ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #262 : NEON/NIGHT/CITY: TROUBLED PARADISE (40% ยินดีกับรางวัลโคอิบิโตะนิชิไตที่ห้าด้วยจ้าาา)

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 67


    TROUBLED PARADISE
    Inspiration: Grand Theft Auto V (Video Game, 2013) & Cyberpunk 2077 (Video Game, 2020)
    Playlist: ODD EYE CIRCLE – Love Me Like / ODD EYE CIRCLE – Uncover












    .

    ความตื่นเต้นดีใจของการได้กลับมายังคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เธออุตส่าห์ตั้งตารอการนัดพบกับสมาชิกครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งหมดอีกครั้งในรอบสองปี ถึงขนาดรีบจับเครื่องบิน ยอมละทิ้งการเที่ยวเล่นยังเกาะสวรรค์ในเขตร้อนอันแสนเพลิดเพลิน แต่ทว่าบัดนี้ มันกำลังทำให้ทาเคียว ริไอ รู้สึกหงุดหงิดดิ้นพล่านด้วยเหตุผลมากมายอย่างเช่นว่า

    หนึ่ง...การต้องได้มาเห็นหน้าศัตรูคู่อาฆาตอย่างยัยทามูระ โทคิเนะ คนที่เอาแต่พล่ามพูดอยู่นั่นว่าพอเรียนจบแล้วจะไม่กลับมาเป็นภาระของมาดามทสึรุโกะอีก แต่พอถึงเวลานั้นเข้าจริงๆ หล่อนก็กลับมายืนสลอนรอต้อนรับแขกด้วยสีหน้าระรื่นชวนให้หมั่นไส้อยู่กับมาดามและชายหนุ่มตัวสูงมากที่เธอคงต้องนับรวมญาติเข้าไปด้วย แม้ว่าอิวาซากิ ไทโชจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับแม่บุญธรรมหรือพ่อเลี้ยงของพวกเธอ หากพวกท่านก็ให้ความรักความเมตตาไม่ต่างอะไรจากลูกชายแท้ๆ เหมือนกับสมาชิกคนอื่นในคฤหาสน์ ลงลึกให้ชัดไปกว่านั้นก็คือเหตุผลที่ยัยโทคิเนะยอมกลืนน้ำลายตัวเองกลับมาอยู่ที่นี่ ริไอไม่รู้จริงๆ ว่าเธอพลาดไปตรงไหนถึงได้มองไม่เห็นความสัมพันธ์ของพวกเขา ทั้งที่ตอนนั้นเธอออกจะตัวติดกับไทโช เหมือนที่ยัยโทคิเนะก็ตัวติดกับไครุตลอดทั้งสัปดาห์ กระทั่งถึงช่วงเวลาที่ต่างต้องแยกย้ายกันไป แต่แม้ว่าสองคนนั้นจะแสดงออกด้วยความคลุมเครือแค่ไหน เธอที่รู้จักยัยโทคิเนะมาเกินกว่าครึ่งชีวิตก็ย่อมต้องดูออก

    สอง...การต้องทนเห็นพี่ชายไม่แท้ที่เธอทั้งรักทั้งชังเป็นบ้าอย่างอุกิโช ฮิดากะ ควงคู่มากับคุซึโนเสะ อาซึฮะ แฟนสาวคนเดิมกับคราวก่อน (เว้นก็แต่ผมสีเงินที่ต่างไปจากคราวก่อน) และอีกไม่นานคงจะได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นพี่สะใภ้อย่างที่มาดามเย้าหยอก กระนั้นมันก็เป็นดั่งชนวนที่จุดไฟริษยาให้กับริไอมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบหน้า ที่ซ้ำร้ายคือเธอใช้ไทโชเป็นเครื่องมือประชดประชันเขาไม่ได้แล้วเพราะไม่อยากเปิดศึกให้โดนยัยโทคิเนะมาแหวกอก เมื่อลำพังเรื่องของฮิดากะก็ทำให้เธอหนักอกพออยู่แล้ว ริไอจึงต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับความรู้สึกหลายหลากที่ประดังประเดเข้ามา มากถึงขนาดที่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถปิดบังรอยยิ้มเยาะเย้ยหรือคำพูดเหยียดหยันต่อหน้าอาซึฮะผู้ได้แต่ทำหน้าเจื่อน ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรให้น้องสาวของคนรักไม่พอใจหรือเปล่าได้อีกต่อไป

    แต่ทั้งหมดเหล่านั้นยังไม่เท่ากับ สาม...เหตุการณ์ที่เธอเพิ่งได้ประจักษ์แจ้งกับตา ความจริงที่เธอเพิ่งได้กระจ่างแจ้งกับหู ทั้งที่ไม่ควรมีเรื่องราวอะไรของผู้ชายที่เธอรักและผู้หญิงที่เธอเกลียดที่ริไอจะไม่รู้

     

    แต่ริไอก็ได้รู้เรื่องนั้นเป็นครั้งแรกในตอนดึกคืนหนึ่ง เพราะเอาแต่คิดเรื่อยเปื่อยมาหลายวันติดจนสมองหนักอึ้งไปหมด เธอเลยตั้งใจว่าจะออกไปสูดอากาศเย็นสบายเพื่อเคลียร์หัวให้โล่งที่ระเบียง ก่อนน้ำเสียงที่แสดงความข่มกลั้นของฮิดากะจะเรียกให้ริไอชักฝีก้าวกลับมา เปลี่ยนไปยืนแนบตัวกับกำแพงแล้วชะโงกมองดูสองพี่น้องที่ยืนสนทนากัน โดยไม่ทันได้เอะใจเลยแม้แต่น้อยว่ามีใครอีกคนกำลังแอบสอดรู้อยู่ไม่ห่าง

    “เธอคบกับไอ้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้านั่นอยู่เหรอ โทคิเนะ?”

    “ถ้าไทโชไม่มีหัวนอนปลายเท้า ฉันก็ไม่มีเหมือนกันนั่นแหละ” โทคิเนะโต้กลับไปด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น เช่นเดียวกับสีหน้าเรียบเฉยที่นิ่งสนิท บ่งบอกให้รู้ว่าหล่อนกำลังไม่พอใจกับคำพูดของเขาเป็นอย่างมาก

    แต่อีกฝ่ายก็หาได้ใส่ใจ เมื่อเอ่ยต่อไปอย่างไม่ยี่หระว่า

    “ใช่ว่าเธอไม่มีทางเลือกนะ”

    ฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ ต่อให้ฉันจะเลือกใครก็ไม่ใช่กงการอะไรของพี่ อีกอย่างนะ ถ้าพูดถึงคนอื่นดีๆ ไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดซะยังดีกว่า”

    “ทำไมโตแล้วถึงได้ดื้อด้านแบบนี้นะ โทคิเนะ!

    และเมื่อฮิดากะเริ่มขึ้นเสียงดังอย่างอดไม่อยู่ โทคิเนะก็ตัดสินใจไม่ยั้งปากตัวเองเอาไว้อีกต่อไปเช่นกัน

    “โอ๊ย น่ารำคาญ! เอาเวลาไปปกป้องแฟนตัวเองจากยัยริไอก่อนมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องของฉันเหอะ!

    “ที่พูดนี่เพราะพี่เป็นห่วงเธอหรอกนะ!

    “ห่วงหรืออิจฉาเค้ากันแน่?โทคิเนะยกยิ้มมุมปากเป็นเชิงเหยียดหยัน “ในเมื่อไทโชทั้งเป็นลูกรักของพ่อกับแม่ หมายถึงแม่แท้ๆ ของพี่น่ะนะ แถมยังนิสัยดี เล่นเปียโนก็เก่ง...”

    คงเป็นเพราะว่าเขาไม่อยากทนฟังคำเยินยอแสลงหูถึงสมาชิกที่ไม่ชอบหน้าที่สุดจากปากของน้องสาวคนที่ชอบที่สุดได้อีกต่อไป ถึงได้โพล่งแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือดดาลอย่างที่ยากจะได้ยินแม้ในตอนที่โกรธเธอว่า “ดีเหรอโทคิเนะ! เธอพูดคำงี่เง่านั่นออกมาได้ยังไง! โดนความหลงบังตาไปหมดแล้วเหรอถึงได้หน้ามืดตามัวมองไม่เห็นความจริง! ก็ไม่ใช่เพราะไอ้หมอนั่นหรือไงที่ทำให้เธอเถียงคำไม่ตกฟากกับพี่อยู่แบบนี้น่ะ!” แล้วย่ำฝีก้าวเข้าหาโทคิเนะที่จ้องสบโดยไม่คิดจะหลบราวกับท้าทาย ความใกล้ชิดขนาดนั้นมากพอที่จะทำให้ริไอตัดสินใจว่าถึงเวลายุติการกระทำลับๆ ล่อๆ ของตัวเอง รีบเดินออกไปเลื่อนบานประตูเปิดเสียงดังปึงปังเพื่อเรียกความสนใจจากคนทั้งสองที่จะรีบหันขวับมามองด้วยความพร้อมเพรียง กระนั้นก็หาได้มีใครกระวีกระวาดรีบขยับตัวแยกห่างออกจากกัน

    ผิดกับริไอที่แสร้งทำสีหน้าตกอกตกใจ ยกมือขึ้นปิดริมฝีปากที่อ้าค้างแล้วว่า

    “ตายแล้ว! โทคิเนะ! ฮิดากะ! แอบมาทำอะไรกันสองคนตอนดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้เนี่ย! แต่โชคดีไปนะที่เป็นฉัน ถ้าไทโชกับคุณอาซึฮะมาเห็นภาพแบบนี้เข้ามีหวังเป็นเรื่องแน่เลย!

    ริไอคิดว่ายัยโทคิเนะอาจจะพูดแดกดันประชดประชันเธอสักอย่างเหมือนกับที่เป็นมาตลอด หากหล่อนก็จะเพียงเดินคอเชิดจากไป ไม่มีแม้แต่คำบอกลาหรือราตรีสวัสดิ์กับใครในที่นี้ทั้งนั้น ครั้นเมื่อริไอหันกลับมาหาฮิดากะซึ่งยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง เธอก็จะเปล่งเสียงหัวเราะขบขันออกมา “โธ่ๆๆ ห่วงหรือหวงยัยโทคิเนะกันแน่?” เลียนแบบประโยคคำพูดของคนที่ถูกพาดพิดถึงด้วยสิ่งที่เธอเพิ่งได้แน่ใจ

    “เลิกสอดรู้สอดเห็นเรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเองเถอะ ริไอ”

    ขณะที่สีหน้าของฮิดากะก็ไม่ปิดบังความรำคาญใจต่อน้องสาว...ที่เขาไม่เคยสนใจใยดีในฐานะน้องสาวอีกคนหนึ่งเหมือนอย่างคนที่เพิ่งเดินจากไป กระนั้นริไอก็หาได้ใส่ใจเมื่อแสร้งเอียงคอถามไปว่า

    “แล้วไม่คิดว่าเป็นเรื่องของไทโชกับคุณอาซึฮะเหรอ? จะเป็นยังไงน้าถ้าเกิดพวกเขารู้ว่านายชอบยัยโทคิ...”

    ทันใดนั้นเอง ริไอก็จะรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบที่ไหล่ข้างหนึ่งซึ่งเขาเดินมากระชากเหวี่ยงเอาร่างผอมบางของเธอเข้ากับผนังจนแผ่นหลังปวดระบมไปด้วย จากนั้นก็กดบีบมันลงไปให้รู้ซึ้งถึงเนื้อหนังข้างใต้ด้วยความตั้งใจที่ไม่ทอนแรง

    “ก็เอาเลยสิ! ป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ไปเลย! ฉันเองก็อยากรู้นักว่าใครมันจะไปเชื่อเด็กนิสัยเสียที่ชอบหาเรื่องคนอื่นแถมพยายามจับฉันให้ได้อย่างเธอ!”

    ความตื่นเต้นพลันแล่นปราดเข้ามาจากความเกรี้ยวกราดรุนแรงที่ริไอไม่เคยได้พานพบมาก่อนตลอดครึ่งชีวิตที่ได้รู้จักกับผู้ชายคนนี้ ราวกับไฟฟ้าสถิตพลุ่งพล่านไปทั่วร่างและต้องการการถ่ายเท ทว่าการแลกเปลี่ยนผ่านริมฝีปากหรืออวัยวะส่วนใดก็ตามเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่เธอปรารถนา เมื่อฮิดากะจะเดินหัวเสียจากไป ทิ้งเธอไว้กับสายลมฤดูร้อนเพียงคนเดียวลำพัง ถึงอย่างนั้นริไอก็ยังไม่อาจหยุดความรุมร้อนภายในร่างกายที่สั่นเทาเฉกเช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นรัวแรงได้เลย

     

     

    “ทั้งที่ฉันอยู่บ้านเดียวกับฮิดากะมาตั้งนาน แต่ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าเขาเป็นคนโมโหร้ายได้ตั้งขนาดนี้”

    “ก็เพราะมันไม่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อนไง”

    “เอ๋...พูดจริงเหรอ?” เธอเผลอตัวขึ้นเสียงสูงด้วยไม่อยากจะเชื่อหูกับสิ่งที่ได้ยิน “งั้นแปลว่าที่ฮิดากะเป็นแบบนี้แค่เพราะยัยโทคิเนะคบกับไทโชเหรอ?”

    ขณะที่ความนึกคิดของริไอยังติดอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสองคืนก่อน เขาก็ดูเหมือนว่าจะกำลังง่วนอยู่กับการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอ ณ ขณะนี้ให้ได้ ก่อนที่จะฝังใบหน้ากดริมฝีปากลงไปบนไหล่ลาด ลากเรื่อยขึ้นไปถึงซอกคอเนียนนุ่มจนเธอต้องหลุดหัวเราะออกมาด้วยความจั๊กจี้ กลั้วไปกับเสียงหัวเราะขบขันไม่แพ้กันของชายหนุ่มที่ถูกผลักอกดันร่างออกห่างอย่างนาสุ ยูโตะ เพื่อนสนิท — ถ้าจะใช้คำนั้นได้ — ตั้งแต่สมัยเรียนของพี่ชายที่ริไอได้ทำความรู้จักเป็นครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน ตอนที่บังเอิญเจอกันระหว่างไปเป็นกขค.ที่ห้างสรรพสินค้าของคู่รักน่าหมั่นไส้กับไครุ ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากแอลกอฮอล์เพราะความหมกมุ่นต่อเรื่องของฮิดากะหลังดื่มไปมากที่บาร์บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมในค่ำคืนนั้น ยังคงดำเนินต่อเนื่องที่ห้องสวีตห้องเดิมในโรงแรมมาจนถึงทุกวันนี้เมื่อฝ่ายไหนก็ตามร้องเรียกหา เนื่องจากว่าริไอไม่มีเพื่อนสนิทที่สามารถระบายความลับคับอกให้ฟังได้ เหมือนที่อย่างน้อยๆ ยัยโทคิเนะก็ยังมีไครุหากถึงที่สุดจริงๆ และการที่ยูโตะขอสิ่งตอบแทนเป็นการแลกเปลี่ยนที่ก็ทำให้เธอพึงพอใจดีมากก็เป็นเรื่องที่รับได้

    ริไอจ้องสบตากับยูโตะที่เปลี่ยนไปเอนหลัง ยันแขนทั้งสองข้างกับเตียงนอนกว้างขวาง ในสภาพเสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมแค่เม็ดบนเหมือนกันกับเธอ แต่ยูโตะก็รู้ว่ายังไม่ถึงเวลานั้น เมื่อริมฝีปากสีแดงสดอิฐของเธอยังคงขยับขึ้นลง เอ่ยคำถามที่คั่งค้างอยู่

    “คิดว่าฉันควรบอกไทโชกับอาซึฮะดีไหม?”

    “บอกไปเธอก็ไม่ได้มันอยู่ดี”

    “ฮิดากะก็ไม่มีทางได้ยัยโทคิเนะเหมือนกันนั่นแหละ” ริไอสวนย้อนกลับไป ไม่ได้ถือสากับคำพูดติดตลกที่อย่างกับเธอจะไม่รู้ว่าเป็นความจริงของเขา “รู้อะไรไหมยูโตะ ฉันว่าที่ฮิดากะโกรธขนาดนั้นต้องเป็นเพราะเขาอิจฉาไทโชมากแน่ๆ เลย ในเมื่อน้องชายคนใหม่ที่น้องสาวสุดที่รักของเขาหลงใหลคลั่งไคล้ทั้งตัวสูงกว่า นิสัยดีกว่า แถมยังเล่นเปียโนเพราะกว่าด้วย ถึงฉันคิดว่าสองอย่างที่เขาแพ้ก็คือหน้าตากับหัวสมอง อ๊ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าห่างกันคนละระดับอะไรขนาดนั้นหรอกนะ แต่อย่างกับว่ายัยโทคิเนะจะสน! แค่คิดก็สมน้ำหน้าฮิดากะชะมัดยาดเลย!

    “โห ถ้าคนที่ชื่อไทโชอะไรนั่นมีดีนักหนา งั้นทำไมเธอถึงไม่ชอบเขาบ้างล่ะ ริไอ?”

    “นั่นเพราะว่าฉันมีความรักที่มั่นคงให้กับฮิดากะยังไงล่ะจ๊ะ ยูโตะ”

    ริไอเปลี่ยนไปโอบรอบคอชายหนุ่มที่เธอเคลื่อนร่างขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัก เพื่อที่จะโน้มตัวลงไปปิดปากคนที่ส่งเสียงหัวเราะน่ารำคาญ ยุติบทสนทนาที่เธอไม่อยากจะเสวนาอะไรให้มากความอีกหลังประโยคที่ว่า “แต่ก็แพ้ความใคร่อยู่ดี” ซึ่งก็อาจเป็นจริงดังว่า จากการที่ริไอยินยอมให้เขาเป็นฝ่ายควบคุมดูดกลืนลมหายใจของเธอจากการรุกล้ำเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ให้รุนแรงยิ่งขึ้น ริไอรู้สึกได้ถึงความแข็งขืนที่ด้านล่างยิ่งเมื่อร่างกายของพวกเขาต่างบดเบียดแนบชิด สัมผัสได้ถึงไอความร้อนระอุแม้จะมีเนื้อผ้ากางกั้น แต่ไม่...เขาจะไม่ได้เป็นฝ่ายควบคุมในเรื่องนี้ เธอจะปล่อยให้เขาทรมานไปก่อน จนกว่าความทรมานของเธอจะได้รับการเติมเต็ม


     
     
     


    ตอนต่อจะไม่มาในเวลาอันใกล้
    ยังไงก็พักใจที่บีชก่อนนะ >_<



    2024年02月23日
    _______________
     เพราะข่าวที่ Eyedi กูจะกลับมาร้องเพลงอีกครั้งหลังจากหายไปสามปี ประทีปในใจดวงไฟในอกกูเลยลุกฮือ! ถึงเวลา(เกาะสวาทหาด)สวรรค์เรียกหากูแล้วสินะ เพราะงั้นปณิธานที่บอกว่าจะแต่งเรื่องโน้น (เรื่องไหน) เป็นเรื่องสุดท้ายให้อุกิโชก่อนวันเกิดก็...ยังเหมือนเดิมอยู่ เพราะนี่ถือว่าเป็นฟิคแปลงงับ >_< แต่จะบอกเลยว่าหาเพลงที่เปิงใจยากมาก เวอร์ชั่นก่อนโน้นเลือกของซอนมีแต่ก็ยังบ่สุด กระทั่งกูรำลึกได้ว่า OEC (สมัยลูน่า) ถ่ายเอ็มวีที่แคลิฟอร์เนียหนิ ละลอสซานโตสก็ได้ไอเดียมาจากแคลิฟอร์เนียหนิ เพราะงั้นมงต้องลงแล้วล่ะ เพราะกูรักเพลงอันคัฟเวอร์มากกกกกๆๆๆ ถึงจะยังไม่ได้ใช้แต่แค่มีที่ทางลงให้สักเรื่องกูก็ดีใจมากกกกๆๆๆ แต่ที่กูเครียดคือบทเรื่องนี้แม่งเหมือนเรื่องโน้น (เรื่องไหน) เป๊ะเลยเว้ยเห้ย! พระนางก็คู่เดิม ตอนแต่งเรื่องนั้นกูก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ พอแปลงเรื่องนี้ที่แต่งให้คนอื่นมาก่อนกูก็ตกใจเหม่ด นึกว่าเดจาวู ทั้งที่ไม่ใช่บทแบบที่ชอบแต่เป็นเพราะจิตสำนึกชี้นำให้กูแต่ง (คู่มึง) ด้วยพล็อตแบบนี้เหรอ ทำไมวะ ไม่เข้าใจ ละแม่งจะต้องเป็นเรื่องที่นางเอกกูสวยน้อยกว่าแต่พระเอกมึงมาชอบตลอด ฮ่าๆๆ Orz แต่พล็อตซ้ำซากงี้มันก็ต้องจบแบบซ้ำซากเหมือนกันดิ หรือกูหักมุมให้ไม่ได้กันดีวะ เปิดมิติใหม่มาแนวดราม่าแทนดีไหมวะ (มึงด่าว่าโธ่อี)
     อย่ากรี๊ด(ในความหมายไหนก็แล้วแต่)ที่พระรองเป็นนาสุนะ ไม่ชอบหน้าก็ดูหุ่นไปให้เย็นใจ อิอิ ทุกวันนี้นอกจากเมนหนึ่งแล้วกูไม่หวงสักคนอ่ะ อยากแต่งอะไรก็แต่ง ชีวิตเป็นของเรา ใช้ซะ เพราะอีกเรื่องกูเลือกไครุน้องรักของไทโชมาแล้ว เลยว่างั้นเอาเพื่อนของอุกิโชมาหน่อยสิ ซึ่งบังเอิญที่แมกฯเล่มใหม่ให้บชนเขียนชื่อจูเนียร์ที่สนิท ของอุกิมีซาคุมะ, ฟุคุดะ (โชเน็นนินจา), คนปี้ ที่วัดใจกูมาก ที่จริงซาคุมะก็ได้แหละแต่ยังเปิงใจไม่สุด เลยว่างั้นเอาเพื่อนสนิทในวงไปเลยแล้วกันให้มันจบๆ ประจวบเหมาะกับที่กูอยากแต่งนาสุสักเรื่องหลังจากอันอันที่ทำกูลงแดงมาก (พอๆ กับเรย์อะ U_U) แต่ก็ยังไม่นำพาสักที แต่ยังไงมันก็ต้องมาแน่ เพราะหล่อชิบหาย หล่อมากเว่อร์ กูที่ชอบหน้าเค้าจะไม่ทน / กูไปย้อนอ่านทอล์คเก่ามาแล้วสะดุ้งที่บอกว่าชอบตอนแต่งริไอกับโจ (เดิม) มาก แต่ตอนเปลี่ยนเป็นนาสุกูไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลยว่ะ แปลงแบบเฉยชา หน้านิ่ง 55555 แต่เอาจริงกูก็ว่าเป็นคู่ที่เหมาะกันกว่าอีกนะ หรือเปิดมิติใหม่คือนางเอกได้แต่กับพระรองดีไหมวะ ให้มันจบๆ ไป น่าสนใจ
     ท่อนที่ริไอพูดเปรียบเทียบไทโชกับอุกินี่กูไม่ได้แก้เลยนะ แต่ดันเปิงกับสมัยเคนคาโดะเด๊ะ 55555 ว่าแต่ตอนนั้นกูหาชื่อเพลงมาจากไหนวะ ไปเสิร์ชมาถึงรู้ว่าอ๋อ จาก Slayyyter ที่กูไม่รู้จักว่ะ แต่น่าจะไปเจอในสปอติฟายแล้วติดใจคำนี้มั้ง (แต่เมื่อกี้ลองไล่ฟังเพลงแล้วม่วนอยู่นะถึงจะไม่ใช่แนวกูเท่าไหร่) / ปล. มึงคงรู้อยู่แล้วมั้ง แต่กูเพิ่งรู้ว่า Livin' in the Sunlight, Lovin' in the Moonlight คือชื่อเพลงของ Tiny Tim ที่ร้องเพลงทิปโทฯอ่ะมึง เพลงยุคโน้นมันฟังน่ากลัวจริงเนาะ อันนี้ '30 อ่ะ ละแม่งบาดมาก อินซีเดียสมากแม่
    TB
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×