ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #60 : CITY/POP/WAVE: Ride On Time

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 67


    Ride On Time
    Playlist: Yamashita Tatsuro – Ride On Time













    .

    ปุบปับ หญิงสาวที่กำลังคุ้ยกุญแจเข้าห้องในกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กที่ยัดข้าวของอยู่เต็มจนหาอะไรไม่ค่อยจะเจอ ก็เป็นต้องได้สะดุ้งเฮือกกับเสียงบานประตูจากห้องข้างๆ ที่เปิดผัวะออกมาอย่างแรงมากแบบไม่เกรงอกเกรงใจชาวบ้านชาวช่อง ก่อนชายหนุ่มตัวสูง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ในชุดเสื้อยืดกางเกงสีดำกับรองเท้าผ้าใบสีขาวที่รวมกันออกมาได้เป็นอะไรที่จืดชืดสิ้นดี — หรืออย่างน้อยๆ ก็ในสายตาของคนที่หายใจเข้าออกเป็นแฟชั่นอย่างเธอ — จะพรวดพราดเข้ามาฉวยคว้าข้อมือบางข้างหนึ่งอย่างไม่เกรงอกเกรงใจอีกครั้งแล้วว่า “ไปนั่งรถเล่นด้วยกันหน่อยนะมิเนะ” จากนั้นก็ลากตัวคนที่ยังคงไม่รู้อิโหน่อิเหน่ลงบันไดไปด้วยกัน ท่ามกลางความงุนงงระคนสับสน กว่าที่สติจะหวนกลับมาก็ตอนที่อีกฝ่ายปล่อยมือเธอเพื่อเดินอ้อมไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ ให้มิเนะได้แหวลั่นว่า

    “อะไรเนี่ยไทโช! จะไปไหน! ฉันเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ นะ!”

    “เหอะน่า ขึ้นรถ”

    ถึงจะเป็นคำสั่งที่ไม่ได้อยากรับ แต่หนึ่งคือเธอคร้านที่จะต่อล้อต่อเถียง อีกหนึ่งคือเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะไปไหนหรือมีเหตุผลอะไร หรือไม่ไอ้ที่ว่ามาก็อาจเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลงี่เง่าบ้าบออะไร หรือไปจนถึงสุดหล้าฟ้าไกลแค่ไหน มิเนะก็พร้อมยอมตามเขาไปอยู่ดี

    ทั้งอย่างนั้นก็อดถอนหายใจออกมาเต็มแรงไม่ได้ ขณะรอให้เขากดล็อกประตูรถให้เธอเข้าไปนั่งโดยสารอยู่ข้างๆ เมื่อคาดเข็มขัดเรียบร้อยแล้วก็ไม่รีรอที่จะปรับเบาะที่นั่งให้เอนลงไปอีกหน่อยสำหรับการ นอนอย่างที่เธอหมายมั่นตั้งใจว่าจะทำเป็นอย่างแรกในตอนที่กลับถึงห้อง หลังจากแวะเข้าบริษัทในวันหยุดเพื่อสะสางงานที่ลูกค้าสั่งให้แก้อยู่นั่น (แล้วดันเอาดราฟต์แรก!) ให้เสร็จ

    ทว่าสิ่งแรกที่มิเนะผู้จัดตำแหน่งตัวเองได้รวดเร็วมากทำ ก็คือการเริ่มต้นคำถามที่ดังมาก่อนเสียงวิทยุหรือเครื่องยนต์เสียอีกว่า

    “อย่างน้อยนายก็ช่วยบอกหน่อยว่าจะไปไหน”

    “ไปเรื่อยๆ” คำตอบที่ทำให้มิเนะซึ่งจ้องหน้าคนหลังพวงมาลัยอยู่ก่อนแล้วได้แต่อ้าปากพะงาบ ยังไม่เท่ากับประโยคต่อไปที่ไทโชเอ่ยต่ออย่าง “ขอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จะหาว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่ช่วยตามใจคนอกหักเหมือนที่ฉันเคยตามใจเธอบ้างทีนะ มิเนะ”

    หนนี้มาพร้อมกับถ้อยเสียงเกือบตะโกนที่หลุดออกมาจากลำคอของมิเนะได้สักทีว่า

    “เอ๊ะ! อกหักเหรอ! หมายความว่าไง!”

    แต่ไทโชก็เริ่มสตาร์ทรถโดยไม่ยอมตอบอะไรอีก ขณะที่วิทยุก็เริ่มเล่นเพลงของยามาชิตะ ทัตสึโระที่เธอชอบอย่าง เลิฟ ทอล์คกิ้ง (ฮันนี่, อิทส์ ยู)พร้อมกับเนื้อเพลงในท่อนที่เธอชอบว่า

    ฉันรักการได้พูดคุยกับเธอ แต่หัวใจของเธอ รู้เรื่องนั้นหรือเปล่า?’

    อย่างที่มิเนะ — ซึ่งต้องทำทีเป็นเสมองออกไปนอกหน้าต่างขณะยกมือขึ้นปิดปากเพื่อซ่อนรอยยิ้มของตัวเอง — กำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้แทบจะเหมาะเจาะ!

     

    เพราะทาจิบานะ มิเนะ ตกหลุมรักอิวาซากิ ไทโช มาเป็นเวลาสามเดือนได้แล้ว

    เธอรู้จักเขาแบบผิวเผินในฐานะเพื่อนร่วมงานสองปีที่บริษัทโฆษณาเดียวกัน แต่คนละแผนก ก่อนที่ต่างฝ่ายจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นกว่าเดิมในตอนที่มิเนะจำต้องย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์ห้องเก่า เพราะจู่ๆ เจ้าของก็จะขายที่ทิ้งโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า คุณยามาซากิ แผนกครีเอทีฟไดเรกเตอร์เดียวกันกับไทโชที่กำลังจะลาออกไปแต่งงานเลยดีใจหายแล้วยกห้องเช่านี้ให้เพราะไม่อยากทิ้งมัดจำไปเปล่าๆ มิเนะเองก็ดีใจหายที่ได้ห้องเช่าดีๆ ราคาย่อมเยาว์ พ่วงมาด้วยเพื่อนข้างห้องที่ก็ดี — แสนดีจนน่า — ใจหาย จากแค่เรื่องการงานและดินฟ้าอากาศทั่วไปในตอนเช้าหรือเย็นที่เจอหน้ากัน พัฒนาไปเป็นเรื่องชีวิตรักๆ เลิกๆ กับผู้ชายสองสามคนตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาของเธอ ขณะที่ไทโชเองก็ไม่เคยแสดงความหงุดหงิดรำคาญใจออกมาเลยสักครั้ง แม้ว่าวันดีคืนดีเธอจะไปเคาะประตูห้องของเขาโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่มีการสนใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรอยู่ เพื่อบ่นว่า ก่นด่า คร่ำครวญ ร้องห่มร้องไห้ ดื่มเหล้าจนเมามาย แล้วจบลงที่การสลบเหมือดไม่รู้เรื่องรู้ราว เพื่อที่จะพบตัวเองตื่นมาบนเตียงนอนที่ทั้งกว้างทั้งนุ่ม ขณะที่เจ้าของห้องต้องระเห็จไปนอนบนโซฟาเล็กที่ไม่สบายตัวเอาเสียเลยแทนทุกครั้งไป

    มิเนะที่หัวสูงเพราะมั่นหน้าว่าสวยมากไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีใจให้กับผู้ชายธรรมดาๆ อย่างไทโชในแง่นั้น เพราะถึงเขาจะเป็นเพื่อนคุยและที่ปรึกษาที่ยิ่งกว่าดีมาก แต่หน้าตาและความใจดีของเขาก็ไม่ได้ตรงกับสเปก แถมอีกฝ่ายก็ดูไม่เคยแสดงท่าทีอะไรกับเธอในแง่นั้นเหมือนกัน ถึงจะได้อยู่ในห้องด้วยกันสองต่อสองตั้งออกบ่อย

    แต่ในตอนที่มิเนะได้เห็นไทโชหัวเราะพูดคุยด้วยรอยยิ้มกว้างอยู่กับเจ้าหญิงฮิเมนะแผนกประชาสัมพันธ์ตอนช่วงพักกลางวันหนึ่งในห้องอาหาร จู่ๆ ข้างในอกของเธอก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างกับถูกเหล็กไนทิ่มแทง มิเนะตั้งสมาธิกับการทำงานตลอดทั้งบ่ายนั้นไม่ได้เลยจนต้องหาข้ออ้างว่าปวดหัว แล้วหนีกลับบ้านไปรักษาแผลใจแทน

    แม้ว่ามิเนะจะมีความคิดชั่วร้ายอย่างการสารภาพรักกับเขาก่อนที่เขาจะได้สารภาพรักกับเจ้าหญิงผุดขึ้นมา แต่ในเมื่อไทโชชอบฮิเมนะอยู่เห็นๆ แล้วจะบ้ามาตอบรับรักเธอเพื่ออะไร มิเนะผู้มีอีโก้สูงเสียดฟ้ายังไม่พร้อมที่จะรับฟังคำปฏิเสธ เหมือนกับที่เธอก็ยังไม่พร้อมเสี่ยงเสียเพื่อนดีๆ ไป อย่างน้อยๆ ก็ในตอนนี้

    และสิ่งเดียวที่มิเนะทำได้ก็คือการเฟดตัวเองออกจากวงโคจรชีวิตของไทโชทีละนิด...แม้จะอย่างน่าเศร้า ไม่ว่าเธอจะพยายามคบหากับผู้ชายมากหน้าหลายตาก็ยังไม่ช่วยให้เธอลืมผู้ชายที่รักไปหมดแล้วทั้งใจได้เลยสักนิด เป็นช่วงเวลาสองเดือนกับอีกสามวันที่มีแต่ความหลอกลวงและขื่นขมสำหรับมิเนะ ตรงกันข้ามกับไทโชที่คงจะหวานเจี๊ยบเผื่อคนทั้งโลกได้แล้วเพราะรอยยิ้มกว้างทุกครั้งที่มิเนะบังเอิญไปเห็น ไม่ว่าเขาจะอยู่กับเจ้าหญิงให้เธอได้แสลงใจหรือไม่ก็ตาม

    ใช่จะไม่รู้ว่าการที่ตัวเองรู้สึกดีอกดีใจเพราะใครอีกคนอกหักนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร แต่เรื่องความรักมันเป็นอะไรที่ห้ามกันไม่ได้ไม่ใช่หรือไง?

    มิเนะถึงได้ตัดสินใจไม่ห้ามปากตัวเองเมื่อบ่ายหน้ากลับเข้ามาในรถ จดจ้องมองดูใบหน้าด้านข้างของสารถีที่ขับรถแล่นฉิวไปบนท้องถนนด้วยท่วงท่าเบาสบาย และทำให้มิเนะตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเธอคิดว่าตัวเองเหินห่างจากช่วงเวลานี้ไปนานแค่ไหน และรักการได้เห็นไทโชในช่วงเวลานี้มากแค่ไหน

    “ที่ว่าอกหัก...หมายถึงกับฮิเมนะจังเหรอ?”

    “รู้อะไรไหมมิเนะ” ไทโชเริ่มต้นแบบนั้นโดยไม่หันมามองหน้า “ฉันชอบฮิเมนะตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นเขาร้องห่มร้องไห้เพราะทะเลาะกับแฟนทางโทรศัพท์ตอนหลังเลิกงาน ถึงจะเจ็บปวดที่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะกลับไปคืนดีกับแฟน แต่ฉันก็เชื่อว่าสักวันหนึ่งยังไงเขาก็ต้องเลิกกับไอ้ผู้ชายเฮงซวยพรรค์นั้นอยู่ดี ฉันเชื่อแบบนั้นมาตลอดเลยนะ มิเนะ จนเมื่อวานที่ฮิเมนะโทร.มาร้องห่มร้องไห้กับฉันทั้งคืน ฉันถึงได้รีบแวะไปหาเขาในตอนเช้าด้วยความเป็นห่วง แต่เชื่อไหมล่ะว่าไอ้ผู้ชายคนนั้น...ฉันหมายถึงแฟนของฮิเมนะนั่นแหละ...จะเป็นคนออกมาเปิดประตูรับ”

    ไทโชหัวเราะออกมาด้วยความเยาะหยันต่อตัวเองเมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ ตรงกันข้ามกับมิเนะที่ไม่แม้แต่จะยิ้มออกมาได้ด้วยซ้ำ ทั้งความสลดหดหู่ใจแทนเขา แต่ที่มากกว่าคือความเศร้าเสียใจเมื่อคิดว่าจุดเริ่มต้นระหว่างเธอกับเขาก็แทบไม่ได้แตกต่างอะไรกันเลยด้วยซ้ำ หากสิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือไทโชไม่ได้มีใจให้กับเธอเหมือนอย่างฮิเมนะ

    “ผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีเป็นบ้าเลยมิเนะ! ตอนนั้นในหัวฉันคิดขึ้นมาเลยว่า อ๋อ เจ้าหญิงก็ต้องคู่กับเจ้าชายแบบนี้สินะ พอรู้แบบนั้นแล้วฉันก็ตาสว่างขึ้นมาเลยว่ายังไงฮิเมนะก็ไม่มีที่ว่างให้กับคนอย่างฉันหรอก ไม่ว่าตอนนี้หรือว่าตอนไหน”

    “เสียใจด้วยนะ” มิเนะพึมพำเสียงแผ่วออกมาได้แค่นั้น

    “ฉันนี่มันโง่เนอะ”

    “นายไม่ได้โง่สักหน่อย!” หนนี้มิเนะจะรีบสวนย้อนไปมากกว่านั้นด้วยระดับเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์ในคำพูดของตัวเองให้คนข้างๆ ได้เข้าใจ “ไม่มีใครโง่ทั้งนั้นแหละในเรื่องนี้ มีก็แต่คนอ่อนแออย่างฮิเมนะจังที่รักแฟนของตัวเองมากจนยอมอภัยให้ได้ทุกอย่าง แต่ความรักก็ทำให้คนเราอ่อนแอแบบนั้นไม่ใช่เหรอ? เหมือนที่ฉันเคยเป็น...เหมือนที่นายกำลังเป็น แต่ต่อให้นายจะอ่อนแอก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ไทโช เพราะว่าตัวฉันที่เข้มแข็งในตอนนี้จะอยู่เคียงข้างนาย เหมือนกับที่นายคอยอยู่เคียงข้างฉันมาตลอดเอง”

    “ดีจังที่มีมิเนะ”

    และคำพูดจากน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนเฉกเช่นเดียวกับรอยยิ้มของเขาที่มิเนะตกหลุมรัก ก็จะทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวจนต้องรีบเบือนออกไปนอกหน้าต่าง เพราะไม่อย่างนั้นความลับที่เธอเก็บไว้จะต้องแตก...จากปากของตัวเองที่ทนไม่ไหวจนต้องหลุดสารภาพมันออกไปอย่างแน่นอน

     

    เมื่อมิเนะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แสงแดดก็อ่อนจางลงไปมากแล้ว

    อาจเป็นเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการต้องตื่นแต่เช้าและโหมทำงานหนักไม่ได้หยุดนานหลายชั่วโมงที่ทำให้ยิ่งเพลีย ไม่รู้ตัวเลยว่าผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าตอนนี้เธอมาอยู่ที่ไหน นอกจากท้องฟ้าสีส้มสนธยาก็ยังมีท้องทะเลสีฟ้าที่เปล่งประกายสะท้อนแสงอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดินระยิบระยับปรากฏอยู่ในแววตา เบาะที่ถูกเอนลงไปและเสื้อแขนยาวในรถที่ถูกพับรองคอเพื่อให้เธอนอนสบายขึ้น ย่อมไม่ใช่ฝีมือใครอื่นนอกจากคนที่ลงไปนั่งอยู่บนม้านั่งห่างออกไปไม่ไกล ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไทโชก็ยังเป็นคนใจดีที่คอยห่วงใยคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ

    กลิ่นของสบู่จางๆ ที่เธอเคยคุ้นจากเตียงนอนของเขาเรียกเอาความรู้สึกที่เหินห่างไปให้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง ในตอนที่มิเนะจ้องมองดูแผ่นหลังกับไหล่กว้างของเขา และผมยาวระต้นคอที่พัดไปตามแรงลมจนต้องยกขึ้นเสย ทั้งท่อนแขนกับนาฬิกาที่พ้นเสื้อยืดแขนสั้นนั้นมา ครั้นได้ยินเสียงเปิดประตูรถ ไทโชก็จะหันมาส่งยิ้มให้ ทำเอาหัวใจที่เต้นรัวแรงมากของมิเนะแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่

    เธอต้องข่มอกข่มใจเป็นอย่างมากในตอนที่นั่งลงข้างกันกับเขาด้วยระยะห่างที่พอเหมาะพอดี ก่อนความเงียบงันและมือที่กดกำบนกระโปรง ที่สุดแล้วมิเนะก็อดรนทนไม่ไหวเมื่อหันหน้าไปหาเขาแล้วโพล่งขึ้นว่า

    “ฉันชอบไทโชนะ”

    ใบหน้าของเจ้าตัวแสดงความงุนงงมากกว่าตกใจในตอนที่หันขวับมา

    “ความจริงแล้วฉันไม่ได้เข้มแข็งอะไรหรอกนะ ฉันอ่อนแอจนทนเห็นนายมีความสุขกับฮิเมนะจังไม่ได้ถึงได้คอยหนีหน้ามาตลอดต่างหาก เพราะฉันอ่อนแอและเห็นแก่ตัว ถึงได้รู้สึกดีใจทั้งที่นายกำลังเศร้า ขอโทษนะที่คิดอะไรแย่ๆ แบบนั้น แต่ฉันคิดถึงนาย คิดถึงตอนที่ได้คุยกับนายเหมือนเมื่อก่อน”

    “มิเนะ...ชอบฉันเหรอ?”

    "ฉันไม่ได้จะฉวยโอกาสจากนายนะ! ไม่ได้ต้องการคำตอบอะไรด้วย!” มิเนะรีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นโบกปัด “ฉันรู้ว่านายยังรักฮิเมนะจังอยู่ แต่เพราะบรรยากาศพาไปล่ะมั้ง ฉันถึงได้รู้สึกว่าต้องพูดออกไป ขอโทษนะถ้าทำให้ลำบากใจ”

    ไทโชสั่นหัวขณะยิ้มให้เธอ

    “ฉันสิที่ต้องขอบคุณมิเนะที่มาชอบคนอย่างฉัน ขอบคุณมากนะ ขอบคุณจริงๆ”

    มิเนะเองก็ยิ้มตอบกลับไป ด้วยความสุขของโมงยามนี้ที่ซับซาบอยู่ในหัวใจ ไม่ว่าอนาคตต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร

    “ดีจังที่มีไทโช”












    2023年08月23日
    _______________
     กูดราฟต์ทอล์คไว้ตั้งแต่ช่วงมีข่าวดราม่า น้ำหูน้ำตา พอหลังวัชโช่ยแล้วเหตุการณ์กลับเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กูงงมาก แต่จะให้อ่านที่กูเขียนไว้เดิม ขำๆ 55555 ถึงอย่างนั้นข่าวของวงโน้นที่กู(เคย)ชอบมาเป็นปียังไม่ทำให้กูร้องไห้ได้เหมือนวัวเหมือนควายได้เท่ากับตอนอ่านคำขอโทษของวงนี้ที่เพิ่งชอบได้แค่ครึ่งเดือน ถึงกูจะโกรธอิสเสมาก (ส่วนเรื่องของนาสุกับริวกะนั่นไร้สาระมากจนกูไม่อยากจะด่า) แต่ก็ดีใจที่สุดท้ายบิโชเน็นหกคนก็ยังเลือกที่จะสู้ไปด้วยกัน ถึงจะยังไม่ได้เดบิวต์ก็ไม่เป็นไร (ไม่ได้สักวง) อะไรที่แล้วๆ ก็ให้มันแล้วไป เริ่มต้นกันใหม่ (ใหม่จริง กูกลับมาอภัยให้อิสเสไม่พอ กูยังกลับมาชอบนาสุเพราะมีข่าวนี่แหละอีกต่างหาก orz) แต่ก็นั่นแหละจากที่คิดว่าเดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนก็คงเลิกชอบแล้ว สรุปก็น่าจะได้อยู่ยาวจนกว่าจะส่งเค้าไปจนถึงวันเดบิวต์แล้วล่ะ (กูต้องการซีดีเดบิวต์เท่านั้น ไปดิจิตอลที่ตีนนะ) เห้อออ ไม่คิดว่าวงนี้จะเป็นวงที่เจอข่าวใหญ่ที่สุดในรุ่นได้ ปีนี้ปีชงของเราเหรอวะ ทั้งวงเมนมึงวงเมนกู (แต่กูฟื้นตัวแล้ว ไวมากจนงง) บอกแล้วว่าเรื่องที่จะทำให้เราเสียใจแค้นใจได้มีแค่เรื่องผู้ชายก็คือจริง / เพิ่งนึกออกว่าตอนประกาศข่าวแอลเอของวงเก่าก็ช่วงใกล้วันเกิดเมนกูไม่ใช่เหรอวะ เวรกรรมจริงๆ 55555
     แฮปปี้เบิร์ธเดย์อิวาซากิ ไทโชที่กูยังชอบเค้าจนถึงวันเกิดได้จริงเป็นปีแรก (และหวังว่าจะได้มีปีต่อๆ ไป T_T) หลังจากรู้จักกันมาได้ 2-3 ปี ไม่เคยเฉียดไปหาบิโชเน็นอยู่วงเดียวทั้งช่อง อีผี แต่ทุกอย่างย่อมมีจังหวะเวลาที่ใช่ (ใช่เลย...หมายถึงกูชอบปุ๊บก็มีข่าวเลย) ถึงเค้าจะบ้าๆ บอๆ มึงได้เห็นเค้าทำอะไรน่าอาย (หมายถึงกูนี่แหละอาย) มากมาย เช่นเรอโค้ก ไปเป็นวณิพกในวัชโช่ยเป็นต้น ที่อาจบอกได้ว่านอกจากตัวสูงใจดีเสียงเพราะแล้วก็อาจไม่มีอะไรตรงสเปคกูเลย...โดยเฉพาะยิ่งเป็นโอตาคุที่โลกรู้ว่ากูกับคุไม่มีวันไปด้วยกันไม่ได้ แต่คนมันรักไปแล้วทำไงได้ ถึงอย่างนั้นกูก็จะไม่พูดว่าจะรักคนนี้อีกนาน เพราะใจกูมันยากแท้หยั่งถึง วันหนึ่งกูจะไปก็ไปเลย แต่ถึงวันหนึ่งกูจะไม่อยู่แล้ว ก็ขอให้จำไว้ว่าครั้งหนึ่งกูก็เคยรักคนที่นิสัยดีมาก ใจดีมาก เพื่อนพูด แฟนคลับอวย ดีที่สุดเท่าที่คนเหี้ยๆ อย่างกูเคยรักมาแล้วกัน / ปล. เมื่อวานรูปจากละครที่ไทโชเล่นเป็นฮิเดโยชิก็เพิ่งปล่อย หัวล้านๆ >_< 
     โลกไม่รู้ไม่เป็นไร แต่กูจะบอกว่ารักเพลงไรด์ออนไทม์มาตั้งแต่ได้ยินในสารคดีจอห์นนีส์ที่ชื่อเดียวกัน (และใช้ประกอบเรื่องกู๊ดลัคที่ป๋าคิมุของมึงเล่น! และไทโชชอบ! ในปี 2003!) ทีนี้ตอนกูไปดูบีทูบอันเก่าที่ให้เขียนร้อยอย่างที่ชอบแล้วไทโชก็เขียนเพลงนี้! เพราะงั้นเลยไม่ได้ว่ะ สิตี้พ้อพต้องมาแล้วจริง แต่งเรื่องนี้ทิ้งไว้ตั้งแต่เดือนสองเดือนก่อนแล้ว แต่ก็แก้ๆ ลบๆ ไม่เปิงใจสักที ที่จริงอันนี้ก็ไม่เปิงใจเท่าไหร่ แต่โค้งสุดท้ายแล้วเดี๋ยวไม่ทันวันเกิด (ที่สุดท้ายก็แต่งไม่ทันอยู่ดีเพราะงานยุ่งชิบหาย ดาวเคลื่อนอะไรก่อนฮ่วยบ่ะ!) สารภาพเลยนะว่าเบื่อชื่อมิเนะแล้ว แค่กูคิดไม่ทัน ไหนๆ ก็ชเวรีงั้นก็เออ ชื่อเดิมนั่นแหละ บทเพื่อนข้างห้องเดิมนั่นแหละ ยังไงก็ได้ ขอแค่ได้ใช้คำว่ามิที่เหมือนบิกูก็สบายใจ / และกูเพิ่งเห็นว่าคุณทัตสึโระมีอัลบั้มชื่อบิ๊กเวฟ ก็ว้าวนะ บชนก็บิ๊กเวฟเครื่องหมายตกใจหกตัว >_< / ปล. เลขท้ายสองตัวงวดที่แล้วออก 67 เหรอวะ! แม่งเอ๊ย!

     กูเคยเล่ายังว่ามีพล็อตยุค 80s ตั้งแต่ตอนดูเบื้องหลังอัลเทอร์มาจีบสมัยเพิ่งจะเข้าโรงใหม่ๆ (อะไรนะ หนังปี '15 เหรอวะ!) แล้วก็เพราะเรื่องมารูโกะช่วงที่โตเป็นผู้ใหญ่ (กูก็ชอบมากเนาะขนาดเป็นเรื่องสั้นแค่ตอนเดียวเองมั้ง) นางเอกตายแล้วได้ย้อนเวลากลับไปตอนพ่อแม่ยังเป็นวัยรุ่น ต้องไปกีดกันเพื่อนพ่อที่มาจีบแม่ตัวเองแล้วสุดท้ายก็ได้รักกัน เคยคิดว่าจะแต่งตั้งแต่สมัยสโตรเลยนะ จำได้ พ่อแม่ก็นางเอกกูกับไทกะ (พ่อต้องเล่นกีตาร์เว้ย) ส่วนนางเอกมึงจะย้อนมา เพื่อนคือเจสสี้ เป็นฝรั่ง ฮ่าๆๆ รุ่นหลังก็มีเปลี่ยนพ่อเป็นอุมิเพราะเพลงซูชิคุยเนะ เป็นลูกร้านซูชิ อีเหี้ย จำได้เลยว่าเวอร์นี้จะขายขำ แต่ไม่รู้เพราะอะไรถึงแต่งไม่ได้สักที มันติดตรงไหนวะ หรือแปดศูนย์มันอาถรรพ์กับเรา เออ จำได้ด้วยว่าลูกต้องชื่อโคโคโระด้วยนะเพราะคือดวงใจของพ่อแม่ 55555 (แต่คิดไหมว่าอาจเป็นเพราะโคโคโระย้อนเวลามาช่วยความรักพ่อแม่เลยเอาชื่อเพื่อนมาตั้งเป็นชื่อลูก แบบนี้มันเรียกว่าอะไร ไทม์พาราด็อกซ์ไหม ไม่เข้าใจ) อีกอย่างคือแม่ตายตั้งแต่ลูกยังเล็กเลยเหลือแค่พ่อเลี้ยงมานี่แหละ แต่ที่เหลือก็ไม่เคยคิดไปถึงแล้ว พับๆ 80s ญี่ปุ่นมีไว้ให้แต่งเรื่องชู้ๆ เท่านั้นแหละ!
     ขอบคุณรูปจากคุรพอยที่ของมันต้องมี! คอนเส้ปคือสิตี้พ้อพเต้าอั้น! เอาปกเอารูปโน่นนี่นั่นไปให้เค้าดู หลักๆ กูขอแค่ทะเลกับรถยนต์ เพราะมันต้องมี! ที่ก็บังเอิญมากว่าชเวรีในเอ็มวีก็ยู้รถสีเหลืองง่ะ ดูซะว่าองค์ประกอบทุกอย่างคือสิตี้พ้อพสุดๆ แล้ว ไม่ใช่ให้มาเหยียบ ส่วนที่เหลือเค้าก็เสกมาให้กูเองหมดเลยเช่นเคย พาร์เฟต์ พุดดิ้ง ว่าไป แม้ว่ามือถือฝาพับจะเพิ่งมาในยุคหลัง (น่าจะช่วงปีสองพันเนาะ) แต่เค้าวาดมากูก็จัดไป! เพราะครั้งหนึ่งเราก็เป็นคอฝาพับจริงไหมเพื่อน >_< ส่วนชุดก็ไปเจอจากวีวี่มั้ง ไม่ก็แมกฯแฟชั่นสักเล่ม เห็นนางแบบแต่งละน่ารักดี ลายดอกๆ เหลืองๆ อิอิ ศึกสีเหลืองของกูกับมึงยังอีกยาวไกลนัก ชริ้ง!

    2024年08月23日
    _______________
     หนึ่งปีผ่านไป ฟิคมันก็ไม่มีอะไร ทำไมกูไม่เกลาลงให้จบๆ หรือเพราะว่ามันไม่มีอะไรนี่แหละ แต่ก็สุขสันต์วันเกิดอีกครั้ง อีกปี ที่ได้อยู่กับบชน6นะ แม้ว่าผ่านไปหนึ่งปีแล้วก็จะยังไม่เคยได้เห็นทชขับรถจริงๆ สักที หรือต้องรอเดบิวต์ก่อนวะถึงจะมีคลิปขับรถได้ U_U
     ตอนจบคิดไว้แบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่หาคำมาบรรยายตอนจบที่เปิงใจไม่ออก เนื้อเพลงก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ลักมาใส่เลย ละเพิ่งรำลึกได้ว่าปกติกูแต่งฟิคลงที่ฉากจูบตลอด มาเวย์นี้แล้วไปต่อไม่ถูกจัด เลยตัดสินใจให้มิเนะพูดคำนี้เหมือนกับที่ไทโชพูดยังไงล่ะ เฉียบ! / และสุดท้ายก็ยังเป็นฟิคที่ไม่ได้เปิงใจทั้งหมด แต่พอเกลาๆ ไปก็โอเคอยู่นะ ฟีลละครได้อยู่ กูก็แต่งแนวผู้ใหญ่แบบเป็นผู้เป็นคนได้นี่ (แต่ไม่แต่ง) แต่ก็ถือว่าคอมพลีตการแต่งฟิคจากเพลงที่ไทโชชอบ (คำว่าอาโออิ ฮ่าๆๆ) ไปอีกหนึ่งได้แล้ว เป็นฟิควันเกิดที่ดี มอบให้กับเมนนิสัยดี ที่ดิชั้นก็พูดได้เช่นกันว่า "ดีจังที่มีไทโช" ค่ะ / ปล. พรุ่งนี้มีเลิฟอิทร็อค มารอลุ้นไคจูโนะฮานะอุตะกัน วู้วว!
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×