คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #211 : The First Time (Is The Last Time)
เป็นคำพูดที่ไม่เกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าฮาราดะ ชิซึกิเป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่กับคำชมมาตลอดทั้งชีวิตนับตั้งแต่จำความได้ จริงอยู่ที่เธอไม่ใช่คนหัวดีหรือมีความสามารถด้านใดก็ตามอยู่ในระดับแนวหน้า หากแต่มีหน้าตาที่สะสวยมากและเป็นของแท้แบบที่หาได้อย่างยากยิ่ง พอขึ้นชั้นมัธยมต้นก็ได้รับนามบัตรจากแมวมองระหว่างไปเดินเล่นตามย่านการค้าบ่อยมากจนแทบจะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ ถึงจะไม่ได้อวดโอ่ แต่ลึกๆ ชิซึกิก็ไม่ปฏิเสธว่าภูมิใจกับพรจากพระเจ้าที่สรรสร้างเธอออกมาให้สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนล้วนแล้วแต่อิจฉา เมื่อการได้รับความรักจากคนอื่นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก แต่กระนั้น เพื่อนผู้หญิงรอบข้างก็ยังนิยมชมชอบเธอที่ไม่ได้ทำตัวเหมือนกับว่าเหนือกว่าคนอื่นๆ ชิซึกิเคยเป็นเด็กสาวที่มีความสุขอยู่กับครอบครัว เพื่อนฝูง ดนตรี และพอใจกับชีวิตเช่นนี้ดี กระทั่งเด็กผู้ชายจากลอนดอนได้ย้ายเข้ามาในช่วงเปิดภาคเรียนของชั้นไฮสคูลปีที่สอง ห้องสอง ในโลกใบที่สองที่ชิซึกิแสนรักเป็นนักหนาซึ่งถูกเรียกขานว่า ‘โรงเรียน’
เด็กผู้ชายคนนั้นมีชื่อว่าทานากะ ฮินาริ ไม่ว่าใครต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหน้าตาดี นิสัยหรือก็น่าคบหา ที่นั่งในห้องเรียนของเขาอยู่หลังสุดข้างกับเด็กผู้หญิงที่ไม่มีใครในห้องแม้แต่คนเดียวสนิทสนมด้วย สถานที่หลบลี้หนีผู้คนของเด็กสาวมาฟุเนะ ยูเมริคนนั้นก็คือห้องสมุดในตึกเก่าอันแสนเงียบงัน นั่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวที่เพื่อนร่วมห้องรับรู้กันเป็นอย่างดีเกี่ยวกับตัวหล่อน และไม่ใช่เป็นเพราะว่าหล่อนทำตัวหยิ่งไม่สุงสิงกับใครจนทุกคนในห้องพากันรวมหัวแบนราวกับเป็นส่วนเกิน ในความเป็นจริงคือใครๆ ก็สามารถพูดคุยกับหล่อนได้ และหล่อนเองก็พูดจากับคนอื่นในเรื่องการเรียนหรือเรื่องสัพเพเหระทั่วไปบ้างนานๆ ที แต่ดูเหมือนว่าความสนใจของหล่อนจะอยู่ในจินตนาการกับหน้ากระดาษเปื้อนหมึกเหล่านั้นมากกว่าคนตัวเป็นๆ ขนาดที่ชิซึกิเองยังเคยถกกับหล่อนอย่างออกรสเรื่องนิยายหรือมังงะที่นำไปทำเป็นภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้ง ท่าทางในตอนนั้นของยูเมริช่างเป็นธรรมชาติมากจนชิซึกิเองก็ยังรู้สึกวางใจ
ชิซึกิแสดงความจริงใจออกมาจากแก่นแท้ในก้นบึ้งอย่างที่สามารถมองหาได้จากมนุษย์คนหนึ่ง และเธอเองก็เคยเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ก่อนทุกอย่างจะสั่นคลอนลงไป เมื่อความสัมพันธ์ของยูเมริและฮินาริได้พัฒนาไปเป็นเพื่อนคนสนิทอย่างรวดเร็วหลังจากเขาย้ายมาไม่กี่สัปดาห์ โดยที่ไม่ว่าใครต่อใครก็พากันคาดไม่ถึง ภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตาคือทั้งคู่มักจะพูดคุยกันอย่างเริงร่าแล้วส่งยิ้มไม่ก็หัวเราะให้แก่กัน ไม่ใช่แค่ในห้องเรียนหรือห้องสมุด แต่ยังเป็นอัฒจรรย์ซึ่งเขามักจะไปเตะบอลกับเพื่อนผู้ชายคนอื่น ไหนจะบนดาดฟ้า และเส้นทางเดินเชื่อมระหว่างตึกเก่ากับตึกใหม่นั้นด้วย อาจพูดได้ว่าไม่เคยมีใครทำให้หญิงสาวผู้รักสันโดษแสดงความสุขผ่านทางใบหน้าออกมาได้มากถึงเพียงนี้
และนั่นอาจเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ชิซึกิรู้สึก...อิจฉา
แน่นอนว่าชิซึกิเองก็แสดงออกว่าชอบฮินาริโดยไม่ปิดบัง คำเปรียบเปรยที่ได้ยินจนชาชินสำหรับตัวเธอคือเจ้าหญิงผู้เลอโฉม ขณะที่ฮินาริก็ได้ถือครองตำแหน่งเจ้าชายไปโดยปริยาย ทั้งเธอกับเขาต่างก็ดูเหมาะสมกันมากขนาดชิซึกิที่ไม่ใช่คนหลงตัวเองก็ยังคิดแบบนั้น
ตลอดชีวิตสิบเจ็ดปี เธอไม่เคยได้รู้จักกับคำว่า ‘ผิดหวัง’ จากสิ่งที่เรียกว่าความรักมาก่อน ดังนั้นเมื่อเธอสารภาพรักกับฮินาริแล้วถูกปฏิเสธด้วยคำตอบที่ว่า “ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ขอโทษด้วยนะ” แล้วจะให้ชิซึกิทำใจเชื่อได้อย่างไร ว่าเจ้าชายในชุดขาวคนนั้นจะเลือกหญิงชาวบ้านที่ไม่มีสิ่งใดทัดเทียมเธอเพียงน้อยกัน
ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว เธอก็ยังถามกลับไปว่า “นายหมายถึงยูเมริเหรอ?” และเมื่อรอยยิ้มสดใสที่สุดแตะลงบนริมฝีปากคู่นั้น ชิซึกิก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้พังทลายลงไป
“อย่างนั้นก็ขอให้โชคดีนะ ฉันจะเป็นกำลังใจให้”
ชิซึกิแสร้งแสดงความเข้มแข็งออกมาและทำเหมือนว่าไม่เป็นไรแม้จะรู้สึกกล้ำกลืน ไม่มีครั้งไหนที่ได้เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วหัวใจเธอจะไม่ร่ำร้องไห้ ทุกคนต่างพากันพร่ำปลอบเธอ แต่ไม่มีใครสักคนที่จะมาเข้าใจคนที่อยู่ในจุดสูงสุดมาตลอดชีวิตอย่างเธอได้เลย
ครั้งหนึ่ง เพื่อนในกลุ่มของเธอคนหนึ่งอดปากไม่ไหวจนต้องถามฮินาริไปตรงๆ ว่า “นายชอบคุณมาฟุเนะที่ตรงไหนเหรอ?” และคำตอบที่ได้รับก็ช่างน้ำเน่ายิ่งกว่าหนังรักที่เธอชอบดูซะอีก
“ฉันชอบทุกอย่างที่เป็นเขา”
“พูดก็พูดเถอะนะ ฉันคิดว่านายหาได้ดีกว่าคุณมาฟุเนะตั้งเยอะ”
“แต่ยูเมริดีพอสำหรับฉันแล้ว” ฮินาริตอบด้วยท่าทีเบาสบายแล้วหัวเราะน้อยๆ อย่างไม่ถือสา
แต่หลังจากวันนั้น เพื่อนในกลุ่มของเธอทุกคนก็แสดงท่าทีปั้นปึ่งต่อยูเมริทั้งที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ทำผิดอะไร นอกจากเป็นหญิงสาวผู้โชคดีที่มีเจ้าชายมาตกหลุมรักเท่านั้น หากชิซึกิก็ยังคงเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ปฏิบัติต่อหล่อนเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน และไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอสูงส่งกว่าใครๆ ชิซึกิก็แค่อยากแสดงให้ฮินาริและคนอื่นๆ เห็นว่าเธอเป็นเด็กสาวที่แสนดีจากเนื้อใน แม้จะผิดหวังจากความรักก็ยังคงยิ้มให้พวกเขาทั้งคู่ที่ต่างทำร้ายจิตใจของเธอได้ แม้ว่าหัวใจของเธอจะบอบช้ำจนเกินเยียวยา
ก่อนที่ความอดทนตลอดมาของเธอจะหมดลงในช่วงเตรียมงานวัฒนธรรม ห้องของพวกเธอตกลงทำคาเฟ่ของหวานในธีมเทพนิยายซึ่งมีทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงประจำโรงเรียนเป็นตัวยืนพื้น และคนรักของเจ้าชายก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยอะไร ซ้ำยังให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีแม้จะเป็นฝ่ายเบื้องหลังเสียอีก
กว่าครึ่งหนึ่งของเด็กในห้องอยู่จนถึงดึกดื่นที่โรงเรียนเพื่อจะได้ช่วยกันเตรียมงานตกแต่งสถานที่ให้เสร็จทันเวลา การได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ แบบนี้ทำให้ชิซึกิมีความสุขมาก...เสียจนคิดว่าต่อให้ไม่ได้ครองรักกับเจ้าชายก็ไม่เห็นจะเป็นไร
แต่ตอนที่เธอบังเอิญได้เห็นฮินาริกับยูเมริจูบกันบนดาดฟ้าระหว่างที่ออกตามหา ชิซึกิถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วไม่ใช่เลย
ทั้งๆ ที่เธอรักฮินาริมากขนาดนั้น
ทั้งๆ ที่เธอมีดีกว่ายูเมริมากขนาดนั้น
ชิซึกิเข้าไปยืนร้องไห้ปล่อยความคับข้องอย่างสุดจะกลั้นอยู่ในห้องน้ำลำพัง จนเมื่อได้ยินเสียงบานประตูเปิดอ้าแล้วเงยใบหน้าขึ้นมองผ่านบานกระจก ก็ได้พบเด็กผู้หญิงที่ไม่อยากเจอหน้ามากที่สุดในโลกปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น ยูเมริไม่ได้เดินเข้ามา แค่ส่งเสียงแผ่วออกมาว่า “ฉันขอโทษ” แล้ววิ่งหนีไปโดยไม่รอให้เธอได้เปิดปาก
แต่ชิซึกิก็ไม่ได้คิดว่าอยากจะพูดอะไรอยู่แล้ว
_______________
ความคิดเห็น