คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #49 : Catharsis: บทที่สอง (แม่มด)
君はそう きっとそう
เธอก็คือเธอนั่นแหละ
「自分より好きな人がいる」
คนที่รักตัวเองที่มี
自分が好きなの
“คนที่ฉันรักมากกว่าตัวเอง”
今は 言えるよ
ตอนนี้ฉันพูดได้แล้ว
「自分より好きな君がいる」
ว่าฉันรักตัวเองในตอนนี้ที่
今の僕が好き
“รักเธอมากกว่าตัวเอง"
บทนำ
คาสะโมริ นางิสะ สำหรับเด็กห้องปี 2-2 แห่งโรงเรียนโอโสะนั้น คือนางแม่มดที่ไม่มีมนุษย์คนใดอยากเข้าใกล้ ทว่าสำหรับเด็กห้องปี 1-2 แห่งโรงเรียนมัธยม A แล้ว ครั้งหนึ่ง คาสะโมริ นางิสะ ก็เคยเป็นเด็กหญิงธรรมดาสามัญ ผู้เคยมีเพื่อนรายล้อม และสามารถหัวเราะได้เป็นปกติ เรื่องพรรค์นี้อาจคล้ายลมปากที่เรียกความชอบธรรมให้แก่เจ้าตัวซึ่งบัดนี้ได้ถูกเกลียดชัง แต่ถ้าเราบอกว่ามันมาจากปากเหล่าพยานทั้งหลายในเหตุการณ์ก็คงจะฟังน่าเชื่อถือมากกว่า อย่างนั้นแล้ว มันตั้งแต่เมื่อไหร่ และอย่างไร ที่เหรียญถูกพลิกเปลี่ยนด้านจากหน้าเผยหลังเช่นทุกวันนี้
ทุกคนในเหตุการณ์ยังจำได้ดี
นิทานเรื่องนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ บทที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้อาจอยู่ในช่วงต้นหรือกลางหนังสือเล่มหนาหนัก กับเรื่องราวของเด็กสาวผู้ถูกเหล่าโฉมงามรุมกลั่นแกล้งเพราะเป็นที่หมายปองของเจ้าชาย จากการพูดจาถากถาง ทำลายข้าวของ ก็เริ่มบานปลายเป็นการทำร้ายร่างกาย ซึ่งหาได้มีใครยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือเด็กสาวผู้นั้นไม่ ไม่แม้แต่เด็กหญิงหรือชายคนที่ต่างเคยบอกว่าเป็นเพื่อนรักกันนักหนาเลยแม้แต่คนเดียว คนธรรมดาที่เฝ้ามองเหตุการณ์จากระยะไกลมาโดยตลอดรู้สึกสงสารและเวทนาเด็กสาวจับใจ จึงคาบข่าวเรื่องนี้ไปบอกอาจารย์ที่ปรึกษา และเมื่อชื่อของคนธรรมดาถูกป่าวประกาศหน้าชั้นในชั่วโมงโฮมรูม พร้อมกับการพูดคุยในหัวข้อการกลั่นแกล้งที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นในโรงเรียน เป้าหมายของทุกคนก็เปลี่ยนมายังคนปากสว่างนั้นอย่างพร้อมเพรียง
แล้วนางิสะจึงได้เข้าใจ
ไม่ใช่แค่ปัญหาในโรงเรียน แต่ยังที่บ้านซึ่งเธอไม่สามารถหันหน้าปรึกษาใครได้อีก นับตั้งแต่สูญเสียผู้ให้กำเนิดไปจากการฆ่าตัวตายเพราะปัญหารุมเร้าก่อนเปิดเทอมใหม่ ญาติๆ ต่างพากันผลักภาระด้วยไม่มีใครอยากรับเลี้ยงเธอ เหมือนกับคนที่ไม่มีใครต้องการ กระทั่งน้องชายที่เธอไม่เคยพบหน้าค่าตามาก่อนของแม่จะเป็นคนเสนอตัวเข้าช่วยเหลือทั้งที่มีสายเลือดร่วมกันเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น หากก็ไม่มีใครทัดทาน แม้ต่างรังเกียจเดียดฉันท์ลูกชู้ที่ได้เคยสร้างความร้าวฉานจนน่าหัวร่อ วินาทีที่เธอสิ้นหวังกับสายสัมพันธ์ เขาคนนั้นก็ได้เข้ามาจุดแสงสว่างซึ่งส่องนำทางในวันที่มืดหม่นที่สุดในชีวิตที่ไร้ค่า ก่อนที่สุดเธอจะได้ตระหนักถึงข้อความจริง พร้อมกับแสงสว่างที่วูบดับลงไปเพียงชั่วกะพริบตา โลกใบเดียวที่หลงเหลืออยู่ในชีวิตโดดเดี่ยวมีแค่เธอกับเพื่อนๆ ในห้องปี 1-2 คนที่ต้องการเธอเสมอ คนที่จะคอยอยู่เคียงข้างกันไม่ว่าจะอย่างไร นางิสะแน่ใจว่าเทพนิยายแสนสุขเรื่องนี้จะคงอยู่เรื่อยไปตราบชั่วนิรันดร์
เธอไม่คิดเลยว่ามันจะจบลงแบบเดิมๆ กับการเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ
ทุกๆ วันเปรียบดั่งนรกบนดิน ความหวังดีของเธอกลับกลายเป็นดาบสองคมที่ทิ่มแทงรอยแผลทั้งกายและใจ แม้แต่เด็กคนนั้นก็ยังกลายมาเป็นหนึ่งในคนรังแกเธออย่างทารุณราวกับการชำระแค้น เธอโง่เองที่คิดว่ามิตรภาพเป็นสิ่งแข็งแกร่งขนาดนั้น นางิสะเริ่มเขียนจดหมายกล่าวโทษผู้คน ทั้งพร่ำพรรณนาถึงชีวิตน่าทุเรศของตัวเองแสนยาวเหยียดจนเหมือนกับเรียงความที่ติดกันเป็นพรืด มันคือข้อความสุดท้าย คือจดหมายลาตายก่อนเธอจะตามมารดาผู้เป็นที่รักไป ไม่ว่าจะสวรรค์หรือนรก ก็คงจะดีกว่านรกที่เธอได้เผชิญและสร้างรอยแผลเป็นบนข้อมือข้างซ้ายเพื่อเป็นการระบายความคับแค้นตลอดมา แต่เมื่อทุกอย่างหลั่งรินท่วมท้นผ่านตัวอักษรนับพัน ฉับพลันความคิดของเธอก็แจ่มจรัส
เหตุการณ์สิ้นสุดลงในเช้าวันศุกร์ที่โต๊ะเก้าอี้ของเธอถูกโยนทิ้งออกนอกหน้าต่าง ท่ามกลางเสียงหัวเราะบาดหูเหล่านั้น นางิสะทิ้งกระเป๋านักเรียนของตัวเองลงบนพื้น ก่อนตรงเข้าไปโยนโต๊ะและเก้าอี้ของเด็กหญิงที่นั่งริมหน้าต่างข้างหน้าเธอออกไปเช่นเดียวกัน ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด เมื่อเธอโยนมันออกไปอีกตัว สองตัว ก่อนที่ใครจะได้สติและคว้าบ่าของเธอไว้ ไวทายาดพอที่มือบางจะหยิบมีดพับในกระเป๋ากระโปรงขึ้นมากรีดไปที่ใบหน้า เลือดสีแดงฉานบนหน้าเด็กชายคนนั้นไหลรินอาบแก้ม เด็กผู้หญิงส่งเสียงกรีดร้องและทุกคนต่างรีบพากันถอยกรูดออกห่างจากเธอ
บันทึกตลอดหนึ่งปีกับสิ่งมีชีวิตโง่เง่าในโรงเรียนมัธยม A จบลงแค่นั้น
ในเมื่อไม่มีใครต้องการเด็กสาวที่ชื่อคาสะโมริ นางิสะ
ก็แล้วอย่างนั้น คาสะโมริ นางิสะจะต้องการพวกเขาไปเพื่ออะไร?
_______________
ความคิดเห็น