ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #45 : Catharsis: บทที่สอง (แม่มด)

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 64


    Catharsis
    Inspiration: Confessions 「告白」 (Film, 2010) & Another「アナザー」 (Film, 2012)
    Playlist: RADWIMPS – Kanashi 「愛し」












    .

     

    君はそう きっとそう

    เธอก็คือเธอนั่นแหละ

    「自分より好きな人がいる」

    คนที่รักตัวเองที่มี

    自分が好きなの

    “คนที่ฉันรักมากกว่าตัวเอง”

    今は 言えるよ 

    ตอนนี้ฉันพูดได้แล้ว

    「自分より好きな君がいる」

    ว่าฉันรักตัวเองในตอนนี้ที่

    今の僕が好き

    “รักเธอมากกว่าตัวเอง"

     

    บทนำ

    คาสะโมริ นางิสะ สำหรับเด็กห้องปี 2-2 แห่งโรงเรียนโอโสะนั้น คือนางแม่มดที่ไม่มีมนุษย์คนใดอยากเข้าใกล้ ทว่าสำหรับเด็กห้องปี 1-2 แห่งโรงเรียนมัธยม A แล้ว ครั้งหนึ่ง คาสะโมริ นางิสะ ก็เคยเป็นเด็กหญิงธรรมดาสามัญ ผู้เคยมีเพื่อนรายล้อม และสามารถหัวเราะได้เป็นปกติ เรื่องพรรค์นี้อาจคล้ายลมปากที่เรียกความชอบธรรมให้แก่เจ้าตัวซึ่งบัดนี้ได้ถูกเกลียดชัง แต่ถ้าเราบอกว่ามันมาจากปากเหล่าพยานทั้งหลายในเหตุการณ์ก็คงจะฟังน่าเชื่อถือมากกว่า อย่างนั้นแล้ว มันตั้งแต่เมื่อไหร่ และอย่างไร ที่เหรียญถูกพลิกเปลี่ยนด้านจากหน้าเผยหลังเช่นทุกวันนี้

    ทุกคนในเหตุการณ์ยังจำได้ดี

     

    นิทานเรื่องนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ บทที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้อาจอยู่ในช่วงต้นหรือกลางหนังสือเล่มหนาหนัก กับเรื่องราวของเด็กสาวผู้ถูกเหล่าโฉมงามรุมกลั่นแกล้งเพราะเป็นที่หมายปองของเจ้าชาย จากการพูดจาถากถาง ทำลายข้าวของ ก็เริ่มบานปลายเป็นการทำร้ายร่างกาย ซึ่งหาได้มีใครยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือเด็กสาวผู้นั้นไม่ ไม่แม้แต่เด็กหญิงหรือชายคนที่ต่างเคยบอกว่าเป็นเพื่อนรักกันนักหนาเลยแม้แต่คนเดียว คนธรรมดาที่เฝ้ามองเหตุการณ์จากระยะไกลมาโดยตลอดรู้สึกสงสารและเวทนาเด็กสาวจับใจ จึงคาบข่าวเรื่องนี้ไปบอกอาจารย์ที่ปรึกษา และเมื่อชื่อของคนธรรมดาถูกป่าวประกาศหน้าชั้นในชั่วโมงโฮมรูม พร้อมกับการพูดคุยในหัวข้อการกลั่นแกล้งที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นในโรงเรียน เป้าหมายของทุกคนก็เปลี่ยนมายังคนปากสว่างนั้นอย่างพร้อมเพรียง

    แล้วนางิสะจึงได้เข้าใจ

    ไม่ใช่แค่ปัญหาในโรงเรียน แต่ยังที่บ้านซึ่งเธอไม่สามารถหันหน้าปรึกษาใครได้อีก นับตั้งแต่สูญเสียผู้ให้กำเนิดไปจากการฆ่าตัวตายเพราะปัญหารุมเร้าก่อนเปิดเทอมใหม่ ญาติๆ ต่างพากันผลักภาระด้วยไม่มีใครอยากรับเลี้ยงเธอ เหมือนกับคนที่ไม่มีใครต้องการ กระทั่งน้องชายที่เธอไม่เคยพบหน้าค่าตามาก่อนของแม่จะเป็นคนเสนอตัวเข้าช่วยเหลือทั้งที่มีสายเลือดร่วมกันเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น หากก็ไม่มีใครทัดทาน แม้ต่างรังเกียจเดียดฉันท์ลูกชู้ที่ได้เคยสร้างความร้าวฉานจนน่าหัวร่อ วินาทีที่เธอสิ้นหวังกับสายสัมพันธ์ เขาคนนั้นก็ได้เข้ามาจุดแสงสว่างซึ่งส่องนำทางในวันที่มืดหม่นที่สุดในชีวิตที่ไร้ค่า ก่อนที่สุดเธอจะได้ตระหนักถึงข้อความจริง พร้อมกับแสงสว่างที่วูบดับลงไปเพียงชั่วกะพริบตา โลกใบเดียวที่หลงเหลืออยู่ในชีวิตโดดเดี่ยวมีแค่เธอกับเพื่อนๆ ในห้องปี 1-2 คนที่ต้องการเธอเสมอ คนที่จะคอยอยู่เคียงข้างกันไม่ว่าจะอย่างไร นางิสะแน่ใจว่าเทพนิยายแสนสุขเรื่องนี้จะคงอยู่เรื่อยไปตราบชั่วนิรันดร์

    เธอไม่คิดเลยว่ามันจะจบลงแบบเดิมๆ กับการเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ

    ทุกๆ วันเปรียบดั่งนรกบนดิน ความหวังดีของเธอกลับกลายเป็นดาบสองคมที่ทิ่มแทงรอยแผลทั้งกายและใจ แม้แต่เด็กคนนั้นก็ยังกลายมาเป็นหนึ่งในคนรังแกเธออย่างทารุณราวกับการชำระแค้น เธอโง่เองที่คิดว่ามิตรภาพเป็นสิ่งแข็งแกร่งขนาดนั้น นางิสะเริ่มเขียนจดหมายกล่าวโทษผู้คน ทั้งพร่ำพรรณนาถึงชีวิตน่าทุเรศของตัวเองแสนยาวเหยียดจนเหมือนกับเรียงความที่ติดกันเป็นพรืด มันคือข้อความสุดท้าย คือจดหมายลาตายก่อนเธอจะตามมารดาผู้เป็นที่รักไป ไม่ว่าจะสวรรค์หรือนรก ก็คงจะดีกว่านรกที่เธอได้เผชิญและสร้างรอยแผลเป็นบนข้อมือข้างซ้ายเพื่อเป็นการระบายความคับแค้นตลอดมา แต่เมื่อทุกอย่างหลั่งรินท่วมท้นผ่านตัวอักษรนับพัน ฉับพลันความคิดของเธอก็แจ่มจรัส

    เหตุการณ์สิ้นสุดลงในเช้าวันศุกร์ที่โต๊ะเก้าอี้ของเธอถูกโยนทิ้งออกนอกหน้าต่าง ท่ามกลางเสียงหัวเราะบาดหูเหล่านั้น นางิสะทิ้งกระเป๋านักเรียนของตัวเองลงบนพื้น ก่อนตรงเข้าไปโยนโต๊ะและเก้าอี้ของเด็กหญิงที่นั่งริมหน้าต่างข้างหน้าเธอออกไปเช่นเดียวกัน ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด เมื่อเธอโยนมันออกไปอีกตัว สองตัว ก่อนที่ใครจะได้สติและคว้าบ่าของเธอไว้ ไวทายาดพอที่มือบางจะหยิบมีดพับในกระเป๋ากระโปรงขึ้นมากรีดไปที่ใบหน้า เลือดสีแดงฉานบนหน้าเด็กชายคนนั้นไหลรินอาบแก้ม เด็กผู้หญิงส่งเสียงกรีดร้องและทุกคนต่างรีบพากันถอยกรูดออกห่างจากเธอ

    บันทึกตลอดหนึ่งปีกับสิ่งมีชีวิตโง่เง่าในโรงเรียนมัธยม A จบลงแค่นั้น

    ในเมื่อไม่มีใครต้องการเด็กสาวที่ชื่อคาสะโมริ นางิสะ

    ก็แล้วอย่างนั้น คาสะโมริ นางิสะจะต้องการพวกเขาไปเพื่ออะไร?












    2021年02月21日
    _______________
    ★ คอมมิชชั่นจากคุณเซย์คนดีคนเดิมที่เราตั้งใจให้เป็นภาพคู่กันยังไงล่ะ! จริงๆ มันจะมีภาพเต็มด้วยแต่ไม่ลงหรอก เอามาต่อเองแล้วกันถ้าอยากเห็น แบบช่วงนี้ไอเดียคอมมิชเรามีแต่แนวๆ ภาพคู่ที่แยกกันแบบนี้ทั้งนั้นเลย ไม่ก็ฉากเดียวกันอะไรแบบนี้ ทำไมเริ่ดจังวะตัวเรา
    ★ นี่คือหนึ่งในเพลงของรัดวิมพ์สที่เรารักมาก (จริงๆ ฝรั่งอ่านว่าแรดวิมพ์สใช่มะ แต่เราอ่านตามตัวคาตะไงล่ะพี่สาว) แต่ขอออกตัวก่อนเลยว่าเนื้อเพลงเราแปลค่อนข้างมั่ว ศัพท์มันง่ายก็จริงแต่มันต้องใช้การตีความน่ะ คือดูจากญี่ปุ่นก็แล้ว เทียบอิ๊งซับหลายเจ้าก็แล้ว สุดท้ายก็เลยเอาวะ ตามความเข้าใจของกูเองซึ่งมันมั่ว! เพลงเจร็อคคือปราบเซียนจริงกับคนโง่อย่างกูเนี่ย! ว่าไปฉากเขวี้ยงโต๊ะเก้าอี้ออกไปนอกหน้าต่างมันคุ้นมาก เพราะเราจำได้ว่าเคยแต่งฉากนี้ในเรื่องอื่นด้วย ฉะนั้นก็น่าจะมีที่มา เหมือนว่าจะเป็นมังงะเรื่อง Life แต่ก็คิดว่าไม่น่าใช่ หรือนิชิในกันสึหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ (ไว้กูดูซ้ำเมื่อไหร่ฟิคกันสึมาจริงแน่ ในปีนี้แหละ ขอให้เชื่อใจ พวกเราจะต้องได้ไปสู้รูปปั้นพระพุทธรูปกับทราวิสจริงๆ โว้ย!) เออพอเห็นกระดานข่าวของฟิคมึงแล้ว ที่จริงตอนแรกสุดเลยนะแบบไม่ได้ตอแหลคือกูก็แต่งเป็นแนวเว็บบอร์ดออนไลน์แหละ บทนำของทุกตอนจะเปิดด้วยการสนทนาทางเว็บบอร์ดเพราะมันเป็นช่วงยุคสองพันไง ฮิตๆ อย่างไคโตะก็จะมาระบายเรื่องที่โรงเรียน หรือจดหมายลาตายของนางิสะตอนแรกจะถูกเขียนในเว็บบอร์ดนี่แหละแล้วคนอื่นก็มาให้กำลังใจบ้าง ไล่ไปตายบ้าง ไล่ไปฆ่าคนที่ทำให้อยากฆ่าตัวตายแทนบ้าง ฯลฯ แบบโหแนวคิดดีสัสๆ มาย้อนคิดดูกี่ทีก็แบบโคตรเสียใจ ลบทำไมวะอีควาย เอากูไปประหาร แต่ก็นั่นแหละ ทุกวันนี้มึงแต่งแนวนี้ดีกว่ากูไปแล้ว กูเลยจะรีไทร์ออกจากวงการฟิคดาร์กญี่ปุ่นอย่างถาวร นี่คงเป็นเรื่องสุดท้ายในบทความนี้แล้ว ลานะเพื่อน
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×