คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #134 : LOVE ME, HATE THE GAME | A. Players Of Game
เป็นวันที่ย่ำแย่สุดๆ สำหรับคุรุรุงิ ยูคาริ
หรืออันที่จริงเธอควรต้องบอกว่ามันเริ่มต้นมาตั้งแต่คืนก่อนหน้าที่เธอมีปากเสียงกับมิยาจิกะ ไคโตะ หรือที่ทุกคนเรียกเขาด้วยชื่อเล่นว่าจากะ คนรักที่เพิ่งกลับจากการไปทัวร์คอนเสิร์ตหกจังหวัดในฐานะแบคแดนเซอร์ให้กับศิลปินต่างประเทศที่เธอไม่ยักกะเคยรู้จัก พอลองฟังดูก็ไม่นึกนิยม แต่ประเด็นที่แท้ก็คือไม่มีเงินจะตามไป สมัยที่ยังคบหาเป็นแค่เพื่อนร่วมก๊วนเดียวกัน ต่อให้เขาจะมาสายหรือลืมนัดไปเลยเธอก็ไม่ยักกะรู้สึกรู้สา เพราะถึงอย่างไรเธอกับเขาก็แทบไม่เคยนัดกันไปไหนมาไหนแค่สองต่อสองอยู่แล้ว ครั้นพอขยับสถานะขึ้นมา และการที่จากะจะเผลอนอนหลับยาวจนเลยเวลานัดตอนสองทุ่มด้วยเหตุผลที่ยูคาริเข้าใจได้ว่าเหนื่อย แต่การถูกปล่อยให้แกร่วรออยู่กว่าชั่วโมงโดยไม่มีแม้แต่การตอบรับหรือบอกกล่าวใดๆ ก็จะทำให้รอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดทั้งวันของยูคาริหุบกลับลงไป พร้อมกับเส้นด้ายของความอดทนที่ขาดผึง
จนกลายเป็นการระเบิดอารมณ์ใส่คนที่ยังมีหน้ากล้าโทรศัพท์มาหาตอนเธอกำลังจะเข้านอนด้วยอารมณ์ที่พยายามจะสงบ จากเสียงเอเอสเอ็มอาร์ของสายฝนนอกหน้าต่างในช่องยูทูบที่เปิดทิ้งไว้กล่อมตัวเองให้หลับ แต่สุดท้ายก็กลับสงบไม่ลงเมื่อได้ยินน้ำเสียงเร่งร้อนของเขาถึงจะกำลังเอ่ยเป็นคำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะการเฝ้ารอคอยคนรักที่ห่างเหินกันนานถึงกว่าสองเดือนจะทำให้เธอโกรธ และการที่เขาไม่ยอมโต้ตอบอะไรเลยนอกจากปล่อยให้เธอระบายความอัดอั้นตันใจออกมาแต่เพียงฝ่ายเดียวก็จะยิ่งทำให้เธอขุ่นเคือง
ทั้งที่เขาควรจะรีบถ่อมาหาโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องเอ่ยบอก ต่อให้เธอจะยืนกรานว่าไม่ต้อง เขาก็ควรต้องมา ไม่ใช่การปล่อยให้เธอฟูมฟายอยู่กับโทรศัพท์คนเดียวเหมือนคนบ้า กระทั่งในที่สุดจะตัดสายทิ้งหลังกรีดคำพูดที่ไม่ตรงกับใจเลยสักนิดว่า “ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย!” ที่ยูคาริรู้ว่าผู้ชายแสนดีอย่างจากะจะปฏิบัติตามนั้น แม้แน่นอนว่าเขาจะกำลังกระวนกระวายใจมากแค่ไหนก็ตาม
ครึ่งปีของการเปลี่ยนจากเพื่อนสนิทมาเป็นคนรักไม่ได้ช่วยทำให้จากะรู้ใจเธอขึ้นมาเลยสักนิด เขาดูจะกลัวโน่นนี่ไปหมดทุกอย่าง เหมือนกับว่าถ้าก้าวพลาดลงไปแล้วสิ่งที่พยายามก่อร่างสร้างมาจะพังทลาย ตรงกันข้ามกับยูคาริที่อยากเห็นความบุ่มบ่ามที่สร้างความตื่นเต้นให้มากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่จะพังทลายลงไปก็คือกำแพงในใจที่เธอก่อขึ้นต่างหาก
แต่เพราะจากะรักเธอมาก...อย่างน้อยๆ ก็มากกว่าความรักในความหมายเดียวกันที่เธอมีให้ พอได้เริ่มต้นคบหากัน เขาก็เลยพลอยได้รู้จักแง่มุมอย่างที่ไม่เคยเห็นสมัยยังเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเรียนไฮสคูลมาด้วยกัน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่รู้จักวิธีรับมือกับอารมณ์เสียๆ หรืออ่านความรู้สึกใดๆ ที่เธอมักจะเก็บปากไม่ยอมพูดออกมาให้ตัวเองได้เสียหน้าจนน่าหงุดหงิดใจ
เข้านอนไปด้วยหัวใจที่ขุ่นมัว แม้จะตื่นนอนเอาตอนบ่ายแก่ๆ ก็ยังไม่หายขุ่นข้อง พอทาคาเบะ รินาริ รูมเมตควบตำแหน่งเพื่อนสนิทที่นั่งกินป๊อปคอร์นดู ‘จูออน’ รอบที่ร้อยอยู่บนโซฟาเห็นเธอเดินหน้ายุ่งลงมาจากชั้นลอยก็บอกว่า “จากะบอกว่าเย็นนี้จะมาหา งี้ฉันต้องออกไปข้างนอกไหมคุริ?” ยูคาริก็หัวเสียจนต้องตะโกนออกมาว่า “ใครจะมาก็มา! ใครจะอยู่ก็อยู่! ส่วนฉันจะไปเอง!” ให้รินาริเป็นต้องส่ายหัว บ่นกระปอดกระแปดว่าจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่ผู้ชายซื่อบื้ออย่างจากะทำไมนักหนา จนโดนเธอเหวี่ยงใส่ไปอีกคนว่าแล้วแกจะเข้าข้างผู้ชายซื่อบื้ออย่างจากะทำไมนักหนา ก่อนรีบผลุบหายเข้าไปอาบน้ำ แต่งหน้าแต่งตัวเร็วๆ จากนั้นหอบกระเป๋าอูเบอร์อีทส์ออกจากห้อง โดยไม่สนใจฟังคำท้วงของรินาริที่บอกว่าฝนจะตกตามคำพยากรณ์อากาศ
ยังแค่มืดฟ้ามัวฝนในตอนที่ยูคาริรับออเดอร์แรกของวัน กระทั่งตอนที่ปั่นจักรยานออกมาจากแมคโดนัลด์ได้ไม่เท่าไหร่ฝนถึงเริ่มลงเม็ด ยูคาริไม่มีความตั้งใจที่จะหลบฝนเพราะการปล่อยให้ลูกค้ารอไม่ใช่ทางเลือก ถึงเธอจะไม่ได้คิดว่าลูกค้าคือพระเจ้าอะไรทำนองนั้น แค่ว่าพอเปียกไปทั้งตัวแล้วก็คิดว่างั้นเอาให้สะใจไปเลยดีกว่า ยังไงวันนี้เธอก็จะไม่กลับไปที่ห้องเพื่อให้จากะมาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยกับเรื่องงี่เง่าน่ารำคาญอย่างการที่เธอไปลุยฝนมา ใช่ว่าแค่ตากฝนวันเดียวแล้วเธอจะเป็นปอดบวมตายเลยสักหน่อย การที่หัวเธอจะระเบิดจนตายจากความโกรธคนรักที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยยังดูมีความเป็นไปได้เสียมากกว่า รู้ตัวอีกทีก็ปั่นจักรยานด้วยความเร็วเต็มสปีดเท่าที่แรงกายจะไปไหวโดยไม่กลัวถนนลื่นเลยแม้แต่น้อยมาจนถึงปลายทางในจินกูมาเอะจนได้
คำขอโทษควรหลุดออกจากริมฝีปากสีซีดที่สั่นกึกของยูคาริเป็นสิ่งแรก แต่ทันทีที่ได้มองเห็นชายหนุ่มคนที่เดินลงบันไดข้างตึกมาหา ทันนั้นเองดวงตาของเธอก็จะเลิกกว้าง เช่นเดียวกับถ้อยละล่ำละลักที่ว่า “เอ๊ะ? ค...ไคโตะ?”
แตกต่างจากเขาที่ปรับเปลี่ยนสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ถึงก่อนหน้านั้นมาเป็นความยินดี — อย่างที่ไม่ควรจะเป็น — ด้วยรอยยิ้มที่แผ่กระจายเต็มใบหน้าในตอนที่ตะโกนเรียกชื่อต้นของเธอเหมือนกันอย่างกระตือรือร้น
“โห ตัวเปียกหมดเลย ไม่คิดว่าฝนจะตกลงมาได้จังหวะพอดี” ทั้งยังลูบเส้นผมที่เปียกลู่ลงไปของเธอ — อย่างที่ไม่ควรจะทำ — แล้วว่า “โทษที เป็นเพราะฉันแท้ๆ” ก่อนเลื่อนมือลงไปวางบนไหล่ให้ยูคาริได้หายใจเฮือกออกมาด้วยไม่ทันได้ตั้งตัว เรียกเสียงหัวเราะจากเขาอย่างที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวแรงขึ้นมาเหมือนกับเมื่อหกปีก่อน
“มาเหอะ เข้าไปเช็ดตัวในห้องฉันก่อน” ฉวยคว้าถุงกระดาษใบใหญ่ไปถือไว้เองด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ดึงข้อมือเล็กของเธอให้ขึ้นไปด้วยกัน ยูคาริได้แต่ปล่อยตัวไปตามแรงฉุดเหมือนที่กระทำต่อแรงโน้มถ่วงอย่างไม่มีความคิดที่จะขืนขัด อาจเพราะความรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่ห่างหายไปนาน จากผู้ชายคนที่ก็เหินห่างไปนาน จนยูคาริไม่คิดไม่ฝันเลยด้วยซ้ำว่าชาตินี้จะได้เจอกันอีกในโตเกียวอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ โดยไม่ใช่ทั้งคำถามหรือว่าการร้องขอใดๆ เหมือนอย่างที่จากะคอยทำให้เธอนึกเบื่อหน่ายบ้างบางครั้ง
และไม่ใช่เหมือนอย่างแปดปีก่อนที่เธอยังเคยเป็นคนรักของเขา
∞
นากามูระ ไคโตะ กำลังนั่งเอนหลังถือจอยเกมอยู่บนโซฟารูปตัววีในตอนที่ยูคาริออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อแขนยาวกับกางเกงวอร์มของเจ้าของห้องพัก มันหลวมนิดหน่อยเพราะส่วนสูงที่มากเกินกว่าสิบเซนติเมตร ทั้งยังทำให้ยูคาริรู้สึกเก้อกระดากขึ้นมาพร้อมความละอายใจต่อชายคนรัก แต่มันเป็นสถานการณ์ที่ช่วยไม่ได้ ในเมื่อเธอตัวเปียกซ่กจนน้ำหยดติ๋งลงมาตลอดทางเดิน เสียจนไคโตะต้องจับเธอโยนเข้าไปในห้องน้ำเป็นอย่างแรก บอกว่าจะให้ยืมเสื้อผ้าแห้งไปใส่ก่อนระหว่างที่รอให้ฝนหยุดตก มันก็แค่นั้น
ถึงยูคาริจะรู้ดีแก่ใจว่าตัวเองไม่ได้คิดแค่นั้นก็ตาม
ขณะที่เดินใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดเรือนผมยาวของตัวเองให้หมาด ยูคาริก็เป็นต้องตื่นตาไปกับการกวาดตาสำรวจดูห้องพักผ่านแสงสลัวของโคมไฟเพดานและหลอดไฟนีออนสีน้ำเงิน ม่วง ชมพู แบบที่เธอวาดฝัน แต่ไม่ได้รับการอนุมัติให้ตกแต่ง มันเต็มไปด้วยข้าวของมากมายอย่างที่ยูคาริคงสาธยายไม่หมด ไม่ว่าจะแผ่นเกม แผ่นหนัง หนังสือการ์ตูน นิตยสาร หรือเครื่องประดับที่เขาวางกองซ้อนกันตรงโน้นตรงนี้อย่างไม่เป็นระเบียบ แม้ไม่ถึงขนาดให้ยูคาริที่ไม่ระวังตัวเดินสะดุดล้มหน้าคว่ำ เหมือนกับห้องพักที่มีชั้นลอยบนชั้นสองของร้านขายเครื่องดนตรีที่เธอกับรินาริร่วมกันแชร์ทั้งค่าเช่าและความรกกับขนาดที่กว้างขวางกว่านี้ แต่ก็ใช่ว่ายูคาริจะดูไม่ออกว่าแมนชั่นขนาด 1LDK บนชั้นสามของไคโตะจะราคาแพงกว่านั้น
ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเธอมองเลยผ่านไฟตั้งโต๊ะเพลย์สเตชั่นที่เธอก็มีไปแล้วมองเห็น “โห! นั่นโล่เงินของยูทูบนี่นา! อย่าบอกนะว่าไคโตะเป็นยูทูบเบอร์สตรีมเกม! สุดยอดไปเลย!” เหมือนกับตอนที่ทิ้งตัวนั่งลงไปโดยพยายามเว้นระยะห่างไว้ หากเมื่อไคโตะที่ปิดปากเงียบตลอดคำพูดแสดงความตื่นเต้นอยู่ฝ่ายเดียวของเธอเอ่ยขึ้น คำถามนั้นก็กลับสร้างความประหลาดใจอย่างล้นเหลือให้กับยูคาริ
“ตอนนี้ไคโตะอยู่กับทีมโมนาร์กเหรอ?”
“เอ๊ะ?” จนต้องเอียงคอหันขวับไปมอง “ทำไมจู่ๆ ถามถึงจากะขึ้นมาล่ะ?” ด้วยจังหวะที่แทบจะเรียกได้ว่าเหมาะเจาะ เมื่อเครื่องมือสื่อสารที่คั่นกลางระหว่างพวกเขาจะสั่น เธอฝากไคโตะให้ช่วยเอาไปเก็บ เพราะไม่มีทางที่เขาจะไขรหัสหกหลักที่เธอตั้งมั่วๆ โดยไม่มีหลักการอะไรเข้าไปดูได้อยู่แล้ว หรือต่อให้จะได้ ยูคาริก็ไม่คิดว่าตัวเองมีความลับอะไรที่ต้องปิดบังกับเพื่อนเก่า ไม่แม้แต่เรื่องของ ‘จากะจัง’ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ละความพยายามกับมิสคอลตั้งสามสายในระยะเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง โดยไม่รอให้เธอเป็นฝ่ายโทร.กลับไปตวาดใส่ ผิดวิสัยของเขาแบบนี้ เห็นทีต้องมาจากลูกยุของยัยรินาริแหง
“ทำไมไคโตะถึงได้ทุกอย่างที่ควรเป็นของฉันไปหมดเลยนะ?”
เรียกให้ยูคาริแหงนเงยใบหน้าขึ้นจากหน้าจอที่เธอกำลังชั่งใจว่าจะสไลด์ไปทางไหนดี แล้วอย่างไม่มีเหตุผล จู่ๆ ไคโตะก็จะเอื้อมมือมารั้งลำคอของเธอไว้ ก่อนโน้มใบหน้าเพื่อกดริมฝีปากแนบลงไปโดยไม่ให้ทันตั้งตัว โทรศัพท์ในมือของเธอร่วงหล่นลงไปบนพื้น แต่ความสนใจทั้งหมดของยูคาริไม่ได้อยู่ที่นั่น...ที่คนรักของเธอ...อีกต่อไปแล้ว มือของเขาอุ่น เช่นเดียวกับลมหายใจที่ส่งต่อมาให้อุณหภูมิในร่างกายของเธอร้อนขึ้นจนเหมือนจะไหม้ ยูคาริไม่ควรปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปในแบบนี้ แต่จูบที่ดูดดื่มลึกล้ำและลิ้นที่สอดใส่เข้ามาเพื่อควานไขว่อย่างเชี่ยวชาญมากจนทำให้หัวสมองของเธอตื้อตันอย่างที่ไม่เคยเป็น การกระทำโต้ตอบของตัวเองกลับกลายเป็นความงุ่นง่านที่ราวกับตัวกระตุ้นให้เขายิ่งหลงใหล กว่าในที่สุดถึงจะยอมถอนมันออก กดร่างของเธอที่พยายามหอบหายใจเอาอากาศกลับคืนมาลงไป
“ฉันคิดมาตลอดเลยว่าถ้าได้เจอหน้าเธออีกครั้ง ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้กับคนใจร้ายอย่างเธอ รู้ไหม ที่จริงแล้วฉันไม่ได้นึกเป็นห่วงอะไรเธอเลยสักนิดยูคาริ ที่ฉันพาเธอขึ้นมาก็แค่เพราะอยากทำให้เธออับอายที่เห็นชีวิตฉันไปได้ดีกว่าเธอที่เคยคิดว่าตัวเองเหนือกว่า”
ยูคาริพยายามขืนตัวหลังได้ยินถ้อยคำพูดที่เขากำลังทำให้เธอรู้สึกอย่างนั้น หากไคโตะก็จะกดแรงลงไปบนข้อมือ
“ตอนที่เธอตกลงคบกับฉันเพราะว่าสงสาร เพราะอยากมีคนคอยตามใจ ฉันรู้เรื่องนั้นมาตลอดแหละ ถึงอย่างนั้นฉันก็คิดว่าสักวันเธอจะชอบฉันได้ แต่หลังจากครั้งแรกเธอก็หลบหน้า ทิ้งฉันไปคบกับผู้ชายคนอื่นโดยไม่มีแม้แต่คำบอกเลิกด้วยซ้ำ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าฉันทำอะไรผิด ถ้าฉันมันแย่เธอก็บอกกันมาตรงๆ สิ เราแก้ไขไปด้วยกันได้ไม่ใช่เหรอ คนรักกันเค้าทำกันแบบนั้นไม่ใช่เหรอ อ๋อ ไม่สิ มีแค่ฉันต่างหากที่รักเธออยู่ฝ่ายเดียวนี่นะ” ด้วยความเจ็บปวดจากเรี่ยวแรงที่ไม่ทอนลงไปเลยให้ยูคาริต้องนิ่วหน้า แต่เธอก็ตัดสินใจว่าจะไม่หลบหน้าหรือร้องประท้วงให้ได้รู้สึกเหมือนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ยิ่งไปกว่านี้ “แล้วพอฉันเกิดไปสนิทกับเด็กผู้หญิงห้องอื่นตอนปีสามเธอถึงเริ่มรู้สึกแบบเดียวกันเหรอ? ทำไม? เพราะฉันไม่ใช่ผู้ชายน่าสงสารที่ชอบเธอคนเดียวแล้วเลยเกิดหวงก้างขึ้นมาเหรอ? ทั้งที่เธอก็คบกับนากามูระอีกคนอยู่เนี่ยนะ เธอนี่มันเหลือจะเชื่อเลย ยูคาริ”
“อย่าพูดอะไรหลงตัวเองหน่อยเลยไคโตะ คิดว่านายในตอนนั้นมีอะไรเทียบกับนากามูระอีกคนได้หรือไง?”
ทว่าสิ่งที่ไคโตะทำก็คือการเหยียดยิ้ม มองดูดวงตาที่สั่นไหวและใบหน้าที่แดงก่ำขึ้นมากกว่าเดิม ไม่ใช่จากสถานการณ์ แต่เป็นเรื่องที่ทำให้อับอายต่างหาก เพราะหนึ่งในสิ่งที่คนถือดีอย่างเธอเกลียดเป็นนักหนาคือเวลาที่ถูกจับผิด ไม่มีเรื่องอะไรของคุรุรุงิ ยูคาริ ที่ไคโตะซึ่งคอยเฝ้ามองเธอมาตลอดถึงจะถูกกระทำเรื่องแบบนั้นเข้าใส่จะไม่รู้ เพียงแต่เขาในตอนนั้นไม่กล้าพอที่จะทำอะไรเหมือนอย่างที่กำลังทำอยู่นี้
“แล้วฉันในตอนนี้มีอะไรเทียบกับไคโตะอีกคนได้หรือยังล่ะ?” มือของเขาเลื่อนเข้ามาวางทาบอยู่บนหน้าท้องซึ่งจะหดเกร็งลงไปทันทีเมื่อถูกสัมผัส “ช่วยปฏิเสธหน่อยสิยูคาริ อย่างน้อยๆ ก็ช่วยทำให้ฉันรู้สึกสมเพชตัวเองหน่อยที่ต้องพ่ายแพ้ทุกอย่างให้กับไคโตะของเธอ”
แต่ดวงตาที่มองลงมาด้วยความเย้ยหยันของไคโตะกำลังเล่นงานทุกความนึกคิดของยูคาริจนแทบบ้า ไม่ต่างจากคำพูดที่ตามมาหลังจากนั้น
“ฉันจะไม่หยุดแล้วนะ”
“ฉันก็ไม่เคยขออยู่แล้ว”
จูบแรกและจูบนับไม่ถ้วนที่เคยน่าเบื่อหน่าย เซ็กซ์ครั้งแรกที่ไปไม่ถึงฝั่งเพราะเมื่อเขาเห็นว่าเธอเจ็บก็หยุดเพื่อปลอบใจถึงเธอจะบอกว่าไม่เป็นไร คนรักคนแรกที่ไม่เคยเติมเต็มอะไรให้เธอได้จนกลายเป็นความเหลือทน บัดนี้จะกำลังมอบทุกสิ่งที่เธอต้องการ...มากกว่าที่ต้องการ เสียงของสายฝนที่ยังคงตกอยู่ภายนอกบานหน้าต่าง เสียงของโทรศัพท์มือถือที่ยังคงสั่นต่อเนื่องอย่างไม่ลดละ หากมีเพียงเสียงย้ำซ้ำเรียกชื่อเธอผสานไปกับลมหายใจที่หอบสั่นซึ่งชัดเจนที่สุด เลือดที่สูบฉีด หัวใจที่กลับมาเต้นรัวแรงเหมือนกับหน้าห้องเก็บอุปกรณ์ตอนที่เธอหันขวับมากระแทกเข้ากับแผ่นอกของคนตัวสูงกว่า และสิ่งที่ไคโตะทำในตอนนั้นก็คือการคว้าเอวของเธอไว้กับมุมปากที่ยกขึ้นข้างหนึ่ง เพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้นก่อนเดินจากไปพร้อมกับลูกบาสในมืออีกข้างหนึ่ง โดยไม่มีทั้งคำพูดหรือคำขอโทษน่ารำคาญอย่างที่เคยเป็นมานับจากการเลิกรา หากนั่นก็คือครั้งแรกนับจากการเลิกราที่ยูคาริได้มองเห็นไคโตะในแง่มุมที่เปลี่ยนไป
ก่อนห้วงความคิดจะกระจัดกระจายไปกับช่วงสุดท้ายที่เขากอดรัดเธออย่างแนบแน่น ยูคาริก็ได้แน่ใจว่าแท้จริงแล้ว เธอเฝ้ารอเพียงนากามูระ ไคโตะคนนี้เท่านั้นที่จะมอบความปรารถนาทั้งหมดให้อีกครั้งมาโดยตลอด
_______________
ความคิดเห็น