ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WINNER - YoonWoo ||| Love is in the Air ミ

    ลำดับตอนที่ #2 : Dream

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 57


     

     

    Love is in the Air

    - Dream -

     


     

     

    ถึงเราจะเพิ่งเดบิวท์ แต่ตารางงานก็รัดตัวจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน


    คิมจินอูนั่งหาวขณะอยู่บนรถตู้ขณะเดินทางไปอัดรายการ เมื่อคืนนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นนอนมาทำงาน ที่จริงช่วงก่อนเดบิวท์เขาเองก็พักผ่อนน้อยแบบนี้เป็นทุนเดิม แต่พอต้องออกสื่อแทนที่จะสิงตัวที่ห้องซ้อมเหมือนก่อนหน้า ความกังวลก็เพิ่มพูนขึ้นมาไม่รู้กี่เท่า


    ถ่างตาตื่นได้ แต่สมองเหมือนจะยังอยู่บนที่นอน แถมยังปวดตัวไปหมดอีกเพราะโซฟานอนไม่สบายเท่าที่ควร สคริปท์รายการตรงหน้าที่ต้องอ่านราวกับเป็นยุงที่เกาะบนแผ่นกระดาษ ยิ่งอ่านเท่าไหร่เขาก็รู้สึกว่ามันเลือนราง จางลงไปเรื่อยๆ


    “ฮยอง...จีนูฮยอง...” เป็นซึงฮุนที่นั่งข้างๆ สะกิดเรียกไว้ เมื่อกี๊เหมือนเขาจะงีบหลับไปไม่รู้ตัว “ฮยองเป็นอะไรรึเปล่า? หน้าตาดูเพลียๆ”   

    “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” ที่จริงเขาค่อนข้างปวดหัว แต่อาจจะเพราะนอนน้อยเกินไปเลยเป็นแบบนี้ เดี๋ยวสักพักก็คงหายเอง จินอูได้แต่ยิ้มบางๆ ให้ซึงฮุนให้อีกคนหายห่วง ก่อนจะดื่มน้ำเปล่าที่อีกฝ่ายยื่นมาให้เผื่อจะสดชื่นขึ้นมา

     



    ไม่นานนักกับการแต่งหน้าทำผม เราอัดรายการกันตามสคริปท์ที่วางไว้แทบจะเป๊ะทุกเสี้ยวนาที จินอูไม่ใช่ตัวเด่นอยู่แล้ว เขาที่นั่งแถวหลังได้แต่พยักหน้าเออออ ส่งยิ้มปรบมือตามเสียมากกว่าจะพูดอะไร ตรงกันข้ามกับคนที่นั่งถัดไปด้านหน้า ที่เป็นคนพูดแทบตลอดทั้งรายการ

    เหมาะสมแล้วล่ะ ก็ซึงยูนเป็นหัวหน้าของวง พูดจาฉะฉานแล้วก็ตอบคำถามเก่งกว่าใคร จินอูนั่งฟังคนอื่นเสียเป็นส่วนใหญ่ รับคำบ้างเป็นระยะ จนกระทั่งซึงยุนที่โยนบทมาถึงเขานี่แหละ


    “ผมว่าสมาชิกที่แสดงความเศร้าออกมาได้ดีที่สุด ก็คือพี่จินอูในฉากโรงหนังแหละครับ” ซึงยูนว่าพลางหันมาหาจินอูที่นั่งด้านหลัง เราหัวเราะและแสดงออกมาได้อย่างดีสำหรับรายการ ไม่มีใครดูออกด้วยซ้ำว่านี่เป็นประโยคแรกด้วยซ้ำที่เราคุยกันในวันนี้

    “ที่ฉากนี้นะครับ ถ้าลองมองไปที่ดวงตาเศร้าๆ ของพี่จินอู คุณจะอยากร้องไห้ตามเลยล่ะครับ” อีกฝ่ายพูดชงให้ ร่วมด้วยสมาชิกคนอื่นในวงที่สมทบต่อ จินอูก็พูดตอบไปตามเรื่องราวในการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ

    “เราถ่ายฉากในโรงหนังกัน 3 ชั่วโมงเลยครับ แค่ฉากนี้ฉากเดียว”


    สมาชิกทุกคนแสดงท่าทางสนุกสนานตลอดทั้งรายการที่อัด จินอูก็เช่นกัน ถึงจะยังปวดหัวหรือเมื่อยตัวก็ตามแต่งานตรงหน้าต้องมาก่อน ที่จริงวันนี้เขาดูออกจะร่าเริงเกินปกติไปนิดเสียด้วยซ้ำไป เราบอกจบรายการกันแบบสนุกสนานเป็นกันเอง กล้องจับภาพรวมของรายการ หมุนไปมาสามสี่รอบ โปรดิวเซอร์ก็สั่งคัทจบ

    เป็นอันว่า การถ่ายทำรายการจบลงตรงนี้ ตามเวลาพอดีเป๊ะแทบจะไม่ขาดไม่เกิน

    “ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ” สมาชิกในวงต่างก้มตัวโค้งกันมากกว่า 90องศา ให้กับทีมงานเบื้องหลัง จินอูเองก็เช่นกัน เขาส่งยิ้มให้กับทุกคนพลางโค้งเคารพ หากตอนนั้นเองที่เหมือนทุกสิ่งเริ่มดับวูบลง ร่างเล็กล้มลงกับพื้น เขารู้สึกเจ็บตรงสะโพกนิดหน่อย ภาพตรงหน้าเบลอลงไปจนแทบจางเป็นสีเทา

    อยู่ดีๆ ตอนนั้น ก็เหมือนว่าเขาได้กลิ่นแชมพูของคังซึงยูนอีกครั้ง

    “จีนูฮยอง...จีนูฮยอง...” มาพร้อมกับเสียงทุ้มๆ คุ้นหูด้วยล่ะ...คราวนี้

     



    รู้สึก...ตัว..เบาๆ ..ดีแฮะ


    นึกถึงตอนเด็กๆ ...ที่พ่อชอบอุ้มเล่นเหาะไปมาเลย...



    เขาคู้กายเกาะเกี่ยวคนข้างเคียงโดยไม่รู้ตัว ไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้กลิ่นหอมเย็นๆ ที่มาพร้อมกับโลกที่ค่อยๆ สว่างสไว


    “จีนูฮยอง...รู้สึกตัวรึยัง...ฮยอง...”


    ลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นใบหน้าขาวของคังซึงยูนเป็นคนแรก อีกฝ่ายขมวดคิ้วจ้องหน้าเขาเขม็งเหมือนโกรธเขาก็ไม่ปาน ช่วงเวลาเดียวกันกับที่เขาเพิ่งรู้ตัว ว่าเผลอจับมืออีกฝ่ายไว้เสียแน่นเชียว


    โกรธเรื่องนี้รึเปล่า?


    จินอูคิดแล้วก็รีบปล่อยมืออบอุ่นนั้น พลางเบือนหน้าหนีไป หันไปหามักเน่อย่างแทฮยอนที่ยื่นน้ำหวานมาให้เขาทานแทน

    “ฮยองรู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม?” มิโนถาม เขาเองก็ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักกลับไปเบาๆ

    “โอเคแล้ว รีบไปกันเถอะ เราต้องไปเตรียมตัวเข้ารายการเพลงอีกไม่ใช่หรอ?” จินอูถามออกไป เขาเพิ่งรู้ว่าเสียงตัวเองอ่อนแรงเสียขนาดนี้ และดูเหมือนมันจะเพิ่มอุณหภูมิของคนข้างๆ ให้มากขึ้นไปอีก

    “พักก่อนสักห้านาทีจะเป็นไรไป” เสียงของซึงยูนดูเครียดมาก หน้าก็เครียดกว่าเมเนเจอร์ฮยองเสียอีก “เดี๋ยวผมดูจีนูฮยองตรงนี้เอง คนอื่นไปรอที่รถได้เลย”

    เห็นเป็นแบบนั้น สมาชิกคนอื่นก็รับทราบพร้อมพากันทยอยออกไปรอ ซึงยุนกับมิโนหันมาทำท่าไฟท์ติ้งให้อย่างเฮฮา ส่วนแทฮยอนก็หันมาส่งยิ้ม ปล่อยทิ้งเขาสองคนเอาไว้ที่เก่าตรงนั้น


    ใครจะรู้...ฉากหน้าที่เราเป็นรูมเมทกัน... ที่จริง เราสองคนมีช่วงเวลาอึดอัดด้วยกันบ่อยจะตาย

    อย่างตอนนี้นี่ไง


    “ทีหลังเป็นอะไรก็บอกสิ ทำไมชอบฝืนตัวเองนักล่ะ? ถ้าพี่เป็นอะไรขึ้นมาจะเป็นยังไง” ซึงยูนว่าขึ้นเสียงไม่ดัง แต่กับคนที่ห่างกันแค่คืบได้ยินชัดเจนทั้งเสียงและความรู้สึก


    อดคิดเอาเองไม่ได้ ว่าซึงยูนกำลัง...โกรธ...


    “พี่ขอโทษ” จินอูว่าพลางช้อนตามองอีกฝ่ายอย่างรู้สึกผิดเสียเต็มประดา หากซึงยูนก็สวนกลับมาในทันที


    “ขอโทษอะไรอีกล่ะ พี่ทำผิดรึไง?”


    “ก็ผิดที่ไม่ได้บอกนายไง” เขาพูดช้า ต่างกับอีกฝ่ายราวน้ำกับไฟ “แต่พี่แค่ปวดหัวนิดหน่อยเอง ไม่คิดว่าจะเป็นลมนี่”


    “นี่พี่ปวดหัวด้วย? ตั้งแต่เมื่อไหร่? มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกผมอีก?”


    “ก็...เมื่อเช้านี้” จินอูว่าเสียงหงอยพลางก้มหน้า เขาได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆ ของอีกฝ่ายดังขึ้นข้างตัว ซึงยูนเดินหายไปไหนไม่รู้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินเร็วๆ กลับมา แล้วจึงค่อยๆ จับมือเขาลุกขึ้นยืน


    “ครบห้านาทีแล้ว” อีกฝ่ายว่าเท่านั้น แล้วก็จูงเขาเดินออกไปจากสตูดิโอโดยที่เขาไม่กล้าขัด ขากลับเราขึ้นรถตู้นั่งติดกันต่างจากขามา ปกติเรานั่งข้างกันบ่อยๆ แล้วก็คุยนู่นนี่กันทั่วไป แต่กับวันที่เรามึนตึงใส่กันแบบนี้ บวกกับความรู้สึกเพลีย ทำให้จินอูไม่กล้าปริปากสักคำเดียว


    จนกระทั่งอีกฝ่ายสะกิดเขาเบาๆ ก่อนจะยื่นถุงพลาสติกพร้อมขวดน้ำมาให้


    เขามองหน้า รับมาถือไว้เฉยๆ นั่งงงอยู่พักใหญ่ จนเสียงทุ้มของซึงยูนพูดขึ้นมานั่นแหละ


    “ยาแก้ปวด”

    “ห๊ะ”

    “กินสิ”

    “ก..กิน? อ๋อ”


    ผู้จัดการคงฝากมา เขาได้แต่คิด ก่อนจะหยิบยาเม็ดในซองเข้าปากตามด้วยน้ำอย่างว่าง่าย ก่อนจะส่งคืนให้ซึงยูนกลับไปตามเดิม


    เรานั่งนิ่งๆ ในรถชั่วขณะ ก่อนที่ซึงยูนจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นต่อ


    “นอนก่อนก็ได้ มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง”


    อีกฝ่ายว่าเท่านั้น เขาเองก็หลับตาลงเอนศีรษะพิงเบาะ คิ้วขมวดมือประสานกันเอาไว้ราวกับมีเรื่องคิดไม่ตก หากตอนนั้นที่เหมือนมีใครสัมผัสช่วงผม ลูบแตะมันแผ่วเบา ก่อนจะกดศีรษะของเขาให้เอนลงด้านข้างช้าๆ


    ...อา...สบายจัง...


    เผลอซุกศีรษะลงตรงนั้นอย่างสบายตัว จมูกเรียวสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ลอยมา คิ้วที่ขมวดแน่นค่อยๆ คลายลง พร้อมกับจุดรอยยิ้มน้อยๆ มุมปากราวกับเจ้าชายน้อยกำลังฝันดี

     



    ในฝันนั้น...เขาได้ยินเสียงทุ้มของซึงยูน


    มันแผ่วเบา... จนจับใจความไม่ได้


    หากแต่อบอุ่น...ไม่ต่างจากแสงแดดในหน้าหนาว

     

     

     

     

    TBC




    มาต่อเร็วจัง (ชมตัวเอง ถถถ) คือถ้าเทียบกับสปีดที่เคยแต่งฟิคเรื่องอื่นมาก่อนนี่ถือว่าเร็วมากกกก อาจเพราะรูปยูนวูในวันนี้ 555 ดีใจจังมีคนเม้นให้ด้วยอะ น้ำตาจะไหล ขอบคุณมากนะคะ TTvTT
    ฟิคยูนวูหาอ่านยากจริงจัง จนต้องแต่งอ่านเอง ฮือ คนอื่นช่วยแต่งมาลงกันเยอะๆ นะคะ ฮ่าาาา
    สำหรับฟิคเรื่องนี้ ก็แต่งขำๆ ใครชอบไม่ชอบยังไงบอกได้น้า ชี้แนะเสนอแนะได้เลย >.<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×