ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #110 : GANTZ: FOR THE DAMAGED CODA | 第0話 (50%)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 66


    GANTZ: FOR THE DAMAGED CODA
    Inspiration: GANTZ (Film, 2010) & GANTZ PERFECT ANSWER (Film, 2011)
    Playlist: Who-ya Extended – VIVID VICE (Jujutsu Kaisen 2nd Opening) / FLOW – COLORS (Code Geass: Lelouch of the Rebellion 1st Opening)











    .

    ขณะแหงนหน้ามองท้องฟ้าสีดำสนิทที่มืดครึ้มและมัวหม่น เด็กสาวก็อดทึ่งกับตัวเองไม่ได้ว่าเธอสามารถอดทนกับโลกที่แสนบัดซบเฮงซวยมาเนิ่นนานขนาดนี้ได้อย่างไร

    อันที่จริงก็ใช่ว่ามันเลวร้ายมาตั้งแต่แรกเริ่ม เธอจะไม่กล่าวหาอะไรผิดๆ แบบนั้น ครั้งหนึ่ง อาริสุงาวะ คานาโกะก็เคยเป็นวัยรุ่นธรรมดาที่มีเพื่อนสนิทเป็นกลุ่มหญิงล้วนในโรงเรียนมัธยมต้น มีความสุขกับชีวิตในแบบที่ครอบครัวชนชั้นกลางจะมีได้ ก่อนที่เหตุการณ์จะพลิกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในตอนที่ขึ้นชั้นไฮสคูล ที่ที่เธอต้องแยกจากกลุ่มเพื่อนสนิทเพราะเป็นเพียงคนเดียวที่สอบเข้าโรงเรียนหัวกะทิกับพวกเธอไม่ได้ ความสัมพันธ์ที่คานาโกะเคยคิดว่าจะคงอยู่ตลอดไป ทันทีทันใดมันก็เลือนหายไปในชั่วพริบตา

    ถึงอย่างนั้นคานาโกะก็ได้มีเพื่อนสนิทคนใหม่ ในรั้วโรงเรียนแห่งใหม่ อีดะ อาริสะเพิ่งย้ายมาจากชิซึโอกะและดูเหมือนว่าจะยังไม่คุ้นชินกับเมืองหลวงมากนัก ท่าทางซื่อใสแบบเด็กบ้านนอกของอาริสะไม่ทำให้คานาโกะแม้แต่จะคาดคิดถึงความเป็นไปได้ว่าหล่อนจะกล้าทำเรื่องแบบนั้นลงไป

    นั่นคือตอนที่เด็กหนุ่มที่ป็อปปูลาร์ที่สุดในชั้นปีอย่างมัตสึอิ มินาโตะมาขอคบกับเธอ ไม่ใช่แค่เพราะคานาโกะไม่ได้ชอบเขา แต่เพราะอาริสะชอบเขามากถึงขนาดพร่ำเพ้อให้ฟังทุกเช้าค่ำ เธอเลยก้มหัวปฏิเสธไปด้วยความขอโทษทั้งต่อมัตสึอิและอาริสะ ไม่รู้ว่าอาริสะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นหลังโรงยิมได้อย่างไรทั้งที่วันนั้นยังนอนซมเพราะพิษไข้อยู่ที่บ้าน หากในอีกสองวันถัดมาที่หล่อนหายดีแล้วเข้าเรียนตามปกติ สิ่งที่คานาโกะได้รับกลับเป็นฉากเรียกน้ำตาต่อหน้าทุกคนในห้อง บอกว่าถ้าเธออยากคบกับมัตสึอิก็เชิญตามสบาย ไม่ต้องนึกเวทนาเพื่อนสนิทที่แอบชอบเขามาตั้งแต่แรกพบก็ได้ ขนาดคานาโกะยังต้องยอมรับว่าหล่อนเล่นฉากผู้ถูกกระทำได้อย่างน่าเห็นใจและน่าสงสารเสียเหลือเกิน แล้วนับตั้งแต่วินาทีนั้น ทุกคนในห้องก็รวมหัวกันแบนเธอ พอเกลียดชังกันก็สรรหาเรื่องโน้นนี้มาค่อนแคะทั้งหน้าตาที่หยิ่งยโส เรื่องผู้ชายที่ไม่ใช่ความจริงเลยสักนิด ลุกลามไปถึงการกลั่นแกล้งที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีการใช้ความรุนแรง แต่การต้องถูกขังในห้องน้ำ เอารองเท้าหรือรายงานไปซ่อน โปรยเศษขยะไว้รอบๆ ที่นั่ง และขีดเขียนคำด่าทอบนโต๊ะหรือในล็อกเกอร์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะยินดีอยู่ได้ หากคานาโกะก็พยายามเฝ้าอดทน เพราะไม่อยากมีปัญหาให้คนที่บ้านต้องหนักใจ

    กระทั่งการด่วนจากไปของผู้ให้กำเนิดทั้งสองเพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตกระหว่างกลับจากงานสัมมนาที่ต่างจังหวัด คานาโกะไม่เหลือใครให้ยึดเหนี่ยวอีกแล้วเช่นเดียวกับเส้นเชือกของความอดทนที่ขาดผึง เช้าวันต่อมาเธอมุ่งหน้าไปที่โรงเรียน เดินเข้าไปจิกกระชากหัวของอาริสะแล้วจับมันโขกกับโต๊ะนักเรียนแรงๆ ฝ่ามือของเธอตบเข้าไปที่ใบหน้าของหล่อนซ้ำๆ ยิ่งน้ำตาหล่อนไหลออกมาเท่าไหร่ คานาโกะก็ยิ่งเพิ่มแรงมากขึ้นเท่านั้นให้เทียมเท่ากับสิ่งที่เธอต้องเผชิญ กว่าเพื่อนผู้ชายจะทันรู้สึกตัวแล้วเข้ามาแยกตัวเธอออกไป ใบหน้าของอาริสะก็ทั้งบวมและช้ำไปด้วยเลือด แล้วคานาโกะก็หัวเราะเยาะออกมา หัวเราะทั้งน้ำตาขณะสะบัดตัววิ่งหนีการเกาะกุมจากไป ไม่คิดจะหวนกลับมายังที่แห่งนี้...ยังโลกแสนเส็งเคร็งใบนี้อีก

    ไม่มีความลังเลอยู่เพียงน้อยในตอนที่ปีนขึ้นราวสะพานและตัดสินใจกระโดดลงไป แม้ว่าจะได้ยินเสียงร้องเรียกนามสกุลของเธอจากถ้อยเสียงที่คานาโกะจำจดได้ ก่อนผินใบหน้าไปหาเขาที่จะรีบวิ่งมาถึงตัวด้วยซ้ำ

    อันที่จริง การมาถึงของเด็กหนุ่มผู้นั้นจะยิ่งเป็นตัวเร่งเร้า ในเมื่อคานาโกะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือหรือความเห็นใจจากใคร ยิ่งโดยเฉพาะจากเขา

    คนที่ทำให้คานาโกะผิดหวังมากที่สุด

     

    ที่นี่ไม่ใช่นรกอย่างที่เธอคิด

    นรกไม่มีทางใช่ห้องสี่เหลี่ยมโล่งบนอาคารสูงที่สามารถมองเห็นตัวเมืองโตเกียวที่ประดาไปด้วยแสงสีได้ และที่สำคัญกว่านั้น นรกคงไม่ได้มีเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ รวมถึง คนคนนั้นที่เพิ่งจะตะโกนเรียกเธอก่อนที่จะกระโดดน้ำลงไป เขาพุ่งตัวเข้ามาจับไหล่เธอ เอ่ยปากถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยใบหน้าขาวซีดที่แสดงความเป็นห่วง อย่างที่คานาโกะแน่ใจได้ว่าถ้าเขามีความกล้าแม้สักนิดก็คงจะเข้ามาโอบกอดเธอแล้ว เหมือนกับที่คานาโกะก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่เขาจะทำได้ เพราะนากามูระ ไคโตะก็เป็นได้แค่คนขี้ขลาด เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องคนที่เคยสารภาพรักกับเธอและไม่เร่งเร้าถ้ายังไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน คนที่รับรู้เรื่องราวทุกอย่าง แต่กลับไม่เคยกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอเลยแม้สักครั้งเดียว

    และสิ่งที่คานาโกะทำคือการผลักร่างของเขาออกไป เธอไม่อาจควบคุมตัวเองได้ไหวจนหมัดที่กำแน่นถึงก่อนหน้าคลายออกเพื่อกระทบลงไปบนใบหน้าของเด็กหนุ่มเต็มแรง ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนในที่นั้น เธอแผดเสียงตะโกนโดยไม่ใส่ใจอะไรอีกแล้วว่า “กล้าดียังไงถึงมาแสดงท่าทีเหมือนกับว่าเป็นห่วงฉันนากามูระ! ถ้านายห่วงฉันจริงฉันคงไม่ต้องมาเจอเรื่องเฮงซวยแบบนั้นคนเดียวหรอก! นายมันก็แค่คนขี้ขลาดและเห็นแก่ตัวเท่านั้นแหละ! คนอย่างนายต่างหากที่ควรตายไปซะ! ตายไปพร้อมกับทุกคนในโรงเรียนสวะนั่นให้หมด! ไม่ใช่ฉันที่ไม่ได้ทำอะไรผิด!”

    และก่อนที่ใครจะได้ทันพูดอะไร เสียงเพลงจากลูกบอลสีดำกลางห้องก็จะดังขึ้นขัดบทสนทนา



    เนื้อตัวของเธอยังคงสั่นเทา แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านพ้นไปได้กว่าครึ่งวันแล้ว แต่ก็เหมือนกับความฝัน...ฝันร้าย...ที่อาบไปด้วยของเหลวข้นหนืดทั้งสีแดงและดำซึ่งยังคงเกาะติดไม่ห่างราวกับเงา เฝ้าตามหลอกหลอนในทุกครั้งคราวที่ความคิดคำนึงโบกโบยไปสู่

    เพราะอย่างนั้นเธอจึงสะดุ้งจนตัวโยนในตอนที่หันขวับไปกับสัมผัสที่วางอยู่บนไหล่ ถึงขนาดล้มลงไปบนพื้นระหว่างเดินลงจากขอบบันไดเตี้ยๆ ที่หน้าอาคารซึ่งเธอเพิ่งออกจากคลาสมาพร้อมกับความว่างเปล่า ทั้งในหน้ากระดาษที่ยังคงเป็นสีขาวสะอาด หรือหัวสมองที่อัดแน่นไปด้วยเส้นสายสีดำที่มืดหม่น ยุ่งเหยิง จนไม่เหลือพื้นที่ให้สิ่งใดได้อีก อาจแม้กระทั่งความเจ็บตอนที่บั้นท้ายลงไปกระแทกกับพื้นเต็มแรง ขนาดว่าเธอไม่ได้หลุดร้องออกมาอย่างที่ควรจะเป็นเลยด้วยซ้ำ ก่อนเสียงหัวเราะน้อยๆ จะทะลุผ่านโสตประสาทเข้ามาดึงรั้งสติที่หล่นหาย ตามมาด้วยมือข้างหนึ่งที่ถูกยื่นมาตรงหน้าให้เธอใช้เป็นหลักยึดกลับขึ้นยืนตัวตรง ใบหน้าที่แต้มแต่งด้วยรอยยิ้มกว้างเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ทำให้เมฆหมอกก่อตัวสลายหายไปได้ในชั่วพริบตา เมื่อนั้นเธอจึงถอนหายใจออกมาเต็มแรง เปล่งเสียงหัวเราะแรกในรอบวันแม้แค่อย่างบางเบาออกมาได้ เรี่ยวแรงที่เคยมีพลันเหือดหายไปจนร่างกายทรุดฮวบกลับลงไปบนพื้นอีกครั้ง แต่ครั้งครานี้มาจากความโล่งอกอย่างที่สุด ถึงแม้ว่าการได้พบเจอเขาจะช่วยยืนยันถึงความฝันอันเข้มข้นนั้นว่าเป็นความจริงก็ตาม หากเธอก็ยังคงพร่ำคำขอบคุณซ้ำไปซ้ำมา และอีกฝ่ายที่ทิ้งตัวลงไปนั่งยองๆ อยู่เบื้องหน้าก็ตบไหล่เธอข้างหนึ่งก่อนบีบมันเบาๆ เป็นเชิงปลอบโยน

    ด้วยมือคู่นี้ เธอก็แน่ใจว่าจะไม่เป็นไร

     

    อาชินะ คาระตายไปแล้วตั้งแต่เมื่อเย็นวาน

    และคำว่า ตายในที่นี้ก็มีความหมายตรงตัวตามนั้นทุกประการ 

    คาระเห็นลูกหมาถูกรถเฉี่ยวชนจนขากระเผลก พยายามลากขาอาบเลือดที่บิดเบี้ยวเสียรูปทรงเพื่อให้พ้นจากเส้นทางอันตรายนั้น ทั้งที่มีคนอยู่ตั้งมากมาย แต่กลับไม่มีใครคิดที่จะเข้าไปช่วยมันเลยสักคน สังคมของความแก่งแย่งชิงดีสอนให้ทุกคนเห็นแก่ตัวและคิดว่าไม่ควรยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น หรือไม่ก็ปัดความรับผิดชอบไปให้คนอื่นด้วยความคิดที่ว่าเดี๋ยวก็คงมีใครสักคนเข้าไปช่วยเอง แค่การที่พวกฉันเฝ้าดูมันก็ถือเป็นความเมตตาแล้วนะ! คาระเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอได้แต่ยืนจับจ้องมองมันด้วยความเวทนา ระหว่างนั้นก็พยายามเหลียวซ้ายแลขวาเผื่อว่าจะเห็นผู้กล้าสักคนออกไปอุ้มมันให้พ้นจากท้องถนนที่รถราเริ่มกลับมาพลุกพล่านสักที

    แค่ว่าคนคนนั้นต้องไม่ใช่เธอ

    ไม่...จนกระทั่งรถใหญ่คันหนึ่งเฉี่ยวผ่านข้างลำตัวของมันอีกครั้ง เสียงร้องโหยหวนแสดงความเจ็บปวดคือปฏิกิริยาเร่งเร้า และฝีก้าวในรองเท้าส้นเตี้ยของเธอก็ฝ่าฝูงชนที่ได้แต่ยืนมุงอยู่ เพื่อกระโจนออกไปหาลูกหมาที่กำลังกระเสือกกระสนอยู่กลางท้องถนนนั้น

    เธอจะวิ่งไปคว้าตัวมันมา จากนั้นก็วิ่งกลับขึ้นไปอยู่บนฟุตบาทริมทางอย่างปลอดภัย ง่ายๆ แค่นี้ และคาระก็สามารถทำได้ตามแผนการที่วางไว้เป็นอย่างแรกด้วยการก้มลงไปอุ้มลูกหมาตัวน้อยที่ยังคงส่งเสียงร้องดังลั่นทั้งจากความเจ็บและความกลัว เธอไม่ได้สนใจว่าเสื้อผ้าสีขาวจะเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดขณะยกร่างอันสั่นเทาของมันมากอดไว้แนบอก แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกขึ้นเพื่อทำตามแผนการอย่างที่สอง ดวงไฟหน้ารถที่เจิดจ้าก็จะพุ่งเข้ามาในระดับเดียวกับแววตาของเธอ แว่วเสียงตะโกนกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกตกใจจากผู้คนรอบข้าง กล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกายของเธอคล้ายจะหยุดการทำงานลงไปและไม่อาจขยับไหวแม้แต่การกระดิกตัว กระนั้นเธอก็ยังคงประคองสิ่งมีชีวิตตัวน้อยในอ้อมกอดเอาไว้อย่างแนบแน่น

    สติสัมปชัญญะของเธอดับวูบลงไปในวินาทีที่ร่างลอยหวือไปกระแทกกับพื้นถนนอีกครั้ง คาระทันได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดชั่วเสี้ยววินาทีผ่านศีรษะและท่อนแขนซีกขวาซึ่งเหลือคณากว่าความเจ็บปวดทางร่างกายใดๆ ที่เคยได้พานพบเจอ

    คาระไม่เคยมีความคิดที่อยากจะตาย หากในห้วงยามนี้ เธอกลับรู้สึกดีใจที่สติสัมปชัญญะของเธอจะหลุดลอยออกไป เพื่อให้พ้นจากความเจ็บปวดที่แสนจะทานทน ขนาดเอ่ยขอบคุณพระเจ้าซึ่งศรัทธาอย่างไม่เคร่งครัดออกมาได้ในความคิดวูบสุดท้าย แม้นั่นอาจหมายรวมถึงจิตวิญญาณด้วยเฉกเช่นกัน

     











    2022年02月22日
    _______________
    ★ แต่งไว้ปีกว่าๆ จนบัดนี้ก็ยังไม่ยอมดูกันสึซ้ำสักทีว่ะ จนวันหนึ่งกูนั่งไดร์ผมไปดูโปสทราวิสกันสึที่แปะไว้ข้างฝาไป แล้วก็คิดว่าเราจะเก็บไว้ทำไมคนเดียว นี่ฟิคกู กูจะลงกี่เปอร์เซ็นต์ก็ได้ไหม แคร์อะไร ก็เลยเอาฉากตอนต้นก่อนเข้ากันสึมาลงเลยดีกว่า สมัยมองอุมินิสัยน่ารักอยู่เลย U_U ที่พอมาไล่ดูรูปปีเก่าๆ แล้วก็ไม่แปลกใจ แมกช่วงก่อนปี 2020 กับคลิปเก่าๆ คือมาแนวใสๆ น่ารักๆ ว่าไปเหตุผลที่กูชอบเค้าก็เพราะเค้ายิ้มน่ารักไม่ใช่เหรอวะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่จริงเป็นเกมเมอร์ ละนิสัย(เสีย)เหมือนกู ขำ
     ที่มาที่ไปก็คือจำได้เลยว่ากูกรี๊ดกร๊าดกับมึงมากตอนเห็นรูปทราจาคอสกันสึ น่าจะช่วงปลายปี 2020 ตอนนั้นดูคลิปวงนี้แค่เพราะตลก แต่ยังไม่ได้ชอบเพราะเหมือนวงเด็กน้อยหอยสังข์ จนมาเห็นวงนี้คอสก็โอ้โห ว้าวซ่า ตอนนั้นยังเมนชิเมะสุดอยู่เลยมั้ง ซุยเก็นตะให้มึงก็โดนด่าใส่ โอ๊ยบักขนัดนิ ไปๆ มาๆ กลายเป็นวงเมนสุดถึงตอนนี้ได้ไงไม่รู้ ที่จริงตอนบอกว่าจะแต่งฟิคกันสึกูเอาฮา กะหยอกมึงเล่นเฉยๆ แต่พอได้แต่งแล้วก็แย่จังสนุกจัง แม้จะยังไม่ถึงฉากต่อสู้แต่กูก็มั่นใจว่าแต่งได้และดีจริง (ลองแต่งฉากยิงเอเลี่ยนแล้วสนุกจังโว้ย!) ยังไงเราก็ต้องได้ไปลุยพระพุทธรูปแน่นอน ว่าบาป แต่ใจก็อยากแต่งแบบภาค O ที่แบ่งเป็นคันโตกับคันไซด้วย (แม่งเอ๊ย ชอบเอเลี่ยนภาคนี้มากเพราะเรียกตัวเองเป็น god) ขอสัญญาว่าปีนี้จะลุยแต่งฟิคบู๊จริงจังให้ได้ จะเลิกตอแหล เห็นไหมว่ากูมีฟิคจากกันสึแล้ว และ RE กำลังจะมาจริง ไม่จกตา / และในที่สุดก็ได้ใช้อิมเมจเยบินแล้วว! อ๊ากกก! ฮอทอิชชู่กูต้องแนวบู๊ไหมล่ะ จะได้จับปืนแล้วจ้าพี่ TvT แต่จริงๆ เลยนะ ตอนแรกสุดแบบแรกสุดเลยคือเจนนี่ จนรู้ว่าอุมิชอบแบล็คพิงค์มาก ขนาดวันเกิดเค้าก็อัพถึงในบล็อก กูก็ แหะๆ โต๊ะล้ม / และเปิดตัวมินาโตะเรื่องแรกถึงจะมาแค่ชื่อก็ฮี่ๆ เพราะทราจาต้องมาคู่กับอิมปาคุยังไงล่ะ!
    ★ เอาลงวันนี้เพราะเลขสวย (ปีที่แล้วกูก็ลงฟิคเพอร์เฟคฯวันนี้เพราะเหตุผลเดียวกัน ฮ่าๆๆ) เพราะวันที่ 22 กูอาจจะยุ่งๆ เพราะทราวิสประกาศเดบิวต์ ไรวี้ >_< ชีวิตไม่หยุดฝัน / ที่เลือกเพลงเมะเพื่อให้ได้ฟีลเมะยังไงล่ะพี่น้อง ถึงจะไม่ได้ดูสักเรื่องก็ฮูแคร์ แต่เพราะกูเป็นแฟนฮูยาตั้งแต่ร้องประกอบไซโคพาส 3 (ซื้อแผ่นคิวบิซึมด้วยจ้า ยังเป็นเพลงอนิซองที่รักสุดไรสุด โอ๊ยปีนี้ฟิคไซโคพาสก็ควรต้องมาสักตอนแล้วไหม) ก็ย่อมต้องติดตามเมื่อเค้าออกซิงใหม่ๆ เสมอ ส่วนโฟลว์นี่ก็เพลงฮิตสมัยเด็กของชาวคุ ใครไม่รู้จักโค้ดกีอัสนี่ไม่ใช่แล้ว จำได้ว่ามึงชอบลูลูชกับซีทูมาก ถึงเมะไม่เคยดู แต่เพลงนี้ต้องเคยฟัง!
    ★ เหตุการณ์ของคานาโกะเกิดก่อนหลายเดือน บทของคานาโกะเหมือนนิชิ แต่นางจะเอาตัวรอดคนเดียวแบบไม่สนสี่สนแปด ไม่มีแอบห่วงใยใครเพราะเห็นแก่ตัวจริง (พล็อตปฏิเสธคนที่เพื่อนชอบแล้วสุดท้ายโดนรุมแบน พอหมดความอดทนก็มาแก้แค้นเอาคืนนี่กูแต่งมากี่เรื่องแล้ววะ ประเด็นคือเหมือนกันเปี๊ยบด้วยนะ กูจะชอบอะไรขนาดนั้นถามก่อน) บทของอุมิก็จะรักนางเอกกูข้างเดียวมากมายเช่นเคย :3 ส่วนเรื่องของคาระเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน บทของคาระกับเก็นตะคือทาเอะกับคุโรโนะเลยเหอะ นางเอกเป็นคนดี๊ดี ถึงสู้ไม่เป็นแต่ก็จะพยายามเพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วง ส่วนเก็นตะก็ล๊อหล่อ คอยปกป้องคาระเอง แหม พระเอกมากมั้ง (พระเอกจริง) ส่วนจะมีตอนต่อไปลุยพระพุทธรูปกันเมื่อไหร่ ก็ขอให้อดใจรอวันฟ้าใส ดลใจให้กูเปิดแผ่นดูสักที ที่จริงในนฟก็มีเวอร์เมะแต่กูสายคนแสดงมากกว่า สวัสดี
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×