ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #248 : Zetsubou no Oka~絶望の丘~ (50% ไฟยังเย็นอยู่เพราะอากาศหนาวๆ อุณหภูมิยังไม่ร้อนถึง 40 องศาที่แปลว่าปีศาจ!)

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.พ. 67


    Zetsubou no Oka
    Playlist: sukekiyo – Aishita Shinzou 「愛した心臓」












    .

    เพราะฟูจินากะ โทโกะเป็นเพื่อนคนแรกในรั้วมหาวิทยาลัยที่นิสัยดีที่สุดและใจดีกับเธอที่เพิ่งย้ายจากบ้านนอกเข้ามาเรียนต่อในเมืองหลวงมากที่สุด คิตาเสะ คิริเอะถึงได้คิดว่ามันไม่เป็นไรเลยหากโทโกะจะได้คบหาเป็นคนรักกับผู้ชายที่เธอแอบรักนับแต่แรกพบอย่างเพื่อนร่วมคณะที่มีชื่อว่าซาคุมะ ริวโตะ ในเมื่อพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ดูเหมาะสมกันดีอย่างกับกิ่งทองใบหยก และคิริเอะที่เจียมตัวเองดีก็ไม่คิดที่จะตัดขาดโทโกะซึ่งไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย หรือว่าพยายามเข้าไปแทรกกลางความสัมพันธ์ที่ซาคุมะคงไม่มีวันเหลียวแลมองเธออย่างคนรักของเขาอยู่ดี

    และเพราะอย่างนั้นคิริเอะจึงได้เข้าร่วมกลุ่มก๊วนใหญ่มากของซาคุมะตามคนรักของเขาที่ก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอไปโดยปริยาย สมาชิกชายหญิงทั้งหมดเจ็ดคนไม่นับรวมซาคุมะไม่ใช่พวกเย่อหยิ่งถือตัวอย่างที่คิริเอะเคยเข้าใจ เธอสามารถนั่งรวมกลุ่มพูดคุยด้วยได้ อย่างน้อยๆ ก็ในฐานะผู้ฟังมากกว่าผู้พูด แต่ก็ไม่สามารถสนิทใจกับพวกเขาได้เต็มร้อยเพราะความสนใจเรื่องธุรกิจ แบรนด์เนม หรือการท่องเที่ยวต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือสารบบชีวิตทั่วไปของคิริเอะที่มีครอบครัวเป็นแค่ชนชั้นกลาง ไม่ใช่ร่ำรวยมหาศาลอย่างพวกเขาทุกคน และไม่ใช่อย่างโทโกะที่สามารถกลมกลืนกับใครก็ได้เป็นอย่างดี

    กระนั้นก็ยังมีเพื่อนในกลุ่มอย่างฮาชิโมโตะ เรียวที่คิริเอะพูดคุยด้วยได้มากที่สุด...หรืออาจต้องบอกว่าในทางกลับกัน เขาเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาดูดีมากถึงตัวจะไม่สูงมาก ผิวขาวรับกับเส้นผมสีทองสว่าง ช่างพูดช่างคุยแถมยังร่าเริงอารมณ์ดี ทำให้คิริเอะรู้สึกวางใจได้เสมอเมื่ออยู่กับเขา แตกต่างจากซาคุมะคนเงียบขรึมขี้อายที่เธอตกหลุมรักทุกประการ ถ้าหัวใจเธอยังว่าง คงไม่ใช่เรื่องยากที่คนธรรมดาอย่างคิริเอะจะตกหลุมรักมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบถึงขนาดนั้นอย่างฮาชิโมโตะ

     

    วันที่เรื่องราวทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นคือวันที่คิริเอะอยู่ทำรายงานต่อที่มหาวิทยาลัยกับฮาชิโมโตะซึ่งเป็นคู่ด้วยจนถึงตอนเย็นย่ำซึ่งผู้คนเริ่มบางตาลงไปแล้ว เมื่อไหร่ที่สาวๆ ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาพูดคุยทักทายเขา คิริเอะก็จะก้มหน้าก้มตาทำรายงานโดยพยายามไม่ยุ่มย่ามวุ่นวายในเรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเอง กระทั่งเป็นทีของเพื่อนผู้หญิงต่างคณะอีกรายหนึ่งซึ่งเอ่ยถามคำถามที่แปลกประหลาดมากเสียจนทำให้คิริเอะต้องเงยมอง

    “ฮาชิโมโตะ เรียว ลูกชายเจ้าอาวาสวัดอิกเคียวใช่ไหม?”

    นั่นถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับคิริเอะที่ไม่เคยรู้เรื่องครอบครัวของเขามาก่อนนอกจากแค่ว่าบ้านรวยมากเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ หลังจากที่หล่อนจากไปแล้ว คิริเอะเลยอดเย้าไม่ได้ว่า

    “แบบนี้ฮาชิโมโตะคุงก็ต้องสืบทอดต่อน่ะสิ”

    “ฉันเป็นลูกคนเล็กเลยหายห่วง” เขาชูสองนิ้วให้เธอที่หัวเราะออกมาเบาๆ “ใครมันจะอยากเป็นล่ะ ต้องมาสวดมนต์ทำวัตรท่องจำบทสวดอะไรก็ไม่รู้ น่าเบื่อจะตายชัก”

    “ฮาชิโมโตะคุงไม่ชอบเหรอ?”

    เขาเพียงไหล่ไหวแทนคำตอบ

    “แต่วัดของเราขึ้นชื่อเรื่องขอพรมากเลยนะ คิตาเสะล่ะ ไม่มีเรื่องอะไรที่อยากขอบ้างเลยเหรอ?”

    “ฉันเหรอ?” คิริเอะเปลี่ยนมายกแขนข้างหนึ่งขึ้นเท้าคาง ลากเสียงแสดงความครุ่นคิดในลำคอเฉกเช่นเดียวกับสีหน้าอยู่ครู่ขณะ ครั้นแล้วจึงเบนสายตากลับมาตอบคำถามของเขาด้วยรอยยิ้มว่า “อยากให้โทโกะกับซาคุมะคุงรักกันไปนานๆ มั้ง”

    “จริงเหรอ?”

    คิริเอะผงะงันไปเมื่อปุบปับฮาชิโมโตะที่นั่งอยู่ทางขวามือก็จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แต่ก่อนที่สติของเธอจะกลับคืนมาให้ได้ถอยกรูดออกไป มือของเขาก็จะเอื้อมมาจับแขนข้างที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วยึดมันไว้แน่นอย่างกับคีมเหล็กที่คิริเอะสะบัดมันไม่ออกและได้แต่นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ตรงกันข้ามกับเขาที่ยกยิ้มมุมปากขณะพูดกับเธอว่า

    “ถ้ารู้ว่าโทโกะคบกับซาคุมะเพราะรู้ว่าคิตาเสะแอบรักมาตลอดล่ะ แบบนั้นจะยังอวยพรให้พวกเขาได้อยู่ไหม? จะยังยินดีให้กับผู้หญิงจอมปลอมแบบนั้นอยู่อีกหรือเปล่า?”

    คล้ายกับว่าเรี่ยวแรงซึ่งก็ใช่ว่าจะมีอยู่แล้วของเธอหดหายลงไปในชั่วพริบตา คิริเอะหยุดขืนขัดแล้วจ้องสบกับคนตรงหน้านิ่ง หากน้ำเสียงยามที่เอ่ยกลับสั่นไหว

    “พ...พูดเรื่องอะไร...”

    “อยากรู้ไหมว่าโทโกะทำไปทำไม?” เขาเอ่ยต่อไปโดยไม่สนใจคำพูดของเธอ “เพราะฉันปฏิเสธเขา เพราะฉันบอกว่าชอบเธอมากกว่า ก็สาวบ้านนอกใสซื่ออย่างเธอน่ารักกว่าตั้งเยอะเลยนี่นา อยากให้คิตาเสะได้มาเห็นสีหน้าของคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนตอนนั้นจังว่าน่ากลัวแค่ไหน ไม่เคยรู้ตัวเลยใช่ไหมล่ะว่าที่โทโกะคบคิตาเสะเพราะทุกคนจะได้เปรียบเทียบพวกเธอสองคนไง แล้วคนแบบนั้นจะทนได้ยังไงที่มีใครสนใจเพื่อนสนิทคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะคนที่เขารัก เขาถึงได้ทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานกับความรักที่ไม่มีวันสมหวังเหมือนกันไง”

    “นาย...โกหก”

    “อันที่จริงฉันทำให้เธอเห็นทุกอย่างได้นะ แต่ว่าหลังจากนั้นเธอจะต้องขอให้เขาทุกข์ทรมานเหมือนที่เธอรู้สึก แล้วฉันจะทำให้มันเป็นความจริง แลกเปลี่ยนกับวิญญาณของเธอ คิตาเสะ คิริเอะ”

    ชั่ววินาทีนั้นเองที่ดวงตาของฮาชิโมโตะซึ่งคิริเอะไม่ได้ละจากไปไหนตลอดเวลาเหล่านั้นกลายเป็นสีดำสนิท ปกคลุมแม้แต่ตาขาวของเขาเหมือนกับ...ปีศาจ












    2024年02月08日
    _______________
     น่าจะราวๆ สามสี่วันก่อนที่กูฝันถึงสองคนนี้ อันที่กูบอกว่าฮาชิโมโตะเขียนยันต์ให้เพื่อนนั่นแหละ 55555 แต่ฝันไม่ได้สนุกอะไร ก็เลยไม่ได้คิดว่าอยากแต่งอะไร กระทั่งสเตตออฟเพลย์ FF7R วันที่ 6 ที่กูกรี๊ดดดดดดด เพราะรำลึกได้ว่าซาคุมะเคยเขียนในคลิปร้อยอย่างเมื่อสามปีก่อนว่าชอบไฟนอลเจ็ด กูจำได้ไม่เคยลืม และวันที่ 7 คือวันเกิดแอริธที่ซาคุมะชอบเพลงตีม กูเลยคิดว่าเฮ้ย! หรือพระเจ้าดลใจวะ! ร้อยวันพันปีกูไม่เคยฝันถึงเค้า ไหนๆ ช่วงนี้กูก็แว่บไปดูวงโน้นวงนี้เรื่อยเปื่อย โอกาสทองมาถึงแล้วก็ต้องรีบคว้าไว้ก่อนใจกูจะกลับไปแต่งแต่วงเมน all (อีเหี้ย ครบหนึ่งปีกับไทโชปุ๊บกูไม่แต่งเค้าเลยสักเรื่อง หรือกูจะเทเค้าแล้ววะ อิอิ ซะเมื่อไหร่)

     กูจะบอกตรงนี้แหละว่ายังคิดพล็อตหลังจากนี้ไม่ออก ขอหยุดหลายวันก็จริงแต่พอไม่มีเรื่องเครียดแล้วใจก็มุ่งแต่นอน ไม่มีใจทั้งเล่นเกมหรือแต่งฟิค 55555 ตกใจมากที่พล็อตสี่คนนี้มันอยู่ในหัวกูมาตัั้งแต่แรกละ ทีนี้ตอนทำรูปกูก็ไปค้นไฟล์เก่าๆ ก็เอ้า เจอจากเรื่องห้องศิลปะที่ก็เพิ่งพูดถึงไป แล้วถึงรำลึกได้ว่า...มันคล้ายๆ กันเลยว่ะ ตัวร้ายแอบแย่งคนที่เพื่อนชอบ คนที่แอบชอบนางเอกก็คือมาช่วย เอาเถอะ ถึงพล็อตช้ำแต่หน้าไม่ช้ำนะ T_T มึงได้เป็นนางเอกไปแล้ว ถึงตากูบ้างนะ / ฉากที่เหมือนกับในฝันคือฮาชิโมโตะเป็นลูกเจ้าอาวาสจริงๆ เว้ย! มีพลังไล่ผีถึงเขียนยันต์ได้นี่ไง (โกสต์ไวร์โตเกียวบ่นิ) ละเค้าก็ถามกูว่าอยากขออะไรไหม กูก็บอกว่าขอให้มึงกับซาคุมะมีความสุข (ในฝันพวกมึงเป็นแฟนกัน จริงๆ สาบาน) แล้วเค้าก็หัวเราะถามว่าจริงเหรอ ไม่ขอให้ตัวเองเหรอ กูก็บอกว่าไม่ โอ้โห ในฝันกูเป็นคนดีจริงๆ ว่ะ ไม่ได้ชอบซาคุมะอะไรด้วยนะ แต่ถ้าในฟิคกูไม่ชอบมันก็ลงเวย์นี้ไม่ได้ป่าววะ / บอกได้อย่างหนึ่งว่าคิริเอะจะไม่ขอถึงโทโกะจะทำไม่ดีจริง แต่ปีศาจต้องสนต้องแคร์อะไร อยากได้ก็ต้องได้ไหมล่ะ อิอิ ตอนแรกฮาชิโมโตะจะเป็นมนุษย์ธรรมดานี่แหละจนกูนั่งไล่ฟังเพลงของกาเซตต์แล้วมีเพลงชื่อมาลัม ก็เลยคิดว่างั้นให้เป็นปีศาจไปแล้วกัน มึงคริสต์เจอกูพุทธหน่อยวะ...ตรงไหนนิ
     ขอบคุณชื่อเรื่องจากเพลงของพลาสติกทรีที่แปลได้ว่า Hill of Despair และเพลงประกอบที่ถ้าไม่ใช่วิชวลเคย์ถือว่าผิด! พักจากกาเซตต์มาหาสุเคคิโยะกันเร้ววว! ฟังเสียงเคียวแล้วมันรู้สึกถึงความชั่วๆ บาปๆ จริงๆ ว่ะเพื่อน แต่ไหนเอ่ยความชั่วๆ บาปๆ ในฟิคเรื่องนี้วะ เนื้อเพลงก็แอบยั่วเยนะ กลัวไม่เชื่อ เข้าไปอ่านเลย (ลิงค์) แต่ไม่ไงมึง เพราะเรื่องนี้กูยังหาทางลงไม่ได้เลยไม่ได้แต่งอะไรเตื้อ แต่ถ้าแต่งเมื่อไหร่กูสัญญาว่าผู้ชายคนนี้จะต้องไม่เสียของ ของจริงไม่ต้องพูดเยอะ คันคอ ขอให้อดใจรอเพราะกูรู้สึกได้ว่าตอนนี้ไฟเย็นกูค่อยๆ กลับมาร้อนแล้ว ระหว่างนี้เล่นระเบิดเป๊าะแป๊ะลูกละหกบาทไปก่อน โอ่งยังไม่มาส่งที่ร้านค่ะ
     ตกใจที่ย้อนไปอ่านฟิคเก่าถึงรำลึกได้ว่าโชริกับฮาชิโมโตะเกิดวันเดียวกัน! ส่วนสูงก็เท่ากัน! ละเค้าเล่นฟิคมึงด้วยกันหนิ ขนลุกๆๆ นี่แหละบีลีฟเวอร์ของจริง อาเมน / ปล. เพิ่งนึกได้ว่าพรุ่งนี้ไทโชกับเรียวไปรายการฮามาดะฯด้วยกันนี่ อิอิ
             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×