ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #89 : Electric Dreams (A) Black

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 65


    Electric Dreams
    Inspiration: Electric Dreams: Real Life (TV Episode, 2017) & Detroit: Become Human (Video Game, 2018)
    Playlist: M83 – Midnight Souls Still Remain / The Midnight  Sunset












    .

    ไทกะได้พบหน้าหญิงสาวจากห้วงคำนึงตลอดคืน กระทั่งจะลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกแห่งความจริงทันทีที่ผลักประตูห้องออกไป ที่ทันใด แผ่นหลังในชุดเดรสกรอมเข่ากับถุงน่องสีดำที่ได้เห็นเพียงเสี้ยววินาทีก็จะผุดลุกขึ้นจากโซฟาที่กำลังนั่งเหม่อมองทิวทัศน์ในวันฟ้าโปร่งของนีโอโตเกียว คล้ายการกระทำได้กระตุ้นเหตุการณ์ต่อเนื่องให้เป็นไป ก่อนส่งรอยยิ้มกว้างซึ่งคงจะเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตัวมาให้อย่างแสนจะสดใส ปัดเป่าความมืดมิดข้างในใจอาจจะตลอดทั้งชีวิตของเขาไปจนสิ้น

    อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเคียวโมโตะ

    ครับ

    ต้องขอโทษด้วยนะคะ เผอิญว่าคุณยายท่านล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ ท่านว่าไม่อยากรบกวนปลุกคุณ ก็เลยบอกให้ฉันช่วยเป็นคนพาไป

    เขาเพียงพยักหน้าตอบรับถ้อยคำพูดอันแสนยืดยาวจากริมฝีปากสีแดงคู่นั้น ก้าวตามหลัง หากรุดนำไปเปิดประตูหน้า แล้วเขาก็นึกประหลาดใจวาบขึ้นมาว่าเรื่องพรรค์อย่างนี้มีบันทึกอยู่ในธนาคารความทรงจำของเขาด้วยหรือ? ในเมื่อแต่ไหนแต่ไร คนอย่างเคียวโมโตะ ไทกะก็ไม่เคยสนใจทั้งเป็นฝ่ายให้หรือรับจากใครมาก่อน เป็นไปได้หรือที่สิ่งซึ่งเขาคิดว่ามันไร้สาระมาตลอดอย่าง ความรัก จะสามารถปลุกความเป็นมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ลึกสุดหยั่ง อย่างที่แม้แต่ตัวเองยังไม่เคยคาดคิดว่าจะมีได้จริง?

    และเสี้ยวหน้าด้านข้างของเธอที่มองเห็นก็ทำให้เขารู้ว่า — อาจเป็นไปได้

    ขณะที่ปล่อยความคิดยามก้าวเดินตามหลังเธอไป ไทกะจึงไม่ทันได้สังเกตว่ามีพาหนะคันสีดำมารอรับพวกเขาอยู่แล้วที่หน้าอพาร์ตเมนต์ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอโทร.เรียกมาตั้งแต่แรก ก็อาจเป็นบริการของที่พักอันหรูหราเทียบเท่ากับโรงแรมราคาแพงลิบลิ่ว ความจริงใจจากเนื้อแท้ของเธอเผื่อแผ่ไปยังผู้คนรอบข้าง อย่างที่ไม่ว่าใครก็คงไม่มีทางปฏิเสธมันได้ลง ยิ่งโดยเฉพาะกับไอ้หนุ่มโชเฟอร์ซึ่งเปลี่ยนสีหน้าเรียบเฉยติดจะขุ่นข้องเพราะการรอคอยที่ยาวนาน ไปเป็นรอยยิ้มที่เกินกว่างานบริการให้แก่เธอ และจำต้องเผื่อแผ่มาให้เขาด้วยอย่างเสียไม่ได้ โชคดีที่รถแท็กซี่ในมหานครแห่งนี้แบ่งแยกสัดส่วนด้วยกระจกที่กั้นกลาง มีเพียงผู้โดยสารแถวหลังเท่านั้นที่สามารถมองเห็นความเป็นไป ไม่นับรวมการสนทนาซึ่งโต้ตอบกันได้สองทางเฉพาะเมื่อลูกค้าเป็นผู้กดปุ่มลำโพง ไทกะรู้สึกขบขันจนถึงกับเย้ยหยันเมื่อเห็นโชเฟอร์พยายายามเหลือบมองมาทางข้างหลังอย่างว้าวุ่นอยู่บ่อยครั้ง ขยับปากพึมพำเป็นประโยคที่เขาไม่ได้ยินเมื่อไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้อย่างใจ คล้ายมีเพียงเขาที่กำลังมองดูละครใบ้ชวนหัว ขณะที่ชูกะกำลังสนทนาเจื้อยแจ้วกับเขาไม่ได้หยุด ถึงอาจด้วยการพยักหน้าและตอบรับอันน้อยนิด หากท่าทีในเช้าวันนี้ก็เป็นมิตรขึ้นกว่าเดิมจนเธอค่อยสบายใจที่จะสนทนา

    “สุสานอยู่ไม่ไกลนี้เองค่ะ เดี๋ยวเดียวก็ถึง เราจะจัดพิธีฝัง จากนั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น” เธอแตะรอยยิ้มอ่อนโยนเมื่อเอ่ยขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าคุณยายดีใจมากเลยที่รู้ว่าคุณเคียวโมโตะจะกลับมา”

    “ครับ” เขาตอบรับไปเพียงแค่นั้น ครั้นแล้วเธอก็ถอนหายใจออกมา ฟังดูหดหู่เสียจนทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำอะไรผิดไป

    ฉันรู้ค่ะว่าคุณเคียวโมโตะอาจไม่ได้ผูกพันกับพวกท่านมากนักเพราะห่างเหินกันมานาน แต่ที่คุณปู่กับคุณย่าของคุณเอ็นดูฉันกับโฮคุโตะมากขนาดนี้ เพราะพวกท่านมักจะบอกว่าเห็นแล้วคิดถึงหลานของตัวเอง และชื่อที่ฉันได้ยินบ่อยๆ ก็คือชื่อของคุณนี่แหละค่ะ แต่ว่าไม่ต้องห่วงนะคะ” มือของเธอยกขึ้นโบกปัด เสริมรับคำพูดของตนเองอย่างแข็งขัน “ฉันไม่ได้จะตัดสินใครหรือคิดว่าคุณทำอะไรผิดไป ทุกคนต่างก็มีเรื่องราวของตัวเอง แค่คุณยอมเดินทางกลับมาร่วมงานศพก็ดีมากแล้ว นี่อาจจะดูไม่ควรเท่าไหร่ในฐานะคนนอก แต่ยังไงฉันก็ต้องขอขอบคุณแทนคุณตากับคุณยายด้วยนะคะ

    อย่าเลยครับ ผมต้องขอบคุณคุณโคมิยามะมากกว่าที่ช่วยดูแลพวกท่าน”

    คำพูดที่ไทกะแน่ใจว่าเลือกใช้อย่างถูกต้องทำให้รอยยิ้มของเธอหวนกลับคืนมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตื้นตันใจมากหรืออย่างไร ถึงได้เปลี่ยนไปผินใบหน้าออกนอกหน้าต่างแทน ไทกะจึงได้ใช้เวลานั้นจมจ่อมอยู่กับชื่อชายคนรักของเธอซึ่งหลุดลอดออกมาครั้งหนึ่ง เขากระวนกระวายใจอยากรู้เหลือเกินว่า โฮคุโตะคนที่ได้หัวใจของเธอไปจะเป็นคนเช่นไร โชคดีที่เขาไม่จำเป็นต้องรอนานถึงเพียงนั้น เมื่อมาถึงสุสานที่แขกเหรื่อในชุดสีดำกำลังรวมตัวกันอยู่ โดยมีชูกะนำทางไปหาคุณย่าที่กำลังนั่งคอยอยู่ที่แถวหน้าสุดกับผู้ชายแปลกหน้าวัยไล่เลี่ยหรืออาจเท่ากันกับเขา ก่อนทิ้งตัวนั่งลงไปเคียงกัน จากวิธีแตะเนื้อต้องตัวและคำพูดของคนทั้งสองที่ถึงแม้จะได้ยินแค่เพียงแผ่วผิว หากนั่นก็ตอบคำถามที่ค้างคาใจเขาได้หมดจดชัดเจน

    ตลอดช่วงพิธีที่ดำเนินไป สุนทรพจน์ของคุณย่าและแขกเหรื่อคนอื่นๆ ไม่ได้ผ่านเข้าไปในโสตประสาทของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหญิงสาว ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอยังคงแจกรอยยิ้มสดใสให้โลกใบขื่นๆ วางใจได้ว่าทุกอย่างจะต้องไม่เป็นไร เมื่อไทกะทำทีขยับจุดสายตาเพื่อมองใบหน้าเปรอะน้ำตาที่แสนอาลัย ก็เหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังร่ำร้องไห้ไปกับเธอ

    หากมีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกปวดแปลบขึ้นมา เป็นเพราะมือหนาของชายตัวสูงกว่าที่คอยลูบผ่านท่อนแขนในชุดเดรสผ้าลูกไม้เพื่อแสดงความปลอบโยนตลอดช่วงเวลาเหล่านั้น

    เหลวไหลสิ้นดีที่เขาอยากเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นแทน

     

    พิธีฝังศพเป็นไปอย่างเรียบง่ายและหงอยเหงา รวมไปถึงความอาดูรอย่างมากมายที่ทำให้คนเป็นหลานชายอดทึ่งใจไม่ได้ ปล่อยให้หญิงชราผู้กลายเป็นม่ายสนทนากับแขกเหรื่อที่เข้ามาแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียอย่างไม่เร่งร้อน ขณะเลี่ยงไปนั่งรอบนม้านั่งลำพังโดยพยายามคิดถึงเพียงความว่างเปล่า เฉกเช่นชีวิตทั้งหลายที่ดับสูญและนอนหลับอย่างสงบอยู่ ณ ที่นี้ กว่าจะได้เดินทางกลับอพาร์ตเมนต์ก็ในอีกสองชั่วโมงต่อมา แม้หลังลงจากแท็กซี่โดยสาร ชูกะที่เคียงคู่มากับชายคนรักซึ่งคอยเฝ้าประคองก็ยังคงร้องห่มร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนน่ากลัวว่าน้ำตาของเธอจะเหือดหาย ให้คุณย่าต้องเป็นฝ่ายกอดปลอบหลานสาวไม่แท้คนนี้เสียเอง

    หนูชูกะเธอรักคุณปู่มากนะ เธอว่าเพราะแกชอบเล่าเรื่องสนุกๆ ให้ฟัง ส่วนใหญ่ก็เรื่องเก่าๆ สมัยแกยังเด็กมั่ง หนุ่มมั่ง คนส่วนใหญ่ทนไม่ค่อยไหวหรอกเพราะฟังเรื่องซ้ำๆ ซากๆ บ่อยๆ มันก็เบื่อ แต่หนูชูกะไม่เคยปริปากบ่นเลยแม้แต่คำเดียว ขนาดช่วงวาระสุดท้ายของแก หนูชูกะก็ยังคอยแวะเวียนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลทุกวันไทกะรับฟังเรื่องเล่าเคล้าหยดน้ำใสที่รื้นอยู่ตรงหน่วยตาของหล่อนอย่างเงียบๆ เรื่องนี้ก็คือหนึ่งในสิ่งที่ไทกะไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคนเราจะต้องทำอะไรเพื่อคนอื่นมากมายขนาดนั้น ยิ่งโดยเฉพาะคนใกล้ตายที่จะมีประโยชน์อันใดในการปลอบโยนจิตวิญญาณสุดท้ายด้วยอีก หากนอกจากความสงสัย ไทกะก็ไม่เคยตัดสินใครจากการกระทำที่เขาคิดว่าเหลวไหลและเปลืองเปล่า ในเมื่อเขาไม่เคยสนใจใครเลยต่างหาก ทว่าบัดนี้ ทุกการกระทำของเธอกลับวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของเขาไม่รู้จบ นั่นยิ่งตอกย้ำว่าเธอกับเขาแตกต่างกันมากเพียงไร ไม่มีทางที่หญิงสาวผู้มีหัวใจดีงามสมกับเป็นมนุษย์เต็มเปี่ยมอย่างเธอ จะมาลงเอยกับภาชนะกลวงเปล่าอย่างเขาได้เลย

    คุณย่ากลับเข้าไปพักผ่อนในห้องนอนแล้ว ขณะที่เขาได้แต่เอนหลังทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาพลางจดจ้องมองเพดานอย่างเลื่อนลอย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงจะกำลังเตรียมเก็บข้าวของ ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับดีทรอยต์รอบเย็นไปแล้ว น่าขันที่คนคนเดียวทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้ในชั่วพริบตา คิดแล้วก็ตัดสินใจถอดชุดสูทสีดำตัวนอกออก ปลดกระดุมเม็ดบนของเสื้อเชิ้ตแขนยาวพอให้สบายตัวแล้วลงลิฟต์มาชั้นล่าง ไม่ได้เรียกแท็กซี่เพราะไม่มีจุดหมายปลายทางเป็นพิเศษ เพียงแค่เดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนเพียงลำพัง ก็แค่ว่าอยากเห็นโลกใบที่โคมิยามะ ชูกะได้ใช้ชีวิตอยู่ แม้นั่นจะหมายถึงโลกใบที่เขาแสนจงเกลียดจงชังก็ตาม

     


    หากยิ่งได้สัมผัส โลกใบนั้นก็กลับยิ่งตอกย้ำความรู้สึกแรกเริ่มให้แรงกล้าขึ้นกว่าเดิม ความเจริญที่ปรากฏอยู่จากร้านรวงตลอดสองข้างทาง กระทั่งการแต่งกายอวดมูลค่าของผู้คน ทุกตารางนิ้วในย่านคนมีเงินแห่งนี้ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยสิ่งปลอมเปลือก แม้ในยามกลางวันอาจไม่ปรากฏภาพของความโสมมภายใต้ป้ายไฟนีออนละลานตาก็ใช่ว่าจะอ่านเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ไม่ออก แล้วไทกะก็นึกเสียใจขึ้นมากับความผิดพลาด เขาน่าจะนั่งดูโทรทัศน์หรืออ่านหนังสือของคุณย่าที่มีอยู่เต็มชั้นในอพาร์ตเมนต์ หรือไม่ก็อาจเฝ้ารอคอยการมาถึงของหญิงสาวห้องข้างบน ขณะที่คิดเช่นนั้น ท้องของเขาก็ดันร้องประท้วงเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่หลังลงจากเครื่องเมื่อคืนวาน ปกติตัวเองก็ไม่ใช่คนเลือกมากอยู่แล้ว เลยตกลงใจเอาเป็นร้านอาหารตรงหัวมุมแรกที่ได้เห็น เมื่อผลักบานประตูเข้าไปนั่งบนโต๊ะว่างริมหน้าต่างตัวแรกสุดแล้ว พนักงานสาวในชุดเครื่องแบบสีช็อกกิ้งพิงค์คาดผ้ากันเปื้อนดำก็ปรี่เข้ามาอย่างกระตือรือร้น

    เขากวาดตามองเมนูเพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น เมื่อเห็นว่ามีจึงสั่งสเต๊กริปอายกับโค้กไปด้วยความเคยชิน ครั้นพอเธอที่กำลังเลื่อนปลายนิ้วผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์สีใสเอ่ยแนะนำว่า “ปีกไก่ฮันนี่แอนด์บาร์บีคิวก็อร่อยนะคะ ซิกเนเจอร์ของร้านเราเลย” เขาที่มีเปอร์เซ็นต์การปฏิเสธคำแนะนำของเหล่าพนักงานเท่ากับหนึ่งร้อยเต็มกลับเออออ จนนัยน์ตากลมโตของเธอหรี่ลง ส่งรอยยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเกือบด้วยความลิงโลด พนักงานสาวกล่าวขอบคุณเขาเสียงใสแล้วเผ่นแผล็วรีบไปกดเครื่องดื่มหลังเคาน์เตอร์ให้อย่างเร็วรี่ ในตอนที่แก้วน้ำอัดลมถูกนำมาวางอยู่เบื้องหน้า เขาจึงได้มองเห็นป้ายชื่อกลัดหน้าอกที่เขียนว่า โยโกโนะแม้แต่ไทกะที่ไม่เคยสนใจโลก — หรือผู้หญิงคนใด — ก่อนยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ก็ยังพูดได้เต็มปากว่าเธอมีหน้าตาที่สะสวยมาก จนเกินกว่าจะมาลงเอยเป็นแค่พนักงานในร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้

    อ้าว คุณเคียวโมโตะนี่เอง ขอนั่งด้วยคนคงไม่ถือสานะครับ

    และเมื่อเขาพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ ที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามก็ถูกชายหนุ่มที่เขาเพิ่งรู้จักได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงจับจองทันที เรียกให้พนักงานสาวที่จากไปรับออเดอร์ลูกค้าใหม่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าตรงดิ่งกลับมาที่โต๊ะตัวเดิมด้วยสีหน้าที่ไม่ปกปิดความรู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียว

    “แซนด์วิชหอยนางรมเหมือนเดิมใช่ไหม?”

    “อ่าฮะ”

    ว่าแต่คนนี้...” เธอแสดงสีหน้าคล้ายขอโทษขอโพยที่ไทกะไม่เห็นความจำเป็นใดๆ หากก็ผงกหัวหน่อยหนึ่งกลับไปให้ “เพื่อนเหรอ?”

    อื้อ นอกจากจะตอบคำถามอย่างไหลลื่นแล้ว เขาก็ยังไม่เสียเวลาคิดหรือถามความเห็นจากคนที่ถูกพาดพิงเลยแม้แต่น้อย เขาชื่อเคียวโมโตะ ไทกะ หลานของตายายห้องข้างล่างฉัน เพิ่งจะมาจากดีทรอยต์ เจ๋งใช่ไหมล่ะ?”

    ไทกะไม่นึกแปลกใจในถ้อยคำท้ายประโยคนั้น ดูเหมือนไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย อเมริกันดรีมก็ยังคงเป็นความฝันของหนุ่มสาวในญี่ปุ่นได้อยู่ดี

    “ดีทรอยต์เหรอคะ? ว้าว ฉันเองก็ฝันว่าอยากจะเห็นแอนดรอยด์ตัวเป็นๆ สักครั้งจังเลย”

    “มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรขนาดนั้นหรอกครับ”

    “อะไรที่เห็นทุกวัน เราก็คิดว่ามันไม่พิเศษ”

    “ก็ไม่เสมอไปนะ” ทำให้เธอต้องหันไปทำหน้ายู่ใส่คนที่กำลังยกมือขึ้นเสยผม ชวนให้นึกหมั่นไส้ทั้งท่าทางและคำพูด ลากเสียงสูงไปว่า “แหม เข้าใจแล้วน่าว่าหมายถึงชูกะจัง!” แถมยังแลบลิ้นล้อเลียนเข้าให้อีก แต่ไทกะกลับคิดว่ามันไม่แนบเนียนเอาเสียเลย เพียงเวลาไม่ถึงสามนาทีที่เขาได้มองดูสถานการณ์ระหว่างคนทั้งสอง เขาก็มั่นใจเกินล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเธอรู้สึกเช่นไร เพราะฉะนั้นก็ย่อมไม่มีทางเลยที่เจ้าตัวจะไม่รู้ เมื่อคนตรงหน้าเขาก็ไม่ได้ดูโง่ขนาดนั้น แค่อาจเลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นเพื่อรักษามิตรภาพเอาไว้ กระทั่งชายหนุ่มร่วมโต๊ะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปยังเรื่องเครื่องดื่ม เธอจึงรีบจรลีจากไปเหมือนหนึ่งว่าเพิ่งจำจด

    ไม่คิดเลยนะครับว่าจะมาเจอกันที่นี่

    ครับ ทีแรกเขาตั้งใจว่าจะไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะความหงุดหงิดที่แล่นริ้วขึ้นมา ครั้นแล้วก็อดใจไม่อยู่จนต้องเอ่ยปาก แม้ไทกะจะเกลียดที่ต้องได้รู้เรื่องของเธอจากปากของผู้ชายคนอื่น พอๆ กับเกลียดตัวเองที่อยากรู้จนต้องตัดสินใจถามไถ่ แล้วคุณโคมิยามะไม่ได้มาด้วยเหรอครับ?

    ร้องไห้จนหลับไปแล้วครับ” ว่าแล้วก็หัวเราะน้อยๆ ออกมา ยิ่งได้เห็นสีหน้าแบบนั้นไทกะก็ยิ่งรู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว หลังจากนั้น เขาไม่พยายามที่จะหยิบจับเรื่องราวใดขึ้นมาอีก จุดสายตาเปลี่ยนไปยังภายนอกบานกระจกใสคนละขั้วกับภายในใจของเขาที่กำลังขุ่นมัว จะโฮคุโตะหรือว่าใครก็ไม่มีทางอ่านหน้ากากไร้อารมณ์ของเขาออก ไทกะนึกขอบคุณที่มันยังไม่เปลี่ยนแปลงไปตามความรู้สึกโง่เง่าทั้งหลายที่ถาโถมเข้าใส่

    “แล้วคุณเคียวโมโตะคิดว่าจะอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่ครับ?”

    ผมก็ยังไม่แน่ใจ

    “แบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะครับ ถือซะว่ามาพักผ่อน ที่นี่อาจไม่มีแอนดรอยด์ตามท้องถนนทั่วไปเหมือนที่โน่น แต่นีโอโตเกียวเราขึ้นชื่อเรื่องเกมมาก ผมแน่ใจว่าคุณคงไม่ได้สนใจเรื่องเกมเท่าไหร่ แต่ลองดูก็ไม่เสียหายจริงไหมครับ

    “ใช่แล้วค่ะ!

    เสียงใสดังมาก่อนตัวพนักงานเสิร์ฟสาวที่ถือจานอาหารใบโตเต็มสองมือ เป็นเมนูของเขาไปสอง และชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามอีกหนึ่ง ทั้งที่ดูตัวเล็กและแรงน้อย เธอก็สามารถทำมันด้วยตัวคนเดียวได้ไม่แพ้กับแอนดรอยด์ที่เขาเคยเห็นทุกวันจนชินตา นั่นบ่งบอกได้ว่าเธอทำงานที่นี่มานานมากจนคล่องไปเสียทุกอย่าง น่าสะท้อนใจกับการเลือกทางเดินชีวิตที่แสนจะไร้ค่าและเปลืองเปล่า

    ถ้าคุณเคียวโมโตะไม่ได้สนใจเรื่องเกม ก็คงไม่รู้ว่าโฮคุโตะมีชื่ออยู่บนตารางอันดับหนึ่งของเกมเดอะกริดเชียวนะคะ ใครๆ ก็รู้จักกันทั้งนั้น”

    เธอก็พูดเกินไปแล้วฮิโรนะ” เจ้าตัวบอกปัดไปโดยไม่อวดโอ่ ซ้ำทำทีเป็นยกแซนด์วิชขึ้นกัดเพื่อกลบเกลื่อนด้วยอีก

    ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเกมเท่าไหร่ครับ

    สำหรับเคียวโมโตะ ไทกะแล้ว เขามีงานอดิเรกที่ไม่ค่อยจะเหมือนกับเด็กวัยเดียวกันทั่วๆ ไป เขาชอบการได้ใช้เวลาลำพังในพื้นที่ส่วนตัวเพื่ออ่านหนังสือ ฟังเพลงร็อค ไม่ก็นอนครุ่นคิดถึงปรัชญาและความหมายของชีวิตที่ไม่น่าจะมีใครมาเข้าใจ มีบ้างที่จะออกไปทอดน่องดูความเป็นไปของเมืองหลวงแห่งแอนดรอยด์ทันสมัยที่ดำเนินเดินไปโดยไม่หยุดยั้ง เรื่องเกมสำหรับเขาถือเป็นสิ่งไร้สาระอย่างสิ้นเชิง มันไม่ได้ให้อะไรกับชีวิตนอกจากความสนุกเพียงชั่วครั้งชั่วคราวในโลกที่จอมปลอมไปซะทุกอย่าง ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับเขาอาจเป็นการนั่งดูนีน่ากับพ่อเล่นเทนนิสในเกมวีอาร์สำหรับครอบครัวด้วยท่วงท่าและภาพสามมิติที่งี่เง่าสิ้นดี จริงอยู่ว่ามีเกมประเภทที่เราแทบไม่ต้องขยับตัวเลยแม้แต่การกระดิกปลายนิ้ว และเกมส่วนใหญ่ที่วัยรุ่นนิยมเล่นถึงขั้นมีการแข่งขันระดับโลกก็คือประเภทนี้ มันเชื่อมต่อผ่านสมองโดยตรง แต่ไม่ได้ตอบสนองความต้องการในโลกความเป็นจริงเช่นการกิน ดื่ม หรือใช้แรงกาย จึงมีข่าวผู้เล่นที่หักโหมเสียชีวิตคาเครื่องเล่นที่ครอบหัวมานักต่อนัก จำนวนผู้เล่นกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็คือชาวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ครั้งหนึ่งก่อนเทคโนโลยีจะก้าวกระโดด เด็กวัยรุ่นที่นี่ต่างคร่ำเครียดกับการศึกษาและแก่งแย่งชิงดีเพื่อให้ได้อยู่ระดับชั้นแนวหน้าอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง หากแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนผ่าน สิ่งหนึ่งที่ส่งต่อมาและคงจะส่งต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดคือความคร่ำเครียดในการแก่งแย่งตำแหน่งเกมเมอร์อันดับหนึ่งบนตาราง แต่จะหาคนที่ประสบความสำเร็จอย่างชายหนุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ให้ไปงมเข็มในมหาสมุทรยังง่ายกว่า ขณะที่ยึดมั่นกับปณิธานแน่วแน่ว่าจะไม่ทำให้สมองของตัวเองต้องถูกแทรกแซงจากมันเป็นอันขาด ภาพโฮโลแกรมโฆษณาของเกมที่ชื่อว่า เดอะกริดก็ปรากฏขึ้นที่กลางโต๊ะ ดูเหมือนว่าฮิโรนะจะเป็นคนยิงสัญญาณผ่านโทรศัพท์มือถือที่หยิบขึ้นมาจากกระเป๋าผ้ากันเปื้อน ทันนั้นเอง สีหน้าของไทกะก็กระตุกวูบไป

    “นี่ไงคะ เกมเดอะกริดที่พูดถึง”

    นั่น...คุณโคมิยามะเหรอครับ?”

    ใช่แล้วครับ” เป็นโฮคุโตะที่ถือโอกาสแย่งตอบก่อนเจ้าของบทสนทนาก่อนหน้าที่เพิ่งจะได้แค่ขยับปาก “เธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้เกมนี้เราถึงได้รู้จักกันไงครับ ชูกะไม่ได้บอกคุณเหรอครับว่าทำงานเป็นนางแบบ?”

    “ไม่ครับ”

    ใครๆ ก็อิจฉาโฮคุโตะที่ได้คบกับคนสวยๆ อย่างชูกะจัง ขนาดฉันเป็นผู้หญิงยังอิจฉาเลย

    อิจฉาที่ชูกะได้คบกับฉันน่ะเหรอ?”  คำเย้าแหย่อย่างติดตลกของโฮคุโตะจะทำให้เจ้าตัวเลิ่กลั่ก รีบกลบเกลื่อนไปด้วยการสวนย้อนว่า อิจฉาหน้าตา วาสนา และโอกาสทุกอย่างต่างหาก คิดดูสิว่าจะมีเด็กผู้หญิงสักกี่คนที่โชคดีแบบนั้นกัน!”

    หน้าตาเธอก็ไม่แย่นะ

    ถึงชมกันไปก็ไม่มีส่วนลดให้นายหรอกย่ะ เฮอะ! ฉันไปทำงานต่อแล้วดีกว่า ขืนมัวแต่คุยกับนาย เดี๋ยวผู้จัดการได้บ่นจนหูชา” เธอค่อนแคะใส่โฮคุโตะ ก่อนเปลี่ยนสีหน้าฉับพลันเป็นรอยยิ้มให้เขาซึ่งพยักหน้าตอบรับหลังถ้อยประโยคที่ว่า “ยังไงถ้าต้องการอะไรก็เรียกใช้ฉันได้เสมอเลยนะคะ คุณเคียวโมโตะ

    ยังไงก็มาเล่นเกมด้วยกันสักครั้งนะครับ ชูกะคงดีใจที่จะได้เล่นเกมกับคุณ”

    ปณิธานของเขาพังลงอย่างง่ายดายเช่นนี้เอง












    2022年03月06日
    _______________
     หลังจากดูเดอะแบทแมนจบแล้วเห็นฉากในเมือง กูก็คิดว่าอ่าฆ์ ได้ฤกษ์แต่งเรื่องนีออนเอสเคปิซึมสักทีแล้วสินะ ก่อนที่จะเจอข่าวใหญ่ของทราวิสกระแทกหน้าในวันถัดมาที่จะยังไม่ขอเขียนถึงใดๆ เพราะแผลยังสดใหม่ มีมเคอหมิดแขวนพัดลม แต่เอาเป็นว่าวันต่อมาเราก็มีเคียวเมในโชคุระ/เอ็มสเต และกัมเทปในยูทูบที่ช่วยฮีลใจ เพราะฉะนั้นก็ใช่แล้วเพื่อน กูกลับมาตายรังกับวงเดบิวต์แล้วที่ทำให้กลับมาชอบจอห์นนีส์อีกครั้ง ไม่ต้องรอคอยความหวังลมๆ แล้งๆ ด่าค่ายไปวันๆ จบด้วยการแขวนพัดลมอีกแล้ว จากนี้ทิศทางการแต่งฟิคของกูจะเป็นยังไงต่อไปไม่รู้ ฟิคเก่าๆ ที่ดองไว้ก็ไม่รู้ จนกว่าทราจาจะผ่านพ้นงานแข่งเต้นเดือนนี้หรือเริ่มไปแอลเอเดือนหน้าใดๆ ก็เอาเป็นว่ากูไม่ทราบ ขอบคุณที่แจ้งให้ทราบ แต่เอาเป็นว่ายังไง ณ ตอนนี้กูก็ยังรักอุมิมากๆ เหมือนเดิม แต่คนอื่น อย่างอื่น กูไม่รู้ แม้แต่จากะกูก็ไม่รู้ ตอนนี้กูตอบไม่ได้ รู้แค่ตอนนี้กูต้องทำบายศรีเรียกรถแห่ลาไปขอขมาสโตนสโนก่อน คนไหนที่กูเคยด่าไว้ก็ขอช่วยยกโทษให้น้องด้วยนะพี่จ๋า T/|\T
     เพราะฉะนั้นก็นั่นแหละครับพี่น้องครับ พอกลับมาหาสโตนส์และคิดถึงฟิคนีออนฯก็เลยคิดถึงฟิคไซไฟที่เคยลงไว้เมื่อชาติที่แล้วขึ้นมา เป็นตอนที่ก็แต่งตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ไม่ได้เอาลงเพราะรู้สึกว่าพล็อตมันยังไงไม่รู้ แต่สุดท้ายก็ว่าเอาเหอะ อย่างน้อยก็มีดีที่ภาษา (แต่สมัยนั้นเวิ่นเยอะอยู่ ว่าไป ตัดทิ้งไปพอประมาณ) เรื่องอื่นที่แย่กว่านี้ยังเอาลงได้เลย ถ้ามึงจะทักมาด่าไม่ต้องนะ ไม่รับ อ๋อ รู้ละว่าอีกเหตุผลที่ตอนนั้นไม่เอาลงเพราะบทแฟนนางเอกที่กูคิดมีแค่คนเดียวคือโฮคุโตะ ละตอนนั้นกูก็หวงเนาะ ใดๆ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว เพราะมึงได้พิสูจน์แล้วว่ารักสโตนส์จริงแม้ในวันที่กูไม่อยู่ TvT / ว่าบาป ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ชอบเนื้อเรื่องของพาร์ทนี้ แต่เสียดายไทกะเพราะชอบบทนี้ เค้าน่าจะเป็นของนางเอกกูไหมวะ พอคิดว่างั้นกูไม่เล่นอีกพาร์ทแล้วขอเปลี่ยนพาร์ทกับมึงก็ไม่ให้ ทีตอนนั้นยังมางอนกูแต่งคู่เจสสี้อยู่เลย อีห่า
     อย่างที่ได้เคยบอกไปว่าชื่อตอนของเรื่องนี้คือคำตรงข้าม ที่พาร์ทนี้ชื่อแบล็กเพราะเป็นงานศพไง ทุกคนใส่สูท ชุดดำๆ ส่วนอีกพาร์ทคือไวท์เพราะจะมีคดีในแล็บพันธุกรรมที่เป็นสีขาวๆ ชุดกาวน์ๆ แต่อีกพาร์ทคงไม่น่าจะได้อ่านแล้วเพราะกูแต่งไว้แค่ห้าร้อยกว่าคำ มีแค่ฉากเจสซี่ขับรถไป ได้คุยกับคู่หูคือจูรินิดหน่อย จบ ถ้าเอามาลงก็คงเหี้ยเกินไป เล่าเลยละกัน จะมีฆาตกรรมในแล็บที่ทำโปรเจกต์มนุษย์พันธุกรรม ตั้งชื่อว่าแจ็คกับจิล (ได้มาจากตอนเครซี่ไดมอนด์ในอิเลคทริคดรีมส์จ้า) โฮคุโตะคือแจ็ค ฮิโรนะคือจิล เพราะทั้งสองคือคนที่ไทกะมองว่าสมบูรณ์แบบและควรคู่กัน ในฝันจิลจะเป็นคนที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่า แต่ฆ่าจริงไหมก็จำไม่ได้แล้ว แต่คิดว่าต้องมีซีนที่จิลอยากฆ่ามิโคโตะ เพราะมันก็จะเชื่อมกับในชีวิตจริงที่สุดท้ายฮิโรนะจะทะเลาะกับชูกะด้วยเรื่องโฮคุโตะสักทาง ไหนๆ ก็ย้อนไปอ่านอีกพาร์ทแล้วเลยขอก็อปท่อนที่จูริกับเจสซี่คุยกันมาลงหน่อย เพราะกูตกใจว่าสมัยนั้นกูก็แต่งอะไรแบบนี้เป็นด้วยเว้ยเฮ้ย!
    - "เหลือเชื่อไหมล่ะว่าจะเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นที่นี่ได้ เราเปิดกล้องวงจรปิดแล้ว แต่ภาพตอนที่เกิดเหตุการณ์กลับหายไปเหมือนมีคนเข้ามาแทรกแซง แถมก่อนหน้านั้นยามก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไรนอกจากยามแล้วก็เจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานล่วงเวลาอีกนิดหน่อย เราเลยคิดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใน" จูริบอก
    - "แรงจูงใจในการฆาตกรรมล่ะ?"
    - "ยังไม่รู้ แต่ดร.คัง ลีที่ตายก็คือหัวหน้าโปรเจกต์พัฒนามนุษย์พันธุกรรมที่สมบูรณ์ที่สุดเป็นรายแรกของโลก นั่นอาจจะเป็นแรงจูงใจของฆาตกรที่ไม่เห็นด้วยก็ได้ นายเองก็รู้ว่าเรื่องผิดธรรมชาติอย่างนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพวกคลั่งลัทธิศาสนาที่เชื่อว่าพระเจ้าเท่านั้นสมควรเป็นผู้สร้างชีวิต"
    - "เหมือนแฟรงเกนสไตน์"
    - "และสุดท้ายก็หลงเหลือเพียงโศกนาฏกรรม"
    (ตัวกูในปี 2022 ลุกชึ้นปรบมือให้ตัวกูในปี 2019 แบบปีเตอร์ กริฟฟิน)
     และประทับใจตัวเองมากที่เลือกแคสต์มาลงได้ถูกต้อง เหมาะสม ก่อนกาล จะอวดยันลูกบวชว่าไทกะเคยพูดถึงเทอร์มิเนเตอร์ และพาร์ทแรกกูก็เขียนว่าหุ่นชื่อไคล์จากไคล์ รีส (มาตั้งแต่ตอนแต่งครั้งแรกสุดแล้ว สาบานต่อหน้าไฟ เพราะใน DBH หุ่นชื่ออะไร ก็คอนเนอร์ไง! จอห์น คอนเนอร์!) และไทกะก็เป็นคอหนังตัวจริง โฮคุโตะก็ใช่ เจสซี่ก็อีกคน มึง แต่เว่อร์เนาะ ไทกะพูดถึงเทอร์มิเนเตอร์ที่กูชอบ (และอย่าว่าโง้นงี้นะ ไทกะบ้าโจ๊กเกอร์มากดูไปสี่ห้ารอบ กูว่าไม่ธรรมดา แต่พอเขียนถึงมาร์เวลก็รู้เรื่องหมด อันนี้ก็ไม่ธรรมดา จัดว่าเป็นคอหนังไม่แบ่งฝ่าย) โฮคุโตะก็งานฮิตช์ค็อกพ่อกู เจสซี่ก็อัสที่มึงชอบ เฮ้ย! ว่าไปเจสซี่ชอบจิม แคร์รี่ที่ก็เคยเล่นเป็นริดเลอร์ไม่ใช่เหรอวะ!
     เลือกเพลงของเดอะมิดไนท์มาเพราะพาร์ทแรกก็ใช้เพลงของวงนี้ เลยให้ถือซะว่าเป็นเพลงของไทกะไป (ว่าแต่ฟิคนาโอะที่ใช้เพลงเดอะมิดไนท์กูไปไหนละ ตั้งแต่เดือนตุลาจนวันนี้ไม่คืบหน้าเลย เฮ้อออ ไม่ใช่ที่หนึ่งก็เหนื่อยหน่อยนะหนุ่ม) / รูปไทกะหัวทองสมัยปี '15 ที่หล่อจังโว้ย! แต่โฮคุโตะเป็นทรงฮิเมะคัตล่าสุดละจ้า ว่าแต่ทำไมกูไม่เล่นบทฮิโรนะเองวะ เออ ช่างเถอะ / และสุดท้ายนี้ขอลาไปด้วยประโยค 'อเมริกันดรีมก็ยังคงเป็นความฝันของหนุ่มสาวในญี่ปุ่นได้อยู่ดี' (ต้นฉบับเป็นหนุ่มสาวในเกาหลี แต่กูคิดว่าเราสามารถใช้แทนญี่ปุ่นได้จริงเช่นกัน ไม่ปลอม) ใครพูดถึงแอลเอก็มาต่อยกับกูนี่มา
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×