ANEMOIA CHAPTER 2: The Waltz Of Utopia
Inspiration: Utopia (TV Series, 2013)
Playlist: Cristobal Tapia de Veer – The Network (Utopia Original Television Soundtrack)
ยูโทเปีย – คำนาม. สถานที่ในจินตนาการหรือสภาพของสิ่งต่างๆ ที่ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
ไทโช อิวาซากิ คือชายในฝันของอลิซ
เลอวิตต์
และคำว่า ‘ฝัน’ ในที่นี้ก็มีความหมายตรงตัวตามนั้นทุกประการ
อลิซจำได้ว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ไม่รู้เลยว่าต้นสายปลายเหตุมาจากอะไร ทำไมอยู่มาวันหนึ่ง ชายหนุ่มที่เป็นแค่เพื่อนธรรมดา
หน้าตาก็ธรรมดา เกินกว่าที่หญิงสาวซึ่งเกิดมาพร้อมกับคำชื่นชมถึงรูปลักษณ์ภายนอกตลอดทั้งชีวิตจนหลงระเริงอย่างอลิซจะรู้สึกอะไรในแง่นั้นด้วย
ถึงได้เข้ามาอยู่ในสารบบความคิด แทรกซึมลึกลงไปยังชั้นของความฝัน อันเป็น ‘การสะท้อนภาพของจิตใต้สำนึก’
เหมือนอย่างที่อลิซเคยอ่านเจอมาแบบนี้ได้
ความฝันถึงไทโชครั้งแรกสุดเกิดขึ้นเมื่อสิบวันก่อน
วันนั้นเป็นวันเสาร์ หากคนที่เหนื่อยล้าจากการโหมอ่านหนังสือสอบอยู่หลายสัปดาห์กว่าจะหลุดพ้นย่อมไม่ต้องการสิ่งอื่นใดนอกจากการพักผ่อน
นั่งๆ นอนๆ เล่นเกมสลับกับดูหนังอยู่ที่บ้านเช่าคนเดียว ซูขึ้นเขาไปทำรายงานภาคสนาม
ส่วนริกิก็บินไปร่วมงานแต่งของลูกพี่ลูกน้องที่ลาสเวกัส ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับไทโช
อิวาซากิผ่านเลยเข้ามาในหัวสมองให้เธอได้นึกถึงแม้แต่อย่างเดียว แต่ในตอนหัวค่ำที่อลิซผล็อยหลับไปบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
ก่อนรู้สึกตัวตื่นเมื่อล่วงเข้าวันใหม่มาได้สองชั่วโมงจากตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกาเรืองแสงติดฝาผนังที่หรี่ตามองดู
เธอก็เป็นต้องนึกประหลาดใจแกมขบขันที่ฝันว่าตัวเองเดินหัวร่อต่อกระซิกกับเพื่อนชายที่ไม่เคยอยู่ในความทรงจำสักกระผีกริ้นเลยด้วยซ้ำได้เป็นวรรคเป็นเวร
ขณะที่ในชีวิตจริงพวกเขาก็แค่ทักทายพูดคุยกันแบบผาดเผินตอนเรียนวิชาเลือกอย่างประวัติศาสตร์ศิลปะเอเชียด้วยกัน
ไม่ก็ตอนบังเอิญเจอกันในโรงอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือห้องสมุด โดยมีเพื่อนกลุ่มใหญ่ทั้งฝั่งเขาและเธออยู่ด้วยเสมอ
อลิซจำบทสนทนาที่เกิดขึ้นในความฝันไม่ได้เลยสักประโยค
นอกจากบรรยากาศบนท้องถนนยามเย็นย่ำที่ท้องฟ้าอาบย้อมด้วยสีส้มของแมนฮัตตันที่ร้างไร้ผู้คน
มีเพียงรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้บนท้องถนนให้ไม่รู้สึกถึงความว่างเปล่า ครั้นมาย้อนคิดดู
อลิซคิดว่านั่นต่างหากที่น่ากลัวและชวนให้เปล่าเปลี่ยว อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงซีรีส์หรือภาพยนตร์แนวดิสโทเปียที่ทุกคนต้องทิ้งทรัพย์สมบัติแล้วหนีออกจากเมืองเพราะโรคระบาด
ทันทีที่คิดแบบนั้น ความรู้สึกหนาวเยือกก็แล่นวาบขึ้นมา
เธอรีบลุกไปล้างหน้าเร็วๆ คว้าเสื้อคลุม แล้วฉวยกุญแจรถญี่ปุ่นคันกะทัดรัดขับออกไปที่ไดเนอร์ตรงหัวมุมถนนห่างออกไปหลายบล็อกเพื่อให้รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาของผู้คน
ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งความน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงรวมถึงเรื่องราวของไทโชก็กลายเป็นแค่เรื่องเล็กจ้อยที่อลิซไม่ได้ให้ความสนใจอีก
แต่เขาก็ยังหวนกลับมาในความฝันของอลิซอีก
แม้ว่าคราวนี้จะเป็นเพียงบทบาทสมทบที่ผ่านเลยมาแล้วผ่านเลยไป
แต่เมื่อย่างเข้าวันที่ห้า อลิซก็เริ่มตงิดใจขึ้นมาว่ามันเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะฝันถึงคนคนเดียวติดกันทุกวันทั้งที่ไม่ได้เจอหน้ากันเลย
เขาไม่ใช่เพื่อนสนิท ไม่ใช่คนสำคัญอะไรในชีวิต ไม่ได้เป็นทั้งคนรัก หรือคนที่เธอแอบรักเลยด้วยซ้ำ
เมื่อล่วงเข้าวันที่หก อลิซก็ตัดสินใจถ่อไปดักรอไทโชระหว่างตึกเรียน
หากใบหน้าดาษดื่นทั่วไปกับบุคลิกเก้งก้างไม่น่าอภิรมย์ที่ได้เห็นปะปนอยู่กับฝูงชนจากที่ไกลๆ
ก็ยังคงน่าผิดหวังสำหรับคนหัวสูงอย่างอลิซอยู่ดี เธอตัดสินใจไม่เข้าไปทักทาย แล้วเดินจากมาพร้อมกับความฝันที่ยังคงมีเขาเป็นตัวประกอบเล็กๆ
ในคืนที่หก เจ็ด แปด และเก้า
แต่ไม่ใช่กับคืนที่สิบ —
ที่เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาบนโซฟาในห้องรับแขกตามลำพังอีกค่ำคืนหนึ่ง ด้วยความรู้สึกประหลาดทว่าผิดแปลกไปจากค่ำคืนแรกสุด
จนอลิซถึงกับต้องทบทวนเรื่องราวในฝันที่เธอยังคงจดจำได้เป็นอย่างดีไม่มีตกหล่นซ้ำเพื่อช่วยยืนยันให้แน่ใจ
ทั้งที่ในความฝันนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
แต่คนที่ช่วยเธอไขปริศนาในห้องหนังสือของเอสเคปรูมด้วยกันอย่างขะมักเขม้น คนที่เปิดหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งถูกตัดเป็นช่องตรงกลางแล้วยื่นกุญแจปั๊มรูปกระต่ายไปยังห้องถัดไปส่งให้เธอเป็นคนไข
ตอนที่มือทั้งสองแตะสัมผัสโดนกันอย่างแผ่วเบาแต่ราวกับถูกไฟฟ้าสถิตพร้อมกับหัวใจที่กระตุกวูบไหว
ตอนที่เขาเอ่ยถ้อยคำบางอย่างที่เธอจำไม่ได้แล้วยิ้มกว้างให้ก็คือ...ไทโช
ความรู้สึกนั้นยังคงตามติดออกมาอย่างแนบแน่นแจ่มชัดเสียยิ่งกว่าภาพในความฝันที่ค่อยๆ
เลือนลางไป แม้ว่าอลิซจะลุกขึ้นไปดื่มน้ำ ล้างหน้า กลับมานอนคู้ตัวหลับตาสลับกับจดจ้องมองจอทีวีมืดๆ
ก็ไม่ได้ช่วยบรรเทา กระวนกระวายเสียจนต้องกดโทรศัพท์ไปหาเจ้าของรายชื่อที่แค่บันทึกเก็บไว้ในตอนตีสอง
อลิซไม่รู้กิจวัตรของเขา ไม่เคยสนใจใคร่อยากรู้เรื่องราวใดๆ ของเขาแม้แต่อย่างเดียว
ทว่าน้ำเสียงงัวเงียที่เธอไม่เคยได้ยินของเขาตอนเอ่ยประโยคที่เธอไม่ได้คาดคิดมาก่อน
— อย่างแค่ชื่อของตัวเอง — ว่า “ฮัลโหล อลิซ มีอะไรหรือเปล่า?” ก็จะทำให้หญิงสาวได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนขณะแก้ตัวเก้อด้วยไม่รู้จะพูดอะไรดีว่า
“เอ๊ะ? นั่นไทโชเหรอ? ขอโทษที ฉันคงกดเบอร์ผิดน่ะ”
นอกจากเสียงหัวเราะของเขาอย่างไม่ถือสาก่อนบอกกู๊ดไนท์กับเธอจะไม่ได้ช่วยปลดเปลื้องความว้าวุ่นข้างในใจของอลิซแล้ว
มันยังกระตุ้นความหวามไหวที่ปราดขึ้นมาอย่างปุบปับฉับพลัน อลิซไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมเธอที่ไม่ใช่คนใจง่ายถึงได้เกิดความรู้สึกแบบนั้นกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ได้ง่ายๆ
ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือหนึ่ง เธอไม่ใช่พวกที่ชอบช่วยตัวเอง และสอง เพื่อนนอนคนเดียวที่เธอไว้ใจก็หนีไปมีแฟนประชดเธอที่ดื้อด้านคบหากับคู่อริจนพาลทะเลาะกันใหญ่โตไม่พูดไม่จาได้หลายเดือนแล้ว
เพราะอย่างนั้นสิ่งเดียวที่อลิซนึกออกในเวลานี้ก็คือการคว้าเสื้อคลุมขึ้นมาสวม แต่หนนี้เธอแค่ตัดสินใจออกไปเดินเล่นให้สายลมเย็นพัดบาดหน้า
เผื่อว่าบางทีมันอาจจะช่วยทำให้หัวโล่งได้บ้าง
สายลมปลอดโปร่งสดชื่นในยามค่ำคืนอาจพัดพาความร้อนรุ่มในใจออกไปได้
แต่ก็ไม่อาจสลัดคำถามที่แล่นวนอยู่ในหัวสมองซ้ำไปมาตรงกันข้ามกับความเงียบสงัดภายนอกไม่ได้หยุดหย่อนได้
หากไม่ว่าจะพยายามขบคิดมากเพียงไร อลิซก็ยังคงหาคำตอบให้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้
ทำไมชายในฝันของเธอต้องเป็นไทโช? กุญแจดอกที่เขายื่นให้เธอมีความสำคัญอะไรไหม?
ประโยคที่เขาพูดกับเธอนั้นสื่ออะไรหรือเปล่า?
ก่อนหน้านี้อลิซเคยค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
เสิร์ชหาทฤษฎีเกี่ยวกับการฝันถึงบุคคลเดิมซ้ำๆ ทุกวัน แต่ไม่ว่าจะข้อไหนๆ ก็ไม่เห็นจะใช่หรือว่าใกล้เคียงเลยสักนิด
อลิซไม่ได้มีความรู้สึกที่ยังไขไม่ออกหรือว่าเห็นไทโชเป็นคนสำคัญ ไม่ได้เผชิญกับการเริ่มต้นใหม่หรือว่าสูญเสียเขาไป
หัวเราะเยาะกับข้อที่บอกว่าเธออาจมีจิตวิญญาณเชื่อมโยงหรือเคยผูกพันกับเขาตั้งแต่ในอดีตชาติ
กระทั่งความฝันในค่ำคืนนี้เองที่ทำให้อลิซหวนรำลึกถึงความเป็นไปได้ของเรื่องเหนือธรรมชาติ
เกินกว่าขีดจำกัดของความเข้าใจ เหมือนมันมีอะไรมากกว่าแค่การ ‘ตกหลุมรัก’ คนในฝันอย่างที่อลิซเคยประสบมาก่อน
เช่นนั้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็อาจคงอยู่เพียงประเดี๋ยวประด๋าว
เมื่อถึงตอนเช้าเธอก็จะลืมเลือนมันไปได้เอง
แต่ในตอนหัวค่ำของวันถัดมาที่อลิซเข้ามานั่งฝากท้องอยู่ในสถานีเบอร์เกอร์กับริกิ
แล้วได้เห็นใบหน้าที่ดาษดื่น ท่าทางที่เก้งก้าง ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากไทโช อิวาซากิคนเดิมที่อลิซรู้จัก
เว้นก็แต่ความรู้สึกที่ผิดแปลกไปจากที่เคยรู้จัก อย่างหัวใจที่พองโตขึ้นมากับแค่รอยยิ้มกว้าง...ที่น่ามอง
เสียงหัวเราะ...ที่น่าฟัง และเสียงร้องเรียกชื่อ...ที่ไพเราะที่สุดในโลก
ราวกับว่าบางสิ่งบางอย่างในความฝันนั้นได้กะเทาะเปลือกนอกที่ห่อหุ้มความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึกๆ
ข้างในจิตใจของอลิซออก ให้เธอได้มองเห็นโลกใบใหม่ สัมผัสกับสิ่งใหม่เป็นครั้งแรก ก่อนที่มันจะร่วงดิ่งลงไปเหมือนมีใครกระตุกเชือก
ปล่อยพื้นเบื้องล่างให้ร่วงหล่น หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะโลกใต้เท้าของเธอกำลังถล่ม
“นี่แฟนฉันเอง เมอริน่า”
จากหญิงสาวตัวบางร่างเล็ก
สวมเสื้อผ้าสมัยนิยมสีสันฉูดฉาด แต่งหน้าจัดรับกับผิวสีขาวจัดและผมหั่นสั้นแค่คอสีดำสนิท
หน้าตาของหล่อนจัดว่าสะสวย และคงต้องเพิ่มคำว่าน่ารักเข้าไปด้วยยามเปล่งเสียงหัวเราะสดใสและแสดงท่าทีเขินอาย
ขณะแนะนำตัวกับเธอและริกิด้วยชื่อเต็มว่าเมอริน่า ไฮด์ อายุมากกว่าหนึ่งปี เรียนอยู่ปีสาม
สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ เจอกับไทโชตอนทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านหนังสือและเพิ่งจะคบหาดูใจกันเมื่อเย็นวานนี้
อลิซได้แต่ฝืนปั้นหน้าทำเป็นยิ้มรับ ปล่อยให้คนทั้งสามพูดคุยถามไถ่กันไป รสชาติของเบอร์เกอร์เริ่มฝืดคอจนต้องยกน้ำอัดลมรสซ่าที่ก็ดูเหมือนว่าจะไร้รสชาติ
ไม่มีอะไรหลังจากนั้นผ่านเข้าหูเข้าตาของเธออีก นอกจากความรู้สึกของการถูกทรยศหักหลังอย่างแรงกล้า
แม้อลิซจะรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของเขาเลยก็ตาม
เพราะความฝันมันก็แค่ความฝัน เธอไม่ควรเก็บเอาเรื่องเหลวไหลไร้สาระพรรค์นั้นมาคิดให้รกสมองตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ
ท้องฟ้าที่มืดครึ้มมาตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆ
เริ่มส่งเสียงครืนครั่นเป็นสัญญาณว่าอีกไม่ช้าฝนก็จะตก เมื่ออลิซหันมองออกไปด้านนอกผ่านบานกระจกใส
เธอก็ได้เห็นบางอย่าง...บางคน...ที่พิลึกพิลั่นอยู่อีกฝั่งถนน
อย่างคนสวมหัวมาสคอตกระต่ายในชุดสูท
กางเกง และรองเท้าหนังด้านสีขาว เว้นก็แต่ดวงตากลมโตเหมือนลูกแก้วกับเนคไทที่เป็นสีแดง
กำลังยืนอยู่หน้าบานประตูร้านค้าที่อลิซซึ่งทอดมองอยู่บ่อยครั้งมั่นใจว่ามันเป็นสีดำมาตลอด
ทว่าบัดนี้มันกลับกลายเป็นสีเหลืองสด บนถุงมือสีขาวที่มันค่อยๆ ยื่นออกมาคือกุญแจสีเงินปั๊มรูปกระต่ายแบบเดียวกับในความฝัน
แบบเดียวกับใบหน้าน่าขนลุกของมัน
ไม่ใช่เสียงตะโกนผ่านหัวกระต่ายของใครก็ตามที่อยู่ภายใต้นั้น
แต่เป็นน้ำเสียงอ่อนโยนของไทโชที่กระซิบกระซาบอยู่ข้างใบหูราวกับกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าแล้วโน้มตัวลงมาหาเหมือนตอนอยู่ที่ห้องหนังสือในเอสเคปรูมว่า
“แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกัน”
2023年05月25日
_______________
★ กูนี่แหละบ่นกับมึงว่าเบื่อกาฮยอนแล้วว่ะ หน้าสลิด สุดท้ายพอเค้าคัมแบคกูก็กลับมาตายรังทุกทีเพราะกูต้านทานความสวยไม่ได้ ใช่กับใจ U_U ไหนๆ วงนางเอกกูก็ปล่อยเอ็มวีบงโวยาจเมื่อวาน กูก็เลยถือฤกษ์เอาลงวันนี้ ที่ตอนตีสามก็เพิ่งดูเพลย์สเตชั่นโชว์เคสไป เห็นไฟนอลก็นึกถึงกู เมทัลเกียร์ก็นึกถึงไทโช อลันเวคก็นึกถึงมึง เริ่ดไม่เริ่ดไปคิดเอา
★ เชื่อว่ามึงงง มันมาจากไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือมันมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเหมือนอินซีเดียสเดอะเร้ดดอร์! ประตูแดง! สีแดงมันเป็นอาถรรพ์! เป็นฟิคที่มีเรื่องให้กูเล่าถึงที่มาเยอะมาก ปูเสื่อนั่งฟังได้เลยเพราะยาวจริง ยาวที่สุดตั้งแต่กูเคยแต่งฟิคมาแล้ว / เริ่มจากก่อนหน้านี้กูย้อนไปดูคลิปที่เซฟไว้ในยูทูบ เห็นคลิปลิมินอลสเปซเลยกดดูซ้ำที่เค้าก็พูดถึงเดอะไชนิ่ง จากนั้นไม่กี่วันต่อมามึงก็เอามากระซิบตอนคาร์ดปล่อยเทรเลอร์เพลงอิคกี้ว่าแนวกูเลย แล้วกูก็ขนลุกมากเพราะมันคือเดอะไชนิ่ง! ฉากในเอ็มวีคือลิมินอลสเปซ แบครูม สระว่ายน้ำ มาหมด! (และวันที่ 23 ก็เป็นวันครบรอบ 43 ปีของหนัง!) กูก็เริ่มขนลุก ครั่นเนื้อครั่นตัว ก่อนไปไถโน้ตที่แต่งฟิคค้างๆ ไว้แล้วเจอไอ้สองบรรทัดแรกนั่นที่กูพิมพ์ทิ้งไว้เฉยๆ เพราะฝันถึงไทโชบ่อยมาก ฝันติดกันเป็นสิบๆ วันเลย (ตอนนี้ก็ยังฝันอยู่ทุกวัน ขนลุกเนาะ) ยิ่งกว่านาสุหกวันติดอีก แค่มาเป็นตัวประกอบที่ผ่านแล้วผ่านเลย นานๆ ทีก็จะได้มาเป็นตัวหลักให้กูตื่นมายิ้มบ้าง / ทีนี้ก็ไปเจอคลิปนึงตั้งชื่อว่าที่ที่คุณเคยเห็นในความฝัน แล้วกูก็นึกขึ้นได้ว่าเคยเล่าให้มึงฟังว่าฝันถึงบ้านน่ากลัวๆ ฟีลแบบ dreamcore พล็อตก็เลยเริ่มมาทีละนิดทีละหน่อย จากนั้นก็จำได้ว่าไม่นานมานี้กูเคยฝันว่าเข้าห้องเอสเคปรูมกับไทโชนี่หว่า ในฝันไทโชก็เป็นคนยื่นกุญแจให้กูเปิดประตูห้องจริง (สาบานว่าไม่ได้ก็อปมิสเตอร์โรบอทมึง T_T) เลยคิดว่าเอานี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นสตอรี่ดีกว่า สุดปัง / แล้วทีนี้ วันที่กูเริ่มแต่งไทโชไปออกรายการ Love It! ชื่อภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า ราวิตโตะ คล้องกับคำว่า ราบิตโตะ (สาบานว่าเคยเห็นคนเขียนแบบ ไทโชไปเลิฟอิท เป็นแรบบิท ไรงี้จริงๆ T_T) กูเลยให้นางเอกใช้นามสกุลนี้จะได้ดูเป็นคำพ้อง แล้วก็หาชื่อที่แปลว่ากระต่ายด้วยจนไปเจอชื่อนี้ที่เป็นชื่อของจิบิอุซางิฝรั่ง...หมายถึงฝรั่งเรียกอยู่ที่เดียวเนี่ยอีเวน (น่าจะมาจากคำว่าลิตเติ้ลบันนี่ไหมวะ) ก็เลยให้ตีมของเรื่องนี้เป็นกระต่าย (สาบานว่าไม่ได้ก็อปซิลเวอร์เลคมึง T_T)
★ จากนั้น (ยังไม่จบ) ก็ไปเจอคลิปที่รวมภาพแนวลิมินอลจากในซีรีส์เรื่อง Utopia กูเลยกรี๊ดมาก ชอบมาก ไล่หาอ่านดูว่ามันคือแนวไหน ยังไง ทำไมไม่รู้จัก จนไปเจอว่ามันคือซีรีส์ยูเค ฉายช่วงปี '13-14 แล้วอะไรรู้ไหมมึง! อีเหี้ยพูดแล้วขนลุก แรกสุดกูวางพล็อตนี้ให้เป็นกลุ่มคนที่ฝันแปลกๆ มารวมกัน แต่สุดท้ายก็โละทิ้งเพราะคิดไม่ออก ทีนี้ในซีรีส์คือกลุ่มแฟนคอมมิคที่มารวมตัวกันเพราะเชื่อเรื่องทฤษฎีสมคบคิดในนั้น! เว่อร์ไม่เว่อร์! ยังไม่หมดนะ ในเรื่องมีการใช้กระต่ายเป็นสัญลักษณ์ ตัวละครออกตามหาตัวจริงของมิสเตอร์แรบบิท! สาบานว่ากูแต่งก่อนแล้วถึงมาเจอเรื่องยูโทเปียจริงๆ ไงล่ะ พลังจักรวาลของเพอร์ซิอุสยังต้องแพ้กู / และเมื่อวานนี้เองที่กูได้พล็อตออกมาเป็นรูปเป็นร่างจนจบสมบูรณ์แล้ว จดไว้แล้วเผื่อลืมด้วยเอ้า เพราะมันสุดปังจริงๆ ถึงจะแต่งได้แค่นี้อยู่แต่กูก็ยกให้เป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซที่รักมากเหมือนเรื่องแรก กล้าพูดด้วยว่าไม่มีใครเดาได้ว่าพล็อตมันจะลงไปทางนั้นแน่นอน เอ้า ใบ้ให้ว่าเป็นแนวใหม่ที่กูยังไม่เคยแต่งมาก่อน แต่จะอุ๊บอิ๊บไว้ ยังไม่เขียนถึงแรงบันดาลใจตรงนี้ เดี๋ยวมึงรู้กูจะนอยง่าย
★ เพราะเรื่องนี้เริ่มจากที่กูฝันถึงไทโช พระเอกคนนี้ก็เลยต้องยืนหนึ่ง ไม่ต้องนั่ง (ถึงกูจะดันอยู่คนเดียวเหมือนวัวเหมือนควายเพราะตอนนี้รักอยู่คนเดียวง่ะ แต่มั่นใจว่าต่อให้กูเลิกชอบคนนี้ไปในวันหนึ่งก็จะไม่ซ้ำรอยเหมือนคนเก่าที่ตกสระหายไปแล้ว มีฟิคกี่เรื่องก็แปลงได้แปลง ผ่านมาเป็นปีก็ยังบ่นให้มึงฟังเช้าเย็นแน่นอน :p) ทีนี้ในเมื่อกูแต่งตามสีเหมือนตอนคิดโปรเจกต์แรกสุดไม่ได้แล้ว (แต่งเอง รีเมคเอง ผกก.ฟันนี่เกมมาเองนักเลงพอโว้ย) ละในแชปเตอร์วันกูเลือกทีมเต้นคาเมนฯล้วนเนาะ พอจะแต่งเป็นบชนล้วนก็เบื่อแล้วอ่ะ พักก่อน เผื่อดันไปเล่นแชปเตอร์อื่นที่กูจะไม่ใช้ตัวละครซ้ำด้วย ก็เลยกลับไปนอนคิดใหม่แล้วก็เอ้า! งั้นเอาคนที่เล่นดนตรีคอกีตาร์กับไทโชมาดิวะ! ไหนๆ ก็มีเมนมึงอย่างโชริด้วยพอดีไม่ใช่เหรอ ตอนแรกจะให้มิจิเอดะมาด้วยจะได้ครบๆ แต่คิดพล็อตลงให้ไม่ได้ เล่นแทนไทกะก็บ่าเปิงเลยมากันสามคนนี้แหละ ที่ก็โอเคมาก ดีมากที่สุด แต่รู้ป่ะ แรกสุดมีโผแก๊งเพื่อนยูปี้กับไทโกะด้วย แต่กูทำใจไม่ได้เองนี่แหละ 55555
★ ตอนแรกเซ็ตติ้งจะเป็นลอนดอนเหมือนซีรีส์ แต่กูก็ไม่สันทัดฝั่งอังกฤษจริงๆ แล้วทีนี้ในแมกฯล่าสุด ไทโชบอกอยากไปนิวหยวกเพราะเรื่องเอลฟ์ที่เคยเล่นบุไตมีฉากหลังเป็นที่นั่น ก็เอาล่ะ โกโกนิวยอร์ก ตามมาๆ (ฟิคมิสเตอร์โรบอทมึงไปก่อนกูอีก) มีพูดถึงอีสต์ริเวอร์ด้วยนะ แล้วก็บอกว่าอยากไป Beale Street (เทนเนสซีไหม) เห้อออ บอกว่าอยากไปอิตาลีด้วย (อิสเสก็อยากไปอิตาลี) งั้นเดี๋ยวรอไปไวท์โลตัสกับกูดีกว่า / ปล. อีเหี้ยมึง! กูสาบาน ตอนพิมพ์ไวท์โลตัสเสร็จกูก็ไล่ฟังซาวนด์แทรคของยูโทเปียไป ครึ้มใจคลิกเข้าไปดูชื่อคนแต่งละเค้าคือคนที่ทำเพลงให้ไวท์โลตัส! อีเหี้ย พลังจักวาลของจริงแล้วตอนนี้
2023年05月29日
_______________
★ สุดปังจริง คนอย่างกูสู้แค่ไหนก็ดูเอาว่าสามารถลงฟิคทุกสัปดาห์ที่ฮารุดันออกได้ถึงตอนที่หกแล้วโว้ยย แต่หลังจากนี้ก็คงมาแบบประปรายแล้ว ไม่น่าจะมีฟิคลงจนครบสิบตอนแล้วแหละ อันนั้นก็เกินความสามารถกูละ / โอ๊ยทนไม่ไหว ขอเมาท์หน่อยว่ากูเลื่อนดูคอนบชนผ่านๆ ก่อนเพราะอดใจไม่ไหว อยากดูคิสสิ้งมายลิปส์เผื่อว่าจะเด็ด สรุปนะ สโนว์ยมแค่ไหน บชนยมกว่านั้น หารสิบหารร้อยยังน้อยไป กูกุมหัวเลย ละเอาเก้าอี้มาทำไรรู้ไหม มานั่งร้องเพลง! แต่อิสเสฟูจิอิแร็ปดีมาก อุกินาสุหล่อมาก ละถ้าจำได้เนื้อเพลงมันเป็นฝรั่ง คนที่สำเนียงดีสุดก็ที่ร้องแร็ปนั่นแหละ ควิซคลับฟังยากหมดตีคู่มากับริวกะ ไทโชกลางๆ ค่อนไปทางดี แต่เอาเป็นว่ากูผิดหวังมาก ท้อมาก เวอร์โชคุระอาจดีกว่าก็ได้ แต่เล่าให้มึงฟังก่อนจะไม่ต้องหวัง (ถึงมึงจะไม่เคยหวังอะไรกับเพลงนี้อยู่แล้ว) ไม่หวังแต่แรกก็ไม่ผิดหวัง ให้กูผิดหวังคนเดียวพอ U_U (แต่อิสเสได้อยู่ว่ะ คนนี้โตมาตามรอยสโตรแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์)
★ ตอนแรกมันจะยาวกว่านี้จริงๆ เพราะกะให้รินิไปเจอโชริตอนดึกเลย นั่งปรึกษาเรื่องความฝันกัน แต่สุดท้ายก็ตัดใจเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ โดนหั่นฉาก เลยออกมาสั้นมาก เอาไว้ตอนหน้าโชริจะมาอย่างหล่อจริงและยิ่งใหญ่ (มั้ง) แต่ที่ลงให้รินิเห็นกระต่ายคืออย่างที่คิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เว้นแต่เปลี่ยนสถานที่ไปสามสี่แบบ กว่าจะมาลงตัวที่ร้านเบอร์เกอร์เพราะกูเพิ่งเห็นรูปนี้แหละ / ที่มีฉากหลายอย่างเหมือนแชปเตอร์วันเพราะกูจงใจเองแหละ (ไม่นับเรื่องความฝันนะเพราะยังไงลิมินอลฯก็มาแนวนี้อยู่แล้ว) อย่างตอนไปนั่งไดเนอร์เพราะกลัวความฝัน คำที่ไทโชบอกรินิก็มาแนวๆ เดียวกับที่ไคโตะบอกริสะในฝัน บอกล่วงหน้าเลยแล้วกันว่าจะได้ไปโรงแรมเดอะไชนิ่งเหมือนกันด้วย อ่านตอนนี้แล้วอาจคิดว่ามันก็เหมือนกับเรื่องตกสระเลยนี่ แล้วมันจะต่างกันยังไงวะ อียู อีขี้โม้ แต่ก็ยังยืนยันว่ามันไม่ได้ลงทางเดียวกัน มั่นใจว่าไม่มีใครเดาถูกด้วย เพราะนี่คือทไวไลท์โซนโว้ยย ต่อให้กูแต่งไม่จบกูก็จะไม่เขียนบอกในฟิคเรื่องไหนเว้นแต่จะมาต่อเอง (แต่จะบอกมึงนะถ้ากูจะเท) / คิดอยู่นานว่าจะให้อ่านชื่อนางเอกมึงแบบไหน เมรีน่า เมอรีน่า เมไรน่า เมรินะ ฯลฯ แต่สุดท้ายก็เอาแบบที่ได้เห็นไปนี่แหละ เพราะไหนๆ ชื่อผู้หญิงก็มีคำว่าริไปแล้วสอง โชริอีก งั้นก็ริให้หมดไปเลยโว้ยยย! (ไทก็สองนี่ไง) ตอนพิมพ์ให้เป็นแฟนไทโชนี่มือไม้กูแอบสั่น นั่งคิดนอนคิด ตีนก่ายหน้าผาก (มึงด่าว่าจะหวงเหี้ยไรเบอร์นั้นอีกไหม แต่ไม่ขนาดคนเก่าละนะ 55555) แต่บทนี้มันต้องให้นางเอกอีกคนเพื่อจะได้โยงกับโชริ จะให้โชริมาเล่นบทไทโชก็ไม่ได้ เมื่อฟิคเรื่องนี้เกิดขึ้นได้เพราะกูฝันถึงไทโช ผกก.เลือกพระเอกก่อนค่อยเลือกคนอื่นมาเสริมจ้ะ และขอให้กูเป็นนางเอกยูโทเปียเถอะนะ ดรีมแคชเชอร์ก็คอนเส้ปยูโทเปียนี่นา >_<
★ ขอบคุณรูปคอมมิชจากคุณตูน karensung คนบ้านเดียวกัน ที่ไม่มีภาพในหัวอะไรสักอย่างรู้แค่ว่าอยากได้ อยากมี ให้เป็นห้องเอสเคปรูมก็บ่ ฉากตอนท้ายก็เพิ่งมาต้นสดทีหลัง เลยหาแค่ประตูสีเหลือง เหมือนอยู่บนทางเดินอะไรไปเรื่อยแค่นั้น เสื้อผ้าหน้าผมอะไรก็หาส่งๆ หมดเลยนะ แต่ก็ออกมาสวยมากเว่อร์ คุณหนูจริงไหมร่ะ ส่วนชุดที่เป็นสีแดงไม่ได้จะสื่อถึงสีของโชริ กูแค่อยากได้สีตัดกับประตูเฉยๆ เรื่องนี้อยากบรีฟอะไรก็บรีฟ ไม่มีคอนเส้ปสีเพราะลิมินอลฯมีหลายสีจ้ะ เรื่องนี้จะไปหลายที่ >_< ส่วนในมือคือกุญแจกระต่ายแบบที่รินิเห็นเลย แต่รู้ไหม! กูขอให้คุรตูนช่วยออกแบบหน้ากระต่ายให้หน่อย บอกขอหลอนๆ นะคะ ทีนี้เมื่อวานกูก็คิดว่าอยากให้กระต่ายตาสีแดงเหมือนเรื่องยูโทเปียจัง แต่ก็ไม่ได้ไปบอกนะ คิดว่าเค้าวาดอะไรออกมากูจะเอาไปบรรยายตาม พอเห็นรูปที่ลงสีเสร็จกูคือขนลุกเลย! ได้ตาสีแดงแบบที่กูคิดไว้เปี๊ยบ มันเป็นไปได้ยังไง! มาคิดให้ดีโลกนี้ประหลาดจริงไหมล่ะ! / ขนลุกมาก ตอนจะเอาลงกูอยากได้รูปสถานที่มาลงด้วยเลยลองหาจากเรื่องยูโทเปีย (ยังไม่ได้ดูแต่เจอแหล่งธรรมชาติแล้วโว้ยยย) แล้วก็เจอซีนร้านเบอร์เกอร์อันนี้ที่สีเหมือนภาพที่คุณตูนวาดให้กูเด๊ะเลยว่ะ! ตกใจเมิ่กทั้งโทนสีเหลือง แดง น้ำเงิน ขนลุก! ★ ปล. วันนี้มีประกาศคอนฯรวมจูเนียร์ว่ะ เห็นเค้าพูดกันว่าตอนที่จัดช่วงปี '20 ก่อนโควิดคือที่ประกาศเดบิวต์สุโนสุโต ส่วนปีนี้จะประกาศหรือไม่อะไรก็ช่าง กูไม่ซีเรียส แต่พอพูดถึงเดบิวต์กูหยุดคิดถึงสองปีก่อนไม่ได้จริงๆ สมัยแฟนทราจาตีกับแฟนบชนว่าใครจะได้เดก่อน สรุปปีนั้นไม่ได้เดสักวง แล้วเราจะทะเลาะกันไปทำไมวะ สุดท้ายก็นี่สินะ จากศัตรูสู่หัวใจ ส่วนอีกวงก็...ในทางกลับกัน 55555
ความคิดเห็น