คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #290 : ANEMOIA CHAPTER 5: Between The White Key And The Black Room (II) 30% เดอะเม้าแทร้ปห่วย ชอบๆ
“ชีวิตเริ่มประหลาดขึ้นเรื่อยๆ
บางครั้งฉันก็ต้องการที่ระบาย”
– ไซโค, เชลฟ์ ไลฟ์ส
“เปิดเทอมมานี้เลโอดูเปลี่ยนไปเยอะเลยเนอะ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา”
จู่ๆ บทสนทนาเรื่องเกมเลเซอร์แท็กที่พวกเธอเพิ่งจะเล่นกันมาด้วยความดุเดือดเสียจนเหนื่อยอ่อนกันถ้วนหน้าในอาร์เคดของเย็นวันพุธหนึ่งก็พลันเปลี่ยนไปเป็นเรื่องของคนนอก ทันทีที่แคนดิซมองเลยผ่านไหล่ของโคโค่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามไปเห็นเจ้าตัวที่เดินมากับน้องสาวและสมาชิกอีกสองคนในชมรมภาพยนตร์ ด้วยความเป็นคนปากไว คิดอะไรก็พูดออกมา หล่อนเลยโพล่งประโยคบนสุดขึ้นทั้งที่ยังคาบเฟรนช์ฟรายสองแท่งอยู่ในปาก
“ไม่สิ ไม่ใช่แค่คนพี่ คนน้องก็เหมือนกัน จากที่เอาแต่ตามตื๊อเธอกับโคกิจนถูกหัวเราะเยาะ เดี๋ยวนี้มีแต่คนอยากไปรุมตื๊อสองคนนั้นแทนสิไม่ว่า”
“เธอก็อย่านึกเสียดายขึ้นมาล่ะ” ตามด้วยโอกะ ยูริ เพื่อนคนที่ปากอาจไม่ไวเท่า แต่ก็ตรงและทื่อเสียจนทำให้โคโค่หงุดหงิดรำคาญได้อยู่บ่อยครั้ง เหมือนอย่างที่เขากำลังทำอยู่นี้แล้วหนึ่ง “ฉันก็บอกเธอแล้วว่าถ้าไม่ชอบก็ให้บอกไปตรงๆ เอาแต่อมพะนำอยู่นั่น แล้วสุดท้ายเป็นไงล่ะ ทั้งเธอทั้งน้องทำเขาขายขี้หน้าซะขนาดนั้น ถ้าจะถูกเกลียดก็ไม่แปลกหรอก”
เรียกอารมณ์ขุ่นมัวจากเด็กสาวที่ถูกจี้จุดจนต้องหันไปแหวใส่คนที่นั่งข้างว่า “แล้วนายได้เข้าไปช่วยตอนเขาโดนโคกิปากล่องนมใส่ไหมล่ะ! ตัวเองก็นั่งดูอยู่เฉยๆ เหมือนกันแท้ๆ มีสิทธิ์อะไรมาว่าคนอื่น!”
“อย่าว่ายูริเลยน่า โคโค่”
“งั้นฉันต้องว่าเธอแทนไหมล่ะ!” โคโค่หันไปสวนใส่แคนดิซ “ถ้าตอนนั้นเธอไม่เอาแต่หายไปอยู่กับริวเซย์ ฉันก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องบ้าบอแบบนี้ตั้งแต่แรกหรอก!” ด้วยความกรุ่นโกรธที่ก่อตัวขึ้นมาเสียจนพาดพิงไปถึงแฟนของเพื่อนที่นั่งฟังไม่มีปากมีเสียงและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วยเลยสักนิด แต่ในเมื่อสองคนนั้นเป็นประเภทไม่เคยถือสาหาความอะไรกับใคร ยูริที่ดูจะชอบหาเรื่อง — กับเธอ — เลยเป็นฝ่ายย้อนกลับไปว่า
“เออ มีแค่เธอกับน้องที่ถูกต้องที่สุดแล้วบนโลกใบนี้ ฉัน แคนดี้ ริวเซย์ หรือแม้แต่เลโอทำอะไรก็ผิดหมดแหละ”
หนึ่งในสิ่งที่โคโค่เกลียดที่สุดในโลกคือคำพูดประชดประชันของยูริ แค่เพราะรู้จักกันมาพร้อมแคนดิซตั้งแต่เกรดสามเลยคบหาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมาจนถึงทุกวันนี้ ขณะที่ยูริไม่เคยสะท้านสะเทือนเวลาโดนเธอบ่นด่าหรือส่งสายตาพิฆาตไปให้ กลับเป็นเธอเองต่างหากที่ต้องได้หัวร้อนหัวเสียอยู่เรื่อย บ่อยครั้งที่โคโค่อดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าเธอทนคบคนแบบนี้เป็นเพื่อนมาได้ยังไงตั้งหลายสิบปี
แต่อย่างน้อยๆ ตอนนี้เธอก็อดรนทนไม่ไหวเสียจนต้องสบถออกมา ลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้พร้อมหมัดที่กำแน่นก่อนจะได้ซัดใส่หน้าใครบางคน ไม่สนใจเสียงตะโกนไล่หลังของแคนดิซที่ถามว่าจะไปไหน และต้องข่มใจไม่ตะโกนกลับไปว่า เธออยากให้ยูริไปตายซะ! แคนดี้ที่ไม่เข้าข้างเธอก็ด้วย! ริวเซย์ที่แย่งแคนดี้ของเธอไปก็ด้วย!
ไปตายกันให้หมดเลย!
โคโค่ไม่รู้จักชื่อของเด็กผู้หญิงอ่อนปีกว่าคนนั้น แต่จำน้ำเสียงเจื้อยแจ้วของหล่อนและผมสีชมพูที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มเด็กเนิร์ดชมรมภาพยนตร์ได้ และทุกครั้งที่เห็น หล่อนก็มักจะเกาะแจอยู่กับเลโอซึ่งจะมีสีหน้าและแววตาที่อ่อนโยนอยู่เสมอ...อย่างที่เธอไม่เคยได้ เพราะอย่างนั้นโคโค่จึงเพียงจ้องตอบหล่อนที่จู่ๆ ก็โบกมือทักทายเธอที่เพิ่งจะเดินออกจากห้องน้ำมา ด้วยน้ำเสียงที่ฟังอย่างไรก็เป็นการปั้นแต่งว่า
“หนูชื่ออายามิค่ะ อายามิ คาชิอิ พี่อาจไม่รู้จักชื่อหนู แต่ก็คงเคยเห็นหน้าหนูบ้างใช่ไหมล่ะคะเวลาที่แอบมองพี่เลโอ...”
โคโค่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่ตอกกลับไป นอกจากโพล่งแทรกขึ้นว่า “มีอะไรอยากพูดก็รีบพูดมาเลยค่ะ”
อายามิยกมือขึ้นป้องปากขณะเปล่งเสียงหัวเราะ...ที่คราวนี้ฟังอย่างไรก็ช่างเยาะหยัน
“น่าเสียดายนะคะที่นาโอะกลับไปคบกับคนรักของเขาแล้ว”
“แล้ว?”
“แล้วพี่ก็เลยหันมาสนใจพี่เลโอ แค่เพราะว่าเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเหรอคะ?” หนนี้รอยยิ้มแบบเด็กน้อยหายไปจากใบหน้าของหล่อน ทั้งที่ตัวเตี้ยกว่า แต่หล่อนก็สืบเท้าเข้ามาใกล้ แหงนเงยใบหน้าขึ้นส่งสายตาเย็นเยียบไม่ต่างอะไรจากน้ำเสียงว่า “อย่ามาบ้าหน่อยเลย ตอนนั้นตัวเองทำอะไรไว้บ้างล่ะ ทั้งทำให้คนอื่นกลายเป็นตัวตลก ต้องโดนคนทั้งโรงเรียนหัวเราะเยาะ หนูยังจำสีหน้าของพี่เลโอตอนนั้นได้ไม่เคยลืม พี่เองก็ไม่ควรลืมเหมือนกันนะ เอาไว้เตือนตัวเองว่าไม่มีวันคู่ควรกับพี่เลโอหรอกไง”
“ใช่ ฉันไม่มีวันคู่ควรหรอก เพราะว่าฉันดีกว่าพี่ของเธอไง!”
ไม่ว่าเปล่า โคโค่ยังผลักร่างเล็กที่มาขวางทางออกไปอย่างไม่ใยดี จนหล่อนล้มตึงลงไปกับพื้นด้วยแรงที่ก็ไม่บรรเทา
“อายามิ!”
เสียงตะโกนเรียกชื่อหล่อนจากน้ำเสียงที่โคโค่เองก็คุ้นเคยดังมา ก่อนที่เธอจะได้เห็นเจ้าของน้ำเสียงนั้นก้มลงไปช่วยประคองยัยเด็กอวดดีจอมเสแสร้งที่โคโค่ไม่รู้เลยว่าหล่อนบีบน้ำตาออกมาเป็นน้ำตกได้ยังไงในเวลาแค่เท่านี้ อาการถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยนั้นช่างแสลงตา...มากกว่าคือแสลงใจเสียจนโคโค่ต้องสะบัดหน้าหนีแล้วทำท่าว่าจะเดินจากไป แต่ทาเกยูกิที่วิ่งตามหลังเพื่อนมาด้วยก็จะกระชากไหล่เธอให้หันกลับมาก่อน
“ทำบ้าอะไรของเธอวะ โคโค่!”
ให้โคโค่รีบสะบัดมือของอีกฝ่ายออกจากไหล่โดยไม่ปิดบังความไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย
“ฉันเหรอ? ฉันทำอะไร? น้องพวกนายนั่นแหละที่มาหาเรื่องฉันก่อน!”
อายามิเลยได้ทีรีบสะอึกสะอื้นแก้ต่างให้ตัวเองว่า “หนูแค่คุยกับพี่โคโค่...”
“งั้นก็บอกไปสิว่าเธอคุยกับฉันเรื่องอะไร!” โคโค่ตัดบทประโยคอ้อยส้อยของยัยเด็กเวรด้วยความรำคาญ “บอกพวกเขาไปเลยสิว่าเธอมาห้ามไม่ให้ฉันชอบพี่เลโอของเธอน่ะ!” ไม่ลืมที่จะเน้นย้ำประโยคสื่อเจตนาของหล่อนให้ทุกคนได้รู้โดยทั่วกัน และการได้เห็นหล่อนทำเป็นก้มหน้าร้องห่มร้องไห้หนักกว่าเดิม เลโอเลยต้องก้มหน้าตามลงไปแล้วพูดอะไรสักอย่างที่คงเป็นคำปลอบโยน เช่นเดียวกับมือข้างที่ใช้ประคองไหล่ก่อนเปลี่ยนไปเป็นลูบผ่านศีรษะเบาๆ ก็จะยิ่งทำให้ข้างในอกของโคโค่คันยุบยิบอย่างกับมีอะไรมาสะกิดเกา เธอถึงได้ไม่ยั้งปากตัวเองเมื่อเสริมต่อไปว่า
“ขอโทษเถอะนะ ไม่ต้องให้ใครมาบอก คนอย่างฉันก็ไม่มีวันลดตัวลงไปชอบคนอย่างนั้นหรอก!”
“ทำไม? พวกคุโรดะมันแม่งสูงส่งกว่าคนอื่นนักหรือไงวะ?”
“เออ!” เหมือนกับที่โคโค่เองก็จะกระแทกน้ำเสียงตอบคำถามประชดประชันของทาเกยูกิกลับไป “ก็สูงส่งกว่าพวกในชมรมโง่ๆ ของนายทุกคนก็แล้วกัน!”
แต่ก่อนที่เธอจะได้กระแทกส้นรองเท้าจากไปตาม ก็ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างให้โคโค่หันมองเด็กหนุ่มอีกคนในที่นั้นอีกครั้ง
เพื่อที่จะได้เห็นเลโอกำลังฉีกยิ้มกว้างมาให้เธอ
เหมือนกับเหตุการณ์ในห้องเรียนวันนั้นไม่มีเพี้ยนผิด
-
_______________
ความคิดเห็น