ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #119 : Into My Sleep, Under The Stars

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 67


    Into My Sleep, Under The Stars
    Playlist: Pool Shop – Shooting Star


    * เข้ามาเปลี่ยนนางเอกเพราะเส้าใจมาก วงลูกรักใครใครก็รัก เพราะชั้นเป็น ENTP เลยเจ็บปวดที่สุด U_U *










    .

    ฤทธิ์ของยาแก้แพ้ที่โทโจ เซย์อะเพิ่งกินไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้ากำลังพุ่งตรงเข้าจู่โจมเธอกลางมื้ออาหารค่ำ!

    ทั้งที่เอริก้าบอกอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่ากว่ายาจะออกฤทธิ์อย่างต่ำๆ ก็อีกหนึ่งชั่วโมง พอมีเวลาให้เธอรีบเดินไปตักบุฟเฟต์มานั่งสวาปาม รีบกิน รีบเมาท์กับเพื่อนร่วมโต๊ะ แล้วกลับห้องไปนอนหลับสบายจนถึงรุ่งเช้า แม้ว่าอาจต้องพลาดกิจกรรมสานสัมพันธ์รอบดึกในคืนที่สองก็ไม่เป็นปัญหา

    ถ้าไม่ใช่เพราะครูสุเอซาวะจะเรียกเธอไปนั่งร่วมโต๊ะด้วยกันกับเหล่าคุณหญิงคุณนายผู้มีอุปการะคุณในทริปท่องเที่ยวบนเรือสำราญสุดหรูราคาแพงระยับของห้องเรียนชั้นปีสามบีนี้ ในฐานะเด็กนักเรียนที่เพิ่งคว้ารางวัลการแข่งขันตอบคำถามภาษาอังกฤษระดับประเทศ ร่วมกับมาโนะ เอริก้า — เด็กสาวที่ย้ายมาจากออสเตรเลีย — และฟุคุโมโตะ ไทเซย์ — หัวกะทิของระดับชั้นปี — เป็นหน้าเป็นตาให้กับโรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านกิจกรรมมากกว่าวิชาการมาช้านาน จนพวกหล่อนที่ต่างมีส่วนร่วมในการอุปถัมภ์สถาบันการศึกษาที่ลูกๆ ของตัวเองร่ำเรียนอยู่จะพากันตื่นเต้นเอามากเสียจนต้องเรียกตัวมาซักฟอกเป็นการใหญ่

    ขณะที่บทสนทนาของเพื่อนร่วมโต๊ะกลับไม่มีอะไรผ่านเข้าหูของเซย์อะเลยแม้แต่อย่างเดียว ไม่มีแม้แต่คำเออออ หัวเราะต่อกระซิก หรือศีรษะที่ผงกรับเลยด้วยซ้ำ เซย์อะได้แต่ฝืนก้มหน้าก้มตากินสลัดไก่ที่โชคดีว่าตักมาน้อยมากทั้งที่แทบจะไม่รู้รสชาติ ตามด้วยน้ำอัดลมรสซ่าที่ไหลลงคอไปอย่างฝืดเคือง เว้นก็แต่ว่าถ้ามีใครเอ่ยเรียกชื่อเธอขึ้นมา หรือตอนที่เอริก้าเตะขาเธอที่ใต้โต๊ะ เซย์อะถึงค่อยรู้สึกตัวสะดุ้งเฮือก พยักหน้าขานรับงึมงำ มีเอริก้าคอยรับหน้าตอบคำถามที่เธอไม่รู้เรื่องเลยเพราะหัวสมองที่กำลังล่องลอยไปถึงไหนต่อไหน ลำพังแค่การถูกครูสุเอซาวะบ่นจนหูชานั้นเป็นอะไรที่เด็กสาวยังพอรับไหว แต่การทำให้เหล่าแขกคนสำคัญไม่พอใจขึ้นมาต่างหากที่ไม่ใช่ทางเลือก ถึงพวกหล่อนจะดูเป็นหญิงวัยกลางคนช่างจ้อที่ดูไม่มีพิษภัย แต่เซย์อะก็ไม่ได้รู้จักพวกหล่อนดีพอที่จะเข้าใจ

    เหมือนกับเด็กหนุ่มร่วมโต๊ะอีกคนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับพวกของเธอ แต่เป็นหนึ่งในคุณหญิงคุณนายด้วยฐานะลูกชายคนเล็กของผุ้อุปถัมภ์รายใหญ่ที่สุดอย่างมิจิเอดะ ชุนสุเกะ เพื่อนร่วมห้องที่เซย์อะ เอริก้า และไทเซย์คงใช้คำว่าสนิทด้วยไม่ได้เพราะสังคมที่แตกต่างกันเกินไป ดังนั้นการที่จู่ๆ เด็กหนุ่มที่นิ่งเงียบอยู่นานจะโพล่งขึ้นกลางป้องว่า “ผมอิ่มแล้ว ขอตัวก่อน” จากนั้นลุกขึ้นดึงแขนเธอที่นั่งเหม่ออยู่ข้างๆ ไปด้วยกัน โดยไม่สนใจต่อคำพูดหรือสายตาของใคร...เหมือนอย่างที่เขาเป็นมาตลอด...ก็เป็นอีกเรื่องที่เกินกว่าความเข้าใจของเซย์อะ ไม่ว่าในตอนที่หัวสมองของเธอจะปกติดีหรือไม่ก็ตาม

    ชุนสุเกะคลายมือออกให้แขนของเธอได้เป็นอิสระเมื่อพ้นจากห้องอาหารมาแล้ว ถึงกระนั้นฝีก้าวของพวกเขาก็ไม่ได้หยุดลงแต่อย่างใด นอกจากชุนสุเกะที่ผ่อนแรงลงมานิดหน่อยเพราะเขาตัวสูงมาก และการเดินปกติก็ทำให้เซย์อะที่ตัวเตี้ยกว่าเกินสิบเซนติเมตร (ทั้งที่เธอก็ตัวสูงมากแล้ว) ต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินถึงจะตามทัน หากเธอก็ยังคงทำแบบนั้น เพราะอยากรีบเร่งกลับห้องไปนอนให้เร็วที่สุดเลยถ้าทำได้

    ห้องเธอเบอร์อะไร?”

    เอ่อ...” เซย์อะไม่แน่ใจเลยว่าบอกตัวเลขออกไปถูกหรือเปล่า แต่ก็ล้วงกระเป๋าเสื้อคาร์ดิแกนตัวนอกหากุญแจห้องที่ควรต้องอยู่ในนั้น เพียงเพื่อที่จะพบว่ามัน...ว่างเปล่า!

    เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำมันตกไว้ที่ไหน หรืออย่างร้ายที่สุดคือลืมเอาไว้ในห้อง!

    แต่ไม่ว่าจะการวกกลับไปหาในห้องอาหาร หรือเลี้ยวไปที่ฟรอนต์เพื่อขอกุญแจสำรองก็เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้นสำหรับเซย์อะ ซึ่งฝืนชะตาเกินกว่าที่ขีดจำกัดของตัวเองจะทนรับได้ไหวอีกต่อไป!

    เธอพยายามนึกทบทวนโครงสร้างบนเรือลำนี้ว่ามีเก้าอี้ที่ไหนให้นอนพักสักตื่นได้บ้างหรือเปล่า ไม่รู้เป็นเพราะท่าทีของเธอชัดเจนเกินไปหรือว่ายังไง แต่เซย์อะได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของชุนสุเกะที่ถอยกลับมาจับข้อแขนเล็กของเธอให้ออกเดินไปด้วยกันอีกครั้ง หนนี้ไม่ใช่การฉุดกระชาก หากเซย์อะก็ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าที่จะขืนขัด ได้แต่ปล่อยตัวเองไปตามแรงโน้มถ่วงที่เขานำทางไป ยังหน้าห้องพักตรงสุดมุมทางเดินที่เจ้าตัวล้วงหยิบกุญแจออกมาไข บอกให้เธอเดินนำเข้าไปก่อน จนเมื่อเขาควานผนังเปิดสวิตช์ไฟให้แสงสีส้มนวลตาส่องสว่างไปทั่วห้องที่ใหญ่กว่าของเธอแล้วก็จะพูดว่า

    ท่าทางเธอจะไม่ไหวอยู่แล้ว ไปนอนซะไป”

    แล้วคุณมิจิเอดะล่ะ?” เธอหันขวับมาถามด้วยเสียงที่แผ่วค่อยเอามาก

    ไม่ต้องห่วงฉันหรอกน่า”

    ชุนสุเกะจับไหล่เธอทั้งสองข้างไปที่เตียงหลังใหญ่กว่าของห้องเธอ เพราะถึงแม้ว่าเด็กนักเรียนทุกคนจะได้พักห้องเดี่ยว แต่สำหรับลูกชายของผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ที่สุดก็ย่อมไม่ธรรมดา ความง่วงงุนที่ตรงดิ่งเข้ามาเล่นงานจะทำให้เซย์อะโยนรองเท้าส้นเตี้ยทิ้งไป ก่อนปีนขึ้นไปขดตัวนอน โดยไม่มีความเกรงอกเกรงใจเจ้าของห้องที่ใจดีพอจะช่วยคลุมผ้าห่มที่ปลายเท้าให้เธออีกต่อไป

    ขอบคุณมากนะ คุณมิจิเอดะใจดีมากเลย แต่ที่ว่างยังเหลือตั้งเยอะแยะ เรานอนด้วยกันก็ได้ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแน่นอน”

    ชุนสุเกะยิ้มให้กับมุกตลกของเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเมื่อเห็นคนตรงหน้าปิดเปลือกตาลง ไม่กี่วินาทีก็ผล็อยหลับไปด้วยฤทธิ์ของยาแก้แพ้ที่ชุนสุเกะเห็นเธอขอจากเอริก้า เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้สังเกตเห็นอาการเหม่อลอย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเซย์อะที่จำต้องมานั่งร่วมโต๊ะกับแม่ของเขา ถึงจะเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ได้มีความสนิทสนมกันเลย ชุนสุเกะก็รู้ว่าคนหัวอ่อนขี้เกรงใจอย่างเธอย่อมไม่มีทางกล้าขอตัวกลับห้องไปนอนก่อนเพราะคิดว่าอาจเป็นการเสียมารยาท ทั้งที่ความจริงแล้วแม่ของเขากับเพื่อนๆ ไม่ได้เป็นคนใจไม้ไส้ระกำอะไรสักหน่อย ถึงชุนสุเกะจะใช้คำนั้นกับครูสุเอซาวะไม่ได้ แต่อย่างกับว่าคนอย่างเขาต้องกลัวใครในโรงเรียนนี้

    หากเขาก็ไม่คิดว่าเธอจะป้ำเป๋อขนาดลืมเอากุญแจติดตัวมาด้วย เขาไม่อยากเสียเวลาไปที่ฟรอนต์เพราะรู้ว่าเธอกำลังจะน็อกในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า และทางเลือกเดียวที่ง่ายดายที่สุดก็คือการแบ่งปันห้องพักให้กับเพื่อนร่วมห้องเรียน...ในค่ำคืนนี้

    แน่นอนว่าโดยไม่มีเจตนาอะไรแอบแฝง เพราะเขาไม่ได้ชอบเธอในแง่นั้นหรือแง่ไหน หรือต่อให้จะชอบ เขาก็ไม่มีทางทำในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ยินยอมอยู่ดี

    ชุนสุเกะเข้าไปอาบน้ำ จัดการธุระของตัวเอง ออกมาตอบไลน์ของเพื่อนสนิทในตอนที่รอให้ผมแห้ง ครั้นดื่มน้ำจากในตู้เย็นจนหมดขวดแล้วจึงค่อยเดินไปปิดสวิตช์ไฟ ทั่วทั้งห้องกลับมาตกอยู่ในความมืดมิดที่ไม่ช้าดวงตาของเขาก็คุ้นชิน เพราะแสงจากดวงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามา อดอมยิ้มขันกับตัวเองไม่ได้ในตอนที่หยิบตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่จากตู้คีบที่เคียวเฮเอามาโยนทิ้งไว้ให้มาคั่นระหว่างกลาง ก่อนสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ที่เตียงอีกฟากหนึ่ง ปกติเขาไม่ใช่คนเข้านอนเร็ว และคืนนี้ก็ยังมีกิจกรรมสานสัมพันธ์รอบดึกที่ฟังดูน่าสนุกรออยู่ แต่ขณะที่เซย์อะงึมงำคำพูดไม่ได้ศัพท์ ควานมือเปะปะแล้วดึงตุ๊กตาหมีเข้าไปกอดเสียเอง ทำให้มือของเธอแตะมาโดนมือของเขา กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้มีความคิดว่าอยากชักมันกลับไป

    แล้วชุนสุเกะก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ คิดว่าการได้เข้านอนแต่หัววันสักคืนโดยมีใครสักคนอยู่ข้างๆ ก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่นะ












    2022年08月14日
    _______________
     ราวๆ สองสามวันก่อนจู่ๆ กูก็ฝันถึงมิจิเอดะกับเคียวเฮ เรื่องมีอยู่ว่าวันนั้นกูนอนตีสามแล้วตื่นมาตอนหกเจ็ดโมง งานการไม่มีแล้วกูจะตื่นมาทำไมเลยกลับไปนอนต่อ อาจเพราะกูง่วงมากกูเลยฝันว่าง่วงมาก ในฝันกูนั่งโต๊ะจีนกับคุณหญิงคุณนายข้างมิจิแบบนี้แหละ แต่กูลุกกลับห้องไปนอนเลยไม่สนอะไรทั้งนั้น ละมิจิกับเคียวเฮก็ตามเข้ามาในห้องเดียวกันที่มีสองเตียง มิจิมานอนเล่นมือถือบนเตียงที่กูนอนสะลึมสะลืออยู่แล้วชวนคุยด้วยนิดหน่อย ส่วนเคียวเฮก็นอนเล่นมือถืออยู่เตียงข้างๆ แค่นี้แหละ ไม่มีอะไรเลย สรุปคือกูฝันว่านอนหลับฝัน ฝันเซปชั่น แต่บรรยากาศมันดีมาก อาจเพราะว่ากูได้ฝันว่านอนฝัน ตื่นมาก็ยังจำได้อยู่ เลยคิดว่างั้นเอามาแต่งดีกว่า แต่ก็คิดพล็อตเป็นเรื่องเป็นราวไม่ออก จนวันที่เราไปดูโน้ปแล้วได้เห็นโฆษณายาแก้แพ้ที่ไม่ทำให้ง่วง บอกได้ว่าพล็อตมาเพราะยาแก้แพ้จริงๆ 55555 ทีนี้อะไรก็ไม่รู้ คิดถึงคลิปมิสเตอร์บีสต์ล่องเรือไปเบอร์มิวด้ามั้ง กูเลยนึกโลเคฯเป็นทริปบนเรือ ส่วนที่ลืมกุญแจห้องก็มาจากประสบการณ์ทริปเกาหลีของเราเมื่อ...หลายสิบปีก่อน...อันเป็นตำนาน ลืมกุญแจห้องสองครั้งให้ฟรอนต์อมยิ้มนะครับพี่น้องครับ และตุ๊กตาหมีก็คือวีแบร์ๆ หมีแข็งตัวใหญ่ที่กูซื้อมาแทนหมอนข้างที่กูนอนกอดอยู่ตอนฝันถึง เลือกให้เคียวเฮเป็นคนเอามาให้ เพราะยังไงก็ต้องได้ออกในเรื่องถึงจะแค่หนึ่งบรรทัดก็ยังดีจ้าาา
     ชื่อเรื่องได้มาจากชื่อเพลงของวง Cruyff In The Bedroom อยากได้ชื่อเรื่องสวยๆ มาแต่งฟิคใสๆ ก็ต้องแนวชูเกซไหมล่ะ เหมือนที่แนวดาร์กมีวิชวลเคย์คู่บุญให้เราเสมอมาคนับ เพราะงั้นกูที่คิดชื่อนางเอกไม่ออกเลยตั้งชื่อว่าดวงดาวรอบที่แสนล้านแปด อภัยให้กูด้วย ด่าได้แต่อย่าแรง U_U ส่วนไทเซย์กับเอริก้ามาด้วยโควต้าอะไรไม่รู้ กูแค่ต้องหาเหตุผลให้อาคาริได้นั่งกับคุณหญิงคุณนายเลยต้องหาเรื่องไปแข่งอะไรสักอย่าง เผอิญนึกถึงแดเนียลหน้าฝรั่ง ส่วนไทเซย์นี่ฉลาดสุดในคัน(ไซ)จู(เนียร์)ก็ต้องมาด้วย กูพาไปแข่งตอบคำถามจนช้ำละบ่านิ ส่วนบทครูดุๆ ตอนแรกคือดาเตะเว้ย แต่แต่งไปแต่งมีแต่คันไซกูก็ว่างั้นมาให้หมดไปเล้ย ลาแล้วคันโต ให้มึงอยู่ไป ว่าไปพี่เซย์ยะก็เปิงกับบทโหดได้อยู่นะ ไม่มีรุ่นน้องอยากติดเกาะด้วย และมิจินี่มันไทกะชัดๆ เลยโว้ย!
     เพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบมากๆ มาตั้งแต่ฟังครั้งแรกเมื่อสามปีก่อน แล้วไหนๆ ชื่อเรื่องมันก็เป็นดวงดาวพอดี กูคุ้ยไปเจอเพลงนี้ในไลค์ซองที่สปอติฟายพอดี ฟีลมันเข้ากับฟิคดีก็เลยคิดว่างั้นเอามาใช้สักทีดีกว่า (และในนานิวะก็มีคนชื่อริวเซย์งับ) / เมาท์หน่อย แต่งเรื่องนี้เมื่อคืนก่อนนอนสองชั่วโมงก็เสร็จ เอามาเกลาแค่นิดเดียวเท่านั้น ตั้งใจแต่งให้พล็อตใสมากแบบไม่มีอะไรเลยจริงๆ ไม่มีใครชอบใครเลยด้วยซ้ำ เพราะอยากแต่งโดยให้มีบรรยากาศเหมือนในฝันของกูที่มันฟุ้งๆ ง่วงๆ ดรีมมี่ๆ ตอนแรกก็ว่ามันยมๆ แหละ แต่อ่านไปอ่านมากูว่ามันก็สนุกดี นานๆ ทีได้แต่งแนวนี้บ้างก็คอมพลีตไปอีกอย่าง >_< อาจคิดว่ามันเว่อร์หรือเปล่า แต่ชีวิตจริงก็เคยเจอมาแล้ว ฟังเพื่อนในห้องเล่าก็เคยมาแล้วที่ว่าอยู่ในห้องสองต่อสองก็ไม่ได้ทำอะไรกัน เนี่ยยย ดูไว้นะ ถ้าใจเราใส ฟิคเราก็จะสะอาด ใช่ว่าทุกคนจะต่ำแบบมึง สวัสดี
     ปล. เรารักวิสัยทัศน์ของคุณมินฮีจินมาตั้งแต่สมัยอยู่กับเอสเอ็ม ไม่ได้ด่าตามน้ำไปเรื่อยทั้งที่ไม่ได้หนับหนุนอะไรอยู่แล้วอ่ะนะ จริงๆ รู้จักเค้าหรือเปล่าเหอะ หรือถ้าจะด่าเราก็คงไม่ติดตามวงผลผลิตของเค้าแบบนี้ จะไปก็ไปให้สุด อย่ามาครึ่งๆ กลางๆ เหมือนตอนด่าวันไชน่ากับแทกุกไลน์ แน่จริงก็เลิกติดตามวงไปเลยสิ ตอแหลอยู่ได้ แต่ก็ต้องขอย้ำว่าเราไม่ได้ด่าเค้า เพราะคนอย่างกูโนสนโนแคร์ สนแต่ผลประโยชน์ของตัวเองจ้า เพราะอย่างที่มึงพูดไว้ ฝั่งญี่ปุ่นพวกเราก็ติดตามค่ายจอห์นนีส์ที่เป็นมาเฟียกลายๆ อยู่แล้ว 55555 บ้าผู้ชายจริง ยอมรับ ไม่เหมือนอีพวกด่าผู้ชายในทวิตอยู่ได้ แต่ก็เห็นดูการ์ตูนที่มีผู้ชายเยอะๆ อ่านฟิคพวกกูที่มีแต่ผู้ชายนี่นะ จะไปก็ไปให้สุดดิ อิ___อิ
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×