ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #59 : CITY/POP/WAVE: Purple Rain

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 66


    Purple Rain
    Playlist: Sexy Zone – Purple Rain












    .

    อีกครั้งแล้ว...ที่ชายผู้มีทุกอย่างเพียบพร้อมไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา ยิ่งโดยเฉพาะฐานะลูกชายคนเล็กของเจ้าของบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นซึ่งได้รับหน้าที่ให้ดูแลบริษัทลูกอย่าง เปกาซัสในฐานะประธานหนุ่มทั้งที่อายุเพิ่งจะยี่สิบห้า ด้วยความเด็ดขาดไม่เคยโอนอ่อนจนถูกพนักงานเรียกกันลับหลังว่าปีศาจ ผิดกับใบหน้าและรอยยิ้มที่ดูราวกับเทวดา กลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับปณิธานที่เขาตั้งมั่นทุกครั้งว่ามันจะเป็น ครั้งสุดท้ายหากทันทีที่ได้ยินเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นผ่านปลายสายที่เขากดรับแล้วยกขึ้นแนบหูโดยไม่ทักทายเมื่อเห็นชื่อบนนั้น เพียงคำพูดที่ไม่เคยใช่คำถามแต่เป็นการร้องขอ — ที่เธอรู้ว่าเขาจะไม่มีวันปฏิเสธ — ว่า “มาหาฉันทีนะ โซ” ก็จะทำให้ปราการที่เปราะบางไม่ต่างจากเธอในยามนี้ต้องพังทลายลงไป

    ในเมื่อโฮโจ เบนิคือผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่มัตสึชิมะ โซตกหลุมรักมาตั้งแต่สมัยไฮสคูลที่เรียนร่วมห้องกันมาตลอดสองปีสุดท้าย แต่เพราะไม่เคยคิดที่จะเป็นมือที่สามของใคร โซเลยได้แต่เก็บความรักที่ไม่มีวันจะสมหวังเอาไว้กับตัวเองลำพัง และคิดว่าเมื่อต้องลาจากกันไปเขาคงสามารถลบเลือนเธอได้จนหมดใจ กระทั่งโซจะได้รับรู้ว่ามันไม่ใช่ความจริงเลยสักนิด ยามที่ได้หวนกลับมาพบหน้ากันอีกครั้งในบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของ ถึงแม้ว่าเจ้าของหัวใจที่แท้จริงของเธอในเวลานี้จะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์คนดังที่มีชื่อว่านากาจิมะ เคนโตะก็ตาม

    ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ หัวใจของเธอก็ไม่เคยหลงเหลือที่ว่างให้กับเขา ทั้งที่โซเองก็รู้ดีแก่ใจว่าเบนิก็แค่หลอกใช้ความรักจากเขา — ที่เธอเองก็รู้ถึงเขาจะไม่เคยเอ่ยมันออกไป — ทุกครั้งคราวเวลาที่ทะเลาะกับคนรักหรือต้องการใครสักคนมาอยู่ใกล้ๆ แต่โซก็ยินยอมที่จะเป็นคนโง่งมมาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เพียงเพราะว่าอยากจะอยู่ใกล้ๆ ต่อให้จะต้องเจ็บปวดไปพร้อมกันกับเธอก็ไม่เป็นไร

    แต่ขณะมองดูสายฝนที่กำลังตกกระทบอยู่นอกบานกระจกรถซึ่งแล่นฉิวไปบนทางด่วนที่เกือบจะว่างเปล่าในยามค่ำคืน โซก็คิดว่าทำไมคนอย่างเขาถึงต้องมายอมจำนนกับคำว่ารักงี่เง่าบ้าบอนี่อยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ไม่เคยได้รับมันตอบแทนด้วย ทำไมคนอย่างเขาถึงต้องทำตัวน่าสมเพชเป็นได้แค่ของตายของผู้หญิงธรรมดาๆ คนเดียวที่ไม่เคยคิดถึงใจของเขาเลยด้วย เขาเจ็บเพราะต้องเห็นเธอร้องไห้เวลาทะเลาะกับคนรัก และเขาก็ยิ่งเจ็บเพราะต้องเห็นเธอยิ้มแย้มมีความสุขเวลาคืนดีกับคนรัก แล้วมันเรื่องอะไรที่เขาต้องมาถูกเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้กัน?

    บางทีครั้งนี้อาจถึงเวลาที่เขาควรจะทำให้มันเป็น ครั้งสุดท้ายจริงๆ สักที

     

    เพราะมันจะเริ่มต้นด้วยคำว่า “ฉันบอกเลิกเคนโตะไปแล้วล่ะ โซ” ทันทีที่เขาไขประตูเข้ามาในห้องอพาร์ตเมนต์คับแคบบนตึกชั้นเจ็ดที่เธอปั๊มกุญแจสำรองให้ เธอจะนั่งกอดเข่าไม่ก็นอนร้องไห้อยู่บนเตียงภายในห้องนอนมืดสลัวที่เปิดอ้ากว้างไว้ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหนเพื่อรอเขามาอยู่เป็นเพื่อนคอยปลอบใจ รับฟังเรื่องราวของเธอกับผู้ชายคนอื่นที่โซไม่เคยต้องการจะได้ยิน นอกจากจับมือ เช็ดน้ำตา และลูบผ่านศีรษะเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบโยนจนกว่าเธอจะผล็อยหลับไปเองและตื่นขึ้นมาเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น โซก็ไม่เคยได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นเมื่อเธอก็ไม่เคยให้อะไรมากไปกว่านั้น ไม่แม้แต่อ้อมกอดอบอุ่นเพื่อช่วยปลอบประโลมหัวใจที่หนาวเหน็บของเขาเลยสักครั้ง

    แม้ว่าใบหน้าแดงก่ำที่งดงามที่สุดในโลกของโซจะกำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาและทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกกรีดเฉือน แต่อาจเป็นเพราะสายฝนที่ทำให้คนเราอ่อนไหว ในค่ำคืนนี้โซถึงได้เพียงหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง มองดูเธอที่นั่งกอดเข่าผ่านโคมไฟสีส้มสลัวข้างเตียงที่เป็นแสงสว่างเดียวในตอนนี้ แล้วยอกย้อนกลับไปด้วยความเย็นชาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รู้จักกันมาว่า

    “ก็เธอบอกเลิกเองแล้วจะฟูมฟายไปทำไมล่ะ เบนิ?”

    ท...ทำไมนายถึงพูดแบบนั้น...”

    แต่โซก็ไม่สนใจฟังเธอพูดอะไรก็ตามออกมาจนจบ ยามที่เอ่ยต่อไปว่า

    ทำไม? ครั้งนี้เพราะเหตุผลโง่เง่าอะไรอีกล่ะ เบนิ เพราะเขาไม่มีเวลาให้ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่างานเขายุ่งแค่ไหน เพราะเขาไปสนิทสนมกับนักแสดงหญิงคนอื่นทั้งที่เขาก็บอกตลอดว่าไม่เคยสนใจใคร หรือเพราะอะไรก็ช่างที่คนเอาแต่ใจอย่างเธอจะสรรหามาน้อยใจแล้วก็เอามาพร่ำเพ้อระบายให้ฉันฟัง เพื่อที่สุดท้ายเธอก็จะกลับไปงอนง้อขอคืนดีกับผู้ชายที่เธอบอกว่าเขาทำร้ายจิตใจตัวเองตั้งมากมายขนาดนั้นง่ายๆ โดยไม่เคยสนใจเลยว่าเธอเองก็ทำร้ายจิตใจฉันไปตั้งมากมายไม่รู้เท่าไหร่!” น้ำเสียงของเขาเริ่มเปี่ยมด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไม่แม้ว่าเขาจะกำลังมองเห็นน้ำตาที่ยิ่งไหลลงมาและเนื้อตัวที่สั่นเทาจากแรงสะอื้นของเธอก็ตาม “เธอรู้มาตลอดว่าฉันคิดยังไง เธอรู้ว่าต่อให้จะเป็นเมื่อไหร่ หรือที่ไหน ฉันก็จะมาหาเธอ แค่เพราะว่าเธอทนเจ็บปวดคนเดียวไม่ได้ เธอเลยต้องทำให้ฉันเจ็บปวดไปด้วย! เพราะเธอมันเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวเบนิ! และฉันก็พอแล้ว!”

    แต่ก่อนที่เขาจะได้เดินจากไปพร้อมกับหัวใจที่ว่างเปล่า ทันใดนั้นเอง การกระทำที่ไม่คาดคิดจากคนที่ถลันลงมาจากเตียงก็จะทำให้โซได้แต่ชะงักงันไป

    อย่าไปเลยนะโซ” น้ำเสียงที่อ่อนแอกับอ้อมแขนที่สั่นไหวยามโอบกอดเขาไว้จากด้านหลังคือสิ่งที่ทำลายปราการง่อนแง่นอีกครั้งจนแทบจะพังยับเยิน ทั้งอย่างนั้นโซก็ยังพยายามข่มใจเอาไว้แม้จะอย่างยากเย็นเต็มที

    “งั้นคราวนี้ก็เลิกกับเขาจริงๆ สิ เบนิ บอกสิว่าเธอจะไม่กลับไปหาเขาอีก”

    ต่อให้ฉันจะต้องเจ็บปวดเจียนตายเหรอ?”

    และเธอคนที่เห็นแก่ตัวก็พูดมันออกมาง่ายๆ แบบนั้น

    ใช่ ต่อให้เธอจะต้องเจ็บปวดเจียนตายหรืออะไรก็ช่าง แต่ฉันจะไม่มีวันยอมให้เธอกลับไปหาเขาอีก”

    โซรู้สึกได้ถึงอ้อมกอดที่รัดแน่นขึ้นผ่านเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ก็ดังขึ้นราวกับจะขาดใจ ความสิ้นหวังกับทางออกของเธอยิ่งทำให้โซเจ็บปวดทรมาน เมื่อมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าคนเดียวที่เธอรักที่สุดก็ยังคงเป็นผู้ชายคนนั้น ขณะที่เขาเป็นได้แค่ผู้ชายคนที่เธอต้องการในยามนี้ แต่เป็นเพราะความอบอุ่นแรกที่ได้รับ ความรู้สึกที่เขาเฝ้าปรารถนาว่าจะได้รับมาโดยตลอด เท่านั้นก็มากพอที่จะทำลายปณิธานของเขาจนหมดสิ้น โซเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายโอบกอดหญิงสาวที่ดูราวกับนกปีกหักเอาไว้ในอ้อมแขนเพื่อช่วยปลอบประโลมอย่างแนบแน่น...หรือไม่ก็อาจเพื่อปลอบประโลมหัวใจของตัวเองที่โซรู้ว่ามันจะยังคงเจ็บปวดตลอดไป

    เพราะถึงอย่างไร สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับเธออยู่ดี

    ขอแค่ตอนนี้เท่านั้น โซจะช่วยทำให้ฉันลืมความเจ็บปวดได้ไหม?”

    ทั้งคำพูดและนัยน์ตาเว้าวอนที่แหงนเงยมองของเบนินั้นเปรียบดั่งคำเชื้อเชิญที่โซก็ไม่คิดว่าจะฝืนต้านทาน หากความรักแบบผู้ใหญ่คือความเจ็บปวด เช่นนั้นเขาก็จะโอบรับมันพร้อมกับความสุขอันล้ำค่าในเวลาเพียงแค่น้อยนิดเอาไว้ด้วยความยินดี โซแน่ใจแล้วว่าสายฝนทำให้คนเราอ่อนไหวได้จริง เบนิถึงได้ตัดสินใจทำเรื่องที่รู้ว่าต้องเสียใจภายหลังลงไป แต่โซรู้ว่าตัวเองจะไม่มีวันเสียใจ เมื่อได้สัมผัสกับริมฝีปากสั่นระริกที่มีรสชาติเค็มปร่าของน้ำตาเป็นครั้งแรก ได้สัมผัสถึงความร้อนระอุของลมหายใจที่รดรินและเนื้อหนังที่แนบชิดซึ่งหลอมละลายความหนาวเหน็บตลอดมา หาใช่แค่ในค่ำคืนนี้ที่สายฝนสีม่วงยังคงสาดกระหน่ำลงมา และได้สัมผัสถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้หญิงที่เขารักโดยไม่ใช่แค่ในความฝันอีกต่อไป ในวินาทีที่เบนิร้องเรียกชื่อเขา สบประสานสายตากับเขา ไม่อาจคิดถึงสิ่งอื่นใดได้อีกนอกจากเขา โซก็ได้เข้าใจแล้วว่าเขาพร้อมจมดิ่งสู่ความมืดมิดที่ไร้ทางออกนี้ได้เพื่อเธอ...ไม่ว่าจะอีกสักกี่ครั้ง












    2023年08月08日
    _______________
     งานยุ่งทีไรแต่งฟิคได้เป็นวรรคเป็นเวรทุกที อีผี โลกรู้ว่าเวลาแปลงานกูมึงต้องนั่งดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย สำหรับกูคือจะมีธรรมเนียมเปิดเพลงเปิดคลิปผู้ชายดูก่อนไปดูหนังดูพี่นัทปิ่นโตเสมอ ด้วยความที่ช่วงนี้กูติด SZ เพราะเพลงครีม แล้วมันก็จะรันเอ็มวีต่อกันไปเรื่อยๆ พอฟังเพลงนี้บ่อยเข้าก็หลอนหู เอียร์เวิร์ม สารภาพเลยว่าตอนสมัยขึ้นเพิร์ฟใหม่ๆ แล้วได้อ่านเนื้อเพลงเป็นครั้งแรกกูปักธงให้ใครรู้ไหม เคนโตะ! เพราะบนสเตจหล่อมาก ยังจำได้อยู่เลย 55555 (เพราะตอนนั้นโซย้อมดำแล้ว เสียใจ U_U) แต่ตอนกูเงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นโซใส่สูท หัวทอง ช็อตรูปบนจากในเอ็มวีแล้วพล็อตก็ไหลมาเทมาเลยว่ะ เช้ดดด ถ้าใครบอกว่ากูแต่งพล็อตแนวเดิม ซ้ำๆ ซากๆ กูก็จะบอกว่าจริงจ้าา กูรักพล็อตพระเอกตกหลุมรักหัวปักหัวปำ ส่วนนางเอกก็หลอกใช้ไปวันๆ ที่สุด >_< (หรือเพราะเมนกูไม่ใช่พวกหล่อจัดๆ มันเลยเปิงกับบทแนวนี้วะ ฮ่าๆๆ) แต่ถามว่าชอบเรื่องนี้ไหมก็เฉยๆ แค่กูแต่งแก้เครียดไง ไล่ควาย แต่ก็ชอบบทโซอยู่นะ
     ไม่มีใครรู้ดูไม่ออกหรอกเพราะฟิคสั้นขนาดนี้ แต่ในหัวกูมันคือ 80s ญี่ปุ่น สิตี้พ้อพเว้ย! หลังจากมึงแต่งแปดศูนย์ฝรั่งให้วงนี้ไปแล้วแปดแสนล้านเรื่องก็ถึงเวลากูได้ผงาดสักที (ตรงไหน) แต่เอาจริงพล็อตฝั่งญี่ปุ่นยุคนั้นก็เหมาะกับมึงนะ พวกแนวๆ คบชู้ไรงี้ มึงจะถนัดกว่า (ยกนิ้วโป้งให้แบบสปันจ์บ็อบ) แต่เอาจริงแม่งเหมาะกับเคนโตะฟูมะมากกว่า กูจะบ้า / ที่เป็นบริษัทเครื่องสำอางเพราะละครเรื่องเบนิซาสุที่โซเล่นกับริวเซย์ เพราะงั้นกูจะแต่งรอบที่ล้านก็ไม่ผิดจ้าา เก๊าะเลยเอานามสกุลโซในเรื่องกับคำว่าเบนิมาด้วย (แต่เบนิมันคือสีแดง ฮ่วยบ่ะ!) / ส่วนเคนโตะเป็นผู้กำกับเพราะเป็นคอหนังเนาะ ทั้งไปสัมฯพรมแดงงานออสการ์ แล้วก็พากย์เสียงพระเอกเรื่องทรานส์ฟอร์เมอร์ อิอิ / ที่จริงตอนแรกกะจะมีคู่โชริด้วย แต่ก็นึกกับเพลงนี้ไม่ออกแล้วว่ะ ว่าไปเคยคิดอยากแต่งพล็อตเพลงพลาสติกเลิฟให้โชริอยู่นะเพราะเจ้าตัวบอกว่าชอบ กูจำได้แม่นเลย แต่ก็ยากว่ะ บุรบาป คนนี้เล่นยาก ของสูง
     กูไปอ่านคำบรรยายใต้คลิปเอ็มวีมาละ ที่ชื่อเพลงคือเพอร์เพิลเรนเพราะสื่อถึงความรักแบบผู้ใหญ่ สีแดงคือความรักที่แผดเผา สีน้ำเงินคือความสงบ และสีม่วงก็คือการรวมกันของทั้งสองสี! ที่วงนี้มีครบทุกสีที่ว่ามา แต่พระเอกคือสีเขียวที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย งง แต่พอมาดูรูปโปสที่กูทำแม่งฉากหลังก็มีครบทุกสีที่ว่ามาเลยนะ สาบานว่าตอนหารูปไม่ได้เลือกเพราะสีฉากหลังหรืออะไรเลย ขนลุกมาก สะพรึง!
     ว่าไปช่วงนี้กูเป็นอะไรไม่รู้ อยากกลับไปไล่เก็บฟิคยาวเก่าๆ ที่แต่งค้างไว้มาก แต่ในหัวก็มีพล็อตใหม่เรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด สงสัยทำงานหนักกับถูกด่าเยอะจนเป็นบ้าเป็นบอ ก็เอ้า! ประกาศตรงนี้เลยว่ากูจะเอาฟิคเก่ากลับมารีรันใหม่เว้ยเพื่อน จะเปลี่ยนพระเอกกี่คน แปลงใหม่กี่รอบก็เรื่องของกู (สงสัยว่าเวลามึงแปลงทำไมไม่ค่อยลงใหม่แต่จะเอาที่แต่งตอนใหม่ลงเลย เป็นกูไม่ได้ว่ะ มันต้องยกเครื่องใหม่หมด ทุกคนต้องได้เห็นเวอร์ชั่นแปลงที่สมบูรณ์ตั้งแต่ตอนแรก >_<) เพราะกูย้อนไปอ่านเรื่องย่อฟิคเก่าๆ ที่จดไว้แล้วไม่ได้จริงว่ะ พล็อตคือแม่งดีมาก อ่านเองยังโอ้โห ขนลุกเอง กูเหมาะกับแนว J-Horror มาก ของจริง ดีมาก ชมตัวเองได้ไม่ต้องกลัวใคร และไม่มีใคร (มึง) มาทับไลน์แนวนี้แน่นอน แกดับแน่ พู่ววว~
     ดังนั้น ๑. เรื่องแมงมุมมาแน่ เพราะกูกลับมาฟังสุเคคิโยะละโว้ยย แต่เดี๋ยวไปหาชื่อเรื่องใหม่แบบญี่ปุ่นก่อน บอกเลยว่ามัตสึชิมะ โซนี่แหละ! คนที่จะมาเป็นเมนสายดาร์ก หน้าหยิ่ง มองเหยียดคนใหม่ในใจกูแทนควิซคลับคนนั้นก็คือคนนี้นี่แหละ! เพราะกูก็เคยฝันว่าเค้าเป็น god นี่นา ยังจำได้อยู่เลย ฮ่าๆๆ / ๒. ริงกุที่ไฟกูเริ่มกลับมาแล้ว ได้ไปต่อคนเดียวคือพระเอกจากทะเล ส่วนที่เหลือ พัง ยับ! หรือว่าเรื่องนี้จะมีอาถรรพ์วะ รุ่นแรกแม่งเรื่องเยอะ ไปเมืองนอกบ้างล่ะ ย้ายค่ายย้ายเบอร์บ้างล่ะ พอมารุ่นสองก็...ฮ่าๆๆ ไม่อยากจะพูด (พี่ฟุกกะดีอยู่แต่ก็...ฮ่าๆๆ) แต่รุ่นสามกูเลือกเฟ้นมาอย่างดี ไม่มีเปลี่ยนแล้วนอกจากไม่แต่งต่อแค่นั้น บอกเลยว่าวงดี ผู้ชายดี ตรงกับแคสต์รุ่นแรกดี ถ้าใครจะไม่ดีก็มีแค่กูคนเดียวนี่แหละจ้าา / และเรื่องสลีปเลสที่กูย้อนกลับไปดูเอ็มวีแล้วครั่นเนื้อครั่นตัวมาก ชอบฉากมาก ชอบลุคโซกับโชริในเอ็มวีมาก อยากกลับมาแต่งใหม่มาก แต่ กู ลืม พล็อต! 55555 ลืมแบบลืมจริงๆ ไม่ใช่ซาราสะหรอกที่ความจำเสื่อม กูนี่แหละ! เหี้ยมาก 55555 ถึงอย่างนั้นก็จะมาต่อพาร์ทของโชริให้เพราะยังจำได้เลาๆ อยากแต่งฉาก (คุยกัน) ในห้องของโชริแบบในเอ็มวีสักครั้งก็โอเค
     ปล. โอ้โห เกินปุยมุ้ยมากๆ ตั้งใจเอาฟิคลงวันเลขคู่ ที่ก็บังเอิญเอ็มวีเมคอัพเดย์ของนานิวะก็ดันจะปล่อยวันนี้พอดี! และมันก็คือเพลงประกอบเรื่องเบนิซาสึนี่แหละ!
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×