คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #275 : CALENDULA REQUIEM ✣ IV. To Stella By Starlight (30% คฤหาสน์ดำหายไปไหนง่ะ U_U)
แม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับสองสมาชิกใหม่จะจัดขึ้นอย่างกระชั้นชิดมากในเวลาไม่ถึงห้าวันดีด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ออกมาราบรื่นด้วยดี ไม่มีอะไรติดขัด แน่นอนว่าเป็นเพราะคุณคุโรยานางิที่เป็นหัวเรือคอยดูแลหล่าคนรับใช้ในบ้านที่วิ่งวุ่นจัดเตรียมงานฉลองไม่ให้ขาดตกบกพร่อง รวมถึงฮิดากะและนาโอกิที่คอยแวะเวียนไปตรวจสอบความเรียบร้อยแทนไทโชที่ใช้เวลาขลุกอยู่กับอาซึฮะเป็นส่วนใหญ่ ขนาดที่ทุกคนในคฤหาสน์แทบจะได้เจอหน้าสองพี่น้องแค่ในห้องอาหารตอนมื้อเช้ากับมื้อค่ำ และเวลาน้ำชาก็หงอยเหงาลงไปกว่าเดิมมากเพราะสมาชิกทั้งเจ็ดไม่เคยได้อยู่กันพร้อมหน้า บ้างก็สอง บ้างก็สี่ ไหนจะความวุ่นวายหากก็ระคนไปด้วยความตื่นเต้นที่อบอวลอยู่ทั่วคฤหาสน์ซึ่งจะทำให้ยูโตะตกลงเลื่อนการเรียนการสอนออกไปเป็นหลังงานเลี้ยง แล้วถือโอกาสแยกไปที่ห้องทำงานส่วนตัว หรือไม่ก็ห้องสมุดแทน
โทคิเนะและริไอได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ที่ศาลาในสวนดอกไม้ซึ่งไปนั่งพักผ่อนด้วยกันหลังมื้อเที่ยงก่อนงานเลี้ยงหนึ่งวัน รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าสดสวยที่แสดงความเป็นมิตรตั้งแต่แรกเห็นทำให้ทั้งสองคนถูกชะตากับหล่อนทันที ก่อนตามมาด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่งยวดเมื่อหล่อนแนะนำตัวเองว่าชื่อคุโรยานางิ เซย์เร็น เป็นลูกสาวคนเดียว — ที่ไม่มีอะไรใกล้เคียงกันเลยนอกจากส่วนสูงชะลูด — ของคุณคุโรยานางิที่ก็ได้รับความเมตตาจากครอบครัวอิวาซากิด้วยการส่งเข้าโรงเรียนประจำที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง
และตลอดช่วงเวลาหลายชั่วโมงอันแสนรื่นรมย์ราวกับติดปีกบินนั้น โทคิเนะ ริไอ และเซย์เร็นก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของกันและกันอย่างง่ายดาย
กระทั่งมาถึงวันที่ทุกคนต่างก็ตั้งตารอ ทั้งสามสาวนัดกันมาจับกลุ่มแต่งตัวที่ห้องของโทคิเนะก่อนเวลาที่แขกเหรื่อจะทยอยมาถึง วันนี้ ทั้งสองสมาชิกใหม่ของคฤหาสน์สวมชุดกระโปรงสีขาวเหนือเข่าแบบเรียบง่าย แต่ก็มีลูกเล่นที่แขนเสื้อ การจับจีบ ลูกไม้ และระบายแตกต่างกันไป ขับให้พวกเธอดูเหมือนกับเทพธิดาบริสุทธิ์น่าทะนุถนอม สมคำคุยโวจากเจ้าของห้องเสื้อที่หรูหราที่สุดและมีช่างมากฝีมือที่สุดในเมืองอย่างจูลี่ส์ ขณะที่เซย์เร็นปล่อยผมยาวสยายอยู่ในชุดแม็กซี่เดรสสีเขียวอ่อน เข้ากันดีกับเครื่องสำอางสีเข้มจนสลัดคราบเด็กน้อยผู้แสนเริงร่าไปเป็นภูติพรายน่าค้นหา หล่อนมีฝีมือด้านการแต่งหน้าเพราะครูพักลักจำเอาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นมาหน่อยก็ติดตามนิตยสารดาราแฟชั่นทุกปักษ์ไม่มีพลาด หล่อนจึงขันอาสาขอแต่งหน้าแทนแม่บ้านคนอื่นให้ด้วยความกระตือรือร้นเอง
ใช้เวลาไม่นานนักก็เสร็จเรียบร้อย ช่างแต่งหน้ากิตติมศักดิ์ถอยห่างออกมาจากโต๊ะเครื่องแป้ง ยิ้มกว้างขณะเอ่ยปากชมทั้งสองสาวที่หล่อนกำลังมองสบตาผ่านกระจกว่า
“รับรองว่าทุกคนจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกเลี้ยงคนใหม่ของบ้านอิวาซากิก็สวยไม่แพ้ลูกสาวแท้ๆ เลยแน่นอนค่ะ!”
โทคิเนะและริไอขยับใบหน้าซ้ายขวามองดูตัวเองในกระจก เป็นความรู้สึกที่ช่างแปลกประหลาด ราวกับกำลังจ้องมองใบหน้าของคนแปลกหน้าอยู่ก็ไม่ปาน
ก่อนเสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้นขัดจังหวะความพิศวงนั้น แล้วเปิดผัวะออกเมื่อเซย์เร็นตอบรับเสียงตะโกนของนาโอกิที่เดินเข้ามาพร้อมกับคู่หูชั่วคราวตลอดการจัดงานเลี้ยงต้อนรับหนนี้อย่างฮิดากะ
“โอ้โห! สามสาวคนสวยนี่ใครกันเนี่ย เอาเด็กน้อยของเราไปซ่อนไว้ที่ไหน ตอบมานะ!” ไม่ว่าเปล่า นาโอกิยังยืดคอทำท่าชะเง้อชะแง้มองหารอบห้องจนเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนขึ้นมาได้
“เป็นยังไงบ้างคะ? ฝีมือร่ายมนตร์ของนางฟ้าฝึกหัดคนนี้”
“ปกติก็น่ารักมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ต้องใช้คำว่าสวยมาก” ฮิดากะตอบคำถามเย้าหยอกของเซย์เร็นด้วยรอยยิ้มกว้าง เรียกเสียงหัวเราะเขินจากโทคิเนะ และใบหน้าที่ร้อนผ่าวจนต้องหลุบหลบจากริไอ
“งั้นต้องขอยืมตัวสาวสวยไปควงอวดหน่อยล่ะ มาเถอะ โทคิเนะจัง”
นาโอกิยื่นแขนข้างหนึ่งให้โทคิเนะที่ค้อมหัวตอบรับพร้อมรอยยิ้มกว้าง แล้วสอดแขนควงกับชายหนุ่มร่างเล็กที่มีส่วนสูงเท่ากันกับเธอ เพราะอย่างนั้นริไอที่ตัวสูงกว่าจึงต้องจับคู่กับฮิดากะไปโดยปริยาย ริไอรู้สึกได้ถึงความร้อนบนท่อนแขนที่โผล่พ้นทั้งที่อีกฝ่ายก็สวมเสื้อสูทแขนยาว นอกจากเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นดังแล้ว ริไอก็ไม่อาจจับจดกับบทสนทนาที่นาโอกิและเซย์เร็นเจื้อยแจ้วคุยกันเป็นส่วนใหญ่ โดยมีเสียงหัวเราะของโทคิเนะและฮิดากะแว่วผ่านมาเป็นระยะได้เลย
_______________
ความคิดเห็น