ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #65 : Curtain Call ~名脇役/夏のハイドレンジア~ (เรื่องสอง 50% แล้วจ้้าาา โฮ่งๆ บ๊อกๆ)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 66


    Curtain Call ~名脇役~
    Playlist: Nasu Yuto – Meiwakiyaku 「名脇役」 (Cover from Sexy Zone)


    * เวอร์ชั่นไลฟ์งิ https://www.bilibili.com/video/BV1Jv411i7fa/ ว่าแต่มีคนเอาเพลงลงยูทูบละไม่โดนสอยได้ไงก่อน *










    .

    แต่นแต๊น! เมื่อวานโชคดีซื้อเค้กสตรอว์เบอร์รี่ร้านเปิดใหม่ที่ไปรอต่อคิวสองชั่วโมงมาทันจนได้ล่ะ! ลัคกี้!”

    ความสนใจของนาสุ ยูโตะ ที่กำลังก้มหน้าก้มตาทบทวนบทเรียนอันเป็นกิจวัตรประจำวันก่อนคาบเรียนจะเริ่ม เปลี่ยนไปเป็นกล่องเค้กที่ถูกวางทับลงไป ตามมาด้วยน้ำเสียงเริงรื่นและใบหน้าเริงร่าของซากุไร มิเรย์ ที่หมุนเก้าอี้หน้าโต๊ะของเขาให้หันมาแล้วทิ้งตัวนั่งแหมะ ขณะที่ก็หยิบโยเกิร์ตกับป๊อกกี้สตรอว์เบอร์รี่จากถุงของร้านสะดวกซื้อมากินเป็นมื้อเช้าที่ไม่ถูกต้องสักเท่าใดนัก แต่อย่างกับใครจะไปว่าอะไร...หรือเธอที่เอาแต่ใจจะเชื่อฟังใครได้

    เมื่อวานนายไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดเลยแวะเอาไปฝากที่บ้านไม่ได้ วันนี้ฉันก็เลยรีบตื่นมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อเอามาให้นายเลยนะ ขืนรอจนถึงตอนเที่ยงมีหวังได้ละลายหมดพอดี” เป็นความจริงจากคนที่มักจะมาทันกริ่งเข้าเรียนอย่างฉิวเฉียด หรือบางครั้งก็หมายถึงเฉียดๆ จะเลิกคาบโฮมรูมไม่ก็คาบเรียนแรกเลยต่างหาก กระนั้นก็เรียกเสียงหัวเราะจากนาสุที่รู้สึกดีใจวาบขึ้นมากับคำพูดเจื้อยแจ้วที่เจ้าตัวไม่ได้คิดอะไร ซ้ำยังกระวีกระวาดขนาดแกะกล่องเค้กให้เขาที่เก็บหนังสือลงไปในเก๊ะยังไม่ทันจะเรียบร้อยแทน

    ไม่เห็นต้องลำบากเลย”

    ถือว่าตอบแทนที่นาสุใจดีช่วยติวช่วยสอนการบ้านให้คนโง่อย่างฉันตลอดโดยไม่เคยปริปากบ่น” ว่าแล้วก็ยื่นส้อมพลาสติกไปให้เขาที่รับมาพร้อมคำขอบคุณ หากประโยคถัดมาจะทำให้มือของเขานิ่งค้างไปเฉกเช่นเดียวกับริมฝีปาก เพื่อที่อีกเสี้ยววินาทีต่อมาเขาจะได้เสแสร้งแกล้งตอบรับมันด้วยรอยยิ้มกว้างไปจนถึงดวงตาเหมือนอย่างที่เป็นมาตลอดเมื่อมิเรย์บอกว่า “และเพราะนาสุเป็นเพื่อนรักอันดับหนึ่งของฉันยังไงล่ะ”

    ทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ตัวเลย

    ว่าเขาไม่ได้อยากเป็นแค่ เพื่อนสักหน่อย

     

    แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นมากกว่านั้นไม่ได้...ทุกครั้งที่ได้เห็นมิเรย์ซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าหยิบมือถือขึ้นมาอ่านข้อความเข้าแล้วพิมพ์ตอบกลับไประหว่างคาบเรียน จากนั้นก็เบือนใบหน้าเท้าคางเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยรอยยิ้มกว้าง กับความคิดที่คงจะล่องลอยไปไกลถึงใครคนนั้นที่นาสุไม่เคยเห็นหน้าหรือได้ยินเรื่องราวจากปากของเธอมากไปกว่าชื่อ เคนโตะในช่วงสองสามเดือนหลังมานี้ เท่ากับคำบอกเล่าจากเมียวเซย์ มิชิกะ เพื่อนผู้หญิงที่มิเรย์สนิทใจด้วยที่สุดในห้องเพราะเคยเรียนชั้นมัธยมต้นด้วยกันมา และเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องความรักของเธอกับหนุ่มมหาลัยรายนั้น ดูเหมือนว่าเหตุผลที่มิเรย์เลือกพูดเรื่องส่วนตัวกับมิชิกะ แม้ว่าตอนอยู่ในโรงเรียนหรือหลังเลิกเรียนเธอจะตัวติดกับเขามากกว่าอาจเป็นเพราะ “เรื่องความรักพูดกับผู้หญิงด้วยกันมันง่ายกว่านี่นะ” อย่างที่หล่อนเปรย

    แค่จินตนาการว่าต้องทนรับฟังเรื่องของคนที่ตัวเองรักไปมีความรักกับผู้ชายคนอื่นก็ทำให้เขาเจ็บปวดมากพออยู่แล้ว แต่นาสุก็ยังอยากจะรู้ทุกความเป็นไปของเธอ

    หรือไม่...ก็แค่เพราะเขาอยากเป็นคนสำคัญที่สุดที่เธอไว้ใจจะปรึกษาไม่ว่าเรื่องอะไร ทั้งอย่างนั้น นาสุก็ไม่กล้าพอที่จะพูดออกไป หรือก้าวก่ายการวางตำแหน่งว่าให้เขาเป็นได้แค่ไหนในชีวิตของเธอ

     

    ตอนที่มิเรย์ออกไปโทรศัพท์อยู่นานสองนานกว่าจะกลับเข้ามาในร้านอาหารครอบครัวที่เพื่อนในห้องยกโขยงกันไปคุยเรื่องกิจกรรมหลังเลิกเรียนพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง และแก้มที่ขึ้นสีชมพูเพราะคำกระเซ้าเย้าแหย่ของมิชิกะจนเพื่อนคนอื่นที่เพิ่งจะรู้ว่าเธอมีแฟนก็พลอยผสมโรงตามไปด้วย ทั้งหมดนั้นทำให้นาสุนึกโกรธมิเรย์ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำขึ้นมาเป็นครั้งแรกจนต้องขอตัวกลับบ้านก่อน แล้วรีบจ้ำอ้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกของใคร

    ในเมื่อสุดท้ายแล้วมันไม่มีทางเป็นไปได้ เขาก็ควรที่จะต้องเลิกคิดถึงความหวังลมๆ แล้งๆ ได้แล้วหรือเปล่า?

    ไม่ให้นาสุหนีกลับบ้านคนเดียวหรอก”

    ทั้งอย่างนั้น ความคิดที่มัวหม่นของเขาก็ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างอย่างสดใสและชัดเจนอยู่เบื้องหน้า หลังรู้สึกถึงสัมผัสที่วางลงบนไหล่ให้เขาได้หยุดฝีเท้า แต่ไม่ทันได้หันขวับไปมองเมื่อเธอจะกระโจนขึ้นมา เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงที่ไพเราะที่สุดของเธอร้องเรียกชื่อของเขา เพียงแค่ได้มองเห็นใบหน้าที่งดงามที่สุดของเธออยู่ในแววตาของเขา นาสุก็รู้ว่าการตัดใจจากเธอต่างหากที่ไม่มีทางเป็นไปได้

    มีอะไรหรือเปล่า?”

    ขณะที่มองสบตากับคนที่ไม่เคยรับรู้อะไร นาสุก็นึกทรมานข้างในอกอย่างกับหัวใจถูกบีบรัด หากเขาก็ได้แต่เก็บสีหน้าแล้วตอบไปว่า “ไม่มีอะไรหรอก” ด้วยรอยยิ้มเหมือนกับทุกที

     

    ทั้งที่เขาเลือกแล้วว่าจะเป็นฝ่ายที่ยอมเจ็บปวดเอง ขอแค่ได้อยู่เคียงข้าง เห็นเธอมีความสุขแบบนี้ในทุกๆ วันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว แต่ทำไมเธอถึงต้องโกหกตัวเอง ทำไมเธอถึงยังยังเอาแต่ยิ้มหัวเราะอยู่ได้ ทำเหมือนกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อความจริงแล้วไม่ใช่เลยสักนิด

    มิเรย์โดนบอกเลิกแล้วล่ะ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอกนะ แค่สุดท้ายแล้วไปด้วยกันไม่ได้ ก็ใช่ว่าจะทำใจได้หรอก แต่มิเรย์บอกว่าเพราะว่ารักมากถึงได้ยอมปล่อยให้เขาไปตามเส้นทางที่เลือก บ้าบอชะมัดเลยเนอะ สัปดาห์ก่อนโน้นที่มิเรย์ขาดเรียนตั้งแต่วันพุธนั่นไง เธออ้างว่าไม่สบายใช่ไหม แต่ความจริงแล้วเป็นเพราะร้องไห้จนตาบวมช้ำเลยต่างหากล่ะ ฉันเห็นแล้วยังอดสงสารไม่ได้เลย”

    มิชิกะตอบคำถามของนาสุที่อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปกับการต้องทนเห็นท่าทีของเธอตลอดทั้งสัปดาห์จนตัดสินใจลุกขึ้นโทรศัพท์ไปหาในตอนดึกดื่น และเป็นคำพูดปิดท้ายของหล่อนนี่เองที่จะทำให้นาสุได้ตระหนัก

    นึกว่านายรู้อยู่แล้วซะอีก ในเมื่อนายเป็นเพื่อนสนิทของเธอแท้ๆ”

    เพราะการแบ่งปันทั้งความสุขและความทุกข์ให้แก่กันคือหน้าที่ของเพื่อนสนิท แม้ว่าสำหรับนาสุแล้วจะหมายถึงการแบกรับทุกความเจ็บปวดทั้งของเธอและเขาเอาไว้เอง การต้องทนมองดูมิเรย์ฝืนทำตัวเป็นปกติต่อหน้าเขาทั้งที่ข้างในใจกำลังแตกสลายมากมายแค่ไหนจะยิ่งทำให้เขารู้สึกทรมาน

    ในวินาทีที่เธอเงยหน้าขึ้นจากสมุดการบ้านมาสบประสายสายตากับเขาที่จดจ้องอยู่ก่อนแล้ว คำถามสมมติมากมายที่เคยวนเวียนอยู่ในความคิดของนาสุก็ถูกแทนที่ด้วยความเป็นจริงจากรอยยิ้มจอมปลอมนั่น

    ฉันทนไม่ไหวแล้วมิเรย์ พอสักที! เธอบอกว่าฉันเป็นเพื่อนรักอันดับหนึ่งของเธอ แล้วคนเป็นเพื่อนเค้าทำกันแบบนี้เหรอ!”

    นายหมายถึงเรื่องอะ...”

    แต่นาสุก็ตะโกนแทรกขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ถามจนจบประโยค ด้วยความอัดอั้นตันใจที่ผสานรวมกันทั้งจากความโกรธ ความน้อยใจ และความไม่เข้าใจ

    ฉันรู้เรื่องของเธอจากมิชิกะ แต่ฉันกลับไม่เคยรู้อะไรจากปากของเธอเลยสักอย่าง! ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนั้นที่เธอคบเป็นใคร มาจากไหน หรือว่าเธอเลิกกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ วันที่เธอต้องนอนร้องไห้เสียใจอยู่คนเดียว เธอก็รู้ว่าฉันไปอยู่ข้างเธอได้ ตอนที่เธอมีเรื่องทุกข์ใจอะไร ฉันก็อยากให้เธอระบายมันกับฉัน แสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ ไม่ใช่เอาแต่เสแสร้งแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเหมือนอย่างที่เธอทำอยู่นี้!”

    แม้ว่าเด็กสาวจะเอาแต่นั่งนิ่งไม่ไหวติง แต่ดวงตาที่สั่นไหวตลอดเวลากับของเหลวที่เอ่อคลอก็ฟ้องว่าสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดนั้น...คือความจริง

    “ฉันยังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธออยู่หรือเปล่า มิเรย์?”

    ฉันขอโทษ” คือประโยคแรกหลังจากความเงียบงันระหว่างกันอยู่ชั่วอึดใจหนึ่งพร้อมกับหยดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาเมื่อเธอก้มใบหน้าขาวที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำลงไป ฉันแค่กลัว...ว่าเรื่องของเขาจะมาแทรกกลางเรื่องของเรา เพราะฉันอยากให้เรายังเป็นเหมือนเดิมตอนที่อยู่ด้วยกัน”

    ด้วยการหลอกตัวเองว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยการหลอกฉันว่าเธอสุขสบายดี เหมือนกับเธอคิดว่าฉันที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอจะดูไม่ออก แบบนั้นน่ะเหรอที่เธอต้องการ?”

    มิเรย์ได้แต่ก้มหน้าสั่นศีรษะ เอาแต่สะอึกสะอื้นพร่ำคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา ความอ่อนแอราวกับนกปีกหักจนน่าสงสารของเธอทำให้เขายิ่งทรมานและอีกไม่ช้าอาจเป็นหัวใจของเขาที่แหลกสลายเสียเอง ถ้าหากว่ามันจะเป็นเช่นนั้นนาสุก็ไม่คิดหักห้ามตัวเองอีกต่อไป เขาลุกขึ้นไปโอบกอดร่างของเธอที่ไม่ยอมหยุดสั่นเทาแม้เมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอที่เป็นคนเปิดเผยแต่กลับปิดบังความเจ็บปวดกับเพื่อนสนิท เธอที่เป็นคนฉลาดแต่กลับตัดสินใจได้อย่างโง่เง่าเมื่อเป็นเรื่องของเพื่อนสนิท ความใจดีที่คิดไปเองแค่ฝ่ายเดียวของเธอนั่นแหละที่เป็นเรื่องเห็นแก่ตัวที่สุด ในเมื่อเธอทำได้แล้วทำไมเขาจะทำบ้างไม่ได้ ไม่ใช่เพราะร่างกายหรือสมอง แต่เป็นหัวใจต่างหากที่ผลักดันให้เขาทำเรื่องเห็นแก่ตัวลงไป...อย่างการจูบเธอ












    2023年02月20日
    _______________
     ผีเข้า นอนไม่หลับ กูเลยนอนกลิ้งแต่งเรื่องนี้ในมือถือไปสองชั่วโมง (ไม่จบ) แล้วคิดว่าไม่ต้องนงต้องนอนมันละ ลุกมาเกลามาอัพร้อยคำดีกว่าโว้ยย / เกิดจากว่ากูไปเจอนาสุโซโล่เพลงนี้ที่กูขนลุกมาก เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเอ๋กรุ๊ปก็เคยร้องเพลงนี้! จะว่าเพราะมากขนาดนั้นเหรอก็ไม่แน่ใจ (พูดแบบนี้ก็แปลว่า...) แต่กูก็ติดใจมากเลยไปหาคำแปลที่ว้าย ชอบมาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แต่งเพราะตอนนั้นใจกูลังเลระหว่างเคนกับไทเซย์เลยทดไว้ในใจก่อน สาบานว่าเรื่องจริง 55555 ที่ไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งกูจะได้แต่งจริง แต่หมายถึงเมนอื่นวงอื่นไปเล้ย! เพราะตอนกูกดฟังครั้งแรกแล้วอยากตาย เพราะมาก เพราะจริง อินเนอร์แอบรักข้างเดียวมาก กูฟังแล้วเจ็บปวดรวดร้าวในใจ สมกับที่กูรักเสียงเค้าเป็นอันดับสองในวง จากนั้นก็มือไม้สั่น แต่งไม่แต่งก็ต้องแต่ง! เฮ้วป์ o<-<
     เหมือนว่ากูจะห่างหายจากการแต่งแนวดราม่าวัยเรียนไปนานมาก ปกติมาแต่ใสๆ แนวนี้ต้องมึงไหม เฟรนด์ซงเฟรนด์โซนใดๆ ขอบคุณเซ็กซี่โซนที่ชอบแต่งเนื้อเพลงเป็นสตอรี่ คิดอะไรไม่ออกก็ไปอ่านคำแปลแล้วจิ๊กท่อนโน้นท่อนนี้มาใส่ในเรื่องได้เลยงับ TvT / นางเอกทั้งสองยืมมาจากฟิคยาวที่คิดจะแต่ง...หรือไม่แต่งก็ช่างเถอะ แต่ไว้จะทำคาแรกฯมาลงเพราะมันคือพล็อตดราม่าสมัยสิบปีที่แล้วของกูเอง ชื่อเรื่องเป็นศัพท์ดาดดื่นทั่วไปก็จริง แต่ที่จริงกูเอามาจากเพลงของสโตนส์เพราะ ๑. เมวากิยากุแปลว่าตัวประกอบ ทีนี้ ๒. เพลงไฮเดรนเยียประกอบละครเรื่อง She Was Pretty ที่เคนโตะเล่น แล้วเนื้อเพลงก็มีท่อนที่ว่า "เธอคือนางเอก" กูก็ว่าบ่าได้ละ มันต้องเปิดม่านประเพณีแล้วล่ะงานนี้ มิชิกะจะได้เป็นฮีโรอีนของฮิดากะ ไม่ต้องอมทุกข์อะไรละนะ เลิกได้เลิก เลิกไม่ได้ที่นี่มีฟิคจ้า / และกูจะย้ำทุกครั้งที่แต่งว่าวงนี้มึงอย่าหักไปเมนคนอื่นที่ไม่ใช่อุกิโช ขอร้องอย่าหักปากกาเซียน กูเป็นแม่สื่อแม่ชักให้มึงเองอย่าหาทำ กูไม่ให้! กูไม่ยอม! กูไม่อนุมัติ! และอย่าบู้บี้นางเอกกู แต่รูปก็ไม่ค่อยสวยจริง แต่ในคลิปก็น่ารักจริง เนาะมึง เนาะๆ U_U
     มันมีคลิปหนึ่งในช่องที่ว่านาสุจะรอต่อคิวร้านเปิดใหม่ได้นานเท่าไหร่แล้วนาสุก็ว่า 15 นาที ถ้าจำไม่ผิดนะ แล้วก็บอกว่าไว้ไปวันอื่นก็ได้นี่ อันนี้กูแปลมั่วนะ ก็เลยแต่งฉากตอนต้นมาให้เห็นความพยายามของมิเรย์ ฮ่าๆๆ ส่วนที่กินป๊อกกี้ก็เพราะเห็นไทโชทำพาร์เฟ่ต์ให้ริวกะ >_< / รู้ไหมว่าตอนแรกกลุ่มเพื่อนจะมีกันสี่คนนี่แหละ แล้วมึงดันลงเรื่องหนามกุหลาบแดงเจ็บไม่จำ ทิ่มให้ตายแม่งเลยมึงน่ะ กูเลยเปลี่ยนเป็นเพื่อนกลุ่มใหญ่ไปเลยละกันเดี๋ยวว่าของฝากนักก็อป แต่ก็ฟีลในห้องสนิทกันหมด คนโน้นไปกับก๊กนี้ มีก๊วนตรงนั้น เหมือนสมัยมอปลายกับมหาลัยที่เราไหลไปเรื่อยงี้ 55555 แต่นาสุกับมิเรย์สนิทกันที่สุดจริง มิเรย์ไม่ได้ตอแหลแอ๊บหลอกให้ท่า นาสุก็ไม่มีใครรู้ดูไม่ออกทั้งนั้นว่าฮักเมาเพื่อนจ้า
     ฟิคสั้น ตัดฉากชึบชับ แป๊ปเดียวก็จบแล้ว ต่ออีกร้อยคำงี้ อยากแต่งแค่ระบายพล็อตเฉยๆ แต่กูก็ไม่สามารถแต่งจนจบในวันเดียวเลยได้นะมึงนะ ส่วนพาร์ทอุกิโชก็จะสู้แต่งให้ได้เพราะชอบเพลงนี้มาก โอ๊ยยย พอฟังแล้วอยากแต่งให้ริวกะกับไทโชด้วย แต่เพลงเดียวใช้แต่งให้สามคู่ไม่ได้ว่ะ พล็อตมันมากับเนื้อเพลง ช้ำหมดพอดี 55555

    2023年02月22日
    _______________
     กูย้อนไปอ่านฟิคไทม์ทราเวลละกูก็อับอายมากเพราะเคยบอกว่ากูหมั่นใครรอดหมด เจสสี้ พี่คุ นาสุ ตัดภาพมาที่สองเดือนต่อมา นาสุหนักกว่าเคนโตะอีก อีผี ไม่ตกหลุมสีน้ำเงินอะไรก่อน อย่างเหี้ยจริงๆ ตัวกูนี่แหละ o<-< ละเนี่ย พอกูมาชอบจริงมึงก็บอกว่าล้อไม่สนุกละ อย่างเหี้ยจริงๆ หมายถึงมึงนี่แหละ สมควรที่จะเป็นได้แค่ตัวตลกในสายตาเธอ
     อย่างที่บอกว่าต่ออีกร้อยคำจบก็คือจบจริง รีบแต่งเหมือนไล่ควายก็คือไล่จริงเพื่อระบายพล็อตแค่นั้น ถือว่าคอมพลีตแล้วกับเพลงนี้ ไม่มีอะไรค้างคา (จริงๆ ก็มีนิดๆ แหละแต่ช่างมัน) แต่ตอนท้ายผิดจากที่คิดเพราะภาพในหัวแรกสุดเลยคือมิเรย์เดินร้องไห้บนถนนเพราะเคนโตะบอกเลิก นาสุที่แอบตามไปเห็นก็ได้แค่กอดปลอบใจ เป็นได้แค่พระรองในสายตาเธอ จบ ทีนี้เมื่อเช้าตอนกูตื่นนอนก็หยิบมือถือมาแต่งไป ดูหนังรัสเซียที่ตัวเองแปลลงช่องโมโนไป (อิอิ เรื่องโคม่าจ้ะ) แล้วมันก็ดันออกมาเป็นแบบนี้เฉย งง ละทำไมมิชิกะเด่นจังวะ เอ้างง ที่จริงคิดไม่ตกด้วยว่าจะให้จูบดีไหม แต่ไหนๆ แล้วก็จูบไปเลยเหอะเพราะเป็นพระเอก ฟีลเหมือนการ์ตูนสั้นของบงกชที่กูซื้อมาเยอะ TvT แต่ตั้งใจตัดจบแค่นี้เลย เพราะกูรู้สึกว่าถ้าบรรยายต่อแม้อีกแค่ประโยคเดียวทุกอย่างจะพังหมดเลยเหมือนเจงก้าถล่ม / หลังจากนี้สองคนนี้ก็ยังไม่ได้คบกันหรอก แต่ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันต่อไป ทำเหมือนเรื่องคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายมิเรย์ก็จะค่อยๆ ลืมเคนโตะได้เองเมื่อเห็นว่านาสุรักตัวเองมากแค่ไหน เพราะพระเอกก็คือพระเอกอยู่วันยังค่ำ ไม่มีวันกลับไปเป็นตัวประกอบอีกแล้ว อันนี้คือหมายถึงกูกับเค้านี่แหละ สวัสดี T/|\T / ปล. เห็นสั้นแค่นี้แต่แต่งยากมากมึง กูห่างหายจากแนวอมทุกข์ ดราม่าอะไรไปนานมาก ไม่ใช่มึงที่แต่งไปร้อยเรื่องนะ แต่ออกมาก็พอใจแบบไม่น่าจะพอใจ ไม่คิดว่าจะชอบบทนาสุอะไรมากแต่อ่านไปอ่านมาก็รักเลย ว้าวส้า ส่วนพาร์ทของอุกิโช (ที่คิดไว้ในหัว) น่าจะแต่งง่ายกว่านี้เพราะมาแนวอบอุ่นหัวใจ แนวถนัดกูเองเพราะกูเป็นคนอบอุ่น อ่อนโยน ละมุนละไม ใครๆ ก็รู้จ้า >_<
     กูกดดูผังความสัมพันธ์ของนาสุ (แปลไม่ออกหรอก กูมั่ว) แล้วมีติวหนังสือกับไคโตะคุงของมึง! (เพราะเคยเล่นละครด้วยกัน เริ่ดไม่เริ่ด) ใครของมึงอีกรู้ไหม เจสซี่! รุ่นพี่ที่ไปกินข้าวด้วยกัน! กูขอร้อง เมนกูทุกคนจะเขียนถึงเจสสี้ไม่ได้! (แม่งมีพูดถึงนาโอะด้วย กูเลื่อนๆ เลย เหอะๆๆ) / ละอีดอก ของไทโชขึ้นหน้ายูทูบมาพอดีกูเลยกดดูต่อ แม่งเง้ย มองไทกะเป็นพี่ชายละก็ชอบมิสชิลเหมือนกัน เอาแล้วว่ะ ก๊กมึงมีแก๊งเพิ่มละนะ (อย่าลืมว่ายาบานะก็ชอบสปิตซ์ ฮ่าๆๆ) ละใครอีกรู้ไหม เจสซี่! เป็นรุ่นพี่ที่ชอบทามากิ โคจิซังเหมือนกัน! อีจุง มารับเมนเก่ามึงไปด้วย กูบ่าไหวแล้ว หยุดได้หรือยัง! ละอะไรอีกรู้ไหม โชริเป็นคนแนะนำ NIRVANA กับให้กีตาร์ไทโชด้วย! โอ๊ยยย กูเพิ่งรู้ว่าไทโช(ริ)สายร็อคแนวมึงขนาดนี้ ช่วยด้วย ทำไมเมนกูมาสายดนตรีจัดๆ เยอะจังวะ มันควรเป็นมึงไหม o<-< แต่ว้าวว่ะ เคนไทเซย์เป็นโทโมดาจิของไทโชเลย ได้ไงวะ สับสนไปหมด
     อีผี มึงมาดูโหวตคนที่น่าจะเป็นโดะเอ็ม ๑.อิการิ (ปีก่อนที่ซาวแปด) ๒.โมโตดากะ (ที่สอง) ๓.นาสุ (ที่สาม) ๔.ไทเซย์ (ซาวหก) ๕.ซาคุมะ (ที่เจ็ด) กูนิไค่หัว เลือกเมนไม่เคยผิดเลยโว้ยย 55555 แต่มึงก็เอ็มนี่ดิ รองมือรองตีนกูขนาดนี้ 55555 / ปล. ฮ่าๆๆ ตื่นเช้ามาเพิ่งเห็นอันดับที่เพื่อนจอห์นนีส์โหวต ไทโชได้ที่หนึ่งเฉย ฮ่าๆๆ อีดอก เรย์อะเขียนว่าไรรู้ไหม ชอบมาหาเหมือนอยากให้แกล้ง ของโยชิแปลไม่ออกแต่แนวๆ ว่าพอถูกแกล้งก็ไม่ได้เกลียดอะไรนี่ (มั้ง) เริ่ดมาก เมนกูโดะเอ็มกันทั้งแผ่นดินพัยเร้ยส์!
     


    Curtain Call ~夏のハイドレンジア~
    Playlist: Bishonen  Summer Hydrangea 「夏のハイドレンジア」 (Cover from Sexy Zone)

    * เวอร์ชั่นไลฟ์งิ https://www.bilibili.com/video/BV1k14y1P73N/ อันนี้ก็ลงยูทูบได้เหรอ ว้าวส้า *










    .

    กว่าที่อุกิโช ฮิดากะ จะทำความสะอาดห้องเรียนด้วยตัวคนเดียวจนเสร็จเพราะคู่ทำเวรขอตัวกลับไปฉลองวันเกิดกับคนรักก่อนก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือฝนที่กระหน่ำลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยและอาจทำให้เขาต้องติดแหง็กอยู่ที่นี่ หรือไม่ก็กลับบ้านไปด้วยสภาพม่อล่อกม่อแล่กกับของแถมคือไข้หวัด (ถึงเขาจะแน่ใจว่าตัวเองแข็งแรงพอแต่ใครจะไปรู้ล่ะ) หากไม่ว่าจะทางไหนก็ดูไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย ขณะที่กำลังชั่งข้อดีข้อเสียอยู่ในหัวระหว่างเดินลงจากตึกเรียนมานั้นเอง สายตาที่ทอดเลยไปของอุกิโชก็ได้มองเห็นเพื่อนนักเรียนยืนแหงนหน้ามองดูท้องฟ้ามืดครึ้มที่ถูกบดบังอยู่ตรงระเบียงทางเดิน

    อุกิโชย่อมต้องจดจำเด็กสาวเจ้าของผมสีทองสว่างเจิดจ้ารับกับใบหน้าขาวที่แต้มแต่งได้เป็นอย่างดีว่าคือเมียวเซย์ มิชิกะ แม้จะเรียนอยู่ห้องเดียวกัน นั่งถัดจากกันแค่เยื้องๆ มาหนึ่งที่นั่ง เคยคุยกันเรื่องเพลงไม่ก็หนังที่สนใจตรงกันบ้างบางที หรือเขาจะคิดว่าเธอก็น่ารักดีอยู่บ่อยครั้ง ทั้งอย่างนั้น วงโคจรของอุกิโชที่อยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายเฮฮาบ้าบอของตัวเองหรือมิชิกะที่สนิทกับกลุ่มเพื่อนสายดนตรีมากกว่าก็แทบไม่ได้มาบรรจบ

    ทว่าบัดนี้ ใบหน้าที่จะประดับไปด้วยรอยยิ้มสดใสอยู่เสมอไม่ว่าเมื่อไหร่กลับกำลังหมองหม่น ฝีก้าวของเขาหยุดชะงัก ได้แต่นิ่งงันมองดูท่าทีของเธออยู่อย่างนั้นราวกับถูกตอกตรึง ก่อนที่อุกิโชจะได้เข้าใจว่าสิ่งที่เธอทำก็คือการฝืนกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมา

    และเมื่อประกายเจิดจ้ารินไหลลงมาตามแก้มของเธอที่พยายามยกมือขึ้นเช็ด สุดท้ายร่างที่เริ่มไหวสะอื้นก็ตัดสินใจวิ่งฝ่าสายฝนออกไป อาจเพื่อปกปิดร่องรอยของน้ำตาหรือไม่ก็ร่ำร้องไห้ไปกับมัน อย่างปุบปับจนอุกิโชไม่ทันแม้แต่จะได้อ้าปากร้องเรียกชื่อหรือมองหาร่ม...ที่เขาก็ไม่ได้พกมา

    ฤดูร้อนที่เมืองกลายเป็นสายฝนในยามเย็นย่ำของชั้นไฮสคูลปีที่สาม อุกิโชได้ ตกหลุมรักมิชิกะเป็นครั้งแรก

     

    เสียงตะโกนเริงร่าของเธอในอีกสองวันต่อมาขณะป้องปากร้องเรียกชื่อเพื่อนสนิทแล้วทิ้งตัวนั่งลงไปบนเก้าอี้ตัวข้างๆ อิวาซากิ ไทโช ซึ่งถามว่าเธอหายไข้ดีแล้วเหรอ ตามมาด้วยเรื่องแผ่นซีดีรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่แลกกันฟัง ทุกอย่างยังคงเป็นปกติเฉกเช่นเดิม ราวกับเหตุการณ์ของเย็นวันวานนั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่การที่หัวใจของเขาจะเต้นผิดจังหวะแค่เพียงได้มองดูใบหน้าที่อาบรอยยิ้มตลอดเวลาของเธอพร้อมกับความอุ่นซ่านที่แล่นวาบเข้ามา ก็ทำให้อุกิโชแน่ใจว่าทุกอย่างหาใช่ความฝันที่มัวพร่าดั่งสายฝนที่ซัดสาด เหมือนกับความชัดเจนในแววตาของมิชิกะตอนที่ซาโต้ โชริ เพื่อนในกลุ่มอีกคนของเธอบอกลาเด็กสาวต่างห้องหน้าประตูที่ถูกเปิดอ้าไว้แล้วเดินมานั่งประจำที่ข้างหลังไทโช รอยยิ้มของเธอกระตุกแค่เพียงวูบเดียวเท่านั้นก็กลับมาเป็นปกติขณะทักทายกลับไป และเล่าเรื่องอาการป่วยไข้ที่อีกฝ่ายถามไถ่ด้วยน้ำเสียงติดตลกเพื่อกลบเกลื่อน

    อุกิโชไม่รู้เลยว่ามิชิกะตกหลุมรักโชริอยู่ หรือเรื่องนั้นเกิดขึ้นเป็นเวลานานแค่ไหนแล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะเขาไม่เคยสนใจใคร่อยากรู้เรื่องของเธอในแง่นั้น หากการที่แม้แต่เพื่อนในกลุ่มของเธอยังดูไม่ออก — และอุกิโชหมายถึงโชริที่เป็นคนละเอียดอ่อน — ก็แปลว่าเธอปกปิดความลับของตัวเองได้อย่างแนบเนียนมาก จนไม่มีใครในโลกที่น่าจะรู้เรื่องนั้นอีก

    ระหว่างเขากับมิชิกะก็เหมือนกับเข็มนาฬิกาที่ยังคงไม่มาบรรจบ แต่แค่ได้มองเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบิกบานเหมือนกับวันฟ้าใสอย่างที่เป็นอยู่นี้ก็ดีมากแล้ว












    2023年02月27日
    _______________
     แฮปปี้เบิร์ธเดย์อุกิโชเป็นปีแรกในฟิคและในชีวิตของกูนี่แหละ ปีหน้าจะยังได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไหมไม่รู้ แต่ปีนี้ไตรมาสแรกกูยกให้วงของเค้าไปหมดทั้งใจเลยแล้วกันค่า! (แต่พลาดจริงตรงนาสุเกิดมกราฯ ปีนี้เลยไม่มีอะไรทันทั้งนั้น เพราะตอนวันเกิดเค้ากูแค่รีทวิตเดียว จบ ไม่หือไม่อือ ไม่สนใจ ทีแรกไม่อยากรีด้วยซ้ำ (ไม่)ชอบขนาดไหนไปคิดเอา TvT)
     ออกตัวก่อนว่าตั้งใจให้คนที่นางเอกชอบต้องมาจากวงรุ่นพี่ที่รุ่นน้องเอาเพลงมาร้องประกอบในฟิคนี้อยู่แล้ว กูวางให้เป็นโชริอยู่แล้ว เพราะฟูมะก็ไม่ได้ไหมล่ะ แต่ก๊กสายดนตรีได้มาเพราะผังความสัมพันธ์ของไทโชจริง (ที่จริงมีไทกะกับมิจิด้วยนะ แต่กูไม่ยัดลงไปแล้ว มันเป็นแค่ฟิคสั้น) สมัยเรียนมึงก็สนิทกับก๊กนักดนตรีมากกว่ากูจริง กูยังจำฟิคเตงเจ้อติงมึงได้ก็เอ้า เจนกับโชริกลับมาหน่อยเร้ว (มึงบอกไม่ต้องกลับ!) แล้วก็บังเอิญที่อุกิโชริก็เป็นเมมเบอร์ประจำใน VS Damashii เหมือนกัน (มึงบอกไม่ต้องเป็น!) / กูขอเล่าอะไรให้ฟังหน่อยว่ากูแทบไม่เคยสนอุกิโชเลย แต่คิดว่าตอนทำผมทองก็หล่อดี น่าจะไลฟ์เพลงซิงอิทจากสปริงพาราไดซ์ที่ช่องจอห์นนีส์เกือบปีแล้ว แต่ตอนตามวงนี้ก็ยังไม่สนใจอยู่ดีเพราะไม่ใช่ไทป์ ถึงงั้นก็มั่นใจว่านี่แหละไทป์มึง สไตล์จอห์นนีส์จัดๆ ดังสุดในวง มันต้องแบบนี้สิวะ! แล้วกูก็ดีใจมากที่ทำได้ น้ำตากูไหลเลย นึกถึงสมัยน้องเก็นๆ ความภูมิใจในการเลือกเมนให้มึงที่สุดของกูแล้ว ส่วนมึงไม่ต้องห่วงว่ากูจะเลิกเมนบิโชเน็น เพราะเดี๋ยวกูก็เลิกแล้ว เลิกจริง ปีนี้แแหละ แต่รอจนกว่าแผ่นคอนฯที่ออกเดือนห้าจะมาถึงก่อนนะ (อีดอก ไม่ใช่เจออาถรรพ์แบบทราวิสงี้นะ แผ่นมาถึงก็ไม่ยอมดูสักที สุดท้ายไปเมกงเมกา เขวี้ยงได้เขวี้ยง)

     ขอบคุณ sz สำหรับคำแปลเพลงที่เอามาเป็นพล็อตทั้งเรื่องได้อีกแล้วค่า (ลิงค์) เลยหยิบตรงนั้นนี้มาใส่ลงไป ที่ก็ยังเหลืออะไรให้ใส่อีกเยอะแหละ โดยเฉพาะคำว่าไฮเดรนเยียกับนางเอกที่ไม่มีไม่ได้ ถือว่าผิด / ฉากรอฝนได้ไอเดียจากเรื่อง Signal เวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่กูได้ทำบทพากย์ลงโมโนแมกซ์เองแหละ ฮี่ๆ >_< เป็นซีนที่พระเอกตอนประถมจะกลับบ้านแต่ไม่ยอมแบ่งร่มให้น้องผู้หญิงกลับด้วยกัน น้องก็เลยเป็นเหยื่อคนร้ายถูกฆ่าตาย อะไรอีกเรื่องรู้ไหม จูออนแบล็คโกสต์! อีผี! เราจะอยู่กันดีๆ (หมายถึงกู) ไม่ได้ใช่ไหม! / อันนี้ก็ฟิคสั้น ชึบชับๆ แต่เดี๋ยวนี้กูแต่งฟิคทีละนิดละหน่อย สลับเรื่องไปเรื่อยตามอารมณ์เลยไม่มีอะไรจบจริงๆ สักที และเพราะกูเกลาพาราด็อกซ์ทั้งหมดไม่ทันวันเกิดอุกิโช เลยเอาเรื่องนี้มาลงด้วยละกัน แถมๆ อ่านแบบทีละร้อยสองร้อยคำกันไปนะมึงนะ

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×