ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #56 : CINDERELLA CHRISTMAS

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 66


    CINDERELLA CHRISTMAS
    Playlist: King & Prince – Cinderella Girl 2023 「シンデレラガール 2023」


    * ถ้าจะแซวกู ไปแซวพี่เร็นเค้ากินข้าวแยกกับดีกว่าจ้า ไหว้ล่ะ T/|\T *










    .

    แม้ว่าจะผ่านไปนานถึงกว่าสี่ปี แต่นางาเสะ เร็นที่ฮานาซาวะ ยูคิเมะรู้จักก็ยังคงไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปจากวัยรุ่นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เหมือนอย่างที่เธอก็เป็น แต่อาจมาจากการได้เห็นรูปภาพของเขาผ่านตาในอินสตาแกรมของเพื่อนๆ หรือญาติๆ ที่เทียวหาเขาซึ่งย้ายไปร่ำเรียนไกลถึงอเมริกา แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่มีบัญชีโซเชียลเลยแม้แต่แอคเคานท์เดียวก็ไม่ใช่ปัญหา ยูคิเมะถึงได้ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนักของเพื่อนข้างบ้านตั้งแต่สมัยมัธยมต้น

    อาจนอกจากความสัมพันธ์ของพวกเขาที่เปลี่ยนแปลงไป...หรืออย่างน้อยๆ ยูคิเมะก็คิดอย่างนั้น เธอถึงได้ไม่กล้ารบกวนเวลาของเร็นที่กลับมาเยี่ยมตายายและบ้านเกิดเมืองนอนหนึ่งเดือนหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย ที่ตารางของเขาคงแน่นเอี๊ยดเต็มไปหมดตามประสาคนเพื่อนเยอะมิตรแยะ ไม่แน่ว่าอาจรวมถึงสาวสวยที่เขาเคยคบควงไม่ซ้ำหน้า ไหนจะการที่เธอกับเขาต่างก็เหินห่างหลังจากชีวิตการเรียนที่วุ่นวายจนการส่งข้อความหาหรือโทรศัพท์นานๆ ครั้งลดน้อยลงไปเกือบจะเป็นศูนย์ และการที่เธอย้ายออกมาแชร์ค่าเช่าอพาร์ตเมนต์กับเพื่อนมหาลัยโดยแทบไม่ได้กลับไปที่บ้านเลยด้วยอีก สุดท้ายแล้วเขาอาจบินกลับอเมริกาโดยไม่ได้เจอหน้ากันเลยก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าเสียดาย แต่ยูคิเมะก็ไม่คิดที่จะเป็นฝ่ายกวนใจเพื่อนเก่าก่อนอยู่ดี

    ทว่าในบ่ายวันหนึ่งที่เธอหมกตัวอ่านการ์ตูนอยู่ในห้องเป็นกิจวัตร เร็นก็เป็นฝ่ายโทรศัพท์มาหา ด้วยประโยคที่เป็นรูปคำสั่งมากกว่าจะเป็นคำขอเหมือนอย่างที่เขาเป็นว่า “เย็นนี้ไปเดินดูไฟที่รปปงงิด้วยกัน”

     

    นางาเสะ เร็นที่ยูคิเมะได้พบหน้าเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีอาจเปลี่ยนจากเด็กหนุ่มมาเป็นชายหนุ่ม แต่เขาก็ยังคงเป็นคนผิวคล้ำ ตัวสูง รูปหล่อ อัธยาศัยดี และทำให้ยูคิเมะที่เข้ากับคนยากมาจนกระทั่งบัดนี้เป็นตัวของตัวเองได้เสมอ เหมือนอย่างตอนที่เธอวิ่งไปชนหมัดเข้าที่ไหล่ของเขาซึ่งรออยู่ที่ม้านั่งตรงจุดนัดหมายพร้อมตะโกนทักทายว่า “โย่! วอทซับ!” ที่พอเจ้าตัวหันมาเห็นก็จะหย่อนมือถือเก็บกลับลงไปในกระเป๋ากางเกง แล้วดีดนิ้วเข้าที่หน้าผากเป็นการเอาคืน เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากเขารวนไปกับเสียงร้องโอดโอยจากเธอที่ยกมือขึ้นลูบป้อยๆ

    ไม่แฟร์นี่! ฉันตีนายผ่านเสื้อหนาวนะ! มันจะเจ็บเหมือนโดนจังๆ ได้ไง! นิสัย! ลองโดนต่อยหน้าดูมั่งไหมล่ะ!”

    ทำได้ก็เอา”

    แน่จริงก็ก้มลงมา!”

    โดดขึ้นมาให้ถึงเองดิ”

    ที่ขนาดว่าวันนี้อุตส่าห์ใส่รองเท้าส้นตึกหนาสามนิ้วมาแล้วก็ยังไม่ทำให้เธอโดดขึ้นไปข่วนหน้าคนที่ตัวสูงกว่ากันสิบเซนติเมตรเลยได้ เจ้าตัวเลยได้แต่ฮึดฮัด บ่นขมุบขมิบ ตีสีหน้าบึ้งตึง กระนั้นก็หาได้จริงจังอะไรนัก อาจเป็นเพราะจุดเริ่มต้นของพวกเขาเริ่มต้นมาจากการหยุมหัวกัน และการได้ทำสิ่งเดิมๆ ที่คุ้นเคยก็ช่วยขยับช่องว่างให้กลับมาลงล็อกได้อีกครั้ง และยูคิเมะก็ดีใจที่เป็นอย่างนั้น เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงทำตัวไม่ถูกกับเพื่อนสมัยเด็กที่วันนี้ยิ่งหล่อดูดีเป็นบ้า แถมยังชวนเธอมาดูไฟประดับวันคริสต์มาสสองต่อสองแบบนี้ได้แน่

    ยูคิเมะไม่เคยชอบเร็นแบบนั้น ไม่สิ...ให้บอกว่าไม่เคยก็ไม่ถูก เพราะเธอที่ชอบผู้ชายหล่อๆ ก็ย่อมมีใจสั่นหวั่นไหวอยู่บ้างในบางที แต่ผู้หญิงที่เขาคบหาสมัยนั้นก็มีแต่พวกระดับท็อป สูงยาวเข่าดี แต่งหน้าแต่งตัวเซ็กซี่จัดจ้านกันทั้งนั้น แล้วยูคิเมะที่เป็นสายสาวน้อยบ้องแบ๊ว สวมชุดกระโปรง ดัดผมเป็นลอน มีเอสคาวาอี้เป็นไบเบิลประจำใจจะเอาอะไรไปสู้ ถึงใครต่อใครจะพากันบอกว่าหน้าตาของเธอก็น่ารักเหมือนกับคุณหนู แต่ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าสวยเหมือนนางแบบบนรันเวย์อย่างที่เร็นชอบอยู่ดี เพราะอย่างนั้นยูคิเมะเลยสามารถรักษาความรู้สึกแค่ชั่วครั้งชั่วคราวรวมถึงมิตรภาพกับเขามาได้อย่างยืนยาวจนจบไฮสคูล

     

    เนื่องจากเป็นวันกลางสัปดาห์ ผู้คนที่มาเดินเล่นดูไฟประดับวันคริสต์มาสจึงไม่ได้พลุกพล่านมากนัก ยูคิเมะตื่นตาตื่นใจไปกับดวงไฟสีขาวฟ้าที่ให้ทั้งความรู้สึกหนาวเย็นแต่ก็โรแมนติกเอามากตลอดแนวถนนเคยากิซากะ ทั้งยังเพลิดเพลินใจไปกับบทสนทนาของการแลกเปลี่ยนช่วงเวลาที่ขาดหาย ก่อนวกกลับมายังช่วงเวลาสมัยเด็กที่ไม่เคยห่างหาย อย่างเช่นเธอที่หัวเราะขำกับเรื่อง “ตอนไฮสคูลปีหนึ่งที่นายจับได้ว่าแฟนนอกใจเลยไปต่อยชู้ที่เป็นนักมวยจนต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มรับคริสต์มาส” หรือเขาที่ยิ้มกว้างกับเรื่อง “ตอนไฮสคูลปีสองที่เธอบอกเลิกกับแฟนเพราะหมอนั่นเลือกไปดูไลฟ์วงไอดอลมากกว่ามาเดตกับเธอ” ให้ทั้งคู่หยุดรื้อฟื้นความหลังแล้วสบประสานสายตากัน ยูคิเมะรู้สึกได้เลยว่ามีเสียงชิ้งออกมาจากการฟาดฟันนั้น

    แล้วเธอก็เลยเข้าสู่วังวนของการ์ตูนผู้หญิง ตกหลุมรักหนุ่มทูดีและเลิกเหลียวแลผู้ชายในชีวิตจริงอีกนับตั้งแต่นั้น”

    เว่อร์ย่ะ! ฉันไม่ได้บ้าขนาดนั้น!” ว่าแล้วก็ซัดท่อนแขนเขาไปหนึ่งป้าบ “แค่ยังไม่เจอคนที่ชอบมากจนคิดว่าอยากอยู่ด้วยต่างหาก ฉันไม่ใช่พวกคบดะเหมือนนายสักหน่อยนี่!”

    ฉันไม่ได้คบไปเรื่อยสักหน่อย!” เร็นท้วง

    โห คบควงตั้งไม่รู้กี่คนขนาดนั้น จะบอกว่านายชอบหมดทุกคนเลยหรือไง?

    ชอบดิ! แต่จะทำยังไงก็ไม่ถึงขั้นรักสักที”

    เป็นคำตอบที่ทำให้ยูคิเมะถึงกับต้องโห่แซว

    สงสัยเจ้าชายอย่างนายคงต้องรอเจ้าหญิงมาเกิดก่อนล่ะมั้ง เฮ้อ น่าเสียดายจังที่ฉันไม่ใช่เจ้าหญิง คงเป็นได้แค่สาวใช้อย่างซินเดอเรลล่าที่ต้องรอนางฟ้ามาช่วยให้สมหวัง!”

    เขาก้มลงมองนาฬิกา

    อีกสามชั่วโมงถึงจะเที่ยงคืน”

    งั้นฉันก็ต้องรีบกลับบ้านก่อนราชรถจะกลายเป็นฟักทอง”

    ยูคิเมะมีความสุขเสมอที่ได้ตอบโต้เรื่องไร้สาระกับเร็นโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะอย่างนั้นเธอเลยนึกสนุกชี้หน้าอีกฝ่ายพร้อมเสียงหัวเราะขณะเย้าหยอกไปว่า “นายก็อย่ากลายเป็นหนูไปซะก่อนล่ะเร็น! เดี๋ยวฉันไม่มีคนพาไปส่งกลับบ้าน”

    ที่พลันนั้นเอง มือข้างขวาของเธอก็จะถูกอีกฝ่ายคว้าเอาไว้ พร้อมกับที่แหวนวงหนึ่งจะถูกยัดเข้าไปที่นิ้วนาง!

    ฉันเป็นเจ้าชายต่างหาก เรื่องนั้นเธอปฏิเสธไม่ได้หรอก จริงไหมล่ะ อีกอย่างนะ ฉันก็เจอเจ้าหญิงที่รักมาตั้งนานแล้วด้วย” สีหน้าของเร็นยังคงราบเรียบเป็นปกติ ตรงกันข้ามกับสีหน้าตื่นตกใจระคนสับสนงนงงของยูคิเมะที่ได้แต่อ้าปากค้าง ยิ่งเมื่อได้เห็นแหวนในมือชัดๆ เต็มสองตา เพราะมันคือลวดลายเดียวกันเปี๊ยบกับแหวนของเล่นลายแมวสีขาวหน้าตาตลกที่แม่เคยซื้อให้สมัยชั้นมัธยมต้น — อาจเว้นก็แต่น้ำหนักของวัสดุที่ดีกว่าพลาสติกราคาถูกในตอนนั้น และยูคิเมะที่ชอบใจมากก็ใส่เห่อไปทั่วแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่สุดท้ายมันก็หายไปจนได้เพราะคนสะเพร่าอย่างเธอดันลืมถอดทิ้งไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ ยูคิเมะร้องห่มร้องไห้อยู่หนึ่งวัน บอกกับแม่ว่าชาตินี้จะไม่สวมแหวนวงไหนอีกเลยตลอดชีวิต ที่เธอก็สามารถทำ (เรื่องไร้สาระ) ได้อย่างปากว่าจริง

    ถึงจะไม่ใช่รองเท้าแก้ว แต่ดูสิ ยูคิเมะ! เธอสวมแหวนที่ทำตกไว้ได้พอดีเลย เจ้าเหมียวของเธอแค่หายไปอัปเกรดตัวเองมาเท่านั้นเอง งั้นก็แปลว่าเธอต้องแต่งงานกับเจ้าชายแล้วนะ” ให้ยูคิเมะได้เงยหน้าพรวดกลับขึ้นไปจ้องมองอีกฝ่ายที่ยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้าตายของตัวเองทั้งที่กำลังพูดเรื่องจริงจังอย่างนั้นออกมาเลยแม้แต่น้อย “แล้วฉันจะทำให้สาวใช้อย่างเธอกลายเป็นเจ้าหญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเอง”

    เป็นคำบอกรักที่อวดดีเป็นบ้า! แต่ทั้งที่คิดอย่างนั้น ใบหน้าของยูคิเมะก็อาบด้วยรอยยิ้มกว้างขณะยื่นมือออกไปข้างหน้าแล้วเอ่ยว่า “ทำให้ฉันชอบนายให้ได้ก่อนแล้วค่อยคิดจะข้ามขั้น” และเมื่อเร็นยื่นมือมากอบกุมมันไว้ก่อนที่จะโต้ตอบกลับไปว่า “ตอนนี้เลยยังได้” พวกเขาที่ต่างเปล่งเสียงหัวเราะขบขันรวนไปด้วยกันก็พลันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ

    เพราะถึงต่อให้วันหนึ่งเวทมนตร์ของนางฟ้าจะหมดลงไป แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่มีวันสลายหายไปคือรอยยิ้มของเธอที่จุดประกายแสงสว่างในหัวใจ...และเขาสัญญาว่าจะปกป้องมันเรื่อยไป












    2023年12月25日
    _______________
     ใครจะไปรู้ว่าอยู่มาวันหนึ่งกูจะฝันดีมากน่ารักมากเว่อร์ถึง...พี่เร็น ผีผลักเหมือนสมัยนาสุเปี๊ยบเลยโว้ยย อะคริสต์มาสแครอล อาถรรพ์วันคริสต์มาส (อ๋อ อันนั้นมึง) กูจะบอกให้เลยว่ากูฝันถึงเค้าเมื่อวันที่ 15 วันเดียวกับที่ร้องซินเดอเรลล่าคริสต์มาส! (แต่กูฝันถึงตอนเช้าส่วนเค้ามาตอนเย็น) ฉากในฝันคือโตเกียวนี่แหละแค่เป็นที่ไหนไม่รู้ มีตึกสูงๆ ด้านหลัง บนถนนมีไฟประดับสีฟ้าน้ำเงิน แต่ก็ไม่ขนาดตลอดถนนเหมือนรปปงงิ น่าจะเพราะช่วงก่อนหน้านั้นกูไล่ดูคลิปเดินดูไฟในโตเกียวปีนี้เยอะมาก กะจะเอามาแต่งให้ไทโชไคโตะเว้ยมึง แต่สุดท้ายมือไม้แข็ง คิดไม่ออก ไม่ได้แต่ง ยังคิดเลยว่าปีนี้คงไม่มีแล้วสินะฟิคคริสต์มาส กระทั่งฝันถึงเร็นบ่ะ แล้วพอลองแต่งขำๆ ดันแต่งได้ กูจะบ้า Orz แต่ที่จริงแล้วฟิคนี้มันจะมาเป็นคู่เว้ย! กูกำลังจะแต่งฟิคคู่คิงปุริเป็นครั้งแรก! พล็อตคู่ของไคโตะก็คือรูมเมตของยูคิเมะที่แอบรักเพื่อนสมัยมหาลัยแต่นึกว่าเค้ามีแฟนแล้ว สรุปตอนนี้ไม่ต้องนึกละนะ ไม่ต้องแต่งละด้วยนะ จุดใต้ตำตอเลย ไฟไหม้บ้านแล้ว ดับเพลิงที่ไหนก็มาไม่ทันเพราะวอดวายเร็วมากแม๊!
     แต่มึงรู้ โลกรู้ ว่ากูรักเพลงซินเดอเรลล่าเกิร์ลมาตั้งแต่ชาติปางไหน เคยวางพล็อตตั้งแต่สมัยเมดเลย์ FNS (ใช่ไหมวะ) ที่มึงจำได้ใช่ไหม! เจสสี้! จูริ! สมัยที่คิงปุริยังเป็นไผบ่าฮู้! ผ่านมาสามสี่ปี งานคริสต์มาสฟีลโรงเรียนพระทัยเราก็ยังไม่เป็นความจริงสักที (เรื่องนานิวะปีก่อนก็ไม่รอด T_T) ระหว่างนั้นก็มีรุ่นน้องอีกหลายวงที่เอาไปคัฟเวอร์ แต่ก็ยังไม่นำพา กระทั่งปีนีั้ที่ความฝันกูนำพาให้ได้แต่งฟิคกับวงที่ร้องต้นฉบับจริงๆ จากห้าเหลือสอง! แต่เมนมึงยังอยู่! จากสอง...ที่เมนมึงก็ยังอยู่! แต่บัดนี้เหลือกูเป็นซินเดอเรลล่าเกิร์ลคนเดียวแล้วเหรอวะ! บาปกรรมที่มึงบอกว่าเพลงเบียวหรือเปล่า เจ้าหญิงตกบัลลังก์แล้วมั้งมึงน่ะ ไม่ได้สวมละเทียร่า แต่อย่าบอกใครนะว่าฟังเพลงนี้กูชอบเสียงสีแดง แต่กูจะบอกมึงเองว่าพอเห็นหน้าไคโตะกูก็โกรธแทนเพื่อน (เป็นแลนๆ กระทืบเท้า) / ปล. เอ็มวีแอบนึกถึงไดมอนด์สมายล์ของนานิวะเบาๆ ว่ะ เพราะวงเจ้าชายไม่ใช่ทุกวงที่จะเป็นได้ค่ะ ขอบพระคุณ
     อย่างที่ได้เคยเล่าให้มึงฟังว่าในฝันพี่เร็นซื้อข้าวโพดคลุกเนยให้กู ถอดเสื้อโค้ทจะให้ยืมใส่เพราะกูหนาว แต่ไอ้สองอย่างนี้มันลงในฟิคไม่ได้เลยอีผี จะเอาข้าวโพดคลุกเนยมาจากไหน ใครจะขายวะ ละจะให้ยืมเสื้อทำไมในเมื่อนางเอกก็ต้องใส่เสื้อหนาวออกจากบ้านป่ะวะ สรุปก็ได้มาแค่ฉากเดินถนนคุยกันนี่แหละ จริงๆ ไม่รู้จะให้คุยไรกัน แต่งไปก็ใช่ว่าสนุก หาทางลงก็ไม่ได้ ละพอมีข่าวของมึงกูจะไม่แต่งต่อแล้วเพราะสลดใจแทนเพื่อน แต่ก็กลั้นใจแต่งๆ ไปเพราะเสียดาย อยากเป็นซินเดอเรลล่าสักครั้งในชีวิต ที่พออ่านๆ ไปมันก็น่ารักดี มั้ง ให้คิดซะว่ามันคือฟิคคั่นเวลา เหมือนอ่านเคเคบุ๊คกันไป แต่ปีใหม่จะกลับมากับวงเมนจริงๆ ละจ้า ฮั่นแน่ กูจะมีฟิคลงวันนั้นจริงหรือเปล่าก่อน อีนี่ชอบจ้อจี้
     ปล. ในหัวกูนึกภาพบทนี้เป็นดูนาตั้งแต่ตอนแต่งแรกสุดก่อนมีข่าวคนของมึง ที่กูก็เพิ่งมึ๊งว่าเคยใช้ตอนเรื่องมิดไนท์เทรนดี้ให้นามสกุล...อาริมูระ มึง กูขอโทษ Orz แต่นับจากนี้จะไม่มีอีกแล้ว เพื่อนรักต้องมาก่อน (ใครเพื่อนมึง)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×