คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #53 : CALENDULA REQUIEM ✣ III. The Scenery Of Tomorrow (35% วังไวกุรบ่)
เป็นเพราะคำประกาศก้องอย่างกระตือรือร้นของนาโอกิบนโต๊ะอาหารที่ว่า “สุดสัปดาห์นี้เราจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับสองสมาชิกใหม่ของชูเอ็นกัน!” หลังจากเสร็จสิ้นการรับประทานมื้อเช้ามื้อแรก ที่แม้ว่าจะเป็นเพียงข้าวต้มปลาง่ายๆ แต่ก็แสนโอชายิ่งกว่าอาหารซ้ำซากไร้รสชาติในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่โทคิเนะกับริไอจรจากมา จนทำให้ต่างก็เจริญอาหารกันมาก แล้วต่อด้วยการเดินเยี่ยมชมคฤหาสน์กับนาโอกิที่เปลี่ยนบทบาทมาเป็นไกด์จำเป็น หากก็ก็ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวนักเพราะเขาเอาแต่ติดเล่นอยู่เรื่อย เลยเรียกได้แต่เสียงหัวเราะครื้นเครงเสียมากกว่า โชคดีที่มีฮิดากะมาช่วยเบรกไว้และบอกเล่าเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ของคฤหาสน์ในฐานะผู้รักษาการแทนลูกชายเจ้าของบ้านซึ่งกลับขึ้นไปข้างบนกับน้องสาวแล้ว ขณะที่ยูโตะก็แยกตัวออกไปจัดการกับธุระส่วนตัวนอกเมือง
ด้วยพื้นที่คฤหาสน์ซึ่งโอ่อ่ากว้างขวางมาก บ่อยครั้งที่นาโอกิจะชี้ชวนให้หยุดแวะดูงานศิลปะแล้วหยิบเรื่องโน้นนี้มาสนทนาอย่างไม่รู้เบื่อ การเดินเยี่ยมชมคฤหาสน์ — ซึ่งก็ไม่ได้ถ้วนทั่วเลยด้วยซ้ำ — จึงกินเวลายาวนานถึงกว่าสองชั่วโมง ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือสมาชิกใหม่ยังไม่สามารถจดจำเส้นทางที่ดูเหมือนจะคล้ายกันไปหมดได้ทันทีในชั่วข้ามวัน แต่ทั้งนาโอกิและฮิดากะก็ช่วยยืนยันให้แน่ใจว่าพวกเธอสามารถพึ่งพาหนุ่มๆ ทุกคนได้เสมอหากมีปัญหาอะไรที่นี่
และทั้งที่เรื่องงานเลี้ยงดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรของพวกเธอเลย แต่โทคิเนะกับริไอก็จะถูกสองหนุ่มเจ้ากี้เจ้าการจับตัวขึ้นรถแล้วพาเข้าเมืองเพื่อไปตัดชุดราตรีตัวใหม่ ไม่ว่าพวกเธอจะพยายามช่วยกันปฏิเสธด้วยความเกรงอกเกรงใจแล้วก็ตามที
“ไม่ได้สิ! งานนี้ทั้งสองคนคือดาวเด่นนะ!” นาโอกิท้วง “อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้โทคิเนะจังกับริไอจังคือสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการของชูเอ็นแล้ว ต่อไปนี้พวกเธอมีสิทธิ์ทุกอย่างเทียบเท่ากับลูกสาวคนหนึ่ง ไม่เหมือนฉันกับฮิดากะที่เป็นแขกของเจ้าบ้านชั่วคราว เพราะฉะนั้นทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม?”
นาโอกิอาจพูดออกมาได้ง่ายๆ แต่การทำแบบนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสำหรับเด็กสาวที่ได้แต่หันมองหน้ากันแบบเกร็งๆ
เมื่อนั้น ฮิดากะเลยเอ่ยเสริมคำพูดของเพื่อนสนิทกลั้วไปกับเสียงหัวเราะว่า
“ไทโชฝากให้เราดูแลพวกเธอเป็นอย่างดีแล้ว ใครมันจะกล้าขัดลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ได้ลงล่ะ”
“ไท...เอ่อ คุณชายอิวาซากิเป็นคนไม่ค่อยพูดแบบนี้ตลอดเหรอคะ?”
“เรียกไทโชเถอะ ทุกคนที่นี่ก็เรียกแบบนั้นกันทั้งนั้น”
ฮิดากะที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยเหลือบตาขึ้นมาสบกับโทคิเนะผ่านกระจกมองหลังแล้วยิ้มให้เหมือนกับว่าเขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับไทโชเมื่อคืนวานนี้ ไม่ว่าจะด้วยอะไรหรือได้อย่างไร หากนั่นก็จะทำให้ใบหน้าของเด็กสาวร้อนเห่อขึ้นมาจนต้องรีบหลุบลง
“ถึงมันอาจจะดูน่ากลัวไปบ้างเพราะท่าทางไม่ค่อยจะเป็นมิตร แต่ความจริงแล้วไม่มีอะไรหรอก อยู่ๆ ไปเดี๋ยวพวกเธอก็ได้รู้เองนั่นแหละ” ฮิดากะที่ขยับสายตากลับไปมองดูท้องถนนแล้วเอ่ยต่อ “ฉันจะสอนอะไรให้สักเรื่องนะ ริไอ โทคิเนะ คนที่ฉากหน้าพูดดีทำดีกับเรา แท้จริงแล้วอาจพร้อมแทงข้างหลังเราถ้าไม่ระวังตัวก็ได้”
“ที่พูดนั่นหมายถึงเราสองคนหรือเปล่า?”
“นายคนเดียวเลย นาโอกิ ขืนทำอะไรให้สมาชิกใหม่เตลิดเข้า มีหวังได้โดนดาบแทงทะลุเข้าหัวใจ”
“งั้นฉันก็จะฝากหัวใจเอาไว้ที่โทคิเนะจังกับริไอจังก่อน”
คำพูดโต้ตอบกันของสองหนุ่มที่พาดพิงมาถึงสองสาวที่นั่งฟังบทสนทนาด้วยความตั้งอกตั้งใจอยู่บนเบาะหลัง พลันเรียกเอาเสียงหัวเราะขบขันและความเบิกบานใจอย่างที่นาโอกิทำได้ดีเยี่ยมทั่วทั้งคันรถไปตลอดเส้นทาง
_______________
ความคิดเห็น