คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : Bright Lights, Big City
ทุกคนรอบข้างต่างรู้จักหญิงสาวฮิกาชิมูระ ซารินะ ในฐานะผู้ช่วยสไตลิสต์คนดังประจำแฟชั่นแมกกาซีนเบอร์หนึ่งของญี่ปุ่น
ด้วยหน้าที่การงานซึ่งถือว่ามั่นคงอย่างอู้ฟู่ มากพอที่จำนวนเครดิตสวยๆ จะไม่เคยต้องขาดมือเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หากเธอเล่าเหตุการณ์พรรค์นี้ให้พวกเขาฟัง มิวายเป็นถูกกล่าวหาว่ากุเรื่องตลกขึ้นมาหลอกอำกันแหง
ถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากให้มันเป็นแค่เรื่องขำขันเรื่องหนึ่งในวงเมาท์ดั่งใจว่า แต่ไม่ว่าจะพยายามปัดปฏิเสธอย่างไร
มันก็ยังคงเป็นเรื่องจริง และเป็นเรื่องที่เธอจะขุดหลุมฝังกลบมันไว้ พร้อมกับนาฬิกาอิซเซ
มิยาเกะ รุ่นทเวลฟ์จนสุดหลุมไปตลอดกาล
วันนั้น
เป็นวันหนึ่งในช่วงปลายฤดูร้อน เธอเพิ่งลาออกจากงานสไตลิสต์ของไอดอลคนดัง
ด้วยเหตุผลที่คล้ายคลึงกับการถูกบีบให้ออก ที่ซารินะจะทำเป็นลืมๆ ไปว่า “เซนส์แฟชั่นของเธอมันโคตรห่วย!” ก็แล้วกัน ไหนๆ แล้วเลยออกเดินทางแสวงหาความสำราญอย่างสุดเหวี่ยง ณ ดินแดนในฝันอย่างลาสเวกัสให้สะใจกันไปข้าง
ทีแรกก็คิดแค่ว่าอยากใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจไปตามประสา แต่เป็นเพราะเพื่อนใหม่จากในบาร์ที่เอาแต่คะยั้นคะยอชวนเธอไปเล่นคาสิโนที่ชั้นล่างของโรงแรมด้วยกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน และถ้าโชคชั้นใหญ่จากเกมแบล็กแจ็กจะไม่ได้หล่นลงมาทับชนิดให้ไม่ทันได้ตั้งตัว
ซารินะก็คงจะกำลังรีแลกซ์อยู่ที่สปาไม่ก็สระว่ายน้ำ หรือมิเช่นนั้นก็คงกำลังดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของลาสเวกัสกับค็อกเทลแก้วโปรดเหมือนวันก่อนหน้าไปแล้ว
ทว่าสิ่งที่เธอทำก็มีแค่การนั่งจมจ่อมอยู่บนโต๊ะกับกองชิป ไพ่ ดีลเลอร์และเหล่านักแสวงโชคคนอื่นๆ
ที่แทบจะกลายเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ถึงแม้ว่าหลังจากการเสี่ยงดวงในครั้งแรกสุด เธอจะไม่มีโอกาสได้แตะเงินรางวัลจำนวนมากโขขนาดนั้นอีกเลยก็ตาม
ประหนึ่งว่านางฟ้านำโชคได้โบยบินจาก และมีเพียงเงินสูญกับความหวังลมๆ แล้งๆ ที่ยังคงอยู่
ซารินะชักจะเข้าใจความคิดของพวกนักพนันขึ้นมาหน่อยๆ แม้สำนึกจะบอกให้พอ ในตอนที่ตระหนักได้ว่าเงินสดติดตัวเริ่มจะร่อยหรอ
ก่อนที่จะวับหายไปอย่างเกลี้ยงเกลาในตอนที่เศรษฐีมาทุ่มพนันและกวาดเงินทุกคนบนโต๊ะไปหมดไม่มีเหลือ
เช่นเดียวกับกระเป๋าเงินพราด้าใบสีเหลืองคู่ใจ
น่าแปลกที่ซารินะไม่ได้หัวเสียกับเรื่องเงินทองสูญเปล่า
แม้ว่ามันจะมากมาย แต่ก็ไม่ได้ยากเข็ญอะไร เธอโทร.อายัดบัตรข้ามประเทศเป็นสิ่งแรก
บนเครื่องมือสื่อสาร นิ้วเรียวซึ่งปาดทาเล็บสีแดงสดลากวนอยู่บนรายชื่อของเพื่อนสนิทคนเดียวที่เธอสามารถร้องขอความช่วยเหลือจากเขาได้
ความลังเลก่อตัวเหมือนเมฆหมอกอยู่ในความคิดที่ตีรวน เพราะเธอรู้ว่าเขาคงจะร่ายยาวเป็นคำบ่นที่ทำให้เธอต้องหูชาและอ้าปากเถียงไม่ออกเป็นแน่
และความหงุดหงิดใจจากการถูกต่อว่าก็มีมากพอที่จะกลบกลืนปัญหาที่เธอกำลังต้องเผชิญไปเสียสิ้น
จากชั้นห้องพัก เธอขึ้นไปนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ที่บาร์ ร้องขอลิ้นจี่มาร์ตินี่กับบาร์เทนเดอร์ด้วยเศษเงินที่คุ้ยค้นเจอในชั้นลึกสุดของกระเป๋าสะพาย
เมื่อจิบมาร์ตินี่เข้าไปเป็นอึกที่สอง หัวสมองของเธอก็ค่อยปลอดโปร่ง แม้จะยังคงคิดไม่ตกว่าควรทำเช่นไรกับสถานการณ์บ้าบอนี้ดีก็ตาม
หากเมื่อเธอเคลื่อนขยับตัว ก็เป็นช่วงจังหวะเวลาเดียวกับที่เก้าอี้ว่างข้างกายจะถูกจับจอง
สาบานว่าซารินะไม่ได้ตั้งใจที่จะจ้องมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจเช่นนั้นเลย นัยน์ตาของเธอเลิกกว้าง
เป็นการจับจ้องที่ไม่ว่าใครก็คงจะรู้สึกตัว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่หันใบหน้าในแบบฉบับของลูกครึ่งชาวเอเชียหันมาส่งยิ้มให้
ทันทีที่เอ่ยปากสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์เรียบร้อยดีแล้ว เขาเป็นฝ่ายเริ่มต้นทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสไร้การเคลือบแคลง
และเมื่อเอ่ยแนะนำตัว “ผมมาซายะ ลูอิส” ด้วยชื่อในภาษาเดียวกันแล้ว ซารินะจึงค่อยระบายรอยยิ้มกว้าง
เช่นเดียวกับความคิดพิลึกพิลั่นที่จะพลันแล่นปราดเข้ามาในหัวสมอง ซึ่งโง่เง่าเกินกว่าจะเลือกวิธีที่ง่ายดายและชาญฉลาดกว่านั้นจากเพื่อนสนิทที่ปากร้ายแต่ใจดี
กว่าที่จะทันได้รู้ตัว ริมฝีปากสีสวยก็ขยับเป็นชื่อปลอม “ฉันฟูจิวาระ ไอค่ะ”
จัดเจือเสียงหัวเราะรวนร่าที่แสร้งทำอย่างมีจริต
แต่ไหนแต่ไร ซารินะก็ไม่เคยคิดวิตกเรื่องการหลับนอนกับผู้ชายแปลกหน้าในค่ำคืนเดียว
หากตลอดชีวิตจนเลยล่วงวัยเบญจเพส ก็ไม่เคยมีสักครั้ง...หรือสักวินาที...ที่คิดว่าจะหลับนอนกับใครเพื่อแลกเปลี่ยนเงินทอง
เมื่อเธอใช่ว่าจะขัดสนอะไร เว้นก็แต่ความพึงพอใจระหว่างกัน และตอนนี้ มาซายะก็แสดงทีท่าว่าสนอกสนใจเธอแทบจะออกนอกหน้า
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เขาเลือกที่นั่งว่างข้างกันกับเธอ ซึ่งก็น่ารักดี แต่หาได้เรียกเร้นความสนใจจากเธอมากเท่านาฬิกาสายสีดำบนข้อมือข้างซ้ายเรือนนั้น
จูบของเขาถือว่าไม่เลว หน้าตาก็เรียกได้ว่าหล่อเหลาและมีเสน่ห์ดีอยู่ หากยังมีบางสิ่งที่ทำให้เธอไม่นึกชอบพอถึงขั้นอยากหลับนอนด้วย
แม้จะค่อนข้างแน่ใจว่าเขาคงจะเยี่ยมยอด แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดไปไกลถึงขั้นนั้น
ข้ออ้างจากจริตมารยาก็ผุดโพล่งขึ้นมา จนแม้แต่ตัวเองก็ยังอดที่จะทึ่งกับความตอแหลเหลือเชื่อนั้นไม่ได้
ทันทีที่มาซายะเดินลับไปในห้องน้ำชั้นหรูที่เป็นของเขา ซารินะก็จะรีบเปิดกระเป๋าเงินหนังใบสีดำฉวยหยิบเอาธนบัตรมาพอประมาณ
ไม่รู้ทำไม แต่มือเรียวก็ฉวยหยิบนาฬิกาแบรนด์เนมที่หมายตาเสียยิ่งกว่าตัวตนของเขาติดไม้ติดมือไปด้วย
เหตุการณ์หลังจากนั้นดำเนินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนฉากในภาพยนตร์ที่ถูกตัดต่อ
กับหญิงสาวในชุดกระโปรงตัวสั้นสีขาวซึ่งกำลังลากกระเป๋าเดินทางใบเดียวลงไปเช็กเอาต์ที่ชั้นล็อบบี้
ก่อนขึ้นไปนั่งเฉิดฉายอยู่บนแท็กซี่ และแจกทิปคนขับอย่างหนักเมื่อถึงปลายทาง ณ สนามบินนานาชาติแมคคาร์แรน
เลือกไฟลท์แรกสุดไปยังนาริตะ ตลอดสิบเจ็ดชั่วโมงบนเครื่องบิน เธอได้แต่คิดถึงฉากของมาซายะซึ่งอาจจะกำลังงุนงง
หรือไม่ก็หัวเสีย แต่ที่ซารินะรู้แน่คือเงินจำนวนเท่านี้ไม่น่าจะทำให้เขาระคายข้องได้นานนัก
จะพูดบอกตัวเองอย่างไรก็แค่ความพยายามปลอบใจว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด มันก็แค่ช่วงขัดสนอย่างโง่เขลาที่เขาควรให้อภัย
แต่เมื่อไรก็ตามที่มองเห็นนาฬิกาอิซเซ มิยาเกะในลิ้นชักของโต๊ะเครื่องแป้ง
ความรู้สึกผิดต่อมาซายะ ลูอิสที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยก็จะแล่นเอ่อขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหอยทุกที
และนั่นก็คือความลับของซารินะ
เพราะไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าชีวิตของตนจะดำเนินเดินไปอย่างไร วันหนึ่งเราอาจกำลังเริงระบำอยู่บนยอดหอคอยที่สูงส่งเสียดฟ้า
ก่อนที่ทุกอย่างจะสูญสลายหายวับไปโดยไม่ให้ทันได้ตั้งตัว เธอคนนั้นซึ่งเคยตกอยู่ในสภาวการณ์เช่นนี้มีชื่อว่าคุริยามะ
ฮิเมนะ เรื่องที่เรากำลังจะบอกเล่าต่อไปนี้อาจฟังดูดาษดื่นทั่วไป เนื้อหาสารพันแทบไม่แตกต่างอะไรจากเทพนิยายชวนฝัน
เมื่อหลังจากนั้น อดีตราชินีสาวสวยผู้อาภัพก็ได้ตกหลุมรักและอภิเษกสมรมกับราชาของดินแดนใหม่
ให้สองสาวโฉมสะคราญหยัดยืนขึ้นในปราสาทหลังใหม่อย่างมั่นคง เพื่อที่ว่าเจ้าหญิงน้อยจะได้พบรักกับเจ้าชายหนุ่มรูปงาม
ก่อนครองคู่กันด้วยความสุขสันต์ไปชั่วนิรันดร์
วันนั้น
เป็นวันหนึ่งในช่วงต้นฤดูหนาว เทศกาลปลายปีสุดหรรษากำลังจะย่างกรายเยือนมหานครที่แสนจะครึกครื้น
เป็นครั้งแรกในรอบหกปี นับตั้งแต่เธอเรียนจบชั้นไฮสคูลปีสอง ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับเหตุการณ์ครอบครัวล้มละลายที่คาราคาซังอยู่นานเพราะชู้รักลับๆ
ของพ่อ และเด็กสาวก็ไม่เคยระแคะระคายถึงเรื่องราวเหล่านั้นมาก่อนแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือไม่ที่พวกเขาไม่เคยจดทะเบียนสมรสกันด้วยเหตุผลทางธุรกิจ
หากสิ่งหนึ่งที่ฮิเมนะรู้แน่แก่ใจคือเธอไม่อาจให้อภัยหญิงชายทั้งสองคนนั้นที่ทำลายสายสัมพันธ์อันงดงามของครอบครัวได้ลงคอ
ถึงกระทั่งการย้ายมาเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ที่ไม่เคยคุ้นอยู่กับน้าสาวที่บ้านหลังเล็กน่ารักในซานฟรานซิสโก
จึงค่อยขยับขยายมาเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่กับนายธนาคารผู้ร่ำรวยในอีกไม่ถึงหนึ่งปีถัดมา
เสกสรรบันดาลความปรารถนาให้แก่สองแม่ลูกดุจดั่งสรวงสวรรค์ที่แสนสุขบนผืนดินอีกครั้ง
แม้พวกเขาจะยื่นความเมตตาครั้งสุดท้ายให้แก่คนทรยศด้วยเงินทอง หากฮิเมนะก็ไม่ใส่ใจให้ค่ากับความสัมพันธ์ที่พังทลายลงไปแล้ว
และคงจะไม่มีวันกลับมาเป็นเช่นเดิมได้ไม่ว่าจะเสาะหาหนทางหรือวิธีใด ถึงแม้ว่าเธอจะหวนกลับมาปักหลักใช้ชีวิตวัยทำงานอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้งแล้วก็ตาม
หลังจากทำงานที่บริษัทตกแต่งภายในชั้นนำในอเมริกาหลังจากเรียนจบมากว่าสองปี
ฐานเงินเดือนก็ดี หน้าที่การงานก็กำลังก้าวหน้าไปได้สวย จะด้วยเหตุผลกลใดเธอก็ไม่ค่อยแน่ชัดนัก
รู้สึกแค่ว่าอยากจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นอย่างแรงกล้า ทั้งพ่อและแม่ต่างไม่คัดค้านเพราะนั่นคือเส้นทางชีวิตของเธอที่พวกเขาไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย
ฮิเมนะเข้าทำงานเป็นมัณฑนากรในบริษัทเรโทรอินทีเรียสาขาประเทศญี่ปุ่น งานชิ้นแรกคืองานออกแบบล็อบบี้เลาจน์ให้แก่โรงแรมที่มีแพลนว่าจะเปิดใหม่ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงปีหน้าในรปปงงิ
ด้วยโครงสร้างของตึกสูงยี่สิบสี่ชั้นที่ตั้งตระหง่าน ในละแวกเดียวกันนี้ก็ยังมีโครงสร้างของช้อปปิ้งมอลล์ด้วยสถาปัตยกรรมล้ำสมัยที่ค่อยๆ
ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งคงจะตระเตรียมไว้รองรับโรงแรมห้าดาวแห่งใหม่แห่งนี้
หรือมิเช่นนั้นก็อาจเป็นโรงแรมโอ่โถงที่รองรับช้อปปิ้งมอลล์อันกว้างขวางนั้นก็ได้
แต่อย่างไรก็ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจชั้นเยี่ยมที่เกื้อหนุนกันดี ฮิเมนะเคยเห็นสภาพทางธุรกิจเช่นนี้มาก่อน
ถ้าพวกเขาจัดการบริหารงานได้ดีสมราคาคุยแล้วล่ะก็ ละแวกย่านนี้จะต้องสะพัดด้วยเงินตราทั้งเศรษฐีชาวท้องถิ่นและชาวต่างชาติอย่างแน่นอน
ก่อนความไม่แน่ใจจะตรงเข้าแทรกแซง ทันทีที่รับรู้ถึงวัยวุฒิของผู้บริหารโรงแรมซิเอโลที่เพิ่งจะสำเร็จการศึกษาจากเอ็นวายยูมาหมาดๆ
ด้วยอายุแค่ยี่สิบสองปี เส้นผมของเขากัดเป็นสีบลอนด์ทองซึ่งรับกันดีกับผิวสีขาวกระจ่างและริมฝีปากสีแดงสด
ไม่ว่าจะมองมุมไหน เค้าหน้าของเขาก็ควรหันเหไปยังวงการบันเทิงมากกว่า ใช่ว่าฮิเมนะนึกดูถูกดูแคลนอะไร
หากแต่ลุคภายนอกของผู้บริหารหนุ่มน้อยอย่างเคียวโมโตะ ไทกะ
ก็ไม่ได้น่าเชื่อถือมากพอสำหรับแวดวงธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงละลิ่วเลย
เขาไม่ใช่คนประเภทที่ชอบเปิดปากพูด ใบหน้าอันหล่อเหลามักจะแสดงความเรียบเฉยแทบไม่เคยแย้มรอยยิ้ม
แต่ทั้งรับฟังความคิดเห็นของฮิเมนะด้วยความตั้งอกตั้งใจ และทัดทานในสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นอย่างชาญฉลาด
และใช่...ฮิเมนะต้องขออภัยสำหรับความคิดที่ผิดพลาดของตนเองต่อเขาด้วย
เขามักจะแวะเวียนมาดูผลงานภายในโรงแรมที่ดูภูมิอกภูมิใจเป็นนักหนาอยู่บ่อยครั้ง
ห้องแล้วห้องเล่าที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง แทบไม่เคยมีบทสนทนาอื่นใดระหว่างกันนอกเหนือไปจากเรื่องงานตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ได้ร่วมงานกันมา
แล้วจะไม่ให้ฮิเมนะแปลกใจได้อย่างไร ที่หลังจากเนื้องานสำเร็จเสร็จสิ้น ออกผลเป็นความพึงพอใจของทั้งผู้ว่าจ้างและรับจ้างแล้วนั้น
เขาจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนเธอไปเลี้ยงมื้อค่ำเป็นการส่วนตัวบนอพาร์ตเมนต์หรูหราที่สุดของประเทศในเครือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบิดา
“แค่คุณกับผม” และสิ่งที่น่าแปลกใจกว่าคือการที่เธอตอบรับคำชวนจากผู้ชายคนที่คิดว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าเธอมาตลอดอย่างง่ายดายเช่นนั้นต่างหาก
มันไม่ใช่การขอบคุณตามมารยาทแน่ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่อยู่ในสถานะส่วนตัวมากถึงเพียงนี้
แต่จะให้ฮิเมนะคิดไกลไปถึงขั้นที่ว่าเขานึกอยากสานสัมพันธ์กับเธอก็ดูจะเป็นการเข้าข้างตัวเองมากเกินไป
ผู้ชายรูปงาม แถมหน้าที่การงานยังดีเยี่ยมจะขาดแคลนคู่รักมันก็ออกจะเป็นเรื่องขบขันเกินไปสักหน่อยแล้ว
และการที่เธอแต่งหน้า ดัดลอนผมให้สวยหยด ในชุดและกระโปรงผ้าหนังสีดำปรุลายดอกไม้เต็มคอลเลคชั่นพรีฟอลล์ปีสองพันสิบสามของหลุยส์วิตตองก็เพื่อเป็นการให้เกียรติฐานะผู้บริหารของเขาเท่านั้นหรอก! แต่จะปฏิเสธผู้ชายที่เพียงแค่มองปราดเดียวก็รู้ได้ว่าชุดสวยที่ตั้งใจแต่งมาเพื่อเขานั้นเป็นแบรนด์อะไร
ทั้งยังเอ่ยปากชมว่า “คุณดูดีมาก” ก็ดูจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ถึงไทกะจะยังคงรักษาความเป็นผู้ฟังที่ดีและแทบไม่ปริปากสนทนาเช่นเคยไม่มีเพี้ยนผิด
แต่การใส่ใจรับฟังทุกเรื่องเล่าของเธอ อีกทั้งรอยยิ้มกว้างอย่างที่ยากจะได้พบเห็นซึ่งทำให้ใบหน้าของเธอขึ้นสี
เช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นรัวแทบไม่เป็นจังหวะ รสชาติของมื้ออาหารค่ำในวันนั้นเป็นอย่างไรเธอแทบจำจดไม่ได้
อาจยกเว้นก็แต่รสชาติขมปนหวานปร่าของมาร์ตินี่รสแรงจากแอลกอฮอล์ที่เธอไม่ดื่ม แต่กลับซับซาบผ่านริมฝีปากที่แตะสัมผัสได้ดีทีเดียว
เมื่อเจ้าชายกับเจ้าหญิงได้ครองรักกัน
นั่นจึงเป็นเทพนิยายของฮิเมนะ
_______________
ความคิดเห็น