ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #230 : Tori wa Oyogikata wo Shirazu Obore Nakigara 【A: Perfake Perfect】

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 67


    (A)

    Perfake Perfect
    Playlist: GLAY  My name is DATURA












    .

    ไม่ว่าใครที่ได้รู้จักเด็กหนุ่มอุกิโช ฮิดากะ ย่อมต้องลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือมนุษย์ที่เพียบพร้อมที่สุดคนหนึ่งเท่าที่โลกจะมีได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การกีฬา ความสามารถ หัวสมอง หรือแม้แต่น้ำใสใจจริง ซึ่งหาได้อย่างยากยิ่ง อย่างน้อยๆ ก็ในโลกใบเล็กที่มีชื่อว่าโรงเรียนมัธยมชิโมโฮชิ...ใต้ดวงดาว...ที่เขายังคงเปล่งประกายเจิดจ้างดงาม ทั้งในฐานะหัวหน้าห้องและคณะกรรมการนักเรียนที่ไม่ว่าใครต่างก็ให้ความชื่นชม รักใคร่ และไว้วางใจ

    อาจเว้นก็แต่ลูกติดแม่ใหม่ที่อายุเท่ากันกับเขาอย่างฮางิวาระ เซย์เร็น เด็กสาวตัวสูง หน้าตาสะสวย ถอดแบบมาจากแม่ของเธอที่เพิ่งจะย้ายมาอยู่ร่วมบ้านและโรงเรียนเดียวกันตอนก่อนขึ้นชั้นไฮสคูลปีที่สอง ฮิดากะพยายามผูกมิตรกับเธอที่ดูเหมือนจะเป็นพวกชอบเก็บตัวรักสันโดษ วันๆ หนึ่งเขาได้ยินเสียงพูดของเธอแทบนับคำได้ เจอหน้าเธอก็แทบนับเป็นนาทีได้ ถ้าไม่ใช่เวลากินข้าวเย็นที่บ้านของเขามีกฎว่าสมาชิกทุกคนต้องอยู่พร้อมหน้ากันหมด ขนาดกับแม่แท้ๆ ของตัวเองยังแสดงความเหินห่างแล้วเรียกหล่อนด้วยชื่อต้นว่าคุณฮานาโยะ ถึงฮิดากะจะยังไม่อยากลงลึกไปถึงคำที่รุนแรงกว่านั้นอย่างก้าวร้าว ไม่ต้องพูดถึงเขาและพ่อที่ผลลัพธ์ของความพยายามเท่ากับศูนย์ แต่ฮิดากะก็ยังคงไม่ถอดใจยอมแพ้ เพราะถึงอย่างไรเซย์เร็นก็ได้ชื่อว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

    กระทั่งเหตุการณ์ได้พลิกผันเอาในเย็นวันหนึ่ง ทั้งที่วันนั้นฮิดากะมีนัดเลี้ยงฉลองวันเกิดให้เพื่อนในกลุ่ม แต่เขาก็ยังเลือกอยู่รอเธอสอบซ่อมเพื่อที่จะได้กลับบ้านด้วยกัน และคำพูดที่เซย์เร็นกระแทกใส่หน้าเขาด้วยความรำคาญเต็มทีว่า “เลิกเสแสร้งแกล้งทำเป็นดีกับฉันสักทีเถอะ เห็นความจอมปลอมของนายแล้วทำให้ฉันสะอิดสะเอียนชะมัดยาด!” ก็ราวกับการกะเทาะหน้ากากที่เขาสวมใส่มาตลอดทั้งชีวิตให้เปิดอ้าออก

    หรือไม่...ฮิดากะก็รู้ดีมาตลอด เพียงแค่ไม่อยากยอมรับต่อนัยน์ตาเสียดแทงเมื่อไหร่ก็ตามที่มองจ้องมา ทะลุผ่านตัวตนที่เขาเก็บซ่อนเอาไว้อย่างมิดเม้นที่สุดจนไม่มีใครมองเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เพราะฮิดากะก็ไม่ได้แตกต่างจากเด็กวัยรุ่นคนอื่นอีกนับร้อยพันที่ไม่ต้องการเป็นคนแปลกแยกในสายตาใคร เช่นนั้นแล้ว เธอที่พยายามทำตัวแปลกแยกจะเรียกว่าอะไรถ้าไม่ใช่การเรียกร้องความสนใจ

    ความรู้สึกที่เหมือนกับการถูกหักหน้าทำให้เขาไม่พอใจ และเอาคืนด้วยการโทร.ไปแจ้งครูฝ่ายปกครองว่าเธอแอบหนีไปดูคอนเสิร์ตที่ไลฟ์เฮาส์ในช่วงสอบทั้งที่โรงเรียนออกกฎห้าม เขาสะใจเป็นบ้าที่ได้เห็นเซย์เร็นถูกพักการเรียนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ต้องมาตามสอบทีหลังให้ผ่านทุกวิชาแต่คะแนนก็จะได้แค่คาบเส้น และได้เห็นเธอโต้เถียงกับแม่ของตัวเองด้วยคำที่ฮิดากะสามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่าด้วยความก้าวร้าวจนโดนตบหน้าเต็มแรง ขนาดทิ้งรอยปื้นสีแดงเอาไว้บนแก้มขาวอีกหลายวัน แม้ว่าการที่เธอยังทำคอเชิดเหมือนกับว่าตัวเองวิเศษวิโสกว่าทุกคนในบ้านและในโรงเรียนอยู่ได้จะรกหูรกตาเขาเป็นบ้าก็ตาม

    ฮิดากะเกลียดความเย่อหยิ่งของเซย์เร็นยิ่งกว่าอะไร เกลียดเธอยิ่งกว่าใครคนไหนที่ได้เคยพานพบเบนโลกใบนี้ ต่อให้เธอจะมองเห็นความเสแสร้งแกล้งทำของเขาก็ช่างปะไร เพราะอย่างน้อยๆ ครอบครัวก็มองเห็นเขาเป็นพี่ชายแบบอย่างให้กับน้องสาวที่ไม่เอาไหน เพื่อนๆ และคุณครูก็มองเห็นเขาเป็นเทวดาจิตใจอ่อนโยนที่แตกต่างจากยัยปีศาจอวดดีอย่างเธอราวหัวก้อยบนเหรียญเดียวกัน

     

    ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซย์เร็นดำเนินเดินไปในแบบนั้น และฮิดากะก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่แปรเปลี่ยน

    ถ้าไม่ใช่เพราะเขาจะบังเอิญได้เห็นเซย์เร็นจากอีกฝั่งถนนในตอนที่แวะร้านหนังสือก่อนกลับบ้าน ทั้งที่เข้าเทอมสองแล้ว แต่ฮิดากะก็ยังไม่เคยเห็นเธอสุงสิงกับใครในโรงเรียน นอกจากคุณครูแล้วก็แทบไม่เคยเปิดปากพูดกับเพื่อนในห้องคนไหนเลยด้วยซ้ำถ้าไม่จำเป็น แต่เด็กสาวผู้เย่อหยิ่งคนนั้นกลับกำลังหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับเด็กนักเรียนชายต่างห้องที่ชื่อโอกาซากิ โคทาโร่ คนที่ฮิดากะเคยรู้จักในฐานะเพื่อนร่วมห้องปีสุดท้ายสมัยอยู่ชั้นมัธยมต้น ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะสนิทสนมอะไรด้วย และจะยิ่งเหินห่างขึ้นไปอีกเมื่อพวกเขาถูกแยกห้องกันตอนขึ้นชั้นมัธยมปลาย ฮิดากะจดจำบทสนทนาที่เพื่อนในกลุ่มเคยหยิบยกขึ้นมาได้ว่าพ่อกับแม่ของโคทาโร่ฆ่าตัวตายเมื่อหนึ่งปีก่อนแล้วทิ้งลูกชายอายุสิบหกเอาไว้ลำพัง เพราะอย่างนั้นโคทาโร่ก็เลยเป็นคนเดียวในโรงเรียนที่ได้รับสิทธิพิเศษจากครูใหญ่และอยู่นอกเหนือกฎข้อห้ามใดๆ อย่างเช่นการถ่ายแบบและทำงานพิเศษ หนึ่งในนั้นคือร้านซีดีที่ฮิดากะเห็นพวกเขากำลังเดินออกมาด้วยกัน และพนักงานไลฟ์เฮาส์เดียวกับที่เซย์เร็นเคยแอบหนีออกไปดู

    สิ่งที่ฮิดากะรู้สึกอยู่ในตอนนี้มีแต่ความพิศวง เหมือนเขากำลังมองดูภาพลวงตาหรือไม่ก็ภาพบนจอสี่เหลี่ยมที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เขาแทบไม่ได้กะพริบตาเลยด้วยซ้ำในตอนที่มองดูเซย์เร็นถูกผู้ชายตัวใหญ่วิ่งทะเล่อทะล่าเข้าใส่จนทำให้เธอล้มลงไปกองกับพื้นถนน ตามด้วยโคทาโร่ที่ยื่นมือออกไปให้จับแล้วช่วยประคองร่างปวกเปียกขึ้นมานั่งตรงขอบทาง ก่อนนั่งยองลงไปเพื่อดูบาดแผลบนเข่าที่เขาไม่เห็นว่ามันร้ายแรงแค่ไหน แต่ก็คงไม่ใช่น้อยๆ ถึงได้เปลี่ยนไปหันหลังให้เธอขึ้นขี่ ตลอดเวลาเหล่านั้น เซย์เร็นไม่ได้แสดงความเกี่ยงงอนออกมาเลยสักครั้งและยอมรับความช่วยเหลือจากเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างว่าง่าย ไม่เหมือนอย่างที่เธอแสดงออกกับเขา...หรือกับทุกคนบนโลกเลยสักนิด

    ความคิดถึงเรื่องที่ว่าคนอวดดีแบบนั้นแท้จริงก็มีแง่มุมแบบเด็กสาวธรรมดา หากเลือกที่จะแสดงออกกับเด็กผู้ชายคนอื่นที่ด้อยกว่าเขาทุกประการ ก็จะทำให้ฮิดากะบังเกิดความรู้สึกอันแรงกล้าขึ้นมา

     

    เข่าของเซย์เร็นถูกปิดด้วยผ้าก๊อซเรียบร้อยแล้วในตอนที่กลับมาถึงบ้าน วันนี้พ่อกับแม่ที่ทำงานบริษัทเดียวกันต้องอยู่ทำโอที ล่วงเลยถึงเกือบสี่ทุ่มเข้าไปแล้วก็ยังไม่ได้กลับบ้าน ขณะที่คุณฮานาโยะเลิกสนใจเรื่องลูกสาวในไส้ของตัวเองไปแล้ว พ่อของเขาก็ยังอดเป็นห่วงลูกเลี้ยงที่ไม่เห็นหัวใครไม่ได้และฝากฝังให้เขาช่วยดูแลความเป็นอยู่ของเธอหน่อย แน่นอนว่าฮิดากะก็แค่ทำทีเป็นรับปากไปอย่างนั้น เมื่อเรื่องของเซย์เร็นไม่ใช่กงการอะไรของเขาอีกต่อไป

    แต่อย่างน้อยตอนนี้มันก็ใช่ หลังจากที่เขาได้เห็นเหตุการณ์ระหว่างเธอกับเด็กผู้ชายคนอื่นตั้งแต่เมื่อสองชั่วโมงก่อน พร้อมกับความรู้สึกที่เขาเองก็อธิบายไม่ได้ว่าคืออะไรซึ่งยังคงติดค้างอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีกเมื่อได้ยืนประจันหน้ากับเธออย่างในตอนนี้ เขารีบเปิดประตูออกมาจากห้องริมบันไดทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูบ้าน แล้วหยุดฝีก้าวบนขั้นบันไดห่างจากเซย์เร็นที่พยายามเดินกะโผลกกะเผลกขึ้นมา

    “ให้ช่วยไหม?” คือประโยคแสดงความเป็นห่วงแรกที่มาจากใจจริงของเขาหลังจากการแตกหัก ทั้งอย่างนั้นสีหน้าของเซย์เร็นที่แหงนเงยมองก็ยังคงเฉยชา

    “ไม่ต้อง”

    ฮิดากะรู้สึกได้ว่ามุมริมฝีปากของเขากระตุก “ทำไม? เพราะฉันไม่ใช่โอกาซากิเหรอ?” ที่เซย์เร็นก็จะสวนย้อนกลับมาเพียงแค่ว่า “ใช่” โดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาไปรู้เรื่องนั้นได้ยังไง

    “นี่เธอชอบมันมากขนาดเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองได้เลยเหรอ?”

    “อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเสแสร้งแกล้งทำหมือนตัวเองไปหมดสิ ฮิดากะ นายไม่ได้รู้จักฉันเลยสักนิดจะมารู้ดีอะไร อีกอย่างนะ นายไม่ต้องอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของฉันจนฝืนทำดีกับฉันแบบนี้ก็ได้”

    ฮิดากะเกลียดรอยยิ้มเยาะหยันของเธอ เกลียดคำพูดยอกย้อนของเธอ เกลียดสายตาทิ่มแทงของเธอ เกลียดทุกอย่างที่เป็นฮางิวาระ เซย์เร็น และความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ในอกก็ทะลักทลายออกมาผ่านฝ่ามือที่เขาผลักเธอตกลงไป

    โชคดีที่เธอเพิ่งจะเดินขึ้นมาได้แค่สามขั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเลยมีแค่เสียงดังโครมครามกับร่างแบบบางที่ร่วงหล่นลงไป เป็นตอนนั้นเองที่สติของฮิดากะหวนกลับคืนมาก่อนรีบวิ่งลงไปหาเธอด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เลือดสีแดงไหลซึมออกมาจากผ้าก๊อซที่เข่าเพราะแรงกระแทกตรงจุดเดิม ดูเหมือนว่าข้อเท้าอาจพลิกด้วยเพราะเธอนิ่วหน้าตอนพยายามจะขยับตัว ทั้งอย่างนั้นเซย์เร็นก็ยังปัดมือของเขาที่ยื่นมาให้ออกไป แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่กดกลั้นเอาไว้ไม่ให้สั่น ใบหน้าขาวของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ อาจมาจากความเจ็บ หรือไม่ก็ความโกรธที่คงมีมากกว่าว่า “ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือหรือความห่วงใยอะไรทั้งนั้นจากนาย และฉันจะไม่บอกใครด้วยว่านายเป็นคนทำแบบนี้กับฉัน แต่นับจากนี้ไปไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันอีก” ก่อนที่เธอจะกัดฟันยันตัวเองลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก

    ฮิดากะอดทึ่งใจไม่ได้กับความอดกลั้นในระดับดีเยี่ยมของเธอ เพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีน้ำตาไหลหลั่งลงมาสักหยดนอกจากฝืนให้มันขังคลออยู่ที่ขอบตา แต่ในเมื่อเขาคือต้นเหตุให้เธอต้องเจ็บตัว ฮิดากะจึงเมินเฉยต่อคำพูดเยือกเย็นนั้นแล้วปราดเข้าไปจับแขนข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดคอโดยไม่ฟังเสียงห้าม ครั้นช่วยพยุงไปนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขกใกล้ๆ แล้วก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นไม่ได้ต่างอะไรกันว่า “ไม่ต้องห่วง เซย์เร็น เสร็จเรื่องนี้เมื่อไหร่ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเธออีก” ก่อนที่จะผลุบหายไปโทรศัพท์เรียกรถแท็กซี่ให้มารับพวกเขาไปโรงพยาบาล

    แล้วสองพี่น้องก็ปฏิบัติต่อกันราวอากาศธาตุนับตั้งแต่นั้น

     

    คุราโน่ มินาเระคือเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่สุดในชั้นปี — หรืออาจจะในโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ — ที่ทุกคนต่างพากันลงความเห็น แต่ฮิดากะก็ไม่ได้ให้ความสนใจต่อเรื่องของเด็กสาวที่อยู่ต่างห้องซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจมากไปกว่านั้น

    กระทั่งวันหนึ่งที่เขาต้องอยู่เย็นเพราะมีประชุมคณะกรรมการนักเรียน ใช่ว่าฮิดากะเป็นพวกชอบสอดรู้ แต่คำพูดด่าทอระคนไปกับเสียงหัวเราะเยาะหยันที่ดังมาจากห้องน้ำหญิงก็ฟังชัดเจนราวกับเหตุการณ์กำลังดำเนินอยู่ตรงหน้า จริงอยู่ที่เขาจะปล่อยผ่านเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองเลยสักนิดไปก็ได้ แต่เป็นเพราะมโนธรรมเต็มเปี่ยมที่ไม่ได้เสแสร้ง ฮิดากะจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปตะโกนว่า

    “ทำอะไรกันอยู่น่ะ!”

    มื่อนั้น เด็กผู้หญิงต่างห้องสามคนที่เขาไม่รู้จักชื่อก็จะรีบหันขวับมองมา พร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือดลงไปเมื่อได้เห็นว่าเป็นใคร ครั้นพวกหล่อนรีบก้มหน้าก้มตาวิ่งผ่านเขาออกไปแล้ว ฮิดากะก็วิ่งปราดเข้าไปหาคนที่นั่งแประอยู่บนพื้น เนื้อตัวของเด็กสาวที่ฮิดากะได้เห็นว่าเป็นคุราโน่เมื่อเธอแหงนเงยเปียกชุ่มไปด้วยน้ำจากถังที่ถูกสาดเข้าใส่

    “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

    คำพูดขอบคุณซ้ำไปซ้ำมาของเธอฟังขาดหายเป็นห้วงๆ เพราะน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าสีแดงก่ำ และในวินาทีที่เธอตอบรับจับกระชับฝ่ามือที่เขายื่นออกไป ความรู้สึกบางอย่างข้างในอกของฮิดากะก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนที่มันจะชัดเจนแจ่มแจ้งที่สุดเมื่อเขาได้โอบกอดร่างที่อ่อนแอและเปราะบางเอาไว้ในอ้อมแขน หลังจากที่เขาพาเธอมาเช็ดหน้าเช็ดตัวแล้วเปลี่ยนเป็นชุดวอร์มที่ห้องพยาบาล

    “คุณคุราโน่พึ่งพาฉันได้นะ” ฮิดากะพร่ำกระซิบคำปลอบประโลมอยู่แทบใบหูของเธอ “พึ่งพาฉันสิ ขอร้องฉันเลย จะมากกว่านี้ก็ได้” และอีกครั้งที่เมื่อเธอตอบรับความช่วยเหลือของเขาด้วยมือที่กอดรัด ด้วยน้ำเสียงแผ่วผิวซึ่งเอ่ยถ้อยคำที่เขาอยากได้ยินมาตลอดว่า “ได้โปรด” ในที่สุดฮิดากะจึงได้เข้าใจ

    ทำไมเขาถึงได้โง่งมงายกับการพยายามมอบความจริงใจให้คนที่ไม่เห็นค่าทั้งที่ยังมีใครอื่นที่ยินยอมพร้อมรับมันอยู่ แล้วหัวใจที่เคยชืดชาของฮิดากะก็กลับมาเต้นเป็นจังหวะได้อีกครั้ง ขณะที่เขามอบความอบอุ่นให้แก่เลือดเนื้อที่เยียบเย็นของเธอ ผ่านริมฝีปากอันรุมร้อนซึ่งกดประทับจูบลงไปอย่างแนบแน่น











    2024年05月28日
    _______________
     ขอพื้นที่ให้กูหวีดหน่อยว่าเป็นเพราะวันนี้ปล่อยภาพวิชวลของไทโชในนิวซีส์แล้วว! ตอนแรกก็กะจะเอาอาฟเตอร์ดาร์ค (เศษๆ) มาลงฉลอง แต่ก็คิดว่าเฮ้ย! รอก่อนไหม! เผื่อบีทูบจะเอาไลฟ์นี้มาลง เหมือนที่ไฮไฮยังลงเพลงใหม่ในคอนฯเลย เพราะอะไรทำไมต้องเป็นเรื่องอาฟเตอร์ดาร์คน่ะเหรอ ก็เพราะเพลงมาโฮฯมันคือแนวแจ๊ซยังไงล่ะ! >_< บอกเลยว่ายังไงกูก็จะต้องแต่งฟิคจากเพลงนี้ให้ได้ เพราะอยากคอมพลีตการแต่งฟิค (หรือแค่คิดพล็อตก็ยังดี) จากเพลงของบชนที่ชอบให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้ไม่มาเสียดายทีหลังเหมือนสมัยทราวิส เห้ออ เพลงออริสมัยโน้นกับเพลงที่คัฟเวอร์รุ่นพี่มากมายนับล้าน โทคิเมคิกับอินเตอร์แอคชั่นแนลคือที่สุดแล้วแม่มึง Orz แต่อวดหน่อยว่ากูแต่งฟิคจากเพลงฟลิคกี้ได้แล้วแหละ ฮี่ๆๆ แค่มันเป็นเศษฟิคเลยยังไม่เอาลงเตื้อ อายเค้า (เหรอวะ) / และบันทึกไว้เลยว่าวันนี้เป็นวันที่กูได้ดู Tomodachi Game R4 ของบชนล้วน (+การิมิซึกิ) ที่กูนั่งยิ้มเพราะอุกิโชหล่อจัง บทก็เบียวจังแม่จ๋า เขินมาก ดูไปยิ้มไป อายมึงนิดๆ แต่บ้าจริง ทำไมเราหยุดยิ้มไม่ได้เลย (อย่าบอกว่าทำไมไม่ยิ้มกับเมนกูก็ดูบทไทโชเอาเอง -_-ก็เลยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มานั่งเกลาฟิคนี้แหละ ที่ก็บังเอิญมากว่าฉากอุกิโชผลักมาเรียเหมือนที่กูแต่งให้ผลักเซย์เร็นเปี๊ยบ! อู้หูวว ขนลุกมากแม่!
     เพราะอย่างที่ได้เคยเล่าที่มาที่ไปของฟิคเรื่องนี้ในหน้าคาแรกฯ เลยต้องให้อุกิโชพูดคำนั้นด้วยจ้ะ / ว่าไปกูเพิ่งมึ๊งว่านางเอกกูเป็นน้องแท้บ้างไม่แท้บ้างกับอุกิโชหลายเรื่องจังวะ มันเป็นอะไรไหนบอกหมอซิ เล่าเลยเพราะกูไม่อายว่าตอนแรกตั้งใจแต่งให้อุกิโชเกลียดเซย์เร็นจริง ไม่ญาติดี! ไม่เผาผี! จากนี้จะไม่ข้องเกี่ยวกันอีก! แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้เผาได้แล้ว บทมาแบบนี้เดี๋ยวกูแต่งให้ยิ่งเกลียดเธอยิ่งเจอรักเองจ้าา (ล้อเล่น ไม่เจอหรอก >_< แต่ก็อาจแอบเจอ >_< เอ๊ะๆๆ ยังไงกันน้า /มึงด่าว่าตอแหล แม่มึง) / ฉากโรงเรียนห้ามไปเที่ยวช่วงสอบเป็นเพราะกูนึกถึงสมัยที่เราเรียนรร.หญิงล้วนว่ามันเคยมีกฎแบบนี้ห้ามจริงๆ นะเว้ย! จำได้! ส่วนฉากครูปกครองได้มาจากเรื่องโอเทลโล่อ่ะมึง จำได้ไหม ยายะกับนานะ เรื่องแนววงดนตรี โกสโลลิ อะไรไม่รู้ กูตะบ้า / เซ็ตติ้งในเรื่องอยู่ที่ราวๆ ~2010 เพราะมีความทันสมัยอยู่ แต่ก็ไม่มากเกินไป กึ่งๆ กลางๆ กูไม่ชอบความยุคสองพันแบบมึงว่ะ เกิดไม่ทัน (หมายถึงพระเอกทุกคนในเรื่องยกเว้นโยชิอ่ะเกิดไม่ทัน) แต่กูจะใช้เพลงอะไร ปีไหน ชาติไหน ก็ขออนุญาตตามใจ ไม่เคยแคร์อะไรนอกจากแคร์แบร์
     ขอขอบคุณชิกุเระสำหรับชื่อตอนและเพลงประกอบที่ใช้ซ้ำใช้ซากจังโว้ยย! แต่ก็จะใช้อีก เพราะชื่อตอนเข้ากับสตอรี่นี้สุดแล้ว ส่วนเพลงประกอบนี่กูก็ไม่รู้ว่าไปติดใจอะไรนักหนา ทั้งที่ก็ไม่ได้ชอบอะไรมาก Orz แต่ก็กลับมาอีกแล้วหลังจากเอสโอเอส ที่กูชอบพล็อตนาสุในเรื่องนั้นมากกว่า ตอนแต่งเรื่องนั้นก็สนุกกว่า แต่ลงพล็อตคนอื่นไม่ได้เลยไม่ได้ไปต่อ ไทเสกูก็บ่าอยู่แล้วโตยบ่ะ ฮ่าๆๆ เอาจริงนะ ฟีลเรื่องนี้แม่งคือเพอร์เฟคฯ สมัยอุมิเก็นจริง มันก็ดีแหละ (สำหรับกู) แต่รู้สึกว่าไปไม่สุดสักทาง ตอนแต่งอ่ะเพลินแต่ตอนเกลาตอนอ่านซ้ำโคตรจะยม อย่างที่บอกว่ามันคือฟิคคั่นเวลา แต่งก็ได้ไม่แต่งดีกว่า แต่ตอนนี้แต่งตอนของมินาเระเกือบจบแล้ว รอต่อของมิจิเอดะ โยชิไม่แน่ใจว่าจะมีไหม แต่ยังไงก็ต้องแต่งของไทโชให้ได้ก่อนถึงจะเท เอ้า! แล้วมันคั่นเวลาตรงไหนบ่ะนิ!
     ปล. ทำไมเดี๋ยวนี้กูแต่งแนวดาร์กแนววิชวลเคย์ไม่ได้แล้วว่ะ งงมากๆ ไม่เข้าใจมากๆ

    2024年06月27日
    _______________
     รวดมาเปลี่ยนเป็นเพลงของเกลย์ที่กูชอบ (และฮิซาชิเป็นคนแต่ง ว้าวว) เพราะอุกิโชบอกว่าลุงเป็น big fan ของเกลย์ อยากสนิทด้วย เพื่อนๆ ก็เลยยุให้ไปสนิทเลย 55555 ซึ่งกูมั่นใจว่าได้สนิทกันแน่เพราะเดือนหน้าบชนจะได้ไปแสดงงานดนตรีในสวน (ชื่อ park อะไรสักอย่างที่กูจำไม่ได้) ที่เกลย์ก็ไป! คุณคิดเอาว่าวงยังไม่เดด้วยนะ! บ้าบอที่สุด! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีสตาร์โตะที่ฟังเกลย์เหมือนกู...นอกจากเมกุโระ เร็น TvT
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×