้แต่เขยิบเข้าไปใกล้อีกครั้ง “ซึงยูนนี่...ฮยองน่ารักไหม? ...” เขาหัวเราะคิกคักไปตามเรื่องตามราว ทำท่าแอ๊บแบ๊วไม่หยุดพลางร้องเรียกอีกคนต่อไป “ซึงยูนาา ซึงยูนโอป้า...แบบนี้ดีไหม? โอ๊ะ!


    ไม่รู้จินอูเล่นตลกเกินไปหรือทำไม อยู่ดีๆ ลีดเดอร์ก็จับไหล่สองข้างเขาผลักตัวลงไปนอนพิงกับหัวเตียงซะอย่างนั้น อีกคนจ้องเขาหน้าขรึม หากแต่มองดูแก้มขาวนั่นเหมือนจะซับสีแดงระเรื่อเหมือนกัน


    หรือว่า ...โกรธเขา...อีกแล้วหรอ...


    “ซึงยูนนี่...” เขาได้แต่ร้องเรียกอีกคนเสียงใสเหมือนพยายามบอกให้ใจเย็นลง ทั้งที่อันที่จริง หัวใจเขาก็พาลเต้นตึกตักเหมือนกัน ท่าทางเราสองคนตอนนี้มันดูพิกลๆ นี่นา ถ้าใครเดินผ่านมา อาจจะคิดไปในเรื่อง...แบบนั้น...


    ชั่ววูบหนึ่งที่เรามองตาประสานกัน ตาคู่กลมของจินอูได้แต่มองซึงยูนอย่างไร้เดียงสา


    “ซึงยูนน่า...ฮยอง...”


    “พี่นี่แอ๊บแบ๊วไม่ได้เรื่องชะมัด สอนตั้งนาน” อีกฝ่ายว่าขึ้นแทรกไม่ให้เขาได้พูดจนจบประโยค “นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรง”


    ซึงยูนว่าแล้วก็เดินหนีไปปิดไฟจนมืด เขาได้ยินเสียงสวบสาบของผ้าห่มผืนหนาจากเตียงอีกฝ่าย เราตัดบทเข้านอนกันตรงนั้น ปกติเขาจะพูดฝันดีกับซึงยูนหรอก แต่วันนี้ มันรู้สึกน้อยใจแปลกๆ จนไม่อยากบอกเหมือนทุกวัน



    “พี่ไม่ต้องพยายามทำหรอก...เอคโยอะไรนั่น”


    พอเขาไม่พูดอะไร อีกฝ่ายก็พูดขึ้นมาซะอย่างนั้น ...หมายความว่าเขาไม่ได้เรื่องสินะ...คิมจินอูนึกผิดหวัง ส่วนหนึ่งก็เพราะเขาเอง แต่อีกส่วนนึง ยอมรับ...ว่าเขาก็อยากให้ซึงยูนชมเขาต่อหน้าบ้างเหมือนกัน


    “ฝันดีนะ” ซึงยูนพูดต่อ เขาเองก็ตอบ “อื้อ” เบาๆ กลับไปแบบนั้นเหมือนคนกำลังจะหลับ ทั้งที่ความจริงไม่ใช่สักนิดเดียว

     




    “หลับแล้วหรอ?”


    เขาไม่คิดว่าซึงยูนจะพูดขึ้นมาอีกในอีกสิบนาทีต่อมา หากจินอูกลับเงียบไม่ตอบอะไร ก็ไหนๆ จะแกล้งหลับแล้วนี่นา

     



    ในความมืดสนิทและความเงียบงัน มีเพียงเสียงของซึงยูนภายในห้องนั้น...

     
     

    “อย่าทำเอคโยเลย...ฮยองทำแล้วไม่น่ารักหรอก”


    “มันน่า..อย่างอื่น..มากกว่า”




     



    และหัวใจที่เต้นระส่ำ ของคิมจินอู

     

     



     

     

     

    TBC


    มาต่อแว้ว อิอิ 
    ขอทำความเข้าใจกับคนอ่านนิดนึงว่าฟิคเรื่องนี้เราแต่งแบบตามอารมณ์ เหมือนเป็น one-shot สั้นๆ แบบอิงวงมารวมกันมากกว่า ไม่ได้มีพลอตอะไรจริงจังน้า เพราะงั้นอย่างงว่าเนื้อเรื่องมันเหมือนเป็นโมเม้นมากกว่าเรื่องราวที่ต้องดำเนินไปข้างหน้าแบบ 1 2 3 4 ...มันอาจจะไม่มีตอนจบด้วยซ้ำ แฮ่ แค่อยากเขียนก็เขียนไปเฉยๆ ง่ะ

    ยังไงก็ขอบคุณทุกคอมเม้น และทุกคนที่อ่านนะค้า น้ำตาจะไหล TTvTT อ่านแล้วชอบไม่ชอบบอกได้นะค้า ฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนน้าาาาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×