ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #105 : FF15: Starlit Waltz

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 66


    Starlit Waltz
    Inspiration: Final Fantasy XV (Video Game, 2016)
    Playlist: rebelsuns. – L.O.V.E.R

     
     











    .

    บรรยากาศของเมืองแห่งสายน้ำที่งดงามจับตาและแสนจะโรแมนติกพลันสลายหายวับไปในชั่วพริบตา ขณะเธอซึ่งกำลังยืนจับราว ปล่อยให้สายลมระต้องขณะทอดมองดูสายน้ำกับกอนโดล่าที่แล่นไปอย่างเรื่อยเฉื่อยท่ามกลางแสงแดดเจืออ่อนของยามสาย ส่องประกายวิบวับ กระนั้นก็ไม่มีสิ่งใดจับใจเธอได้เท่ากับชายหญิงที่กำลังนั่งหัวร่อต่อกระซิกกันบนกอนโดล่า ก่อนฝ่ายชายจะบังเอิญเงยใบหน้าขึ้นมาสบกับเธอแล้วต่างชะงักงัน หุบรอยยิ้มที่มีถึงตอนก่อนหน้าไปพร้อมๆ กันโดยไม่ได้นัดหมาย

    โฮลี่ซิกซ์!

    ความคิดของเธอฉิวเฉียดกว่าเสียงร้องเรียกของหล่อนที่เงยมองตามอาการชะงักงันจากคนใกล้ ก่อนยกมือขึ้นโบกไหวๆ เปล่งเสียงหัวเราะเริงร่าบนริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่วาดเป็นรอยยิ้มกว้าง รีบบอกให้ฝีพายพาเรือเข้าเทียบท่าซึ่งอยู่ไกลห่างจากเธอแค่ไม่กี่ก้าวเดิน ครั้นจะทำตัวเสียมารยาทกับเจ้าหล่อนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด...นอกจากเลือกผู้ชายผิด...ก็คงจะใจร้ายเกินไปหน่อย สุเอมิตสึ ฮาอาสะจึงทำได้เพียงปั้นแต่งรอยยิ้มโง่ๆ ให้กับนาโอระ เอ็นนะที่ปรี่เข้ามาจับไม้จับมือ ซ้ำยังสวมกอดเข้าให้จนฮาสะทำอะไรไม่ถูกไปครู่ขณะ ทั้งที่ไม่ได้สนิทสนมกันมากไปกว่าฐานะเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่รู้จักกันอย่างผิวเผินผ่านเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน เมื่อไหร่ที่เจอหน้ากันก็จะเพียงแค่ส่งยิ้มและทักทายกันเท่านั้น

    ไม่เหมือนกับชายคนรักของเธอที่เพิ่งจะวิ่งมาหาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปในมือ เขาเองก็หัวเราะเมื่อได้เห็นทุกคนที่รู้จักพร้อมหน้ากันอย่างน่าเหลือเชื่อ สองในสามคือเพื่อนที่เรียกได้ว่าสนิทมาตั้งแต่สมัยไฮสคูล ไม่นับเธอที่ย้ายจากบ้านเกิดเมืองนอนไปเข้าเรียนต่อที่อินซอมเนีย ก่อนที่จะย้ายกลับมาทำงานยังบ้านเกิดเมืองนอกที่กราเลียหลังจบการศึกษาและได้พบกับโคจิมะ เคนที่มาเก็บข้อมูลในฐานะนักข่าวภาคสนามของช่องโทรทัศน์อีกครั้งหลังจากสองปีให้หลัง ทั้งที่ไม่เคยมีวี่แววตลอดสี่ปีที่ได้รู้จักกันมา แต่ก็ดันตกลงคบหากันแบบงงๆ แต่แม้จะผ่านมาสามเดือนแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อันที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้แตกต่างจากตอนคบหากันเป็นเพื่อนธรรมดาสมัยเรียนเลยด้วยซ้ำ จะเป็นเพราะเขาไม่ใส่ใจหรือเธอไม่สนใจก็สุดแท้แต่ หากทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบเรียบจนน่าอัศจรรย์ แม้จะเดินทางมาถึงอัลทิสเชียและพักค้างคืนในห้องเดียวกันตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้วก็ตาม

    ถ้าถามว่าเธอชอบเคนไหม แน่นอนว่าทุกคนที่ได้รู้จักเขาย่อมต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบ เขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี อารมณ์ คอยสร้างความสุขให้กับผู้คนรอบข้างเสมอ แต่ถ้าถึงขั้นรักหรือเปล่า ซาอายะก็ชี้ชัดลงไปไม่ได้ แค่เพราะเธอที่เบื่อๆ อยู่กับชีวิตซังกะตายในบริษัทที่ดูท่าว่าจะเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่ไปวันๆ เป็นฝ่ายเอ่ยปากหลังชวนกันไปดื่มเป็นเพื่อนหลังเลิกงานตอนที่กรึ่มๆ ว่า “ในเมื่อเราสองคนต่างก็ไม่มีใคร งั้นมาลองคบกันดูดีไหม? แล้วถ้าระหว่างนี้ไม่เวิร์คหรือว่าเจอคนที่ชอบจริงๆ ก็เลิกกันได้เลย” ครั้นพอมาย้อนนึกดูก็ตลกดีเหมือนกันที่เคนเองก็ตกปากรับคำง่ายดายถึงเพียงนั้น แม้มีบ่อยครั้งที่ฮาอาสะอดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาอาจเลิกรากันก่อนได้มีใครรุกคืบเสียด้วยซ้ำ

    มาเดตกันเหรอ?”

    เดตเดิตอะไรไม่ใช่สักหน่อย!” เอ็นนะหัวเราะขณะตอบคำถามของเคน ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน คู่ชายหญิงที่นั่งคุยกันอยู่บนกอนโดล่าถึงก่อนหน้า และยืนเคียงคู่กันอย่างสง่างาม ณ ยามนี้ก็เหมือนกับคู่รักสวรรค์สร้างเท่าที่อัลทิสเชีย...หรือแม้แต่อินซอมเนียจะมีได้ “บังเอิญว่าฉันต้องมาทำธุระที่นี่ แต่ว่าเรือหยุดให้บริการชั่วคราว โยชิโนริก็เลยอาสาพามาส่งน่ะ”

    แหม ที่โยชิโนริใจดีให้ขนาดนี้ก็เพราะว่าเป็นคุณเอ็นนะต่างหากล่ะ”

    ก็จริงนะ”

    คนที่อ่านคำประชดประชันออกสวนย้อนกลับไปทันควัน จนริมฝีปากคู่สีแดงของเธอฉีกกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเงยขึ้นสบตากับเขา ตรงกันข้ามกับมือซึ่งเปลี่ยนไปไขว้หลังและกำเป็นหมัดแน่น

    ว่าแต่พวกนายเถอะ มาเดตกันเหรอ?”

    อ๋อ ใช่ พวกเรามาเดตกันเนอะเคน” ยาพิษยังคงเคลือบน้ำตาล กระนั้นก็หาได้สะทกสะท้านต่อชายหนุ่มซึ่งยักไหล่ไหว ไม่ได้ให้ความสนใจต่อคำตอบที่ตัวเองเป็นคนถาม

    เอ๋! จริงเหรอ! ยินดีด้วยนะทั้งสองคน!” เอ็นนะอาจแสดงความกระตือรือร้นยิ่งกว่า คู่รักตัวจริงที่คนหนึ่งได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่วนอีกคนหนึ่งก็ได้แต่ยิ้มเก้อๆ แต่อย่างไรก็คงจะออกมาดูงี่เง่าทั้งคู่นั่นแหละ “ว่าแต่เคนกับฮาอาสะ...”

    กลับเป็นโยชิโนริที่ขัดขึ้นมาเสียก่อนว่า “ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ไปหาร้านนั่งคุยกันดีกว่า

    เอ็นนะหันไปพยักหน้ารับคนข้างกายได้อย่างน่าชังโดยไม่ได้ดูขัดหูขัดตาเลยแม้แต่น้อย ขณะเดินตามหลังพวกเขาไป ซาอายะก็นึกอดสูไม่ได้แม้จากแผ่นหลังที่เคียงคู่กัน เมื่อคนที่ออกตัวว่าเป็นแค่เพื่อนกันยังดูเหมาะสมกันยิ่งกว่า คู่รักตัวจริงตรงนี้เสียอีก

     












    2023年01月28日
    _______________
     อย่างที่บอกว่าจะเริ่มทยอยแปลงฟิคเกมมาลง แล้วทีนี้ก็นึกได้ว่าเฮ้ย ฉากในภาค 15 เอามาจากเวนิสไม่ใช่เหรอ แล้วเวนิสอยู่ไหน ก็อิตาลียังไงล่ะ! แล้วเมื่อวานกูฝันถึงสโตนส์ครบวง คุยกันในตรอกที่อิตาลี อะไรไม่รู้ แต่ไทกะเป็นแฟนกู แล้วตอนกลับโรงแรมก็เจอนาสุ อีผี! โรงแรมไวท์โลตัส! ในฝันนาสุชอบกู เป็นคนปลอบกูที่โดนผัว (ไทกะ) ทิ้ง! อีชิบหาย ตอนนี้กำพระแน่นมาก กูตกหลุมรักคนในฝันจนตื่นมาเมนกี่คนแล้ว แต่คนนี้กูยังรอดอยู่โว้ยยย!!!
     ตอนเล่นเกมนะกูรักเมืองนี้มาก ไปเดินร่อนทั่วเมืองทั้งกลางวันกลางคืน ทุกตรอกซอกซอยกูเข้ามาหมดแล้ว ทั้งตอนแดดออก ฝนตก ไม่ยอมเล่นสตอรี่ต่อสักที มัวแต่สำรวจเมือง ไปตกปลา ถ่ายรูป นั่งเรือเล่นไปเรื่อย เพราะรักมาก T_T แต่ดันไม่มีฟิคที่แต่งฉากในเมืองนี้เลยสักเรื่องทั้งที่มีพล็อตเยอะมากทั้งฉากเดินเล่นในเมืองตอนฝนตก งานมูเกิ้ลโจโกโบะคาร์นิวัล แล้วก็ตอนไปสู้กับลีไวอาธาน แต่แต่งไม่ออกเลยสักเรื่อง อนิจจา เรื่องนี้ก็มาได้แค่นี้แหละ ตั้งใจแต่งให้เป็นฟิคท่องเที่ยว เดินเล่นในเมือง เพราะช่วงนั้นติดอ่านนิยายไทยไปเที่ยวต่างแดน U_U คิดว่าจะมีซีนที่นางเอกเดินผ่านร้านวิเวียนเวสต์วู้ดแล้วพูดถึงชุดแต่งงานด้วยนะ (แล้วโดนพระเอกด่า) แต่ทำไมมันไปไม่รอดก็ไม่รู้ กูล่ะสูน / อนึ่ง บทตัวละครในพล็อตนี้ต่อยอดมาจากฟิคเที่ยวกาลดินคีย์ (ที่ยังไม่ได้เอามาแปลง) จำได้เลยว่าที่ชอบแต่งให้นางเอกไม่ถุูกกับเจ้าชายเพราะอยากให้ออกมาคนละขั้วกับนิสัยของลูน่าซึ่งกูไม่อิน กูชอบรักเพ้อฝัน นางเอกเลยต้องเป็นสามัญชน ไม่ก็เป็นพวกรักอิสระ ได้ใช้ชีวิตเสรีอย่างที่เจ้าชายไม่มี ให้ฟีลแตกต่างแต่เติมเต็มกันอะไรแบบนั้น ที่พระนางไม่ถูกกันก็เหมือนในฟิคเรื่องนั้น (ที่ยังไม่ได้เอามาแปลง) คือเพราะฮาอาสะเคยชอบโยชิ แต่โยชิไปคบคนอื่นก็เลยน้อยใจ ไม่พอใจ ทะเลาะกันมานับแต่นั้น ส่วนเคนกับเอ็นนะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอด แต่สุดท้ายก็จะได้รู้ใจตัวเองกันที่นี่แหละ เอ็นนะไม่ใช่เจ้าหญิงแต่ก็ถือว่าสูงศักดิ์ เป็นลูกคนใหญ่คนโต ส่วนเคนเป็นแค่องครักษ์และเพื่อนสนิทของโยชิ เนี่ยกูก็ชอบความน้ำเน่าจริง ต่างชนช้งชนชั้น ใดๆ และเอาล่ะ ในที่สุดกูก็เจอเจ้าชายคนใหม่ต่อจากเจสซี่แล้ว มันจะเป็นใครได้นอกจากพี่โยชิอีกล่ะวะ! ส่วนเคนบทอุมิเดิมโว้ยยย ไค่หัว
     ที่ให้ฮาอาสะอุทานว่าโฮลี่ซิกซ์คืออยากให้ออกมาเป็นฟีลแบบโอ้มายก็อด เพราะในเกมเรียกพระเจ้าว่า the Six เนื่องจากมีทั้งหมดหกองค์ (ไททั่น, รามูห์, ลีไวอาทาน, ชีวา, บาฮามุทและอิฟริตผัวกู) นั่นเองงับ ส่วนการเดินทางมาที่นี่คือต้องนั่งเรือข้ามฟากมาจากกาลดินคีย์ แต่ราชวงศ์มีเรือเป็นของตัวเองพี่โยชิเลยพาเอ็นนะมาส่งได้จ้า
     ปล. ชื่อเรื่องเอามาจากซาวนด์แทรกในเกม ในเมื่อฟิคก่อนหน้าเป็นมูทลิทไปแล้วจะขาดสตาร์ลิทได้ยังไงล่ะ! ทไว้ก็มูนไล้ซันไร้นะ เดี๋ยวกูเป็นสตาไล้ให้เอง
             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×