ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #292 : Backrooms Labyrinth

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 67


    Backrooms Labyrinth
    Inspiration: The Backrooms Game (Video Game, 2019) & Day 7 (Video Game, 2019) & Lost in the Backrooms (Video Game, 2019)
    Playlist: Miura Daichi – Le Penseur












    .

    เวลาบนนาฬิกาข้อมือสายสีทองของเธอบอกเวลาห้าทุ่มสามสิบห้านาที

    นั่นไม่ใช่สิ่งที่คิเสะ โทโมมิพอใจ แค่การต้องก้าวเร็วๆ ฝ่าสายลมเย็นของฤดูใบไม้ร่วงในยามค่ำคืนมาจนถึงสถานีเพื่อให้ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอนึกชอบใจ แต่จะว่าอะไรได้ ในเมื่อเธอชอบเขามากเสียจนยอมมองข้ามเรื่องราวน่าหงุดหงิดใจเหล่านั้นไปได้

    “ผมไม่รบกวนโทโมมิก็ได้นะ”

    เหมือนกับทุกครั้งคราวที่คำพูดเดิมๆ จะทำให้ปณิธานทั้งหมดของเธอพังทลายลงไป จูบที่เริ่มต้นอย่างแผ่วเบา ก่อนมือไม้ที่ปาดป่ายให้ผิวกายได้ร้อนผ่าวเช่นอุณหภูมิที่ถูกส่งต่อจากปลายลิ้นที่สอดเข้ามาเพื่อหยอกล้ออย่างชำนาญ ก็จะทำให้สตินึกคิดทั้งหมดของโทโมมิอ่อนยวบลงไปจนไม่อาจจดจ่อกับสิ่งใดได้อีกนอกจากคนตรงหน้า

    และมันจะหวนกลับคืนมาเสมอในตอนที่แยกจากเขาหน้าโรงแรม ทั้งการอ้อยอิ่งอยู่กับริมฝีปากอีกนิดหน่อย อ้อมแขนที่โอบกอดเธอไว้อย่างแนบแน่นเหมือนไม่ต้องการจะแยกจาก พร้อมกับถ้อยคำที่เอ่ยกระซิบอยู่ริมใบหูว่า “โทโมมิคือคนสำคัญของผมนะ” จากนั้นเขาก็จะแยกตัวกลับไปอยู่กับใครอีกคน...คนที่ไม่ใช่คนสำคัญเหมือนเธอ หากแต่โทโมมิก็เข้าใจดีว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเลิกรากับหล่อนซึ่งกำลังอยู่ในช่วงอ่อนแอและเปราะบาง ผ่านมาตั้งกว่าครึ่งปีแล้วเธอยังอดทนได้ เฝ้ารอคอยต่ออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป

    นั่นรวมถึงการโยกย้ายตำแหน่งจากโตเกียวมายังโอซากะโดยที่เจ้าตัวไม่ได้เต็มอกเต็มใจเลยสักนิด เพียงเพราะว่าเธออายุน้อยที่สุดในฝ่ายขาย อีกเหตุผลหนึ่งที่โทโมมิรู้แน่ชัดเลยว่าใช่ก็มาจากผลงานที่เกินหน้าเกินตาพวกตาแก่อาวุโสในแผนก จนต้องถูกระเห็จ — โทโมมิอยากใช้คำว่าอัปเปหิ — มายังเมืองที่น่าเบื่อหน่าย ก่อนที่โทโมมิจะได้พบกับผู้ชายที่เปลี่ยนความน่าเบื่อหน่ายให้กลายเป็นความสุขสันต์ผนวกกับความตื่นเต้นในทุกๆ วัน เหตุผลข้อแรกอาจมาจากเขา ส่วนเหตุผลข้อหลังอาจมาจากหญิงสาวผู้เป็น คนรักของเขา

    โอกาซากิ โคทาโร่คือหนุ่มนักดนตรีที่โทโมมิเจอระหว่างขากลับจากการไปดื่มกับหัวหน้าแผนกอาวุโสอย่างคุณโอกะ ยูริ กิจกรรมที่เปลี่ยนจากแค่คำว่า น่าเบื่อหน่ายให้กลายเป็น น่ารำคาญเพราะเขาเอาแต่พูดพล่าม อวดโอ่ สาธยายประวัติและผลงานของตัวเองให้แก่เหล่าเด็กใหม่ในแผนกที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครนึกอยากฟังเลยแม้แต่น้อย แต่หากต้องการความก้าวหน้าในอาชีพการงานต่อไป โทโมมิก็ย่อมไม่มีทางที่จะปฏิเสธมันได้ เช่นเดียวกับความต้านทานต่อชายหนุ่มที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกับเธอซึ่งกำลังก้มหน้าดีดกีตาร์อยู่ข้างทาง แต่เมื่อเขาแหงนเงยใบหน้าหล่อเหลาเข้ากับผมสีทองเป็นบ้า แล้วส่งยิ้มกว้างที่สดใสไม่ต่างจากพระอาทิตย์ยามเช้ามาให้เธอที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเพียงคนเดียว หัวใจที่เต้นรัวแรงมากก็ผลักให้ฝีเท้าในส้นสูงสองนิ้วก้าวเข้าไปหา ขับดันถ้อยเสียงที่เปล่งผ่านลำคอว่า “อยากไปหาอะไรดื่มด้วยกันไหม?” แม้โทโมมิจะกระดกแอลกฮอล์ไปถึงจุดที่เธอกำหนดไว้สำหรับค่ำคืนนี้แล้วก็ตาม

    แต่จูบที่เจือด้วยรสนมเปรี้ยวของผู้ชายแปลกหน้าที่ไม่อ้อมค้อมในการพาเธอเข้าเลิฟโฮเต็ลราคาถูกอย่างที่ต้องการนั้นมอมเมาเธอไปถึงจุดที่โทโมมิจะควบคุมสติไว้ไม่ไหว และปรอทที่พุ่งสูงขึ้นก็แตกกระจายไปพร้อมกับอุณหภูมิที่เขาส่งต่อมาให้ทั้งข้างนอกและข้างใน ตลอดชีวิตยี่สิบสองปีที่ผ่านมา โทโมมิไม่เคยตกหลุมรักแรกพบมาก่อน ไม่เคยรู้สึกว่าต้องการผู้ชายคนไหนมากเท่ากับคนนี้เลยสักครั้ง เธอถึงได้ยอมปิดหูปิดตาเรื่องคนรักของเขาที่สืบรู้มา ชื่อของหล่อนคืออากาซาวะ ชิโอริ ลูกสาวเจ้าของบริษัทส่งออกรายใหญ่ที่สุดประจำภูมิภาคซึ่งเพียบพร้อมทั้งรูปและทรัพย์ แต่การเพิ่งเสียลูกพี่ลูกน้องคนสนิทไปจะทำให้อารมณ์ของหล่อนไม่คงที่ เพราะอย่างนั้นการที่โคทาโร่จะทอดทิ้งหล่อนไปอีกคนจนขาดที่ยึดเหนี่ยวจึงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม โทโมมิคิดอย่างนั้น

    ใช่จะไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ แต่การได้ครอบครองผู้ชายของผู้หญิงคนอื่น — ยิ่งโดยเฉพาะผู้หญิงที่เหนือกว่า — ก็จะทำให้โทโมมิที่รู้สึกถึงความด้อยค่าเมื่อย้ายมาอยู่ที่โอซากะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

    และโคทาโร่ก็คือคนที่มอบชีวิตให้แก่เธออีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะต้องเหยียบย่ำหัวใจของคนอื่นที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรในชีวิตของเธอเลยก็ตาม

     

    โทโมมิถอยกรูดไปด้วยความตื่นตระหนก เมื่อหญิงวัยกลางคนในชุดเสื้อผ้าตัวเก่าดูท่าทางมอซอเหมือนกับคนไร้บ้านจะพรวดพรวดเข้ามาขวางเธอไว้ ทั้งไบเบิลเล่มหนาในมือกับถ้อยความที่หล่อนแผดตะโกนใส่หน้า ราวกับต้องการเจาะจงส่งคำพูดนั้นเพื่อสื่อสารกับเธอโดยตรงว่า

    “จงสำนึกผิดซะคนบาป! สำนึกผิด! จุดจบใกล้มาถึงแล้ว! เวลาแห่งการให้อภัยกำลังจะหมดลง!”

    แต่เป็นเพราะโทโมมิกำลังรีบร้อนเพื่อไปยังสถานีใต้ดินให้ทันเวลารถไฟเที่ยวสุดท้าย เธอจึงพยายามเบี่ยงตัวหลบไปอีกทาง หากหล่อนก็ไวทายาดพอที่จะฉวยคว้าจับแขนภายใต้เสื้อโค้ตตัวยาวไว้ ทั้งที่รูปร่างของหล่อนก็ดูผอมแห้ง ทว่าเรี่ยวแรงที่โทโมมิรู้สึกได้กลับไม่บรรเทาเอาเสียเลยจนต้องนิ่วหน้า

    “เธอจะยอมรับพระเยซูเป็นพระเจ้าและพระผู้ไถ่หรือไม่!”

    ความเจ็บปวดที่ได้รับเรียกความไม่พอใจให้แล่นริ้วขึ้นมา เพราะอย่างนั้นริมฝีปากสีแดงของเธอจึงขยับเอ่ยไปในเชิงประชดประชันว่า

    “ซาตานจงเจริญ!”

    เมื่อนั้นเองที่หล่อนจะปล่อยข้อมือของเธอออกจากการเกาะกุม หล่อนไม่ได้ตะโกนอีกแล้ว เพียงส่งสายตาเย็นเยียบทิ้งท้ายให้เธอที่จะรีบสาวรองเท้าส้นสูงจากไป

     

    รถไฟเที่ยวสุดท้ายเข้ามาเทียบชานชาลาพอดีในตอนที่โทโมมิกึ่งวิ่งกึ่งเดินลงจากบันไดเข้าไปนั่งหอบหายใจเอาอากาศและปรับระดับการเต้นของหัวใจอยู่ในขบวนที่แทบจะเรียกได้ว่าร้างราผู้คน ไม่มากไม่มายที่ต่างจมจ่อมอยู่กับโลกของตัวเองหรือไม่ก็โลกในความฝัน เหมือนอย่างที่โทโมมิคุ้นชินมาตลอดระยะเวลาเกือบๆ หกเดือน แน่นอนว่าโทโมมิเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เพราะความเหนื่อยอ่อนที่บีบให้เธอจำต้องเอนแผ่นหลังลงกับพนักแทนการหยิบเอาหนังสือที่พกติดกระเป๋าอยู่เสมอขึ้นมาอ่านจนกว่าจะถึงสถานีปลายทาง โทโมมิจึงได้มีเวลากวาดสายตามองไปรอบๆ ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีผู้โดยสารนอกเหนือจากเธออีกเพียงแค่รายเดียว นั่นไม่ใช่เรื่องชวนแปลกใจแต่อย่างใด หากทว่าสิ่งที่ทำให้โทโมมิตกใจไปไม่น้อยคือใบหน้าที่คุ้นเคยดีของชายหนุ่มในชุดสูทที่นั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งนั้น

    อิวาซากิ ไทโชคือพนักงานฝ่ายบุคคลที่บริษัทของเธอ ใช่ว่าโทโมมิจะสนใจใคร่รู้เรื่องของคนอื่น ยิ่งโดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างแผนกด้วยอีก แต่เป็นเพราะว่าเธอมักจะได้เจอเขาที่ห้องอาหารของบริษัทหรือไม่ก็ขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันทั้งในตอนเช้าหรือหลังเลิกงาน เมื่อไหร่ที่เจอกันก็จะเพียงแค่ผงกศีรษะให้แก่กันบ้างเป็นครั้งคราว เช่นนั้นแล้วโทโมมิจึงไม่คิดที่จะเข้าไปเสนอหน้าทักทายเขา ซึ่งเอาแต่กอดอกมองตรงไปข้างหน้าที่มีเพียงความมืดมิดตลอดสองข้างทางเท่านั้นให้จับจด

    เมื่อโทโมมิไม่มีแก่ใจจะอ่านหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวาน เธอจึงปล่อยความคิดและจิตใจให้ลอยเหม่อไปยังช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับโคทาโร่ในวันนี้ วาดฝันถึงวันพรุ่งนี้และอนาคตภายภาคหน้าร่วมกันที่อีกไม่ช้าก็จะมาถึง

    หรือไม่...มันก็อาจจะไม่มีวันมาถึง

    เพราะทันทีที่เธอรีบเร่งคว้ากระเป๋าสวมไหล่ออกไปยังบันไดทางออก ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทันทีที่กะพริบตาแค่เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น โทโมมิก็ได้มองเห็นภาพของห้องขนาดใหญ่ที่มีผนังสีเหลืองอ่อน พรมกลิ่นหืนที่ขึ้นรา กับเสียงหึ่งๆ ของหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่ฝังตัวอยู่บนเพดาน

    ฉับพลันนั้นเองที่ความเยียบเย็นแล่นปราดเข้ามาทั้งที่ไม่มีสายลมพัดโพย แต่ยามนี้มันกลับบาดลึกลงไปถึงเนื้อหนังภายใต้กระดูก โทโมมิได้แต่ตะลึงงันกับสิ่งที่ได้มองเห็น

    มันคือเรื่องเล่าไร้สาระของนรกสีเหลืองที่เธอเคยอ่านเจอในอินเทอร์เน็ต

    มันคือแบครูมส์











    2024年11月01日
    _______________
     ประมาณกลางเดือนมีคลิปในยูทูบ(ด่า)ผ่านมา และทำให้กูได้รู้ว่าเฮ้ย! AHS Stories มีเรื่อง Backrooms ด้วยเหรอวะ! จากนั้นพอได้ดูกับมึงแล้วกูก็เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่ชอบแบครูมส์ถึงด่า แต่สำหรับคนที่ดู AHS อย่างเราไม่เคยคาดหวังเลยไม่ผิดหวัง ดูเอาเพลินก็เพลินดี และทำให้กูได้หวนรำลึกถึงฟิคที่เคยแต่งจากแบครูมส์ของแทร่ขึ้นมา แต่จำแรงบันดาลใจอะไรไม่ได้แล้ว เพราะกูลบฟิคลบทอล์คทิ้งไปไหนไม่รู้แล้ว Orz 
    ★ เอาเท่าที่จำได้ละกัน แต่งไว้สมัยที่เรายกให้มัตสึคุเป็น god กัน น่าจะเพราะคลิปไล่จับที่ตัวเองไม่ใช่หมาป่าแต่เดินหน้าตึงแบบไม่กลัวฟ้าดินนั่นแหละ เยี่ยวมาก เอาเรื่องมาก 55555 ถ้าอิงจากช่วงที่มึงแต่งมาดงนะก็ราวต้นปี '22 อ้าว ก็เพิ่งผ่านมาเองหนิ / ละสมัยโน้นกูแต่งแอนีมอยอาตามสี คือรู้แหละว่าแบครูมส์มันเหลือง แต่ตอนนั้นสีเหลืองสำหรับกูคือ... ขนาดเดอะโชว์จะเลือกสีเหลืองยังยากเย็นแสนเข็ญ ตัดมาที่สีส้มคือโอ๊ย ชิลล์มากแม่ ละเพราะเป็นไทเซย์กับมุไคเลยให้เรื่องดำเนินที่โอซาก้า ทีนี้พอคิดว่าจะเอาเรื่องนี้กลับมาแปลงก็ตั้งใจไว้แล้วว่าต้องเป็นสีเหลือง all เพราะเมื่อเวลาสองปีผ่านไป เมนกูดันไปกองอยู่สีเหลืองหมดเลยได้ไงวะ (ส่วนมึงก็ม่วงจ้า อย่ามา) เลยเลือกเมนสีเหลือง Top 3 (ณ ตอนนี้) มาเลยให้มันจบๆ ละก็ให้บังเอิญว่าเมนคันไซสีเหลืองกูมีสองคนพอดีเด๊ะ! แถมบทผู้ชายทุกคนในเรื่องนี้ยังลงกับเวอร์เดิมได้เป๊ะ! ถึงอยากให้โคทาโร่เล่นคีย์บอร์ดมากกว่าแต่ก็เอาเถอะ เรื่องนี้มาดีดกีตาร์ไปนะ 55555 / ให้นางเอกหัวทองและนามสกุลคิที่แปลว่าเหลือง (ท่านคิอิโระ!) ส่วนชิโอริเป็นอากะ=แดง เพราะอยากให้เป็นสีตรงกันข้ามเฉยๆ ไม่มีอะไร แต่อาจจะสื่อว่าฉันจะเอาเลือดหัวแกออกก็ได้ เป็นต้น / ลืมเขียนถึงเพลงประกอบที่ได้ยินครั้งแรกน่าจะในเอ็มสเต...วีคที่ทราวิสไปไหมวะ เพราะจำได้ว่าชิซึยะเคยบอกว่าชอบเค้ามาก แล้วตอนได้ฟังทำนองครั้งแรกที่ตึ๊บๆ วิ้งๆ กูก็ยกนิ้วขึ้นชี้บอกว่านี่มันลิมินอลสเปซ! ก็เลยจะไม่เปลี่ยนละนะ ถ้าเพลงไม่เข้าก็ให้คิดว่าเหมือนตอนที่เราดูหนังอิตาลีหลายเรื่องที่มึงแนะนำด้วยกัน (ด่าหนังเกรดบีกูไม่ได้แล้วน้าา) พร้อมกับครุ่นคิดในใจว่า...อิหยังวะ
    ★ กูไปอ่านเรดดิทละเค้าคุยกันว่าที่ AHS มันทำแบครูมส์ไม่ถึงเพราะลิมินอลสเปซมันคือความรู้สึกของการอยู่คนเดียว แต่เรื่องนี้คือมาทั้งแก๊งหน้ากากแล้วเราจะต้องกลัวอะไรอ่ะ มันไม่ใช่ป่ะ แถมเป็นพล็อตแบบ purgatory แบบคริสต์ ซึ่งมันบ่าใจ้ลิมินอลสเปซนิสู! แล้วก็ทำให้กูรำลึกได้ว่า เออเฮ้ย เรื่องนี้กูก็มาแนวคนบาปเพราะเอามาจากเกม Day 7 ของพัพเพ็ตคอมโบะนี่หว่า แล้วกูจะมีหน้าไปด่าเค้าได้อย่างรึย Orz 
    ★ พล็อตมีอยู่ว่าไทโชเป็นคนรู้จักของชิโอริที่แอบรักฝ่ายเดียว ทั้งสองคนรู้เรื่องของโทโมะกับโคตะอยู่แล้วแต่ชิโอริไม่ให้ไปพูดอะไร จนวันดีเดย์นี้แหละที่ชิโอริพยายามฆ่าตัวตาย (แต่ไม่ตายจ้า) ไทโชที่เป็น god อะไรสักอย่าง กูก็ไม่รู้ ไม่ได้คิดเหมือนกันเลยทนไม่ไหวละ เห็นโทโมมิลอยหน้าลอยตามีความสุขอยู่ได้ก็เลยมาลงทัณฑ์ให้อยู่ในนรกแบครูมส์ไปตลอดกาล แต่เพราะตอนนั้นกูไม่รู้ว่าจะแต่งยังไง ให้เดินสำรวจก็น่าเบื่อตายไหม ละไทโชต้องเกลียดนางเอกมากจนไม่อยากแตะต้อง แล้วกูจะแต่งไปทำไม แถมหาทางลงไม่ได้อีก เลยเอวังไปด้วยประการฉะนี้ อ้อ โคตะรักชิโอริจริงๆ นั่นแหละ แต่แค่เก็บโทโมมิไว้นอนด้วยเพราะเก็บกดจากชิโอริที่ตอนนี้มีปัญหาเฉยๆ จ้า (เอ๊ะ จำไม่เห็นได้เลยว่าปีนี้ลิลคันไซแต่งคอสตูมฮาโลวีนด้วยเหรอ >_<)
    ★ โอ๊ยย หยุดบ่นเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ แต่พอย้อนไปอ่านมาดงนะมึงแล้วกูก็แอบคิดถึงสมัยก่อนที่นางเอก(นูกู)กูไปเรื่อยไปเปื่อยมาก เดี๋ยวนี้ล้มหายไปหมด บางวงยังไม่ยุบแต่คัมปีละครั้งใครมันจะตามอยู่วะ นี่เลยจำต้องใช้ซ้ำเพราะวงที่ชอบมากกับคนที่ชอบมากเหลือเท่าหยิบมือ ผิดวิสัยกูเหลือเกิน ทำให้รู้เลยว่าวงการเคพ้อพนั้นช่างเปราะบางเหลือเกิน
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×