คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #245 : WICKED GAMES
ผู้ชายที่นิชิโบริ นินาโกะเกลียดที่สุดในโลกก็คือทากาฮาชิ ไคโตะ
เขาไม่ใช่แค่ผู้ชายหน้าโง่ที่ยอมอภัยให้กับนิชิโนะโซโนะ อุริโกะ คนรักของตัวเองที่แอบไปมีอะไรๆ กับคนอื่นได้ง่ายๆ ทั้งที่ตอนเธอเอาเรื่องที่ได้เห็นมาบอก ไคโตะก็ยังพูดขอบคุณเสียดิบดี วันต่อๆ มาก็ยังคุยกับเธอเป็นปกติดี ถึงเขาจะยังคบหากับอุริโกะเหมือนเดิมดี แม้ว่านินาโกะจะรู้สึกตงิดๆ ในใจอยู่บ้าง แต่ก็อย่างที่เธอได้เคยเห็นมานักต่อนักแล้วว่าสุดท้ายเรื่องของความรักก็เป็นเรื่องของคนสองคน
ไม่ใช่คนที่สามอย่างเธอที่จะถูกหมายหัวจากอุริโกะทันทีที่หล่อนรู้ว่าใครเป็นคนปากโป้ง นอกจากไม่ได้สำเหนียกหรือว่าละอายใจในสิ่งที่ตัวเองทำแล้ว ยังพูดจาหว่านล้อมชักจูงไคโตะที่หน้ามืดตามัวเพราะความรักจนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ทั้งการพูดจาหาเรื่องค่อนแขวะทุกครั้งที่เจอหน้า บ่อยครั้งก็เป็นการกลั่นแกล้งพอให้เธอได้อับอายขายขี้หน้า บางครั้งอุริโกะที่เรียนอยู่ต่างห้องก็จะมาผสมโรงหัวเราะใส่หน้า นินาโกะพยายามปล่อยผ่านไปในทีแรกเพราะไม่อยากมีปัญหากับคนที่อย่างน้อยๆ ก็เคยเป็นเพื่อน อีกทั้งการกลั่นแกล้งของไคโตะก็ยังไม่เคยหนักข้อขึ้นไปเป็นเรื่องทางกาย แต่ครั้นผ่านไปนานวันเข้า เรื่องเล็กน้อยเหล่านั้นก็กลายเป็นความหงุดหงิดน่ารำคาญใจ จนทำให้นินาโกะอดปากเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป พร้อมกับการเปลี่ยนสถานะจากมิตรให้กลายเป็น...ศัตรู
ผู้ชายที่นิชิโบริ นินาโกะไม่อยากคบหาที่สุดในโลกก็คือนางาเสะ เร็น
เขาเป็นผู้ชายที่ใครก็คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารูปหล่อหน้าตาดี ขนาดมีผิวสีคล้ำที่ไม่น่าจะเข้ากับผมสีชาก็ยังดูดียิ่งกว่ามนุษย์ผู้ชายทุกคนบนโลกที่เธอได้เคยพานพบเจอ แต่สิ่งที่นินาโกะเหลือรับที่สุดก็คือนิสัยห่ามๆ กับมารยาทที่เหมือนไม่มีคนสั่งสอนของเขา ซึ่งก็คงจริงเพราะเขาเลิกเรียนหนังสือไปตั้งแต่ตอนม.ต้น ออกมาเตร็ดเตร่กับพวกเพื่อนนักเลงปลายแถวอยู่แถวคาบุกิโจที่ได้กลายเป็นบ้านหลังแรกและหลังเดียวไปแล้วทุกเช้าค่ำ เมื่อไหร่ที่เจอหน้าเธอก็จะชอบเข้ามาพูดจาเจ๊าะแจ๊ะน่ารำคาญไม่ก็พยายามถึงเนื้อถึงตัวจนน่าขนลุกชะมัดยาด เพราะอย่างนั้นนินาโกะถึงได้พยายามหลบเลี่ยงร้านเหล้าที่เขาทำงานอยู่ ส่วนใหญ่แล้วก็ราบรื่นเป็นไปด้วยดี แต่ไม่ใช่กับวันนี้ที่เธอเดินลงมาจากตึกเรียนในตอนเที่ยงแล้วบังเอิญได้เห็นเขายืนก้มหน้ากดมือถืออยู่ริมกำแพงด้านหลังอาคาร ทั้งที่ปกติคนอย่างอีตานั่นไม่เคยสนใจเรื่องของชาวบ้านชาวช่องเค้าแท้ๆ แต่ในตอนที่เธอทำท่าว่าจะเดิน...วิ่ง...ผ่านไปให้เร็วที่สุด จู่ๆ เขาก็จะเงยหน้าขึ้นมาในจังหวะที่เหมาะเจาะพอดี ใบหน้าที่ยิ่งหล่อเหลาเพราะรอยยิ้มกว้างก้าวฉับตรงมาหา ทั้งอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้นินาโกะรู้สึกดีใจเลยสักนิด
“ฉันอุตส่าห์อดใจไม่ขึ้นไปหานินะแล้วนะเนี่ย”
นินาโกะได้แต่หัวเราะแห้งๆ ขยับฝีเท้าถอยห่างจากเขาไปสองก้าว ทำทีเป็นเหลียวซ้ายแลขวาแล้วเปลี่ยนเรื่องไปว่า “มาหาไคโตะเหรอ?”
ขนาดว่าเธอแสดงออกชัดเจนตั้งขนาดนี้ และเร็นก็ไม่ใช่พวกอ่อนประสบการณ์ที่จะอ่านความรู้สึกของผู้หญิงไม่ออก แต่อาจเป็นเพราะทิฐิ ความดื้อด้าน หรือที่นินาโกะอยากเรียกว่า ‘ความหน้าด้าน’ มากกว่าที่ทำให้เขายังดันทุรังกับเธออยู่ได้ และไม่ใช่เป็นเพราะว่าเธอไม่เคยปฏิเสธเขาไปตรงๆ ด้วยซ้ำ
“อยากมาหานินะมากกว่านะ”
ไม่ว่าเปล่า เขายังสาวฝีเท้าเข้ามาใกล้เธออีก ด้วยความจงใจที่จะทำให้แผ่นหลังของเธอถอยชิดไปติดกำแพงอีกฝั่ง ในหัวของนินาโกะมีแต่คำว่า ใกล้เกินไปมาก! ใกล้เกินไปแล้ว! พร้อมกับขนที่ลุกชัน แต่ก่อนที่นินาโกะจะได้เอ่ยมันออกมาเป็นคำพูดดังๆ หางตาของเธอก็จะเหลือบไปเห็นไคโตะที่หยุดยืนห่างออกไปไม่ไกล เป็นเพราะแววตาแข็งกร้าวจดเขม็งที่แสดงออกว่ากำลังไม่พอใจมากของเขาที่ทำให้นินาโกะตัดสินใจ
“งั้นเย็นนี้ไหมล่ะ?”
เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากผู้ชายตัวสูงกว่าที่ก้มหน้าลงมาหาเธอว่า “ถามจริง?”
นินาโกะถือโอกาสนั้นผลักอกของเขาออกเบาๆ อย่างมีจริต แสร้งทำเป็นส่งยิ้มเริงร่าเมื่อป้องปากตะโกนบอกเขาว่า “เจอกันหลังเลิกเรียนนะเร็น!” ด้วยระดับเสียงที่ดังมากพอให้ไคโตะที่ไม่ยอมเดินเข้ามาใกล้ได้ยินชัดเจน
ตอนนี้แหละ...ถึงเวลาที่นินาโกะจะได้เอาคืนผู้ชายหน้าโง่นิสัยเสียพรรค์นั้นแล้วสักที ถ้าไคโตะไม่พอใจนักแค่เพราะว่าเธอคุยกับเพื่อนสนิทของตัวเองแล้วล่ะก็ งั้นก็รอลิ้มรสความรู้สึกของการโดนคนที่เกลียดแย่งเพื่อนสนิทของตัวเองไปด้วยก็แล้วกัน
“โทษทีนินะ แต่วันนี้คงไม่ได้แล้ว”
นินาโกะก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าไคโตะต้องเล่นเล่ห์กับเธอเข้าสักทาง มาไม้นี้เห็นทีคงบอกเร็นไปแล้วสิท่าว่าเธอตั้งใจหลอกใช้เขาเพื่อแก้แค้น ขนาดมองลงมาจากดาวอังคารก็ยังดูออกว่าเขาอยากเคลมเธอจะแย่แต่ก็ดันยอมถอยง่ายๆ ด้วยเหตุผลแค่นี้เนี่ยนะ นินาโกะไม่เข้าใจเลยว่าเป็นเพราะทิฐิของผู้ชายหรืออะไรกันแน่จนอยากกระโจนไปข่วนหน้าเขาให้สาแก่ใจ หากเธอก็ทำเป็นฝืนปั้นหน้าให้เร็นในตอนที่พูดว่า “เสียดายจัง ฉันอุตส่าห์แต่งหน้าทำผมมาเพื่อเร็นโดยเฉพาะเลยนะ” ที่อาจฟังดูตอแหลแต่ก็ไม่ใช่เรื่องโกหก เพราะพอถึงคาบสุดท้ายที่ครูให้ทำแบบฝึกหัดคณิตแค่ไม่กี่ข้อก่อนปล่อยว่างแล้ว นินาโกะก็เอาเวลาที่มีเหลือเฟือมานั่งแต่งหน้าทำผมใหม่ ถึงขนาดยอมเสียเวลาม้วนผมทั้งที่ปกติขี้เกียจจะตายเพราะจำได้ว่าเร็นเคยชมเธอที่ทำแบบนั้นอยู่ครั้งหนึ่ง เพราะมั่นใจว่ารังสีของความอาฆาตมาดร้ายที่ทำให้ขนคอลุกชันต้องส่งมาจากไคโตะที่นั่งอยู่ริมประตูห้อง นินาโกะเลยหันไปยิ้มเยาะให้เขาแล้วรีบเมินไปก่อนที่กล้ามเนื้อบนใบหน้าของอีกฝ่ายจะได้กระตุก ไม่แน่ว่าถ้าเธอยอมมองให้นานกว่านี้อาจได้เห็นเป็นรอยยิ้มหยัน เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็รู้ว่าเธอจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
หากนินาโกะก็ทำได้แค่เอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นไปแตะไหล่เขาโดยที่ยังไม่ทันได้หาเหตุผลมาจูงใจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการต่อ เมื่อเร็นที่ก้มลงพินิจใบหน้าและทรงผมของเธอ — อย่างที่เขาชอบ — ดูเหมือนว่าจะอดใจเอาไว้ไม่อยู่ จนต้องใช้ปลายนิ้วม้วนปอยผมด้านหน้าเล่น แล้วยิ้มออกมา
“ฉันรู้หรอกนะว่านินะต้องการอะไร”
“รู้แล้วยังไงล่ะ” นินาโกะจ้องตาเร็นตอบกลับไป “ฉันยอมให้ตั้งขนาดนี้แล้วนายยังจะเลือกไคโตะมากกว่าอีกหรือไง?”
“ก็ไม่อยู่แล้ว”
เป็นอีกครั้งในรอบวันที่เขาจะดันร่างของเธอถอยไปจนติดกำแพง แต่หนนี้นินาโกะไม่ได้ดิ้นรนที่จะหลบหนีอีกต่อไป เธอเลื่อนมือขึ้นไปคล้องรอบลำคอของเขาซึ่งโน้มใบหน้าลงมาแล้วกดปากลงไป บังคับให้เธอตอบรับการชักนำที่รุนแรงของเขา เช่นเดียวกับวงแขนที่โอบรัดแน่น ยิ่งเมื่อเธอตอบรับการสนองของเขาด้วยความสั่นไหวและเว้าวอน เกินกว่าจินตนาการที่เขาวาดฝันถึงเธอมาโดยตลอด มันให้ความรู้สึกดีมากเสียจนเขาหักห้ามตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ และเธอก็คงจะรู้สึกถึงมัน ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พยายามเบี่ยงตัวหลบ กลับกันกับเขาที่พยายามดึงร่างของเธอเข้ามาเบียดชิดเพื่อให้รับรู้ว่าเขาต้องการเธอมากแค่ไหน ในเมื่อนินาโกะดึงเขาเข้ามาในเกมการแก้แค้นโง่ๆ นี้แล้ว เธอก็จะต้องตอบแทนการเสียสละเพื่อนรักของเขาอย่างสาสม
เร็นแน่ใจว่าริมฝีปากสีแดงของเธอจะต้องมีรอยช้ำ และคืนนี้เขาจะไม่ทำให้มันจบแค่อวัยวะส่วนนั้นแน่ เขาจะฝากฝังรอยรักที่รุนแรงมากเท่ากับความรักจนเธอลบลืมความเกลียดชังที่มีต่อเขาทั้งหมดไปเอง
แล้วเธอก็จะได้รู้ว่าคนที่คุมเกมนี้แท้จริงก็คือเขาต่างหาก
_______________
ความคิดเห็น