คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #81 : Detroit: Become Human: TRANSLUCENT / REFRACTION
มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทั้งยังผิดจรรยาบรรณ แน่นอนว่าเขาที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ย่อมรู้ซึ้งถึงข้อความจริงนี้ดีอยู่แก่ใจ แต่ฟุคาซาวะ ทัตสึยะก็ทำมันลงไปแล้ว เมื่อเขาลักลอบพาโปรเจกต์ที่ผิดพลาดออกมาจากห้องทดลอง จริงอยู่ที่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทว่าไม่มีครั้งไหนที่ทัตสึยะจะได้มองเห็นแววตาที่ควรว่างเปล่าสั่นระริกไหว ราวกับการเว้าวอน ก่อนที่เขาจะได้ฉีดยานอนหลับแล้วส่งชิ้นส่วนสังเคราะห์ของเธอไปแยกชิ้นก่อนทำลายด้วยความร้อนจัด จนไม่หลงเหลือหลักฐานของการมีอยู่ เฉกเช่นการมีอยู่ของเธอในจำนวนหลักสิบที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากไปกว่าการรับใช้มนุษย์ หรือเขาควรต้องเรียกว่า ‘ปรนเปรอ’ ทางเพศมากกว่า จากความต้องการในตลาดที่กำลังพุ่งสูงขึ้น เพราะคอลัมน์เกี่ยวกับเซ็กซ์คลับและเพศสัมพันธ์ชั้นยอดกับมนุษย์พันธุกรรม จนเซ็กซ์กับมนุษย์กลายเป็นเรื่องจืดชืดไปเลย — มันเขียนไว้ว่าอย่างนั้นในนิตยสารแฟชั่นไลฟ์สไตล์ชื่อดังระหว่างกลุ่มผู้อ่านวัยยี่สิบขึ้นไป และหญิงสาวที่กำลังนอนหลับใหลอยู่บนที่นั่งข้างกันกับเขามาตลอดทาง ก็คือหนึ่งในมนุษย์พันธุกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะถูกป้อนให้กับตลาดของเซ็กซ์คลับ
ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ ทัตสึยะคิดว่าการสร้างมนุษย์พันธุกรรมทุกประเภทคือหน้าที่และการไขว่คว้าหาความรู้ใหม่ๆ อย่างไม่มีวันสุดสิ้น แต่ในฐานะมนุษย์ เขามีความเห็นใจให้กับมนุษย์พันธุกรรมที่ต้องถูกกดขี่ รับใช้ ปรนเปรอ หรือถูกทำลายเมื่อมีตำหนิไม่ก็หมดประโยชน์อยู่เสมอ ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้สิ่งมีชีวิตเป็นมากกว่าแค่สิ่งมีชีวิต
เธอเองก็ไม่ได้ต่าง ถึงทัตสึยะต้องยอมรับว่าไม่แน่ใจเหตุผลที่มนุษย์พันธุกรรมเกิดใหม่จะแสดงท่าทีเช่นนั้นออกมาได้ ต่อให้เขาจะป้อนข้อมูลเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก เฉกเช่นมนุษย์ลงไปก่อนแล้วก็ตาม มันเป็นคำถามที่เขาขบไม่แตกตลอดเส้นทางกลับบ้าน ทั้งที่มีเพียงความเงียบสงบเป็นอีกหนึ่งเพื่อนร่วมทาง
บ้านหลังใหญ่ของเขาไม่มีมนุษย์พันธุกรรมมาคอยรับใช้ นอกจากเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกสบายเท่านั้น ความคิดที่ก้ำกึ่งว่าตนเองกำลังทำงานที่ผิด ทำให้เขาอยากใช้ชีวิตที่ถูก แม้รู้ดีว่ามันทดแทนอะไรไม่ได้เลยก็ตาม
จึงเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องออกแรงอุ้มเธอซึ่งยังคงนอนสลบไสลเพราะฤทธิ์ยาลงจากรถ แทนที่จะเป็นหนึ่งในสองห้องนอนใหญ่ที่ชั้นบน เขาตัดสินใจวางร่างแบบบางนั้นลงบนเตียงในห้องนอนเล็กกว่าของเขาที่ชั้นล่างแทน
ถึงจะไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิงมากนักจนครองความโสดมาถึงวัยยี่สิบแปดปี แต่ก็ใช่ว่าจะเมินเฉยใบหน้าจิ้มลิ้มแบบเด็กสาวมากกว่าหญิงสาวที่จับตาแม้ในยามหลับตา ผ่อนลมหายใจเข้าออก มองไม่เห็นความแตกต่างจากมนุษย์เลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้ทัตสึยะรู้สึกแย่ขึ้นมา เมื่อคิดถึงหน้าที่หลังออกจากห้องทดลองของพวกเธอ หรือที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าจิล (หรือแจ็คถ้าเป็นผู้ชาย) ตามมาด้วยตัวเลขของรุ่นและจำนวนแบบง่ายๆ แต่ทัตสึยะไม่คิดว่าควรเรียกเธอว่า จิล 13-10 ในเมื่อตอนนี้เธอเป็นอิสระจากทุกสิ่งที่กำหนดขอบเขตให้แก่ตัวเองแล้ว
ทัตสียะไม่ได้พาเธอมาเพราะตกหลุมรักนับแต่แรกพบหรือเพื่อหวังให้เธอทำหน้าที่อย่างนั้นเพื่อเขาเป็นการส่วนตัว หากเมื่ออยู่กับเขา...เธอจะได้เป็นและทำทุกอย่างที่ปรารถนา ถึงแม้ว่าเจตจำนงอาจเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เกินกว่ามนุษย์สังเคราะห์กำเนิดใหม่จะเข้าใจ
ทัตสึยะตั้งชื่อให้เธอว่าริสะ
_______________
นับตั้งแต่ลืมตาดูโลกจนถึงวัยสิบแปดปีในปัจจุบัน แมรี่โกลด์ เทวิสก็ยังไม่เคยย่างเท้าออกจากแคนาดาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ขณะที่แอนดรอยด์กลายเป็นเรื่องทันสมัยและดูเหมือนว่าจะปะปนอยู่กับมนุษย์ทั่วไปในสหรัฐอเมริกา แคนาดาก็ยังคงเป็นประเทศปลอดแอนดรอยด์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ถึงนั่นจะช่วยรักษาอัตราการจ้างงานให้แก่มนุษย์ได้ แต่แมรี่โกลด์ก็ไม่คิดว่ามันจะต่างอะไร ในเมื่อคุณภาพชีวิตของเธอกับแม่ก็คงไม่สามารถต่ำตมได้มากกว่านี้แล้ว
อีดิธไม่ใช่มารดาในฝันที่ลูกคนไหนต้องการ หล่อนหาเงินด้วยการขายเรือนร่างแลกเศษเงินไปวันๆ แน่นอนอยู่แล้วว่าเศษเงินพวกนั้นไม่เคยเผื่อแผ่มาถึงเธอ เช่นเดียวกับความอบอุ่นของสัมผัสหรือความรัก ไม่ว่าจะอยู่หรือตายหล่อนก็คงไม่คิดจะใส่ใจ คล้ายกับว่ามีความจงเกลียดจงชังที่แสดงออกมาในรูปของความเมินเฉย ที่พึ่งเดียวของเด็กสาวที่ยังใฝ่รู้และไม่คิดจะเดินตามเส้นทางอันน่าอดสูของมารดาก็คือโบสถ์ เธอมักจะคอยแวะเวียนไปทำความสะอาด ช่วยเหลืองานเทศกาล หรือร้องเพลงประสานเสียงตอบแทนกับเงินค่าเล่าเรียนซึ่งผู้ใจบุญนิรนามรายหนึ่งเต็มใจบริจาคให้แก่เธอ หากไม่เคยเปิดเผยตัวนอกจากจดหมายถามไถ่นานๆ ทีและค่าเล่าเรียนผ่านทางบาทหลวง แมรี่โกลด์คิดตลอดว่าเมื่อไหร่ที่เรียนจบ เธอจะหางานดีๆ ทำเพื่อให้สมกับที่ได้รับความเมตตา และออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมเย็นชืดซึ่งไม่มีค่าอะไรมากไปกว่าที่ซุกหัวนอน
ในวันจบการศึกษา ผู้บริจาคค่าเล่าเรียนนิรนามตลอดหกปีที่มีชื่อว่า ‘คุณดับเบิลยู’ ผู้นั้นก็ได้แนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ท่ามกลางความตื่นตะลึงของเธอเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าเขาผู้นั้นคือนักการเมืองท้องถิ่นรุ่นใหญ่ หรือที่ทุกคนรู้จักในนามคุณวิลลี่ วอล์คเกอร์ แมรี่โกลด์พร่ำคำขอบคุณแก่เขาไม่หยุดหย่อน ก่อนจุดประสงค์ที่แท้จริงจะปรากฏตามมาระหว่างงานเลี้ยงมื้ออาหารค่ำที่บ้านหลังใหญ่ของเขาเป็นการส่วนตัว คำพูดทั้งหมดถูกถอนคืนพร้อมกับคำผรุสวาทนับไม่ถ้วนที่เข้ามาแทนที่ข้างในหัว แต่ตัวนั้นกลับชะงักงัน ขณะพยายามเหลือบแลสายตามองหาทางหนีทีไล่ทั้งหมดที่มีหลังจากประโยคที่ว่า
“ถึงเวลาตอบแทนฉันแล้ว”
ให้เธอได้ตาสว่างว่าความเมตตาที่แท้ก็แค่เมล็ดพันธุ์ที่หว่านหวังผล แมรี่โกลด์ไม่ปล่อยให้คนหน้าไหว้หลังหลอกชั่วช้าพรรค์นี้ได้กระทำสิ่งใด ในตอนที่รีบเผ่นหนีออกจากบ้านหลังนั้นพร้อมกับคำหยาบคายดูถูกไล่หลังโดยไม่คิดที่จะหันกลับไปมองเลยแม้สักเสี้ยววินาที ด้วยอิทธิพลทั้งหมดที่เขามี แมรี่โกลด์รู้แน่ว่าเธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว จะมารดาผู้ให้กำเนิดหรือโบสถ์ผู้ให้ความรัก ในเวลานี้ก็ไม่มีใครที่จะสามารถช่วยเหลือเธอได้ทั้งนั้น หลังจากเค้นความคิดในร้านฟาสต์ฟู้ดกับโค้กแก้วเดียวที่เธอดูดอึกๆ จนพร่องไปเกินกว่าครึ่งในช่วงนาทีแรก หัวข้อสนทนาของสามีภรรยาโต๊ะข้างเคียงก็จะแหวกผ่านเสียงอึกทึกเข้ามาในโสตประสาทถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ตั้งใจฟังก็ตาม ทันทีที่ได้ยินคำว่าแอนดรอยด์ หัวสมองของเธอก็คล้ายกับมีหลอดไฟส่องสว่าง มันโยงใยไปถึงประเทศเสรีที่แอนดรอยด์เป็นสิ่งซึ่งได้รับการยอมรับ และชายคนเดียวเท่านั้นบนโลกใบนี้ที่จะช่วยเธอได้
ไซลาส เทวิส
ดีทรอยต์
บิดาที่เธอไม่เคยพบเจอหรือรู้ว่ามี กระทั่งสามปีก่อนที่จะได้ไปเห็นรูปถ่าย คลิปวิดีโอ และข้อมูลเก่าๆ สมัยที่นางอีดิธยังมีชีวิตที่ดีกว่านี้อยู่ที่ดีทรอยต์ แมรี่โกลด์อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหล่อนไม่เลิกรากับพ่อแล้วกลับมาอยู่ที่แคนาดาก่อนเธอจะเกิด ชีวิตของเธอ...หรืออาจรวมไปถึงอีดิธ...ก็คงไม่ต้องกลายมาน่าอดสู และเต็มไปด้วยความไม่แยแสจนเหมือนคนแปลกหน้าอย่างเช่นทุกวันนี้
แต่แม้ว่าจะรู้ความจริงในที่สุด แมรี่โกลด์ก็ไม่เคยคิดว่าอยากจะไปตามหาบิดาแล้วร้องแรกหาสิทธิความชอบธรรมจากอีกหนึ่งผู้ให้กำเนิด ซึ่งก็คงไม่รู้ถึงตัวตนบนโลกของเธอเช่นกัน แต่ ณ ตอนนี้ เวลานี้ เธอไม่มีที่พึ่งเหลืออยู่ที่ไหนอีกแล้ว มันน่าละอายอยู่เหมือนกันที่ต้องบากหน้าปรากฏตัวหลังผ่านไปสิบแปดปี จากการค้นหาข้อมูลในฐานของกรมตำรวจดีทรอยต์ ที่รู้คือตอนนี้เขาไม่มีครอบครัวที่ไหนอีกหลังจากเสียลูกชายวัยหกขวบไปเมื่อสามปีก่อน ระยะเวลาที่เทียมเท่านั้นทำให้แมรี่โกลด์คิดว่านี่อาจจะเป็นโชคชะตาดลบันดาลถึงอาจยาวนานกว่ามันจะสัมฤทธิ์ เขาจะไม่ยอมรับว่าเธอเป็นลูกก็ไม่เป็นไร เธอเข้าใจและไม่คิดจะเรียกร้องด้วย หากในฐานะตำรวจแล้ว เขาคงไม่อาจนิ่งดูดายปล่อยให้เด็กสาวที่ต้องเผชิญเหตุการณ์โชคร้ายต้องระหกระเหินกลับมาอยู่กับแม่ที่ไม่ใส่ใจหรือต้องกลายเป็นโฮมเลสนอนข้างถนนในดีทรอยต์หรอก เธอแค่ต้องการเวลาตั้งตัวแล้วจะไม่ทำตัวเป็นภาระให้กับใคร เหมือนอย่างที่กระทำมาตลอด
คิดแล้วก็ดูดน้ำโค้กที่เหลืออยู่ลงคอไปจนหมดด้วยใจที่แช่มชื่นขึ้น โชคดีที่พอมีเงินติดตัวอยู่จำนวนหนึ่ง เธอตัดสินใจซื้อตั๋วเที่ยวเดียวขึ้นเรือข้ามฟากมายังดีทรอยต์ตัวเปล่าโดยไม่ย้อนกลับไปยังที่ซุกหัวนอนหรือบอกลาใคร และไม่ว่าปลายทางจะเป็นเช่นไร เธอก็จะไม่มีวันหันหลังกลับมาอีกแล้ว
เธอรู้สึกตื่นตากับการได้พบเห็นแอนดรอยด์ทั่วไปบนท้องถนนในดีทรอยต์ตามประสาคนไม่เคย แต่ไม่ยักกะรู้เลยว่าแอนดรอยด์จะ ‘น่ารำคาญชะมัดยาด’ แบบนี้
เร็นคือชื่อของแอนดรอยด์ตัวนั้น
_______________
ความคิดเห็น